“เ้าถูกเหลี่ยวทิงโง่เขลาผู้นั้นหลอกได้เยี่ยงไร ไม่จำเป็ต้องพูดถึงมันอีกแล้ว ข้าถามอะไรเ้าไปก็ตอบมาให้ตรงคำถามก็พอ” ชิงอีนั่งบนเก้าอี้อย่างสง่างาม “ในปีที่ผ่านมา น้ำมันตะเกียงของวัดตงหวาเป็เ้าที่ส่งไปไปยังวังหลวงด้วยตัวเองหรือไม่?”
เจี้ยชือพยักหน้าและพูดว่า “ฝ่าาทรงพระประชวร ดังนั้น ไท่เฮาจึงมีพระราชประสงค์ให้อาตมาจุดธูป สวดขอพรถวายแด่ฝ่าา และขอน้ำมันตะเกียงทั้งหมดที่อยู่หน้าพระพุทธรูปส่งไปยังวังหลวง”
“ไท่เฮาเป็คนสั่งเ้างั้นหรือ?” สายตาของชิงอีเปลี่ยนไปทันที เื่นี้ไปต่างจากที่นางคิดเล็กน้อย คิดไม่ถึงเลยว่าจะไม่ใช่ฮองเฮาตู้โง่เง่าผู้นั้น? “การที่ข้ามาวัดตงหวาในครั้งนี้ ไท่เฮาไม่ได้ส่งจดหมายมาให้พวกเ้าเลยหรือ?”
เจี้ยชือส่ายหน้าและพูดว่า “ตลอดมาเป็เหลี่ยวทิงที่ติดต่อใกล้ชิดกับวังหลวงเป็พิเศษ อาตมาไม่รู้จริงๆ”
ชิงอีเดาว่านางคงไม่ได้เบาะแสอะไรไปมากกว่านี้จากของพระอาจารย์ผู้นี้
เจี้ยชือคุกเข่าลงบนพื้น
“องค์หญิง ก่อนหน้านี้ท่านตรัสว่าฆาตกรตัวจริงที่อยู่เื้ัยังลอยนวลอยู่ ถึงอาตมาจะกลัว ทว่า ขอแค่เพียงได้ทำลายคนชั่วผู้นั้นก็พอ!”
“เ้าพูดแล้วนะ” ชิงอีมองเขาอย่างไม่แยแส
เจี้ยชือหลับตาลง ในวินาทีต่อมาเขาก็รู้สึกว่าตนเองถูกผลักด้วยพลังมหาศาล จนิญญาสั่นสะท้าน รวมไปถึงความเ็ปที่แล่นเข้ามาจนไม่อาจจะจินตนาการได้ เมื่อลืมตาขึ้น เขาก็พบว่าตนเองกลับเข้าไปในร่างแล้ว
แต่เดิมสมองที่เลอะเลือนก็กลับมาดีดั่งเดิม
เพราะเหตุใดกัน...
เพราะเหตุใดท่านถึงไม่เอาิญญาของเขาไป?
“การมีชีวิตอยู่คือบทลงโทษของเ้า” น้ำเสียงราบเรียบของหญิงสาวดังขึ้นในหู
วินาทีต่อมา ความรู้สึกเย็นะเืในห้องก็หายไป
เจี้ยชือที่นอนอยู่บนเตียงพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา บาปทั้งหมดที่เขาได้ทำในอดีตด้วยความโง่เขลาผุดขึ้นมาในความคิดของเขา เขารู้สึกท่วมท้นไปด้วยความสำนึกผิดไม่รู้จบ ทว่า จิตใจกลับชัดเจนมาก จนไม่สามารถหลบหนีจากความบ้าคลั่งได้อีกต่อไป
ชีวิตที่เหลือของเขาราวกับตกนรก และนั่นคือบทลงโทษที่เขาสมควรได้รับ
ชิงอีเดินออกจากห้องของเขา มองไปยังพลังชั่วร้ายที่ปลายนิ้ว และสะบัดมันลงบนเ้าแมวอ้วนด้วยความรังเกียจ “ตามเส้นผลกรรมนี้ไป แล้วหาคนที่อยู่เื้ัเขา”
เ้าแมวอ้วนรับพลังชั่วร้ายมาอย่างเงียบๆ มันส่งเสียงคร่ำครวญ และพูดเบาๆ ว่า “ชิงอี ท่านคงไม่ได้สงสารพระอาจารย์คนนั้นจริงๆ ใช่ไหม?”
ดังนั้น เลยยื่นมือเข้ามาฟื้นฟูสภาพจิตใจของเขา ถึงแม้ว่าจะเป็การลงโทษ ทว่า จริงๆ ก็ช่วยเขาได้จากการปลอมตัว
“เขาสมควรได้รับความสงสารจากข้างั้นหรือ?” ชิงอีกลอกตามอง และหันกลับมาอย่างเย่อหยิ่ง “เมื่อลงไปนรกแล้ว เ้าก็ควรไปในกระทะด้วย!”
