ใครใช้ให้เฉินเฟิงเป็หนุ่มรูปหล่อแถมยังเรียนเก่งกันเล่า ถึงแม้ฐานะจะยากจนข้นแค้นก็ตามที
ทางด้านหลิ่วอีอีที่แม้จะมาจากตระกูลเศรษฐี พูดได้เลยว่ามีฐานะดีที่สุดในมหาวิทยาลัย แต่กลับเป็คนไม่ถือตัว
“อีอี เธอเพิ่งกินเสร็จเหรอ?” เฉินเฟิงถามหลิ่วอีอีที่กำลังเดินออกจากโรงอาหารด้วยท่าทางอึดอัด
“ไม่อะ เมื่อกี้เดินรอบๆ โรงอาหารแล้วไม่รู้จะกินอะไรดี ก็เลยว่าจะไม่กิน ไดเอ็ตไปเลยน่ะ” หลิ่วอีอีส่งยิ้มหวาน
“ฉันก็จะไม่กินอะไรเหมือนกัน ตอนสามทุ่มฉันมีนัดพอดี ไปด้วยกันไหม?”เฉินเฟิงถามเธอกลับในขณะที่มือหนึ่งยังลูบท้องอยู่อย่างจริงจัง
“เอาจริงดิ? พ่อหนุ่มเฉินเฟิงผู้ไม่เคยเหลียวแลสาวๆ คนไหนเลย กำลังชวนฉันไปเที่ยว ไม่กลัวแม่ดาวมหาลัยจ้าวฉินเสวียนั่นจะหึงเหรอ?”
หลิ่วอีอีพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันและขุ่นเคืองใจปะปนกัน
“มื้อดึกครั้งนี้เป็จ้าวฉินเสวียนั่นแหละที่เป็คนออกปากชวนฉันแทนฮูอวี่ ไม่งั้นเธอก็คงไม่มีทางชวนฉันไปหรอก”
เฉินเฟิงอธิบายโดยพยายามรักษาสีหน้าให้เป็ปกติ
“เอ๊ะ หรือว่าข่าวลือจะเป็จริงนะ? ที่พวกตัวสำรองสิบคนของจ้าวฉินเสวียพูดถึง! เขาเล่ากันว่าเมื่อคืนนายโดนพี่ชายแสนดีฮูอวี่มอมเหล้านายวไปเกือบๆ สองลิตร ทั้งฮูอวี่กับจ้าวฉินเสวียไม่แตะเหล้าเลยสักหยด แล้วสุดท้าย พอนายเมาหลับ พวกนั้นก็ขโมยเงินไปจ่ายค่าอาหาร จากนั้นทั้งสองก็ขึ้นเฟอร์รารี่มือสองที่ทางบ้านฮูอวี่ซื้อให้กลับไปด้วยกัน...” หลิ่วอีอีไม่จำเป็ต้องพูดต่อ เพราะเื่หลังจากนั้นไม่ว่าใครก็เดาออก
“ฉันเมาหลับไปก่อน จำไม่ได้หรอก” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มอับจนหนทาง และเผลอลูบท้องโดยไม่รู้ตัวอีกครั้ง
“ข่าวลือนั่นอาจจะเป็จริงก็ได้... หรือก็คือฉันไม่มีเงินสักหยวนไว้ซื้อข้าวกิน”
ตอนนี้เขาหิวมากจริงๆ เขาใช้เวลาทั้งวันนอนอยู่ในหอพักโดยไม่ได้กินอะไรเลย
ส่วนของที่กินไปก่อนหน้านั้นก็คงอาเจียนออกเต็มถนนหมดแล้ว จากนั้นเขาก็คงเมาหนักมากจนหมดสติไป
“ดูสิคนเรา ทึ่มจริงๆ รักเขาข้างเดียวเป็อะไรที่เ็ปมากนะ ในฐานะสมาชิกกรรมการนักศึกษา ฉันขอเลี้ยงข้าวนายเอง!” หลิ่วอีอีที่เมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวและท่าทางหิวโหยของเฉินเฟิงพูดขึ้น เธอเห็นว่าเขามีท่าทางลำบากใจที่จะขอความช่วยเหลือจากเธอ แววตาของเธอจึงเต็มไปด้วยความเสียใจชั่วขณะ ก่อนจะกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มหวาน
