วันรุ่งขึ้นกว่าูเี่อันจะตื่นก็เป็เวลาสิบโมงกว่า ลู่เป๋าเหยียนออกไปบริษัทั้แ่เช้าหลังกินข้าวเสร็จ เธอไม่มีอะไรทำและนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้ไปเยี่ยมถังอวี้หลันมาสักระยะแล้วเธอจึงขับรถไปที่ Zijing PalaceGarden
ถังอวี้หลันกับบรรดาคุณนายเพื่อนของเธอกำลังเล่นไพ่นกกระจอกกันอย่างสนุกสนาน
ถังอวี้หลันเป็คนจิตใจดีและรักการใช้ชีวิตนอกเหนือจากทำงานการกุศลแล้ว เธอยังจัดตารางชีวิตเอาไว้เต็มเอี๊ยด เช่นเล่นไพ่นกกระจอก จัดสวน ไปสถาบันเสริมความงาม ไม่ก็ไปนั่งที่ร้านน้ำชาหรือบางทีเกิดอยากจะเที่ยวขึ้นมา เธอก็ไปทัวร์ต่างประเทศ
ในสายตาคนอื่นถังอวี้หลันนั้นเป็คนมีเมตตาและใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็บุคลิกหรือรสนิยมก็ยอดเยี่ยม และยังมีรอยยิ้มที่งดงามชวนมอง
มีแต่คนคิดว่าคุณนายแบบถังยวี่หวันชีวิตนี้คงมีแต่ความสุขไม่เคยเจออุปสรรคหรือเื่ราวเลวร้ายใดๆ
แตู่เี่อันรู้ดีว่าก่อนหน้าที่เธอจะเจอกับลู่เป๋าเหยียน ตระกูลลู่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คุณพ่อของลู่เป๋าเหยียนซึ่งเป็ทนายความชื่อดังได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิต
เมื่อสามีอันเป็ที่รักต้องมาจากไปอย่างกะทันหันสภาพจิตใจของถังอวี้หลันจึงย่ำแย่มาก
ตอนหลังเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถังอวี้หลันกับลู่เป๋าเหยียนจึงมาพักอยู่ที่บ้านเก่าของคุณยายเธอนั่นทำให้เธอได้เจอกับลู่เป๋าเหยียนเป็ครั้งแรก
ูเี่อันรู้แค่ว่าสุดท้ายถังอวี้หลันก็สามารถออกมาจากโลกแห่งความโศกเศร้าและพาลู่เป๋าเหยียนไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อเมริกาและเลี้ยงดูลู่เป๋าเหยียนไปพร้อมกับการใช้ชีวิตในอีกแบบที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน
หลายปีผ่านไปถังอวี้หลันก็เริ่มแก่ตัวลง กลายเป็คุณนายรุ่นใหญ่ที่ทั้งน่ารักและใจดี
ในความทรงจำของูเี่อันถังอวี้หลันมักจะยิ้มแย้มอยู่เสมอ สายตาของเธอเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณาขนาดร่องรอยตีนกาที่หางตา ยังทำให้คนมองรู้สึกสบายใจได้อย่างประหลาด
“แม่คะ”เธอส่งเสียงทักถังอวี้หลัน “หนูมาแล้วค่ะ”
“เจี่ยนอัน?” ถังยวี่หวันพูดอย่างเซอร์ไพรส์เธอเช็ดมือก่อนจะลุกขึ้นบอกกับเพื่อนๆ ว่า
“ลูกสะใภ้ฉันมา เอ้าหยุดเล่นก่อน ฉันจะแนะนำให้พวกเธอรู้จัก”
หลังแนะนำตัวกันเสร็จสรรพบรรดาคุณหญิงคุณนายก็พากันชื่นชมถังอวี้หลันว่ามีบุญเหลือเกินที่ได้สะใภ้หน้าตาสะสวย แถมยังหมั่นมาเยี่ยมเธออีก
