หนิงเทียนมองป้ายคำสั่งบนผนังก่อนจะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “พวกเ้าล้วนเป็อิสระ เหตุใดไม่เอามันออกเองเล่า?”
เฮยเย่าตะคอก “เื่ไร้สาระทั้งหมดนี้มาจากที่ใด? ถ้าไม่เอาป้ายคำสั่งออก เ้าก็อย่าแม้แต่จะคิดที่จะจากไป!”
ชิงเยี่ยนกล่าวเสริมว่า “เ้าได้เรียนรู้ทักษะแยกแสงิญญาของเราไปแล้ว เช่นนั้นก็ต้องช่วยเรากำจัดป้ายคำสั่งนี้! เมื่อนั้นนับจากนี้ไปเราจะไม่เป็หนี้กันอีก ว่าอย่างไร?”
หนิงเทียนลังเล เขามองขวดหยกดำและขาวบนพื้นแล้วพูดว่า “เว้นแต่พวกท่านจะให้ขวดหยกสองขวดนี้แก่ข้า”
เฮยเย่ากล่าวว่า “แม้ข้าจะให้เ้าไป เ้าก็ไม่สามารถเอามันออกไปได้ อย่าโลภมากนัก”
“เอาเช่นนี้ ข้าไม่้าขวดหยก แต่ข้า้าแสงิญญาภายในได้หรือไม่?”
ชิงเยี่ยนเริ่มบ่น ขณะที่เฮยเย่าพูดด้วยรอยยิ้ม “เ้าไม่กลัวกรรมหรือ?”
“ไม่เป็ไร ข้ากล้าได้กล้าเสียและไม่กลัวสิ่งใด”
ชิงเยี่ยนกล่าวว่า “เ้าไม่สามารถเอามันออกไปได้หากไม่มีวัตถุใส่ิญญา”
หนิงเทียนจ้องขวดหยกแล้วถามอย่างสงสัย “นี่คือวัตถุใส่ิญญาหรือ? เช่นนั้นทำไมมันหนักขนาดนี้?”
เฮยเย่ายิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะพูดว่า “ความตายนั้นหนักกว่าเขาไท่ซาน เบาราวขนนก แสงสว่างแห่งจิติญญาคือแสงแห่งิญญาและเป็ตัวแทนของชีวิต มันย่อมมีน้ำหนัก ไม่เช่นนั้นทำไมถึงต้องมีคำสาปเล่า?”
หนิงเทียนขมวดคิ้วก่อนจะถามต่ออีกว่า “จะขัดเกลาอาวุธิญญาิญญาได้อย่างไร? แล้ววัสดุที่ใช้คือสิ่งใด?”
ชิงเยี่ยนตอบ “บอกไปเ้าก็ไม่เข้าใจหรอก วัตถุใส่ิญญาต้องทำจากเม็ดแก่นแท้ิญญาและแกะสลักด้วยรูปแบบิญญาเท่านั้น”
“เม็ดแก่นแท้ิญญาสามารถเก็บแสงิญญาได้หรือ?”
เฮยเย่ายิ้มอย่างมีเลศนัย “เม็ดแก่นแท้ิญญาบริสุทธิ์นั้นหายากมาก มันมีหน้าที่ในการเก็บแสงิญญา แต่เมื่อเทียบกับขวดหยกดำและขาวนี้ พวกมันยังคงด้อยกว่า”
หนิงเทียนครุ่นคิดก่อนมองขวดหยกดำและขาวแล้วเดินวนรอบๆ ทันใดนั้นก็พูดว่า “ท่านช่วยเปิดใช้งานขวดหยกได้หรือไม่?”
ชิงเยี่ยนถามว่า “ทำไมเ้าถึงถามเื่นี้?”
“ข้าอยากเห็นมันว่ามีอะไรพิเศษถึงเพียงนั้น”
เฮยเย่ากล่าวว่า “หากเ้าเต็มใจที่จะถอดป้ายคำสั่ง เราจะให้เ้าดูสักครั้ง”
“ขอข้าดูก่อน ถ้าข้าคิดว่าเป็ข้อตกลงที่ดี ข้าจะช่วยถอดป้ายคำสั่ง”
“ไม่ เ้าต้องถอดป้ายคำสั่งออกก่อน!”
