กลัวจนตายจริงสิ?
สวะเหลือเกิน
เ่ิูไม่รู้จะยิ้มหรือร้องไห้ดี
ไม่นึกเลยว่าซุนอวี้หู่ผู้ชอบเที่ยวใช้อำนาจบาตรใหญ่ จะใจเสาะจนน่าขำขนาดนี้ แต่ตายไปก็ดี เขาจะได้ไม่ต้องลงมือเอง
เื่ราวจบสิ้นเมื่อตายจาก เดิมทีเ่ิูก็เป็กังวลอยู่แล้ว ว่าหลังจากที่เขาไป ซุนอวี้หู่จะทำอันตรายต่อคฤหาสน์ตระกูลเย่และคนอื่นเช่นฉินหลัน ทว่ายังมิได้คิดแผนรับมือดีๆ นึกไม่ถึงว่าเ้านี่จะวิ่งมาหายันที่ ในเมื่อตัดตัวปัญหานี้ออกไปได้แล้ว การจะจากลู่ิไปก็ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว เื่อื่นๆ มีข่งคงัั์ตนใหม่ดูแลไว้อยู่ คงไม่มีปัญหาอะไร
เ่ิูตรงไปยังมุมหนึ่งห่างไปยี่สิบเมตร เขาโบกมือทีหนึ่ง
แสงเล็กๆ ส่องสว่าง
ผู้พิทักษ์ทะลุปรุโปร่งอันหนึ่งลอยกลับมาหาเขา
หน้านั้นในท่วงทำนองยุคเทพมาร เพียงแค่ใส่พลังภายในเข้าไปให้มากพอก็สามารถสั่งการผู้พิทักษ์ทะลุปรุโปร่งทั้งสี่ให้ทำงานได้แล้ว อันที่อยู่ในมือเ่ิูนี้ได้ติดตั้งอยู่นอกห้องศิลามายี่สิบกว่าวันเต็มๆ
ตามที่เขาสังเกตการณ์ไว้ก่อนหน้า เขารู้ว่าวันนี้ซุนอวี้หู่ต้องมารวมพลกับเถาว่านเฉิง หารือเื่ก้าวต่อไป ดังนั้นเ่ิูจึงเลือกลงมือในราตรีนี้ คำพังเพยที่ว่ายิงอาชาก่อนยิงคน จับาาก่อนหัวขโมยนั้นได้ผลชะงัด เขาฆ่าซุนอวี้หู่และเถาว่านเฉิงในพริบตา เหล่าขอทานที่โอบล้อมคฤหาสน์ตระกูลเย่ไว้เป็แค่ฝูงกาเท่านั้น ไม่จำเป็ต้องไล่ พวกเขาย่อมจะค่อยๆ แยกย้ายกันไปเองได้
ตอนที่เขาหันหลังจากไปนั้นเอง เ่ิูก็เกิดนึกอะไรขึ้นได้
ั์ตามองไปยังร่างสองดรุณีที่สลบไสล
หากทิ้งไว้ที่นี่ หญิงน่าสงสารสองคนนี้ต้องถูกสำนักมะโนประชาไม่ก็กรมสอดแนมสอบปากคำอย่างหนักแน่ หลิวหยวนชั่งที่สิ้นทายาทไปสองคนติดต้องคลุ้มคลั่งแทบบ้า ไม่มีทางปล่อยพวกนางไปดีๆ อยู่แล้ว
เ่ิูส่ายหน้า พาร่างที่สลบเหมือดกลับไปด้วย
ท้องฟ้ายามราตรีมืดมิดลงทุกที
บนนภานั้นหิมะปลิดปลิว
ไร้ผู้ใดล่วงรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
...
...
