เย่เฟิงโคจรพลังจนปรากฏเป็ลูกไฟพุ่งใส่ลัวเฟิงทำให้ทั่วร่างของเขาลุกเป็ไฟ ทุกคนบริเวณนั้นใสุดขีดกับภาพที่เห็นตรงหน้า
คนคนหนึ่งสามารถปล่อยลูกไฟออกมาได้ง่ายดายเช่นนี้เลยหรือ? เป็ไปได้อย่างไร นี่มันไม่ใช่หนังเวทมนตร์นะ!
หนานฟางเองก็ตกตะลึงเช่นกัน เขาไม่อยากเชื่อภาพที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตานี้เลย เขาอยู่ใกล้เย่เฟิงที่สุดจึงเห็นทุกอย่างชัดเจน ในมือชายหนุ่มมีลูกบอลไฟปรากฏขึ้นและพุ่งใส่ลัวเฟิง
ศิษย์น้องทั้งสามคนของลัวเฟิงต่างร้องสุดเสียงราวกับเห็นผี พวกเขาไม่เคยเห็นผู้ฝึกวรยุทธ์คนไหนสามารถปล่อยลูกไฟได้แบบนี้ แล้วชายสวมหน้ากากตรงหน้าเป็ตัวอะไรกันแน่?
หลงหว่านเอ๋อร์ใจนยกมือขึ้นปิดปาก ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง ก่อนเกิดความสงสัยในใจ เย่เฟิงใช้วรยุทธ์อะไรกันแน่? ่เช้าที่เธอและเขาตื่นในสภาพเปลือยเปล่าทั้งคู่ หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จแล้วเดินทางมาที่นี่ด้วยกัน เธอก็ไม่เห็นวรยุทธ์ใดๆ ที่ชายหนุ่มซ่อนไว้เลยสักนิด!
“อ๊าก—!” ลัวเฟิงไม่คิดเลยว่าคู่ต่อสู้จะมีฝีมือประหลาดเช่นนี้ อยู่ๆ ก็ปล่อยลูกไฟออกมาได้
เมื่อทั่วทั้งร่างลุกเป็ไฟ ลัวเฟิงก็กรีดร้องด้วยความเ็ป เขารู้สึกถึงอุณหภูมิที่น่ากลัวของเปลวไฟซึ่งลุกลามไปทั่วร่าง เมื่อรู้ว่าสถานการณ์เลวร้ายถึงขีดสุดจึงพยายามโคจรพลังภายในเพื่อต้านเปลวไฟ พร้อมรีบวิ่งไปริมหน้าผาเพื่อะโลงไป
“คิดจะะโลงไปเพื่อดับไฟงั้นเหรอ?” เย่เฟิงเห็นความตั้งใจแน่วแน่ของอีกฝ่ายก็อดชื่นชมไหวพริบของลัวเฟิงในใจไม่ได้ เปลวสุริยะที่เขาใช้เป็เพียงขั้นที่หนึ่งเท่านั้น แม้จะมีอุณหภูมิสูง แต่ก็ยังเป็เพียงเปลวไฟธรรมดา แค่ใช้น้ำก็ดับไฟได้แล้ว ไม่ต้องพูดถึงการะโลงทะเลเลย
“กรงเล็บั!” เย่เฟิงปลดปล่อยกรงเล็บัทันที ทันใดนั้นพลังชี่ก็ปะทุขึ้นกลางอากาศและคว้าไหล่ที่มีเือาบของลัวเฟิงไว้ ส่วนอีกข้างก็คว้าต้นขาเพื่อดึงเขากลับมา!
เดิมลัวเฟิงะโลงหน้าผาลอยอยู่กลางอากาศแล้ว อีกไม่นานเขาต้องตกจากความสูงราวสิบเมตรลงสู่ทะเลแน่นอน ทว่าถูกเย่เฟิงดึงตัวกลับขึ้นมา โชคดีที่เขาฝึกฝนวรยุทธ์มานาน แม้ทั้งร่างจะถูกเปลวไฟเผาไหม้เป็บริเวณกว้าง แต่ก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว จึงปลดปล่อยพลังภายในออกมาปะทะกับเย่เฟิงที่ใช้พลังชี่เพื่อจับเขา ลัวเฟิงอาศัยแรงปะทะขณะลอยอยู่กลางอากาศพุ่งห่างจากริมหน้าผาจนตกสู่เบื้องล่าง
ตูม!
ร่างของมนุษย์ที่ถูกไฟคลอกตกสู่ห้วงทะเลลึก ฉับพลันร่างทั้งร่างก็หายไปในพริบตา
หากเป็คนทั่วไปคงเลือกะโหน้าผาลงสู่ทะเลเบื้องล่างเช่นกัน แต่ด้วยความสูงกว่าสามสิบเมตรก็มากพอที่จะตายอยู่ในห้วงทะเลลึก แต่เพราะลัวเฟิงไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็ผู้มีพร์ที่มีพลังลมปราณระดับยี่สิบห้าปี!