“อย่างนั้นก็ขอบคุณ ถ้าวันหนึ่งฉันร่ำรวยขึ้นมา สัญญาเลยว่าจะเลี้ยงข้าวเธอที่โรงแรมห้าดาวเป็การตอบแทน” เฉินเฟิงตอบกลับอย่างจริงจังเมื่อได้ยลใบหน้าอันงดงามของหลิ่วอีอี นี่เป็คำสัญญาที่เขาตั้งใจจะรักษาไว้
สำหรับเฉินเฟิงตอนนี้ การจะจีบหลิ่วอีอีเป็สิ่งที่เขาไม่อาจพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำ
มื้อเย็นหลังจากนั้นคือมื้อเย็นที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยได้กินมาตลอดสามปีในชีวิตมหาลัยของเขา เพราะปกติเขามักจะเก็บเงิน หรือตัดค่าใช้จ่ายของตัวเองเพื่อซื้อของขวัญให้จ้าวฉินเสวีย
แม้จะรู้แก่ใจดีว่าเขาตามตื๊อจ้าวฉินเสวียมาสามปีแล้ว แต่ความรักที่หลิ่วอีอีมีให้เขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง
เธอเลี้ยงเมนูราคาแพงมากมายให้เฉินเฟิงที่โรงอาหารมหาวิทยาลัย
มื้อเย็นครั้งนี้กินเวลายาวนานกว่าสองชั่วโมง นี่นับเป็ครั้งแรกที่เฉินเฟิงคิดว่าการได้พูดคุยสัพเพเหระอย่างเื่การเรียน ไปจนถึงงานอดิเรกอะไรพวกนี้กับหลิ่วอีอี โดยไม่ต้องมีเื่ของจ้าวฉินเสวียเข้ามาเกี่ยวข้อง มันเป็อะไรที่ผ่อนคลายมากจริงๆ
หลิ่วอีอีนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม กำลังจดจ้องใบหน้าอันหล่อเหลาของเฉินเฟิงที่กำลังพูดอย่างสนุกสนาน
เธออดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปเช็ดเศษข้าวจากมุมปากของเขา ก่อนเธอจะสังเกตเห็นเวลาบนนาฬิกาข้อมือ หลิ่วอีอีรีบพูดขึ้น
“นี่ ตอนนี้มันสองทุ่มครึ่งแล้วนะ ไม่ใช่ว่าเราต้องรีบไปตามนัดที่ฮูอวี่กับจ้าวฉินเสวียชวนเหรอ ถ้าจ้าวฉินเสวียยังกลั่นแกล้งนายอยู่ แล้วฮูอวี่พยายามบังคับให้นายดื่ม ให้ฉันไปเล่นเป็แฟนปลอมๆ ของนายก็ได้นะ ฉันน่ะดื่มได้ตั้งเกือบสามลิตรเลยล่ะ!”
เมื่อเห็นดังนั้น เฉินเฟิงไม่ได้เบี่ยงหน้าหนีแต่อย่างใด เขาปล่อยให้หลิ่วอีอีปัดเศษข้าวออก กลิ่นหอมจากมือของเธอโชยแตะจมูกเขาระลอกแล้วระลอกเล่า
“งั้นก็ไปกันเถอะ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะ คุยกับเธอแล้วสนุกจริงๆ” เฉินเฟิงกล่าวขอบคุณจากใจจริง
จากนั้นภาพในความฝันของเฉินเฟิงสลับไปอีกครั้ง ครั้งนี้กลายเป็เื่น่าประหลาดใจมากยิ่งขึ้น
หลังจากเขาและหลิ่วอีอีมาถึงงานเลี้ยงหงเหมินที่จัดขึ้นโดยฮูอวี่กับจ้าวฉินเสวีย เล็บของเขาเจาะเข้าไปในฝ่ามือจนเืออก จากนั้นอะไรบางอย่างที่เหมือนกับระบบที่มีอยู่เพียงในนิยายก็ปรากฏขึ้น
ทันใดนั้นเสียงของอะไรบางอย่างที่คล้ายกับหุ่นยนต์ดังขึ้นในหัวของเฉินเฟิง
ติ๊ง!