วันที่สอง
หลังหิมะก็ตามมาด้วยความสดใส แสงอาทิตย์ยามเช้าเอิบอาบทั้งนคร
วันอากาศสดใสที่หาได้ยากยิ่ง
เ่ิูจบการฝึกรอบเช้า เขากินข้าวพร้อมกันกับเสียวฉ่าว ชิงชิง และฉินหลัน
หลานสาวของหลี่ฉือเจิน ชิงชิงนั้นเป็เพื่อนรักกับเสียวฉ่าวเรียบร้อยแล้ว สองคนความสัมพันธ์แน่นแฟ้นนัก วันๆ แทบจะกินนอนด้วยกันเลยด้วยซ้ำ เด็กสาวที่มีชะตาชีวิตคล้ายคลึงกันในที่สุดก็ได้พบความสุขยามมีเพื่อนวัยเดียวกันแล้ว คืนก่อนเด็กสาวก็ตามเสียวฉ่าวมาพักที่คฤหาสน์ตระกูลเย่ คราวก่อนๆ ก็พักมาหลายครั้งจนชินแล้ว จึงไม่หวั่นกลัวอะไร
“คุณชายเ้าคะ ปู่ข้ามีเื่ฝากมาบอกท่าน” ชิงชิงกินข้าวเช้าเสร็จแล้วก็เดินมาตรงหน้าเ่ิู นางเอ่ยอย่างจริงจัง “ปู่ถูกเกณฑ์ให้ไปด่านโยวเยี่ยน ต้องลาจากทิงเทาซวนแล้วเ้าค่ะ”
“อะไรนะ?” เ่ิูใ “มีเื่แบบนี้ด้วยหรือ?”
ชิงชิงพยักหน้า “สิบวันก่อนก็แน่นอนแล้วเ้าค่ะ ปู่จะไปเป็หมอใหญ่ที่แนวหน้า ห้ามไม่ให้ข้าบอกท่าน วันนี้คนที่ถูกเกณฑ์ทุกคนต้องออกเดินทางจากลู่ิแล้ว ปู่ให้ข้ามาทักทายท่าน ขอบคุณที่ท่านดูแลตลอดหลายวันมานี้”
“แต่ว่า...” เ่ิูไม่รู้จะพูดอะไรดี ข่าวคราวนี้เกินความคาดหมายมากไป
หลี่ฉือเจินอายุปาเข้าไปเจ็ดสิบกว่าแล้ว ทั้งไม่ได้ฝึกฝนวรยุทธ์ สังขารโรยราเต็มที ด่านโยวเยี่ยนสถานที่แบบนั้น กระฉ่อนทั้งความกันดารและเลวร้าย ผู้าุโเทียวไปเทียวมาที่นั่น ร่างกายจะรับไหวหรือ?
เ่ิูกังวล
ทหารก็ไม่รู้คิดอย่างไรถึงได้เลือกชายชราเช่นนี้ไปเป็หมอใหญ่
เหลวไหลสิ้นดี
“ปู่อยากไปเองเ้าค่ะ” ชิงชิงเหมือนอ่านใจเ่ิูได้ นางก้มหัวตอบ “ปู่บอกว่าแนวหน้าของทหารจ่ายหนักมาเ้าค่ะ ท่านอยากใช้่เวลาบั้นปลายของชีวิตเก็บเงินสินสมรสให้ข้า”
เ่ิูนิ่งงัน
ชิงชิงเอ่ยต่อ “ข้าปรามปู่อยู่นานมาก แต่ท่านก็ไม่ฟังเลย ข้าอยากไปที่นั่นด้วย แต่ปู่ก็บอกว่าถ้าข้าไม่ฟังเขา เขาจะตายให้ข้าเห็นต่อหน้าเลย...ข้าไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว คุณชาย ข้าได้ยินมาว่าท่านเองก็จะไปด่านโยวเยี่ยน ท่าน...ช่วยดูแลปู่ข้าที่นั่นได้ไหมเ้าคะ?”
