หลังจากชิงเมิ่งกลับไป มู่อวิ๋นจิ่นเอาแต่คลุกตัวอยู่ในห้อง โดยไม่ย่างกรายออกไปไหนแม้แต่ก้าวเดียว ทั้งยังนอนหลับั้แ่หัววัน เพื่อรอคอยให้เช้าวันถัดต่อไปมาอย่างรวดเร็ว
……
ในเมืองเตี๋ยฮวา มีเื่ลับแพร่สะพัดอย่างไฟล่ามทุ่งเพียงชั่วข้ามคืน จากหนึ่งเป็สิบ จากสิบเป็ร้อย ใช้เวลาไม่กี่ชั่วยามก็รู้ไปทั่วอาณาจักรซีหยวน
มู่อวิ๋นจิ่นตื่นนอนแล้วออกประตูหลังจวนไปเดินเล่นที่ตลาด
พอไปถึงตลาด เห็นผู้คนจำนวนมากมุงกันเป็วงกว้าง พูดคุยเื่บางอย่างกันอย่างออกรสออกชาติ “เซียวเหลียนผู้นี้มีวาสนาเหลือเกิน บุตรชายของเขาเซียวเทียนฉี จะแต่งกับองค์หญิงห้าเกี่ยวดองกับราชวงศ์เชียว”
“ดูไม่ออกจริงๆ เซียวเทียนฉีเ้าเด็กนี่ ปกติเอาแต่เปิดบ่อนพนัน ดูท่าไม่ได้เื่ได้ราว นึกไม่ถึงองค์หญิงห้าทำไมถึงถูกใจเซียวเทียนฉีไปได้”
“ฉู่ๆๆๆ พูดเสียงเบาๆ กันหน่อย ที่จริงแล้วพวกเ้าคงไม่รู้เบื้องลึกเื้ักระมัง?”
“เหล่าหลี่ เ้าหมายความว่ายังไง? อธิบายมาเดี๋ยวนี้เลย!”
“สหายข้าที่ทำงานอยู่ในวัง เล่าให้ข้าฟังว่าเดิมทีฝ่าาจะให้องค์หญิงห้า แต่งกับองค์ชายอาณาจักรตงหลิน แต่ว่าองค์หญิงห้าไม่เต็มใจ จึงแอบคบหากับเซียวเทียนฉี จนเกิดความสัมพันธ์ลึกซึ้งขึ้นแล้ว……”
“ห๊ะ? องค์หญิงห้าทำเื่อย่างว่าจริงเหรอ?”
“จริงแท้แน่นอน!”
มู่อวิ๋นจิ่นได้ยินได้ฟังก็เดินต่อไป พอเห็นว่าผลลัพธ์เป็ไปดั่งที่นางตั้งใจก็ยิ้มกว้างอย่างสบายใจ
ฉู่ชิงเฉียง คราวนี้เ้าแก้ตัวไม่ขึ้นเป็แน่แท้!!!
ต่อจากนั้นมู่อวิ๋นจิ่นก็เดินชมตลาดทั้งสองข้างทาง เพื่อฟังสิ่งที่ผู้คนเล่าถึงเื่นี้ไปแบบฉบับของพวกเขา แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่ตรงกันคือ ทุกคนต่างเล่าว่าฉู่ชิงเฉียงกับเซียวเทียนฉีแอบคบหามีสัมพันธ์ลึกซึ้งไปแล้ว
เดินไม่ทันไรยังไม่ทำอะไรนางก็หยุดหน้าบ่อนพนัน ตอนนี้ทหารจากวังหลวงเข้าล้อมบ่อนพนันไว้ทุกด้าน โดยที่ผู้คนต่างพากันมาดูเื่น่าสนุกนี้
ไม่นานนัก เซียวเทียนฉีถูกคุมตัวเดินออกจากประตู
เซียวเทียนฉีพยายามขัดขืนแต่ก็ไม่เป็ผล ระหว่างที่เดินก้าวออกประตู เห็นมู่อวิ๋นจิ่นยืนอยู่จึงส่งสายตาวิงวอนขอความช่วยเหลือ
มู่อวิ๋นจิ่นพยักหน้าและส่งยิ้ม ให้เขาวางใจได้