“ฉันเล็งสะใภ้คนนี้มาั้แ่สิบกว่าปีก่อนแล้วจะไม่ดีได้ยังไง”ถังอวี้หลันให้เพื่อนอีกคนมาเล่นแทนเธอ ก่อนจะจูงูเี่อันเดินไปยังห้องรับแขก“เจี่ยนอัน วันนี้หนูไม่ไปทำงานเหรอลูก”
ูเี่อันจึงเล่าเื่ที่เธอไปช่วยงานที่บริษัทและหลังจบงานเลี้ยงครบรอบเธอถึงจะกลับไปทำงานตามปกติให้ถังอวี้หลันฟัง
ถังอวี้หลันพยักหน้าพลางยิ้ม
“ก็ดีเหมือนกันนะนี่ก็จะเที่ยงแล้ว หนูอยากกินอะไรจ๊ะ เดี๋ยวแม่ทำให้”
นานๆ ทีเธอจะมาเยี่ยมถังอวี้หลันสักครั้งจะให้มาลำบากทำกับข้าวให้เธอได้อย่างไร
“เดี๋ยวหนูทำเองค่ะแม่กลับไปนั่งเล่นไพ่กับพวกคุณนายหวังรอหนูก่อนนะคะ”
ถังอวี้หลันเคยได้ยินจากลุงสวีมานานแล้วว่าฝีมือการทำอาหารของูเี่อันนั้นเป็เลิศขนาดคนเลือกกินอย่างลู่เป๋าเหยียนเธอยังเอาอยู่
“ก็ได้จ้ะงั้นเดี๋ยวแม่ให้ป้าหวังมาช่วยหนูทำกับข้าวสักอย่างสองอย่างนะวันนี้แม่จะให้คุณนายหวังอยู่ทานข้าวด้วยจะได้ถือโอกาสอวดลูกสะใภ้คนเก่งของแม่คนนี้ด้วยเลย”
“ค่ะ” ูเี่อันยิ้มตอบก่อนจะพับแขนเสื้อและเดินตรงเข้าห้องครัว
ส่วนถังอวี้หลันก็เดินกลับไปที่วงไพ่นกกระจอกก่อนเอ่ย
“ตอนเที่ยงอย่าเพิ่งกลับกันล่ะวันนี้ลูกสะใภ้ฉันจะลงมือเข้าครัวเอง อยู่ชิมกันก่อนนะ”
“ว้าวทำอาหารเป็ด้วยเหรอเนี่ย” คุณนายหวังพูดพลางทิ้งไพ่ “ได้ข่าวว่าเป็ลูกสาวตระกูลซูไม่ใช่เหรอดูจากครอบครัวและอายุแล้ว หายากนะที่จะชอบทำอาหาร เฮ้อ ลูกชายฉันมันไม่เอาไหนหาลูกสะใภ้ที่ทำอะไรไม่เป็สักอย่าง แถมยังมากเื่ ทำตัวอย่างกับองค์หญิงฉันเห็นทีไรก็อดโมโหไม่ได้”
ถังอวี้หลันยิ้มอย่างภูมิใจก่อนทิ้งไพ่
“เกม!”
คุณนายหวังตาโต“ยวี่หลัน เล่นกันมาทั้งเช้าฉันไม่เคยเห็นเธอจะชนะ แต่พอลูกสะใภ้มาหาดันชนะเฉยเลยสงสัยเธอจะเป็ดาวนำโชคล่ะมั้งเนี่ย”
ถังอวี้หลันปรายตามองไปทางห้องครัว
“อย่าพูดไปบางทีเธออาจจะนำโชคมาให้ตระกูลฉันจริงๆ ก็ได้”
ั้แ่แต่งงานกับูเี่อันลู่เป๋าเหยียนเปลี่ยนไปมากแค่ไหนเธอรู้ดีตอนนี้เธอหวังแค่ว่าลูกชายเธอจะยอมลืมเื่ที่เกิดขึ้นเมื่อสิบกว่าปีก่อนเพื่อูเี่อัน
ในห้องครัว ขณะทีู่เี่อันกำลังหั่นมะเขือเทศมือถือที่เธอใส่ไว้ในกระเป๋าผ้ากันเปื้อนก็ดังขึ้นเธอเช็ดมือให้แห้งและหยิบมันขึ้นมา
ลู่เป๋าเหยียนโทรมาหาเธอ
“ลุงสวีบอกว่าเธอไปหาแม่งั้นเหรอ”เสียงของลู่เป๋าเหยียนดังมาตามสาย
“อืมกินข้าวเช้าเสร็จฉันก็ออกมาเลย มีอะไรหรือเปล่า”
“เธอเช็กอีเมลดูสิว่าได้รับอีเมลแบบชุดแล้วหรือยัง”
ูเี่อันเปิดอีเมลตามที่เขาบอกแล้วก็เห็นอีเมลล่าสุดที่เป็แบบร่างของเสื้อผ้าหลายชุด
“นี่คือ...แบบชุดราตรีวันงาน?” เธอถามอย่างสงสัย