ข่าวที่เ่ิูเตรียมตัวจะจากเมืองลู่ิไปนั้น เขาได้บอกแก่ฉินหลัน เสียวฉ่าว ถังซานไปแล้ว ดูท่าชิงชิงก็น่าจะรู้แล้วเช่นกัน
เ่ิูไม่รู้จะพูดอะไรถึงจะดี
เื่ทั้งหมดได้เตรียมไว้เข้าที่แล้ว ตอนนี้จะไปทำอะไรก็ไม่ทันเสียหมด
หลี่ฉือเจินคิดอะไรอยู่เขาก็ไม่รู้ ทั้งที่ถ้าอยู่ที่ลู่ิตระกูลเย่ก็จะไม่ดูดายเขาแท้ๆ เป็หมอประจำทิงเทาซวนเองก็ดี ยังสามารถอยู่เป็เพื่อนหลานสาวตัวเองได้ ญาติพี่น้องอยู่ครบ หาก้าเงิน เ่ิูก็ช่วยสนับสนุนเขาได้เช่นกัน แต่หากไปอยู่แนวหน้าด่านโยวเยี่ยน ร่างกายเขาเหมือนไม้ใกล้ฝั่ง หากจะสิ้นใจก็เหมือนสิ้นเก้าชีวิตในคราเดียว ถึงเวลานั้นชิงชิงคงเ็ปไม่รู้ลืม...
ทว่าตอนนี้ทุกอย่างไม่อาจหวนกลับ
แม้ชิงชิงจะบอกกล่าวสงบนิ่งเพียงใด เ่ิูก็มองออก ว่าหลี่ฉือเจินตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ต่อให้เป็เขาไปปรามเองก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอะไรได้
คนแก่ประหลาด
คนแก่หัวดื้อ
“วางใจเถอะ ข้าจะดูแลท่านผู้าุโอย่างสุดกำลัง” เ่ิูทำได้แค่ตอบรับเท่านี้จริงๆ
ชิงชิงโค้งกายอย่างจริงจัง
...
...
ตอนเที่ยงวัน นครลู่ิพลันคึกคัก
ทหารแนวหน้ากองสนับสนุนด่านโยวเยี่ยนเคลื่อนพลแล้ว
ถนนสายหลักของเขตเหนือมีผู้คนมาชุมนุมกันล้นหลาม
สำนักเ้าเมืองและฝ่ายทหารล้วนจัดงานส่ง ตามด้วยพิธีดั้งเดิมบ้างเล็กน้อย
ทั้งลู่ิให้ความสำคัญกับการเกณฑ์ทหารสนับสนุนนี้มาก ความจริงแล้วเพราะประเพณีโบราณของแคว้นเสวี่ยนั้นให้ความเคารพทหารแนวหน้ามาก เพราะไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขาจะมีชีวิตรอดกลับมาหรือไม่ คนมากมายล้วนเข้าใจ ว่าพวกเขาจะพิทักษ์เสรีภาพการดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์และต้องรีบรุดไปให้ถึงที่หมาย พวกเขาคือผู้กล้าที่แท้จริงแห่งมวลมนุษย์
เ่ิูเองก็มาดูพิธีส่งทหารด้วยเช่นกัน
เขาพาชิงชิงไปหาหลี่ฉือเจิน
ชายชราสวมเกราะหนังกลับที่เบาสบายที่สุด มือถือไม้เท้า สีหน้าท่าทางไม่เลวเลย
เขากอดจูบหลานสาวทีหนึ่งก็ชำเลืองมองเ่ิู แล้วเอ่ยพลางยิ้ม “คุณชาย จากนี้ชิงชิงคงต้องรบกวนท่านแล้ว หากเป็ไปได้ ท่านได้โปรดดูแลเด็กคนนี้ด้วย...”