“แต่ข้าอยากเห็นก่อน!”
ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้แก่กัน หลังจากนั้นไม่นานชิงเยี่ยนและเฮยเย่าก็ลังเล ก่อนจะประนีประนอมในท้ายที่สุด
“เ้าหนู ดูให้ดีเล่า” ชิงเยี่ยนเปิดใช้ขวดหยกขาว ขณะที่เฮยเย่าเปิดใช้ขวดหยกดำ ขวดหยกทั้งสองซึ่งหนักพอกับเขาไท่ซานสว่างไสวด้วยแสงในทันที ก่อนจะเริ่มหมุนวนและลอยขึ้นไปในอากาศ
หนิงเทียนใช้ทักษะเก้าเนตร์สังเกตสภาพของขวดหยกทั้งสองอย่างระมัดระวังด้วยดวงตาจิติญญา เขาเห็นว่าลวดลายิญญาเก้าชั้นถูกสลักไว้บนพื้นผิวของพวกมัน ชั้นแรกมีเก้ารูปแบบิญญา ชั้นที่สองมีแปดสิบเอ็ดรูปแบบ ชั้นที่สามมีเจ็ดร้อยยี่สิบเก้ารูปแบบ และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีตรงกับเลขเก้าหลักของเขาอย่างพอดิบพอดี
“มีวิธีใดบ้างที่จะรวมขวดหยกขาวดำนี้เข้าไว้ในขวดเดียว? ครึ่งดำครึ่งขาว ครึ่งหยินครึ่งหยาง ไม่เพียงแต่สามารถรองรับแสงิญญาอันบริสุทธิ์เท่านั้น แต่ยังรวมแสงิญญาชั่วร้ายเข้าด้วยกันได้อีกด้วย” ความคิดนี้แวบขึ้นมาในจิตใจของหนิงเทียน และขณะที่ชิงเยี่ยนกับเฮยเย่าเปิดใช้ขวดหยก เขาก็แอบเอาเม็ดไขกระดูกิญญาออกมา ขูดไขกระดูกบางส่วนออก และวางแผนที่จะปรับแต่งวัตถุใส่ิญญา
การขัดเกลาอาวุธต้องใช้แสงิญญา และหนิงเทียนมีแสงิญญาเพียงเจ็ดดวงเท่านั้น ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วยังไม่เพียงพอ
“ก่อนอื่น พวกท่านแต่ละคนต้องให้แสงิญญาหนึ่งหมื่นดวงแก่ข้า”
“แสงิญญาหมื่นดวง? เ้าหวังมากเกินไป” ชิงเยี่ยนปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
เฮยเย่ากล่าวว่า “เ้าทนรับหมื่นแสงิญญาไม่ไหวหรอก”
หนิงเทียนรีบโต้ “ข้าขัดเกลาอาวุธ ก่อนอื่นท่านต้องให้แสงิญญาอันบริสุทธิ์และแสงิญญาชั่วร้ายแก่ข้าหกพันหกร้อนดวงก่อน”
“แค่เ้า? ขัดเกลาอาวุธ? เลิกหวังเถอะ” ชิงเยี่ยนไม่เชื่อ ผู้ฝึกฝนในขอบเขตจิตหยั่งลึกกล้าพูดเื่การขัดเกลาอาวุธ นี่ไม่ใช่จินตนาการใช่ไหม?
“อย่าดูถูกคนอื่น ถ้าข้าไม่สามารถขัดเกลาอาวุธได้ ข้าจะไม่ช่วยพวกท่านกำจัดป้ายคำสั่ง และข้อกำหนดเบื้องต้นคือท่านต้องมอบแสงิญญาให้ข้า”
ชิงเยี่ยนและเฮยเย่ามองหน้ากันก่อนพูดพร้อมกันว่า “ก็ได้ ตกลงตามนี้!”