“อืม” ลู่เป๋าเหยียนตอบ“เลือกแบบที่เธอชอบที่สุดแล้วตอบดีไซเนอร์กลับไป แต่ถ้าไม่มีตัวที่ชอบก็บอกให้เขาออกแบบให้ใหม่”
“งั้นเดี๋ยวฉันลองดูก่อนนะ”
ูเี่อันวางสายพวกเขาส่งมาทั้งหมดห้าแบบ หนึ่งในนั้นมีชุดราตรีเกาะอกอยู่ตัวหนึ่งที่แค่เห็นแวบแรกเธอก็รู้สึกชอบทันที
ว่าแล้วจึงตอบทางดีไซเนอร์กลับไปว่าเธอชอบชุดนี้ก่อนจะส่งข้อความบอกลู่เป๋าเหยียนว่า เธอเลือกชุดเรียบร้อยแล้วลู่เป๋าเหยียนคงกำลังยุ่งอยู่ เขาจึงไม่ได้ตอบข้อความเธอ
ูเี่อันเก็บมือถือใส่กระเป๋าดังเดิมและหั่นมะเขือเทศต่อ
เที่ยงกว่าๆกับข้าวหกอย่าง และน้ำซุปอีกหนึ่งหม้อก็เสร็จสิ้นอาหารทั้งหมดหน้าตาและรสชาติดีเยี่ยมไม่แพ้พ่อครัวมืออาชีพบรรดาคุณนายที่ได้ชิมต่างพากันชมไม่หยุดปากพลางส่งสายตาอย่างอิจฉาให้กับถังอวี้หลันที่มีลูกชายแบบลู่เป๋าเหยียนเพราะไม่ว่าจะเป็เื่ธุรกิจหรือการเลือกภรรยาก็ช่างหลักแหลมยิ่งนัก
ถังอวี้หลันเพียงแค่ยิ้มรับคำเยินยอเ่าั้ก่อนจะบอกให้ทุกคนทานกันเยอะๆ ไม่ต้องเกรงใจ
หลังมื้ออาหารพวกคุณนายก็นั่งดื่มชากันก่อนแยกย้ายกลับบ้าน ถังอวี้หลันจับมือูเี่อันก่อนจะชวนคุย
“เจี่ยนอัน่นี้หนูกับเป๋าเหยียนเป็ยังไงบ้าง”
“พวกเราสบายดีค่ะ”ูเี่อันตอบ “แม่วางใจเถอะค่ะ พวกเราอาจจะมีทะเลาะกันบ้าง แต่ไม่ได้ร้ายแรงอะไรอีกอย่าง ปกติพวกเราก็ไม่ได้มีเื่อะไรให้ทะเลาะกันอยู่แล้ว”
ถังอวี้หลันถอนหายใจพลางคิดถึงเื่ในอดีต
“สมัยที่แม่กับพ่อของเป๋าเหยียนยังเป็วัยรุ่นพวกเราอยากหาเงินให้ได้เยอะๆ อยากอยู่บ้านหลังใหญ่ๆ อยากขับรถดีๆแต่พอพ่อของเป๋าเหยียนจากไป แม่ถึงได้สติว่าที่จริงแล้วชีวิตคนเราไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเื่สุขภาพตอนนี้แม่แค่อยากให้พวกลูกอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขไปตลอด ไม่ต้องร่ำรวยไม่ต้องเลิศเลอกว่าใครๆ ขอแค่พวกลูกสุขภาพแข็งแรงและอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไปก็พอ”
ทุกครั้งที่ถังอวี้หลันพูดถึงพ่อของลู่เป๋าเหยียนมักจะมีความเศร้าสร้อยปะปนอยู่ในรอยยิ้มนั้น
ูเี่อันเริ่มสงสัยหรือว่า...อุบัติเหตุครั้งนั้นจะไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดากันนะ
เนื่องจากเป็แค่การคาดเดาเธอจึงไม่กล้าถามออกไปส่วนเื่ที่ถังอวี้หลันอยากให้พวกเธอใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอดนั้น...เธอเองก็ไม่อาจรับปาก
เธอกับเขายังไม่ทันได้เริ่มชีวิตคู่ก็ตกลงเื่หย่ากันแล้ว ถึงแม้่นี้พวกเธอสองคนจะไม่ได้พูดถึงมันเลยก็ตามแต่เธอมีลางสังหรณ์ว่าพวกเธอคงไม่สามารถเป็ไปอย่างที่ถังอวี้หลันคาดหวังได้อย่างราบรื่น...