เ่ิูตอบชนิดไม่ต้องรอให้พูดจบ “ท่านวางใจเถอะ จากนี้ชิงชิงคือน้องสาวของข้าแล้ว”
หลี่ฉือเจินคลี่ยิ้ม ดวงตาเยี่ยงผู้ผ่านโลกมามากผ่อนคลายขึ้นเยอะ เขาลูบหัวชิงชิงอีกคราด้วยรักเหลือเกิน แต่สุดท้ายก็ต้องไป เขาหันหลังเดินกลับไปรวมกับกองทหาร ถือไม้เท้าเดินเหยียบย่ำบนแผ้วทาง
ภาพการส่งเฉกเช่นนี้เกิดขึ้นบนสองข้างทางครั้งแล้วครั้งเล่า
การจัดทัพนั้นซับซ้อนวุ่นวาย มิใช่มีแต่คนธรรมดาหรือจอมยุทธ์พเนจรเท่านั้น ชนชั้นสูงมากมายก็ถูกเกณฑ์ไปด้วย
แม้ชนชั้นสูงจะมีสิทธิพิเศษมากเพียงใด ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าการเกณฑ์ไพร่พลของราชสำนัก กลับไม่อาจหลีกหนี ตามธรรมเนียมของอาณาจักร เหล่าชนชั้นสูงมากสิทธิย่อมต้องมีหน้าที่รับผิดชอบมากกว่าคนธรรมดา ดังนั้นจึงควรตอบรับการเกณฑ์พลไปเข่นฆ่าศัตรูของอาณาจักรด้วย
ดอกไม้ไฟปราณขนาดั์ของเมืองะเิสามครั้ง การส่งทหารสิ้นสุดลง
ใต้สายตานับหมื่นๆ คู่ กองทหารที่รวมพลกันไม่ถึงสามพันนาย เดินออกนอกทวารประตูแห่งลู่ิอย่างยิ่งใหญ่ เหยียบย่ำบนพื้นหิมะไพศาล ลับสายตาไปที่ขอบฟ้าสีขาว
ใครก็ไม่อาจรู้ได้ ว่าสามพันนายนี้จะรอดชีวิตกลับมาได้กี่คน
บางทีอาจไม่มีวันได้กลับมา
ไม่เพียงแค่อาณาจักรเสวี่ย แล้วก็มิใช่เพียงแค่ภพไทวะเท่านั้น ในอาณาจักรนับไม่ถ้วนในภพสามพันภพนี้ เผ่ามนุษย์ต่อสู้กรำศึก หลั่งเื ล้มตายในาตลอดเวลาเพื่อปกป้องสิทธิ์ในการดำรงอยู่ พื้นที่และทรัพยากรต่อการตั้งรกรากและมีชีวิต ไม่ว่าจะเคยมีการเข่นฆ่าหรือความขัดแย้งภายในบ่อยแค่ไหน สุดท้ายก็กลับมาสามัคคีกันได้เมื่อถึงจุดนี้
ชิงชิงยืนอยู่ข้างเ่ิู นางส่งเหล่าทหารด้วยสายตาจนพวกเขาลับหายไป
นางไม่เอื้อนเอ่ย และไม่ร้องไห้
เ่ิูคิด เด็กหญิงคนนี้มีความแข็งแกร่งและสงบจนน่าใ
...
หลายวันต่อมา เมืองลู่ิอยู่ในความสงบที่หาได้ยาก
เ่ิูเองก็กำลังเตรียมการขั้นสุดท้าย
ได้ยินข่าวมาว่าในสำนักสำมะโนประชาเกิดเื่ใหญ่ หลิวหยวนชั่งคลุ้มคลั่งจนฆ่าภรรยาลับที่โปรดปรานที่สุดตายไปสองคน นอกจากนั้นยังโกรธจนกระอักเื เป็ลมล้มพับไปเสียอย่างนั้น ทั้งสำนักเหมือนปกคลุมด้วยบรรยากาศเศร้าสลด สาเหตุก็เพราะซุนอวี้หู่ ทายาทผู้สืบทอดหลิวหยวนชั่งตายอย่างลึกลับ...