หนิงเทียนหยิบพู่กันิญญาหลากสีออกมา เขาใช้เม็ดแก่นแท้ิญญาเป็ตัวดูดกลืนแสงิญญา แล้วดึงขวดหยกครึ่งดำครึ่งขาวออกมากลางอากาศ มันสูงเพียงหนึ่งชุ่น โดยรูปร่างของมันคล้ายกับขวดหยกดำและขาวอย่างมาก
“เม็ดแก่นแท้ิญญา! ไม่คิดเลยว่าเ้าจะมีของดีเช่นนี้อยู่ด้วย” ชิงเยี่ยนประหลาดใจเล็กน้อย แต่แววตาที่ชั่วร้ายและแปลกประหลาดของเฮยเย่ากลับเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“อันดับแรกขอแสงิญญาบริสุทธิ์เก้าดวง” ทันทีที่หนิงเทียนพูดจบ แสงิญญาทั้งเก้าดวงก็พุ่งออกมาจากขวดหยกขาว
หนิงเทียนบิดข้อมือแล้วใช้พู่กันิญญาหลากสีเพื่อยึดแสงิญญา ใช้ทักษะคุมิญญาในการบูรณาการวิชาแปลงิญญา และเริ่มใช้จิตรกรรมิญญาไร้ลักษณ์ใส่ขวดหยก
“แสงิญญาชั่วร้ายอีกเก้าดวง!” เฮยเย่าตอบสนองทันควัน แสงิญญาชั่วร้ายเก้าดวงลอยเข้าหาหนิงเทียน ก่อนถูกพู่กันิญญาหลากสีสะกดไว้
นี่เป็ครั้งแรกที่หนิงเทียนขัดเกลาอาวุธิญญา และเขายังคงนึกถึงคำสอนของต้นไม้สังเวยิญญาโบราณอยู่ในใจ เขาใช้ทักษะจิตรกรรมิญญาไร้ลักษณ์เป็รากฐาน ก่อนใช้วิชาแปลงิญญาเป็วิธีในการจารึกแสงิญญาลงบนขวดหยก
ขวดหยกของหนิงเทียนเรียกได้ว่าเป็ขวดหยกหยินหยาง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือช่องตรงกลางซึ่งจะต้องสลักด้วยแสงิญญาบริสุทธิ์และแสงิญญาชั่วร้ายไว้ได้ในเวลาเดียวกันเพื่อรักษาสมดุล
ขณะเดียวกันแสงิญญาบริสุทธิ์และแสงิญญาชั่วร้ายนอกขวดหยกก็ไม่ขัดแย้งกัน มิฉะนั้นความพยายามก่อนหน้านี้ทั้งหมดจะสูญเปล่า
ขอบเขตของชิงเยี่ยนและเฮยเย่านั้นสูงมาก ทว่าพวกเขาต่างตกตะลึงเมื่อเห็นวัตถุใส่ิญญาที่กลั่นขึ้นของหนิงเทียน
“เ้าเด็กนี่ไม่รักชีวิตแล้วหรือไร ช่างไร้สาระจริงๆ!”
“ความขัดแย้งระหว่างความดีและความชั่วนำไปสู่การทำลายตนเอง มันเป็เพียงการแสวงหาความตาย”
พวกเขาทั้งสองะโและสาปแช่ง แต่ก็มีร่องรอยของความคาดหวัง
หนิงเทียนไม่รู้ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจริงๆ หรือ?
ไม่ใช่ เขารู้ดี
แต่ในเมื่อรู้ถึงอันตราย แล้วเหตุใดถึงยังฝืนกลั่นมันขึ้นมาอีก?
สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับวิชาแปลงิญญาและความเข้าใจของหนิงเทียนเกี่ยวกับเส้นทางแห่งจิติญญา
หนิงเทียนคำนวณอย่างรอบคอบว่าการกลั่นขวดหยกหยินหยางนั้นเป็ไปได้ แต่เขาไม่คุ้นเคยกับทักษะการกลั่นเพราะนี่เป็ครั้งแรก จิตใจจึงไม่มั่นคงมากนัก
แต่อย่างไรในร่างของหนิงเทียนก็ได้รวมเส้นทางเต๋าพฤกษา เส้นทางแห่งจิติญญา และเส้นทางิญญาเข้าด้วยกัน และสามารถใช้หนึ่งก้าวสู่์จากประตูสู่์ควบคุมสิ่งที่ได้เรียนรู้ได้อีกด้วย เมื่อผสมผสานพลังเข้ากับกายเต๋าิญญาศักดิ์สิทธิ์และพู่กันิญญาหลากสีสัน แม้ว่าจะเป็ครั้งแรกที่ขัดเกลาอาวุธิญญา แต่ผลลัพธ์ก็ดีกว่าที่คิด
“แสงิญญาบริสุทธิ์แปดสิบเอ็ดดวง แสงิญญาชั่วร้ายอีกแปดสิบเอ็ดดวง” การสร้างรูปแบบิญญาชั้นแรกเสร็จสมบูรณ์แล้ว และหนิงเทียนกำลังเริ่มต้นชั้นที่สอง
เพราะชิงเยี่ยนและเฮยเย่าอยากรู้ว่าหนิงเทียนจะประสบความสำเร็จหรือไม่จึงค่อนข้างให้ความร่วมมืออย่างดี
การสร้างรูปแบบิญญาชั้นสองนั้นซับซ้อนกว่าชั้นแรกมา กและยังใช้เวลานานกว่ามากอีกด้วย
“แสงิญญาบริสุทธิ์เจ็ดร้อยยี่สิบเก้าดวง แสงิญญาชั่วร้ายเจ็ดร้อยยี่สิบเก้าดวง” หนิงเทียนเชี่ยวชาญทักษะจิตรกรรมิญญาไร้ลักษณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ขวดหยกครึ่งดำครึ่งขาวส่องสว่างด้วยแสงดำและขาว ทั้งยังปลดปล่อยความผันผวนที่ไม่แน่นอนอย่างยิ่ง ราวกับมันพร้อมจะะเิเมื่อใดก็ได้
หนิงเทียนมีท่าทีจริงจัง ปลายพู่กันของเขาปล่อยคลื่นพลังออกมาซึ่งสั่นะเืดวงิญญา นี่คือวิชาแปลงิญญาที่ควบคุมแสงิญญาและกำจัดปัจจัยที่ไม่เสถียรออกไปพร้อมกัน
“ขั้นสี่! แสงิญญาบริสุทธิ์หกร้อยหกสิบเอ็ดดวง แสงิญญาชั่วร้าย” ร่างกายของหนิงเทียนเริ่มสั่นไหว แผนที่จิติญญาทั้งเก้าในร่างกายต่างได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ ร่างกายของเขาราวกับจะลุกไหม้ด้วยเพลิงแห่งชีวิต และปล่อยพลังที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา
ความยากระดับที่สี่เกือบจะเกินขีดจำกัดที่หนิงเทียนสามารถควบคุมได้ แต่เขาก็ยังคงยืนหยัดและถือว่ามันเป็ความท้าทาย
สีหน้าของชิงเยี่ยนและเฮยเย่าเริ่มจริงจัง พวกเขาพร้อมที่จะดำเนินการได้ตลอดเวลา
เมื่อหนิงเทียนล้มเหลวในการขัดเกลาอาวุธิญญา พวกเขาจะดำเนินการและต้องไม่ปล่อยให้หนิงเทียนตาย ไม่เช่นนั้นใครจะเป็ผู้ถอดป้ายคำสั่งให้พวกเขา?
หนิงเทียนใช้พลังงานจำนวนมหาศาล และแผนที่จิติญญาทั้งเก้าก็ฉายเงามายาที่แตกต่างกันตามแหล่งที่มาเก้าชนิด ซึ่งทำให้ทั้งชิงเยี่ยนและเฮยเย่าตกตะลึง
“เด็กคนนี้แปลกนิดหน่อยนะ ข้าไม่เคยเห็นเื่เช่นนี้มาก่อน” เจตนาฆ่าฉายแววอยู่ในดวงตาของเฮยเย่า
ชิงเยี่ยนตะคอก “อย่าตัดสินใจผิดพลาด เขาบำเพ็ญในเส้นทางเต๋าพฤกษา และข้าจะไม่ปล่อยให้เ้าแตะต้องเขาแม้แต่น้อย!”