แต่เพื่อให้ถังอวี้หลันสบายใจเธอจึงให้สัญญา
“พวกเราทำได้แน่นอนค่ะแม่ไม่ต้องเป็ห่วงไปนะคะ”
“เื่ของพวกลูกถึงแม่จะเป็ห่วงก็ไม่มีประโยชน์หรอกจริงไหม”
ถังอวี้หลันนวดไหล่ตัวเองเล็กน้อยก่อนจะยิ้มเรียบ
เธอรู้จักลูกชายและลูกสะใภ้คนนี้ดีพวกเขาดูเผินๆ เหมือนจะเชื่อฟัง แต่เื่บางเื่หาพวกเขาตัดสินใจแล้วต่อให้เธอเข้าไปห้ามก็คงไม่ฟัง
ูเี่อันตัดสินใจจบหัวข้อนี้ด้วยการเดินอ้อมไปด้านหลังโซฟาเพื่อช่วยนวดไหล่ให้ถังอวี้หลัน
“ให้หนูนวดไหล่ให้นะคะหนูพอจะรู้วิธีการนวดผ่อนคลายอยู่บ้าง”
ไม่นานหลังจากนั้นูเี่อันก็ได้รับข้อความตอบกลับจากลู่เป๋าเหยียน
“เลิกงานแล้วฉันจะไปหารอฉันก่อน”
ตอนนี้ก็ใกล้สี่โมงแล้วถังอวี้หลันเห็นว่าแดดเริ่มหุบ จึงเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปกำจัดหญ้าวัชพืชในสวนดอกไมู้เี่อันเองก็หยิบอุปกรณ์ตามออกไปอย่างกระตือรือร้น
เมื่อลู่เป๋าเหยียนมาถึงเขาจึงได้เห็นภาพของูเี่อันที่กำลังสวมหมวกกันแดดใบใหญ่นั่งอยู่ข้างแปลงดอกไม้เธอกำลังกำจัดวัชพืชและพรวนดินอย่างคล่องแคล่ว พลางพูดคุยยิ้มแย้มอยู่กับแม่ของเขา
ถังอวี้หลันสังเกตเห็นลู่เป๋าเหยียนก่อนจึงวางพลั่วในมือลง
“เป๋าเหยียนกลับมาแล้วเหรอลูกงั้นเดี๋ยวแม่ไปทำกับข้าวก่อนนะ”
“แม่คะ หนู...”
ูเี่อันยังพูดไม่จบถังอวี้หลันก็ห้ามเธอไว้ก่อน
“มื้อเที่ยงหนูเป็คนทำแล้วมื้อเย็นให้แม่แสดงฝีมือบ้างนะจ๊ะ”
หลังจากถังอวี้หลันเดินไปที่ห้องครัวลู่เป๋าเหยียนก็เดินเข้ามาหา ูเี่อันเงยหน้ามองเขา เธอไม่รู้จะพูดอะไรดี
หมวกกันแดดใบใหญ่ทำให้ใบหน้าของเธอดูเล็กลงยิ่งกว่าเดิมเหงื่อที่ซึมอยู่ตามหน้าผากทำให้ไรผมบางส่วนเปียกชุ่มพวงแก้มทั้งสองข้างกลายเป็สีแดงอ่อนๆลู่เป๋าเหยียนเห็นแล้วรู้สึกอยากจะหยิกแก้มเธอสักที
ูเี่อันโดนเข้าจ้องจนชักจะอึดอัด“หน้าฉันมีอะไรติดอยู่งั้นเหรอ”
เธอยกมือจับหน้าตัวเองทำให้ดินที่เปื้อนมือเลอะใบหน้าและปลายจมูก
ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้วบ่น
“ซื่อบื้อจริงๆ เลย”
เขาดึงมือเธอออกก่อนจะใช้นิ้วโป้งช่วยเช็ดให้
ูเี่อันผิวค่อนข้างบางเมื่อเม็ดทรายเสียดสีกับใบหน้าจึงรู้สึกเจ็บ เธอจับมือลู่เป๋าเหยียนไว้
“เดี๋ยวหน้าถลอกหมดเบาๆ หน่อยสิ หรือนายรู้สึกว่าภรรยาของนายจะสวยเกินไปแล้ว”
ลู่เป๋าเหยียนยิ้ม“ฉันแค่รู้สึกว่าภรรยาฉันหลงตัวเอง”
ถึงจะพูดอย่างนั้นเขาก็เบาน้ำหนักมือลง ในตอนนี้ระยะห่างระหว่างเธอกับเขาใกล้กันมากมากเสียจนเธอััได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนของเขา
ถ้าเป็เมื่อก่อนพวกเธอคงรู้สึกอึดอัด และทำตัวไม่ถูกจนเธออยากจะหนีไป
แต่ในตอนนี้ความใกล้ชิดแบบนี้ทำไมถึงกลายเป็เื่ธรรมดาไปได้? ลู่เป๋าเหยียนเช็ดหน้าให้เธอราวกับเคยทำมาแล้วนับพันๆครั้ง
ไม่ช้าใบหน้าของูเี่อันก็กลับมาสะอาดดังเดิม ลู่เป๋าเหยียนจึงลดมือลง
“เสร็จแล้ว”
ูเี่อันคิดว่าการที่ตนเผลอทำหน้าตัวเองเลอะก็เพราะลู่เป๋าเหยียนเธอจึงคว้าแขนเขาขึ้นมา และเช็ดหน้ากับแขนเสื้อของเขา
“ขอบใจนะ”
เช็ดเสร็จก็ตั้งท่าจะวิ่งหนี
แต่ลู่เป๋าเหยียนรู้ทันเขาคว้ามือเธอเอาไว้และรั้งเธอเข้ามาในอ้อมกอด ก่อนมองแขนเสื้อที่เปื้อนเล็กน้อย
“เธอตั้งใจ?”