จากนั้นในเมืองเกิดล่ำลือกันว่า เป็เพราะหลิวหยวนชั่งทำเื่ต่ำช้าไว้มาก เลยโดนแก้แค้นโดยการฆ่าลูกฆ่าหลาน
ข่าวลือนี้ทำให้หลิวหยวนชั่งเสียหน้าในแวดวงชั้นสูง ตกต่ำจนโงหัวไม่ขึ้นอีกเลย
ขณะเดียวกัน เหล่าคนพเนจรและยากแค้นที่ล้อมรอบคฤหาสน์ตระกูลเย่ไว้ก็ค่อยๆ แยกย้ายกันไป ไม่มีการกระตุ้นหรือกำลังทรัพย์สนับสนุนจากเถาว่านเฉิง เหล่าคนยากต้องยุ่งกับการดิ้นรนทุกวัน จะเอาเวลาที่ไหนไปล้อมคฤหาสน์ให้เสียเวลา
กลับกันคนตระกูลเย่กลับไม่ถือสา ตั้งโต๊ะวางโจ๊กร้อนๆ บรรเทาทุกข์ให้เหล่าคนจน ได้รับคำสรรเสริญมากมาย เหล่าคนเร่ร่อนที่เคยโยนสัตว์เข้าคฤหาสน์ตระกูลเย่สำนึกผิดจนร้องไห้ขี้มูกโป่ง ตอนนั้นเอง ที่บารมีและชื่อเสียงของตระกูลเย่ถูกกล่าวขานกันในหมู่ปุถุชนมากขึ้นเรื่อยๆ คำเล่าลือที่ว่าเ่ิูพัวพันกับสตรีอับแสงจึงค่อยๆ เลิกราไป
“เป็แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เงินทุนเปิดแผงโจ๊กก็ขูดรีดมาจากซุนอวี้หู่กับเถาว่านเฉิงทั้งนั้น ถือว่าใช้สอยคุ้มค่า เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป คฤหาสน์เย่จะได้มั่นคงเสียที”
เ่ิูค่อยเบาใจ
และตอนนั้นเองที่ข่งคงส่งคนมาบอกข่าว ว่าได้จัดการเื่ของเ่ิูจนเสร็จสิ้นแล้ว
ไม่เหมือนกับแนวหน้าที่ถูกเกณฑ์จากชาวบ้านธรรมหรือชนชั้นสูงทั่วไป เ่ิูไปเพราะเป็ผู้สืบทอดเข็มตราแห่งข้าหลวงในองค์จักรพรรดิ ตำแหน่งพิเศษไม่เหมือนใคร มีสิทธิพิเศษที่ชนชั้นสูงไม่มี ดังนั้นจึงไม่ต้องไปแนวหน้า แต่ถูกส่งไปรับหน้าที่ทูตถือดาบตรวจการณ์แทน
ข่าวนี้ผิดจากที่เ่ิูคาดไว้
ยังไม่ทันไปแนวหน้าก็เป็หัวหน้าเสียแล้วหรือ?
าามารเย่หัวเราะอย่างตื่นเต้น
ข่าวดี ข่าวดียิ่ง
สรรพคุณของตราแห่งวีรบุรุษเกิดความคาดหมายของเ่ิูไปโข
ทว่าตำแหน่งทูตถือดาบตรวจการณ์จะเป็ตำแหน่งแบบไหน มีสิทธิอำนาจอย่างไรนั้น เ่ิูก็ยังไม่เข้าใจนัก
วันที่สอง คำสั่งแต่งตั้งอย่างเป็ทางการจากราชสำนักก็ส่งมาถึงเมืองลู่ิ
เ่ิูรับตำแหน่งที่สำนักกวางขาว กลายเป็ผู้รับใช้องค์จักรพรรดิอย่างแท้จริง
ตามคำสั่งแต่งตั้งของราชสำนักนั้น เ่ิูยังมีเวลาให้เตรียมตัวอีกหนึ่งวัน จัดการเื่ราวที่บ้านให้เรียบร้อย วันต่อไปถึงค่อยเดินทางสู่จุดหมายอันยาวไกล
สองวันต่อมา เ่ิูก็มิได้ยุ่งอะไรนัก เขาจัดการคฤหาสน์ตระกูลเรียบร้อยนานแล้ว เด็กหนุ่มใช้เวลาไปกับการเดินชมเมือง ไปพบข่งคงที่สำนักกวางขาว พูดคุยเื่เก่าๆ กัน ข่งคงกำชับเ่ิูหลายเื่จนปากเปียกปากแฉะ ถึงได้ปล่อยเขากลับมา