เมื่อปลดปล่อยพลังภายในออกมาได้ทั้งยังใช้แรงปะทะลดความเร็วในการตกหน้าผา เขาย่อมยังมีชีวิตรอด
“มันหนีไปแล้ว” เย่เฟิงโกรธจัด เขาวิ่งไปริมหน้าผาเพื่อมองด้านล่าง ทว่าไม่เห็นแม้แต่เงาของลัวเฟิง กระทั่งใช้จิตหยั่งรู้ตรวจสอบก็ยังไม่พบสิ่งใด ดูเหมือนอีกฝ่ายจะถูกคลื่นทะเลซัดออกไปไกลหลายร้อยเมตรแล้ว
“สหายโม่ ขอบคุณมากที่มาช่วยฉัน” หนานฟางเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ เย่เฟิง ไม่นานก็พูดด้วยท่าทีนิ่งขรึม “ลัวเฟิงในตอนนี้คงาเ็สาหัส อีกไม่นานพายุจะมาแล้ว เขาไม่ขึ้นฝั่งมารนหาที่ตายหรอก เราต้องตามหาในละแวกใกล้เคียง อาจจะจัดการเขาได้...”
ขณะพูด หนานฟางก็หันไปมองศิษย์อีกสามคนของสำนักหมัดเทวาที่กำลังยืนล้อมหลงหว่านเอ๋อร์ พลางคิดในใจ ทั้งสามคนเห็นความลับของเย่เฟิงแล้ว ย่อมต้องถูกฆ่าปิดปากแน่
ถึงอย่างนั้น หนานฟางก็ยังสงสัยว่าเขาปล่อยลูกไฟเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็เป็หนึ่งในคนที่เห็นความลับของเย่เฟิงเหมือนกัน ชายหนุ่มจะฆ่าปิดปากเขาด้วยหรือไม่? หนานฟางเข้าใจความจริงที่ว่าเย่เฟิงพยายามช่วยเขา ทว่าไม่สามารถจัดการลัวเฟิงได้ เมื่อไร้ทางเลือกอื่นจึงจำต้องใช้ท่าไม้ตายออกมา ต่อให้ถูกเย่เฟิงฆ่าปิดปาก เขาก็ไม่โกรธแค้นอีกฝ่าย เพราะลัวเฟิงาเ็สาหัสจนเข้าใกล้ความตายแล้ว มันคงดีกว่าหากเขาถูกฆ่าตายโดยน้ำมือของเย่เฟิงไม่ใช่ลัวเฟิง
“หว่านเอ๋อร์มานี่” เย่เฟิงกวักมือเรียกหญิงสาว ก่อนโคจรพลังชี่จนแปรเปลี่ยนเป็เปลวสุริยะ! ลูกไฟสามลูกพุ่งใส่ลูกศิษย์สำนักหมัดเทวาทั้งสามคนด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ร่างของคนทั้งสามเกิดไฟลุกท่วม
ทั้งสามคนเพิ่งเข้ามาสมทบกับลัวเฟิงได้ไม่นานนัก มีระดับพลังบ่มเพาะเพียงสิบกว่าปีเท่านั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเปลวสุริยะของเย่เฟิง อีกทั้งไม่มีพลังมากพอจะต้านทานเปลวสุริยะ แม้แต่เสียงกรีดร้องเพราะความเ็ปก็ยังไม่ทันหลุดออกมา เพราะถูกแผดเผาจนกลายเป็เถ้าถ่านไปเสียแล้ว แม้เป็เพียงเปลวไฟธรรมดา แต่อุณหภูมิก็ยังสูงกว่าเปลวไฟทั่วไปมาก หากไม่มีระดับพลังลมปราณมากพอที่จะต้านทานมัน ย่อมถูกเผาไหม้เป็จุณทันที
เพียงพริบตาทั้งสามคนก็สลายหายไปในทันที!
เย่เฟิงปล่อยเปลวสุริยะต่อเนื่องถึงสี่ครั้ง ทำให้สูญพลังภายใน เพราะไร้ทางเลือกในสถานการณเช่นนี้ วิชาเซียนเปลวสุริยะเป็เคล็ดวิชาเดียวที่สามารถทำลายฝ่ายตรงข้ามไม่ให้เหลือแม้กระทั่งศพ นอกจากนี้ เขาก็จำเป็ต้องกำจัดศิษย์ของสำนักหมัดเทวาทั้งสามคนนั้นทิ้งไปเช่นกัน
หลงหว่านเอ๋อร์รีบวิ่งเข้ามาพุ่งสู่อ้อมกอดของเย่เฟิง “นายไม่เป็อะไรใช่ไหม?”