เมื่อหางตาูเี่อันมองไปทางห้องครัวก็ถึงกับตัวชา...ถังอวี้หลันเห็นพวกเธอแม่ยืนมองพวกเธอมาโดยตลอด!
“ปล่อยฉันนะแม่อยู่ในครัวนี่เอง”
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มมุมปาก
“แม่คงดีใจที่เห็นพวกเราเป็แบบนี้”
ูเี่อันถลึงตาใส่เขา
“ตาบ้า!เดี๋ยวฉันช่วยเช็ดให้สะอาดก็ได้ ปล่อยฉัน”
เพราะถังอวี้หลันมองเห็นทุกอย่างคงจะไม่ดีหากเขาจะแกล้งเธอมากเกินไป คิดได้ดังนั้น ลู่เป๋าเหยียนจึงปล่อยตัวเธอและเดินตามไปยังก๊อกน้ำที่อยู่มุมกำแพง
เธอเปิดน้ำเบาๆก่อนจะใช้นิ้วััน้ำเล็กน้อย และค่อยๆ เช็ดรอยเปื้อนที่แขนเสื้อของเขา
“จริงสิฉันอยากจะถามนายมานานแล้วว่า ทำไมแม่ถึงไม่ย้ายไปอยู่บ้านเดียวกับพวกเราล่ะแม่อยู่ที่นี่คนเดียว ถ้าเกิดเื่อะไรขึ้นมาพวกเราคงไม่รู้”
ลู่เป๋าเหยียนนิ่งเงียบไป
“หลังแม่แต่งงานกับพ่อก็อยู่ที่นี่มาตลอดไม่ว่าจะเป็เฟอร์นิเจอร์หรือสวนดอกไม้ พวกเขาช่วยกันเลือก ช่วยกันออกแบบทุกอย่างตอนย้ายไปอยู่อเมริกา แม่ก็ไม่ได้จ้างใครให้มาช่วยดูแล พอกลับมาแม่ถึงค่อยๆ บำรุงรักษาพวกมันจนกลับมามีสภาพเดิมแม่เคยบอกว่า ต่อจากนี้จะไม่มีทางย้ายไปอยู่ที่อื่นอีกแล้ว”
เมื่อฟังจบูเี่อันถึงได้รู้ว่าบ้านหลังนี้มีความสำคัญต่อถังอวี้หลันมากแค่ไหน
ขอแค่อยู่ในบ้านหลังนี้ถังอวี้หลันก็สามารถััได้ถึงกลิ่นอายของสามียามเมื่อเขายังมีชีวิต
ถึงแม้หลายปีมานี้เธอจะใช้ชีวิตด้วยรอยยิ้มแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เธอลืมพ่อของลู่เป๋าเหยียนไปแล้ว
ในทางกลับกันเธอไม่เคยลืมเลือนสามีผู้เป็ที่รักแม้แต่ลมหายใจเดียว
ในขณะทีู่เี่อันกำลังเหม่อคิดนู้นคิดนี่ลู่เป๋าเหยียนก็ยกมุมปากยิ้มบาง
“อีกอย่าง ถ้าแม่ย้ายไปอยู่ที่บ้านเราเธอกับฉันคงต้องนอนห้องเดียวกัน”
“เจี่ยนอันเธอเริ่มคิดอยากจะนอนกับฉันั้แ่เมื่อไรกัน”