“นั่นน่ะสิ เขาใช้ชีวิตหนึ่งวันยาวนานราวกับหนึ่งปี แล้วพวกขอทานบนูเาด้านหลังล่ะ? มันคุ้มกับความพยายามของท่านที่จะช่วยเศษิญญาของพวกเขางั้นหรือ? หากพวกเขาตายไปมันก็เป็เื่ดีนี่ ชิงอีเตี้ยนของพวกเราก็จะมีผลงานมากขึ้นไง”
“ผลงานบ้าบออะไรล่ะ” ใบหน้าของราชินีภูตผีเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “เ้าไม่ได้พูดอยู่ปาวๆ หรือไรว่าชิงอีเตี้ยนงานเยอะแต่ได้เงินน้อย? ข้าก็กำลังช่วยพวกเ้าลดภาระอยู่ไง!”
ใช่ ใช่ ใช่ เ้าแมวอ้วนเม้มปากและแอบยิ้ม ช่างเป็คนที่ปากอย่างใจอย่างเสียจริง
ทว่า เมื่อกลับมาที่วิหารหลวง ก็ไม่คิดว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้น
ผีทั้งสองมองไปยังบริเวณที่มีแสงสว่างจ้า และครู่หนึ่งก็มืดดับไป
เถาเซียงและต้านเสวี่ยคุกเข่าลงที่ลานบ้าน ร้องไห้อย่างเศร้าสร้อย “องค์หญิงเพคะ! เหตุใดอยู่ดีๆ องค์หญิงถึงต”
“ต้องมีปีศาจแฝงตัวอยู่ในความมืด แล้วสังหารองค์หญิงแน่ๆ!”
“เ้าปีศาจไร้ยางอาย ทำร้ายองค์หญิงไม่ว่า กระทั่งสัตว์ก็ไม่เว้น”
ชิวอวี่เองก็เต็มไปด้วยความเสียใจ และไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาแค่ออกไปครู่เดียว ทว่า เหตุใดเมื่อหันกลับมาถึงได้เกิดเื่กับองค์หญิงได้?!
“ข้าจะพาคนออกไปค้นหา และต้องจับเ้าปีศาจนั่นให้ได้!!” ชิวอวี่กัดฟันพูดด้วยความโกรธ ทว่า เมื่อเงยหน้าขึ้น กลับมีร่างสองร่างกระแทกเข้าไปในสายตา
เขาใมากจนส่งเสียงร้องสั้นๆ ออกไป จากนั้น คอของเขาก็ถูกมือที่มองไม่เห็นมาบีบไว้
ชิวอวี่ไม่แม้แต่จะกล้าสูดอากาศเข้าไป เถาเซียงที่น้ำตาไหลรินออกมาราวกับสายฝนมองมาที่เขา “หัวหน้าองครักษ์ชิว ท่านเป็อะไรหรือไม่?”
“มะ ไม่มีอะไร” ชิวอวี่ส่ายหน้าพร้อมกับสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง เมื่อเห็นผีสาวเ้าเสน่ห์ที่ทำให้ใจสั่นไหวอยู่ตรงหน้า
ชิงอียื่นมือออกไปทำท่าทางให้เขาเงียบ จากนั้นจึงชี้ลงไปยังร่างที่อยู่บนพื้น
ดวงตาของชิวอวี่เบิกกว้างขึ้นทันที หรือว่าท่านคือองค์หญิงหรือพ่ะย่ะค่ะ?
ดวงตาที่สวยงามของชิงอีเหลือบมอง เ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ?
ชิวอวี่ไม่กล้าที่จะพูดอะไร เขาจ้องมองไปยังเ้าแมวอ้วนกลายร่างไปเป็ผู้พิพากษาชุดแดงที่อยู่ข้างหลังนางด้วยสีหน้าแปลกๆ ท่านผู้นี้คงไม่ใช่เ้าแมวอ้วนหรอกใช่ไหม?
ขณะเดียวกัน ชิงอีก็หันศีรษะมองไปยังประตู
มีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาข้างใน ชายหนุ่มที่เดินนำมามีใบหน้าที่เ็า ดวงตาของเขาเหมือนน้ำพุลึกไหลอย่างเงียบๆ ในวันที่ท้องฟ้าสดใสเต็มไปด้วยหิมะขาว มันลึกล้ำและคาดเดาไม่ได้ แม้จะอยู่ห่างกัน ทว่า ก็สามารถเห็นถึงความไม่แยแสอย่างเห็นได้ชัด
“ท่านอ๋อง!”
เซียวเจวี๋ยชำเลืองมองผ่านฝูงชนไป และแน่นอนว่าเขามองเห็นผีสองตัวที่อยู่ถัดจากชิวอวี่ ทว่า ใบหน้าของเขากลับสงบและไม่มีความใใดๆ แม้ว่าใจของเขาจะรู้ดี ทว่า ปากก็ยังถามออกไป “เกิดอะไรขึ้น?”