“ฉันโอเค” เย่เฟิงพยักหน้าตอบก่อนลูบไหล่อีกฝ่ายไปมาเพื่อปลอบโยน
เขาหันไปมองหน้าหนานฟางที่อยู่อีกฝั่งจนเห็นความรู้สึกขอบคุณและความใผ่านแววตาของอีกฝ่าย ภายใต้ลมหนาว ใบหน้าซีดเซียวของหนานฟางถูกซ่อนไว้ใต้เส้นผมสีดำขลับ
“ขอบคุณที่ช่วยชีวิตฉัน” หนานฟางทำตามกฎของยุทธจักรโดยการประสานมือคารวะอีกฝ่าย ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าเย่เฟิงจะไม่ฆ่าปิดปากตนแน่นอน จึงโล่งใจขึ้นได้บ้าง ถึงอย่างนั้นสายตาของหนานฟางยังฉายแววซับซ้อน
ในฐานะลูกผู้ชาย การพึ่งพาผู้อื่นยามเผชิญหน้ากับศัตรูของตัวเองถือเป็เื่ที่หนานฟางไม่อาจยอมรับได้ ศัตรูอย่างไช่เฉ่าหงและนักล่าิญญาก็ถูกสังหารโดยเย่เฟิง ตอนนี้ศัตรูอย่างลัวเฟิงก็เกือบถูกเย่เฟิงสังหารอีกเช่นกัน เมื่อเป็เช่นนี้ เขายังจะมีประโยชน์อะไร?
“ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้” เย่เฟิงโบกมือ “นายมีเื่บาดหมางอะไรกับลัวเฟิงเหรอ?”
ชายหนุ่มถามขณะเดินไปยังต้นไม้ใหญ่ริมหน้าผา จากนั้นใช้ดาบสีทองฟันรากของมันทันที!
เป็ไปตามคาด ใต้รากต้นไม้มีตำราโบราณสองเล่ม ไม่รู้ว่าถูกฝังมานานแค่ไหนแล้ว แต่แมลงและมดไม่สามารถแทะกินได้เลย เห็นได้ชัดว่าตำราทั้งสองเล่มถูกทำขึ้นด้วยวัสดุชนิดพิเศษ
หนานฟางได้ยินคำถามขณะมองการกระทำของอีกฝ่าย จึงตอบ “เขาเป็พี่ชายของฉันเอง แต่เขาถูกส่งไปที่สำนักหมัดเทวาั้แ่เด็ก เมื่อปีที่แล้วสำนักประตู์ใต้ถูกทำลาย ฉันไปขอความช่วยเหลือจากเขา แต่เขากลับไม่ช่วยอะไรเลย ทั้งยังเยาะเย้ยว่าฉันอยู่คนละชั้นกับเขา จากนั้นฉันก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เจอเขาอีก...”
น้ำเสียงหนานฟางแฝงความเกลียดชังและคับแค้นใจ! ในฐานะคนตระกูลหนาน ลัวเฟิงเข้าสำนักหมัดเทวาแล้วยังเปลี่ยนนามสกุลอีกด้วย กระทั่งตระกูลหนานถูกทำลายก็ไม่สนใจ ลัวเฟิงยังมีความเป็คนเหลืออยู่หรือเปล่า?
เย่เฟิงเริ่มเข้าใจเื่ราวที่เกิดขึ้น เขาหยิบคัมภีร์สองเล่มในโพรงต้นไม้
《เคล็ดวิชาสำนักอิ่นเซียน》 และ 《เคล็ดอสูรร่ำไห้》 ที่ประกอบกันเป็ชุด!
“ฉันให้นาย” เย่เฟิงโยนคัมภีร์ทั้งสองเล่มให้หนานฟาง
การกระทำนี้ทำให้หนานฟางชะงักไป ชายหนุ่มมองคัมภีร์ในมือด้วยหัวใจพองโต นอกจากไม่สังหารเขาแล้ว อีกฝ่ายยังมอบคัมภีร์โบราณล้ำค่าทั้งสองเล่มให้เขาอีกด้วย?
หนานฟางไม่ใช่คนที่จะเต็มใจยอมจำนนอยู่ใต้อาณัติของคนอื่น แต่การเผชิญหน้ากับสิ่งล่อตาล่อใจเช่นนี้ เขาย่อมเกิดความลังเล
ชายหนุ่มเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าการได้รับคัมภีร์โบราณทั้งสองเล่มนี้เกิดขึ้นได้ยากเพียงใด บรรดาสำนักใหญ่ในยุทธจักรต่างหวงวิชาของสำนักตัวเอง! หากมีคัมภีร์ทั้งสองเล่มนี้ ต่อให้ลัวเฟิงยังไม่ตาย เขาก็มีโอกาสแก้มือ ได้ล้างแค้นด้วยตัวเอง! แต่ก็เข้าใจจุดประสงค์ของเย่เฟิงดี อีกฝ่ายทำเช่นนี้เพราะเป้าหมายเพียงอย่างเดียว นั่นคือการฝึกให้เขาเป็ลูกน้อง
หนานฟางขบคิดครู่หนึ่งก่อนเงยหน้ามองเย่เฟิง
ตอนนี้เขาต้องตัดสินใจเลือกเส้นทางลูกผู้ชายของตัวเองแล้ว!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้