หนิงเทียนมุ่งความสนใจทั้งหมดเข้าสู่สภาวะสงบนิ่ง เขาไม่มีความคิดกวนใจ และคิดแต่เื่การกลั่นอาวุธเท่านั้น
พู่กันิญญาหลากสีส่องแสงเจิดจ้า แสงิญญาพันเกี่ยวกันเป็กากบาดในพู่กันของหนิงเทียน ก่อนจะถูกร่างไว้บนพื้นผิวของขวดหยก ก่อให้เกิดรูปแบบของลวดลายิญญา
เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อแสงดวงสุดท้ายถูกจารึกไว้ ห้วงอากาศในห้องโถงก็เริ่มสั่นะเื กระแสฟ้าร้องและฟ้าผ่าเกิดขึ้น สายฟ้าสีเงินฟาดลงมากระทบขวดหยินหยางที่หนิงเทียนเป็ผู้กลั่นขึ้นในทันที
ขวดหยกหมุนและส่งเสียงดัง แสงแห่งิญญาปรากฏก่อนจะกลายเป็ดวงตาและใบหน้าที่จ้องมองไปยังจุดที่มีพลังอัสนี
ฟ้าร้องและฟ้าผ่าที่หนาแน่นราวกับพายุที่รุนแรงล้อมรอบขวดหยก ระดมยิงและปราบปรามอย่างต่อเนื่อง ทำให้หนิงเทียนต้องล่าถอยโดยเร็วที่สุด
ชิงเยี่ยนและเฮยเย่ามองขวดหยกของหนิงเทียนอย่างประหลาดใจ สิ่งนี้เป็เพียงอาวุธิญญาระดับกลาง แต่มันสามารถก่อให้เกิดทัณฑ์์ได้!
ส่วนเหตุผลนั้นเป็เพราะการกลั่นอาวุธิญญาจื๋อซิวจะรวมแสงิญญาเอาไว้ ซึ่งเป็สิ่งที่ไม่สามารถมีอยู่ได้ไม่ว่าจะเป็บน์หรือพื้นดิน
ขวดหยกหยินหยางนี้ใช้แสงิญญามากกว่าหนึ่งแสนสี่หมื่นดวง ซึ่งเทียบเท่ากับชีวิตกว่าหนึ่งแสนสี่หมื่นชีวิต โดยธรรมชาติแล้วมันย่อมไม่สามารถหลีกหนีทัณฑ์์ได้
ทัณฑ์์กินเวลาครึ่งชั่วยาม มีสายฟ้าอย่างน้อยนับหมื่นพันรอบขวดหยก แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่อาจทำลายขวดหยกได้ กลับทำให้แสงิญญามากันได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคงขึ้นเสียด้วยซ้ำ
“ฮ่าๆ! สำเร็จแล้ว!” หนิงเทียนดีใจมาก นี่เป็สิ่งแรกที่เขาขัดเกลา ความสุขในใจของเขานั้นมากล้นจนเกิดจะอธิบายไม่ได้
เฮยเย่าตะคอก “ก็แค่โชคไร้สาระ”
หนิงเทียนไม่ได้โกรธเลย เขารีบไปหาชิงเยี่ยนและเฮยเย่าก่อนจะยื่นมือออกมาแล้วพูดว่า “เป็งมงคลยิ่งนัก ดีจริงๆ รีบส่งของขวัญของข้ามาเร็วเข้า ข้าพอใจกับสิ่งเล็กน้อย ขอเพียงแสงิญญาหนึ่งแสนดวงก็พอแล้ว ไม่้าอะไรมากมายเลย”
ชิงเยี่ยนกัดฟันพูดอย่างโกรธเคือง “แสงิญญาหนึ่งแสนดวง? ถุย!”