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ คุณถูกรักแรกและเพื่อนสนิทสวมหมวกเขียว คุณได้ประสบกับความอัปยศเหลือคณานับ
ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ คุณใช้เงินก้อนสุดท้ายซื้อลอตเตอรี่สิบสามใบ ซึ่งเป็การแสดงถึงความเป็พี่เป็น้องสิบสามคนกับระบบ และระบบ ’นักธุรกิจแสวงรัก’ ซึ่งติดตัวโฮสต์ั้แ่กลับชาติมาเกิดได้เปิดใช้งานอย่างเป็ทางการ]
เฉินเฟิงซึ่งอ่านนิยายเว็บมานับไม่ถ้วนในชาติก่อน เริ่มเข้าใจความสามารถพื้นฐานของระบบ ’นักธุรกิจแสวงรัก’ ได้อย่างรวดเร็ว
[ประการที่หนึ่ง ทุกๆ หนึ่งหยวนที่โฮสต์เปย์ให้ผู้หญิงจะได้รับเงินคืนสิบเท่า ซึ่งสามารถถอนออกมาใช้ได้ทันที นอกจากนี้ แหล่งที่มาของเงินนั้นถูกต้องตามกฎหมายซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนหลังและยืนยันความปลอดภัยได้ หากพิจารณาจากมูลค่าของเงินในยุคนี้ วงเงินเริ่มต้นสูงสุดถึงหนึ่งพันล้าน เพราะจะเป็การยากที่จะชี้แจ้งแหล่งที่มาของเงินอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่โฮสต์ได้รับคืนใน่แรก หากจำนวนเงินนั้นเกินหนึ่งพันล้าน
ประการที่สอง โฮสต์เฉินเฟิงสามารถมองเห็นค่าความรักของเป้าหมายแต่ละเป้าหมายได้ และเมื่อค่าความรักของเป้าหมายแตะหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ จะไม่ได้รับส่วนเงินคืนอีกต่อไป]
ติ๊ง!
[ เป้าหมายหลักของระบบนี้คือทำให้โฮสต์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกเรียกว่าเทพเ้าแห่งตลาดหลักทรัพย์ ผู้ร่ำรวยเป็อันดับ 5 ที่เชื่อในความรักและมิตรภาพระหว่างมิตรสหายได้พบกับความรักแท้จริงในชาตินี้
เป้าหมายสูงสุดถูกเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ: เมื่อคุณพบกับผู้หญิงที่รักคุณอย่างแท้จริง 100% และเต็มใจจะแต่งงานกับเธอ ระบบจะหายไปโดยอัตโนมัติ
ท้ายของท้ายที่สุด โฮสต์ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็บุคคลสำคัญด้านการเงิน รู้จักกันในชื่อเทพเ้าหุ้นรายย่อยยังคงทำเงินได้มากมาย แม้ว่าจะไม่มีการช่วยเหลือจากระบบก็ตาม
เริ่มต้นภารกิจแสวงหาเทพธิดาในดวงใจของคุณได้ตอนนี้ ขอให้โชคดี]
หลังจากเข้าใจความสามารถพื้นฐานของระบบและได้ยินข้อความแสดงความยินดีอย่างประชดประชัน รวมถึงจุดประสงค์ของตัวระบบและเป้าหมายสูงสุดตามลำดับแล้ว เฉินเฟิงก็พูดอะไรไม่ออก
เขารู้สึกี้เีเกินกว่าจะใส่ใจระบบที่แปลกประหลาดนี้
หลังจากพยายามทำความเข้าใจความสามารถพื้นฐานและกฎอีกครั้ง เฉินเฟิงรู้สึกเข้าใจกระจ่างแจ้งมากขึ้น
ระบบนักธุรกิจแสวงรักนี่มีเป้าหมายหลักสองประการ
อย่างแรกคือทำให้เขาตามจีบสาวๆ พยุงความรัก และทำให้เขาเชื่อในรักแท้ให้ได้
อย่างที่สองคือมอบเงินจำนวนมากให้เขาที่เป็นักธุรกิจ เพื่อให้เขาเชื่อในมิตรภาพระหว่างมิตรสหาย มากกว่าใส่ใจเื่เงินใน่กำลังก่อร่างสร้างตัว
มาถึงจุดนี้เขาก็พบว่าตัวเองมีสองเส้นทางให้เลือก
เส้นทางแรก เปลี่ยนแปลงตนเองจากคนโง่เขลาที่ไล่ตามความรักมายาวนานถึงสามปีให้กลายเป็คนไร้ศีลธรรม โดยการเปลี่ยนเป้าหมายเรื่อยๆ เพื่อรับเงินคืนสิบเท่าตลอดไป
เส้นทางนี้อาจหมายถึงการใช้หญิงสาวมากหน้าหลายตาเป็แหล่งฟาร์มเงิน