จากห้องทำงานของข่งคง เ่ิูออกมาพบกับซ่งชิงหลัวเข้าพอดี เขาจึงพูดคุยกับนางนิดหน่อย
นับจากเกิดเื่กับเด็กน้อย เครือการค้าชิงหลัวถูกโจมตีไม่เบาเลย กิจการทรุดฮวบ ซ่งชิงหลัวเองก็ยุ่งอย่างหนักเพื่อช่วยเื่ทางบ้าน นางไม่ได้มีท่าทีอวดดีเช่นตอนแรกอีกต่อไป เด็กหญิงคนนี้รู้จักเก็บงำอารมณ์และหนักแน่นขึ้นมากทีเดียว
เมื่อกลับถึงคฤหาสน์ก็ล่วงเลยเข้ายามค่ำ
ฉินหลันจัดงานเลี้ยงส่งตามธรรมเนียมเพื่อเ่ิู
คนทุกระดับในคฤหาสน์ล้วนแต่รักนายท่านผู้มีน้ำใจและน่าใกล้ชิดด้วยกันทั้งนั้น สาวใช้หลายนางแอบเช็ดน้ำตา เ่ิูผ่านมาเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของทุกคน จึงได้ความซาบซึ้งใจจากคนทุกระดับชั้น
รวมทั้งดรุณีน่าสงสารสองนางที่เ่ิูพากลับมาด้วย
หากคืนนั้นไม่ได้เ่ิูช่วยเอาไว้ ทั้งสองต้องตกอยู่ในมือมารของพวกเถาว่านเฉิง จมปลักกับชีวิตน่าสลด สองวันก่อนพวกนางกลัวจนสลบไป ถึงได้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เ่ิูพาสองนางกลับมา ฉินหลันบอกว่าคฤหาสน์กำลังขาดคน เห็นทั้งสองน่าสงสาร ท่าทางก็เรียบร้อยดี จึงรับเอาไว้ รอจนทั้งสองตื่นจึงใช้ลูกไม้อธิบายไปรอบหนึ่งจนได้ตัวไว้
เด็กสาวสองคนก็ไม่ได้รู้เลยว่าเ่ิูคือเงื้อมเงาซิวลัวทองแดงในวันนั้น ยังคิดว่าตัวเองเป็เช่นที่ฉินหลันบอก คือมาสลบอยู่หน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลเย่ ถูกช่วยเอาไว้ เพราะซาบซึ้งเป็อย่างมากจึงอาสาจะรับใช้อยู่ที่นี่
เ่ิูพิจารณาคราหนึ่งก็เห็นด้วย
เขามองออกว่าสองนางนี้ไม่ใช่คนเร่ร่อน หรือที่มาอื่นใด ไม่เคยพบเจอความลำบาก ทักษะชีวิตน้อยเหลือใจ เหมือนคุณหนูเกิดบนกองเงินกองทองเสียมากกว่า แต่กลับไร้วรยุทธ์ และน่าสงสารจริง หากไม่รับเอาไว้ น่ากลัวว่าจะหนีชะตากรรมเหมือนหัวกะโหลกของคนจนด้านนอกนั่นไม่พ้น
เวลาผ่านไปรวดเร็วนัก
งานเลี้ยงยามค่ำจบสิ้นลง
ชิงชิงที่กลับมาพร้อมเสียวฉ่าวเดินมาหาเ่ิู
“ปู่ฝากข้าให้ท่านเ้าค่ะ” ชิงชิงส่งกล่องไม้สีแดงเข้ม ยาวประมาณครึ่งฟุตให้เขา “ปู่บอกว่าของในนี้ช่วยท่านได้”
“ด้านในมีอะไรหรือ?” เ่ิูแปลกใจเสร็จแล้วก็รับกล่องมา เขาถามไถ่ยิ้มๆ
ชิงชิงส่ายหน้า “ข้าก็ไม่รู้”
เ่ิูแปลกใจเข้าไปใหญ่
ชิงชิงว่าจบก็หมุนตัวกลับราวกับใต้เท้าตัวน้อยๆ
เ่ิูส่ายหน้าหัวเราะ แล้วจึงค่อยๆ เปิดกล่องไม้
กลิ่นหอมประหลาดโชนออกมาจากด้านใน ตามมาด้วยไอสีทองอ่อนจาง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้