เฮยเย่าตำหนิ “เป็มนุษย์ไม่อาจโลภเกินไปได้ ข้าจะให้แสงิญญาสองดวงแก่เ้าเป็ของอวยพร”
“เทพไม่ควรตระหนี่เกินไป แสงิญญาแปดหมื่นดวงก็ยังดี” หนิงเทียนต่อรองราคาและพูดต่อ
ท้ายที่สุดชิงเยี่ยนและเฮยเย่าก็เบื่อจะเถียงกับเขา แต่ละคนจึงยอมมอบดวงิญญาให้เขาสามพันดวง
“เอาละ ไปถอนป้ายคำสั่งได้แล้ว”
หนิงเทียนยิ้มแห้งๆ และพูดว่า “มีอันตรายหรือไม่? ทำไมคำสั่งนี้ถึงขังพวกท่านไว้ที่นี่?”
“เื่ไร้สาระทั้งหมดนี้มาจากไหน? ไปเร็ว”
หนิงเทียนเก็บขวดหยกหยินหยางแล้ววิ่งเข้าหาป้ายคำสั่ง เขาลองมองไปทางทิศบูรพาแล้วหันมองทิศประจิมอีกครั้ง พร้อมคิดในใจว่า เมื่อเขาถอดป้ายคำสั่งออกแล้ว ทั้งสองคนจะหันมาสู้กันหรือไม่?
ต้องมีเหตุผลในการออกป้ายคำสั่งปราบปรามพวกเขาไว้ที่นี่ ถ้าปล่อยพวกเขาไป เกรงว่าจะจัดการกับพวกเขาได้ยากในอนาคต แต่หากไม่ถอดป้ายคำสั่งออก ชายสองคนนี้คงไม่ปล่อยตนไปแน่
หนิงเทียนใช้ทักษะคุมวาโยคว้าป้ายคำสั่งขึ้นไปในอากาศด้วยอารมณ์กังวล เขารู้สึกว่ามันหนักราวกับูเา ทันทีที่มันหลุดออกจากกำแพง เขาก็พยายามอย่างหนักและอยากจะถอยหนี
ดวงตาของเฮยเย่าลุกเป็ไฟ เขาพูดเสียงดังว่า “เอามันออกไปจากปราสาทเดี๋ยวนี้!”
หนิงเทียนดิ้นรนและพูดว่า “ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่”
ยิ่งป้ายคำสั่งอยู่ห่างจากกำแพงมากเท่าใด การต่อสู้ก็จะยิ่งยากขึ้นเท่านั้น ความกดดันที่มีต่อหนิงเทียนเพิ่มมากขึ้นไม่หยุด
“จงลงมา!” หนิงเทียนคำรามอย่างดุเดือด เขาคว้าป้ายคำสั่งด้วยมือขวาแล้วรีบออกจากห้องโถง
ชิงเยี่ยนและเฮยเย่ารู้สึกกังวลมาก เมื่อเห็นว่าป้ายคำสั่งนั้นมีพลังมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองจึงถอยกลับไป
ดวงตาของหนิงเทียนลุกเป็ไฟ หูของเขาขยับเล็กน้อย เขาได้ยินเสียงของชิงเยี่ยนและเฮยเย่าที่ถอยห่างออกไป
เมื่อมองประตูปราสาทที่ใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ร่างของหนิงเทียนก็เปล่งแสงสีทองออกมาราวกับดวงอาทิตย์แผดเผา ร่างกายของเขาเริ่มทำงานอย่างสุดกำลัง
“อ่า! เปิดให้ข้า” หนิงเทียนหนีไปราวกับเงาพร้อมเสียงกรีดร้องอันดุร้าย ขณะที่ป้ายคำสั่งที่อยู่กลางอากาศก็ลอยกลับมาที่เดิม
ป้ายคำสั่งกระแทกกำแพงด้วยเสียงที่ดังสนั่น ปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งทำให้ชิงเยี่ยนและเฮยเย่ากรีดร้องด้วยความโกรธ “เ้าเด็กบ้า! กล้าดีอย่างไรมาหลอกพวกเรา?”
“ท่านเทพทั้งสอง ข้าอภัย ขอบเขตของข้าต่ำเกินไป ข้าจะมาช่วยเหลือพวกท่านเมื่อถึงขอบเขต์!” เสียงของหนิงเทียนจากด้านนอกห้องโถงจางหายไปอย่างรวดเร็ว
เฮยเย่าที่อยู่ในห้องโถงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เ้าหนู อย่าให้ข้าได้พบเ้าอีก!”