เถาเซียงและต้านเสวี่ยที่ร้องไห้เล่าเหตุการณ์ว่าพวกนางได้รับคำสั่งให้ไปทำอาหารมื้อดึกให้ชิงอี เป็ผลให้เมื่อพวกนางกลับมาก็พบว่าองค์หญิงต กระทั่ง เ้าแมวที่อยู่ข้างกายก็ถูกฆ่าตายไปด้วย
ฉู่สือกลอกตาหลายครั้งอย่างลับๆ องค์หญิงของพวกเ้าก็กำลังดูเื่ตลกข้างๆ ไม่ใช่หรืออย่างไร?
หลังจากเซียวเจวี๋ยฟังจนจบ เขาก็หลับตาลง และเม้มปากโดยไม่พูดอะไรสักคำ สถานการณ์ในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเป็การเข้าใจผิด เพราะใครบางคนเล่นซนถอดิญญาออกมาจากร่าง จนทำให้เกิดเื่วุ่นวาย เขาก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่านางจะรับมือกับเหตุการณ์นี้อย่างไร!
จู่ๆ ใบหน้าที่มีเสน่ห์และน่าเกรงขามก็เข้ามาใกล้ พวกเขาสบตากัน
ผิวของนางไม่ได้ขาวเหมือนคนปกติ มีความเ็าเผยออกมาพร้อมกับคิ้วที่ขมวดขึ้นเล็กน้อย ซึ่งทำให้ใบหน้าดูมีความกระตือรือร้นขึ้นเล็กน้อย รวมไปถึงั์ตาโตสองชั้น ปลายหางตาเรียวยาว ดูเ้าชู้เย้ายวน ราวกับรวบรวมน้ำพุเอาไว้ในดวงตา เป็ดวงตาคู่งามที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเอกลักษณ์
ใบหน้านี้ แตกต่างจากร่างมนุษย์ของนางไปอย่างสิ้นเชิง
เช่นเดียวกับบุปผาแห่งปรภพที่ริมเส้นทางหวงเฉวียน เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่ร้อนแรงและไม่สามารถจับต้องได้
นี่คือร่างเดิมของนางสินะ?
ดวงตาของเซียวเจวี๋ยไม่กะพริบตา และสีหน้าก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงเช่นกัน
“มองไม่เห็นจริงๆ หรือ?” ดวงตาที่สวยงามของชิงอีจ้องมาที่เขาอย่างใกล้ชิด ใบหน้าเล็กๆ ของนางเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
เมื่อฉู่สือที่อยู่ข้างหลังเห็นเช่นนี้ก็รีบลุกขึ้นมา หญิงสาวคนนี้ตายเป็ผีไปแล้ว ก็ยังไม่ลืมที่จะฉวยโอกาสเสียมารยาทกับาาอีก!
เซียวเจวี๋ยมองไปยังใบหน้าเล็กๆ ตรงหน้าที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา เดี๋ยวก็ยิ้มเดี๋ยวก็ขยิบตา โอ๊ะ แถมยังจงใจดึงลูกตาออกจนเบ้าตาเืไหล เพื่อขู่ให้เขากลัว
ชิงอีเอาลูกตาใส่กลับไปที่เดิม และลูบคางของตนเอง “ดูเหมือนว่าจะมองไม่เห็นจริงๆ แฮะ...” รอยยิ้มปีศาจที่มีเสน่ห์ปรากฏอยู่บนใบหน้าอีกครั้ง
“ดีเลย เมื่อคืนข้ายังกินไม่อิ่ม เช่นนั้นเ้าก็เป็เด็กดีกตัญญูต่อข้าอีกสักครั้งให้ข้าก็แล้วกัน”
ขณะที่พูดนางก็เกี่ยวคอของเซียวเจวี๋ย เมื่อเซียวเจวี๋ยเห็นว่านางกำลังจะขยับริมฝีปากสีแดงเข้ามา
เซียวเจวี๋ยก็เงยหน้าขึ้นทันที และเดินไปที่ร่างมนุษย์ของนาง
ชิงอีที่เซไปทั้งร่าง นางกัดฟันแน่น เวลาที่ควรขยับก็ไม่ขยับ เวลาที่ไม่ควรขยับจะขยับทำบ้าอะไร!
“ท่านอ๋อง?” นางกำนัลทั้งสองมองเขาด้วยน้ำตา
เซียวเจวี๋ยย่อตัวลง และมองไปที่ร่างของชิงอีบนพื้น โดยไม่สนใจใบหน้าเล็กๆ ที่มองด้วยความเกลียดชังอยู่ข้างๆ
“อืม ดูเหมือนว่าจะตายแล้วจริงๆ” เซียวเจวี๋ยพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ช่วยชีวิตไม่ได้แล้วล่ะ เอาไปฝังเถอะ”
ชิงอี :??!!
เ้าหนุ่มน้อย เ้ามันไร้ความปรานี!
เ้าแมวอ้วนะโในใจว่าเขาคิดว่าเขายังสามารถยื้อชีวิตไว้ได้อีกหน่อย!