เซียวเทียนฉีจึงสบายใจลง และเอ่ยอย่างกร่างๆ “ทางที่ดีพวกเ้าเกรงใจข้าเสียหน่อย มิอย่างนั้นวันไหนข้าได้เป็ราชบุตรเขย พวกเ้าได้เห้นดีแน่นอน”
นึกไม่ถึงทหารที่กุมตัวกลับผ่อนคลายมือเขาให้สบาย พาขึ้นรถม้าไป มุ่งหน้าเข้าวังหลวง
มู่อวิ๋นจิ่นเห็นเซียวเทียนฉีถูกทั้งตัวเข้าวังหลวงไป นางก็เดินทางไปที่วังหลวงเช่นเดียวกัน
……
ในเวลานี้ เซียวเทียนฉีเข้ามาถึงห้องพระโรงในวังหลวง
“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ลูกถูกปรักปรำ ปกติลูกยึดธรรมนองคลองธรรม ย่อมไม่มีทางกระทำเื่อย่างว่าได้เพคะ” ฉู่ชิงเฉียงคุกเข่าลงเบื้องหน้าฮ่องเต้ซีิและฮองเฮา พร้อมกับส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปที่ไทเฮาเจิ้ง
ฮ่องเต้ซีิได้ฟังพลันกริ้วอย่างสูง ตวาดเสียงดังลั่น “ถ้าอย่างนั้นเ้าบอกสิ ทำไมถึงมีเื่เล่าลือเช่นนี้เกี่ยวกับเ้าได้? เ้าไม่เคยแอบคบชู้สู่ชายกับบุตรชายลูกพ่อค้านั่นใช่หรือไม่?”
“เสด็จพ่อ ลูกมิกล้าทำเื่เช่นนั้นจริงๆ เพคะ” ฉู่ชิงเฉียงพูดไปคำนับลงพื้นเสียงดัง
“ฝ่าา เื่นี้เป็เื่เล่าที่สร้างความเสื่อมเสีย ส่งคนไปสืบให้แน่ชัดเสียก่อนดีไหม? เฉียงเอ๋อร์ว่านอนสอนง่ายั้แ่เด็ก จะกล้าทำเื่เช่นนั้นได้อย่างไร” ไทเฮาเจิ้งแก้ต่างให้ฉู่ชิงเฉียง
“ถูกต้องแล้ว ฝ่าา เดิมทีจะให้ชิงเฉียงแต่งกับองค์ชายที่อาณาจักรตงหลิน บัดนี้เกิดเื่ลือแพร่สะพัด เสื่อมเสียชื่อเสียงชิงเฉียง เื่นี้ต้องสืบสวนให้แน่ชัดว่าเป็ฝีมือใคร จะได้คืนความยุติธรรมให้ชิงเฉียง” ฮองเฮาสนับสนุนอีกเสียง
ฮ่องเต้ซีิได้ยินที่ไทเฮาเจิ้งและฮองเฮาเอ่ยเช่นนี้ก็สบายพระทัยขึ้นมาไม่น้อย จึงหันพระพักตร์ผายพระหัตถ์ให้ฉู่ชิงเฉียง “เฉียงเอ๋อร์ เ้าลุกขึ้นได้”
ฉู่ชิงเฉียงพยักหน้าขอบพระทัย
ในตอนนี้ เซียวเทียนฉีถูกจับตัวมาอยู่ด้านนอกท้องพระโรง
เมื่อเดินเข้าท้องพระโรงที่เซียวเทียนฉีไม่เคยเข้ามาก่อน พลันเกิดขาสั่นระริก ทว่าเพียงเห็นหน้าฉู่ชิงเฉียงที่เฝ้าคิดถึงทุกเช้าค่ำ เขาพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จดจำสิ่งที่มู่อวิ๋นจิ่นกำชับกำชาให้ขึ้นใจ
“เซียวเทียนฉี เ้ามีโทษสถานใดรู้ไหม?” ฮ่องเต้ซีิหรี่ตาจ้องเขม็งไปที่เขา
เซียวเทียนฉีรีบคุกเข่าลงทันที “ข้าน้อยมิทราบว่าทำผิดสถานใดพ่ะย่ะค่ะ”
“หึ เ้านี่มันชั่วช้าเสียจริง ใครให้ท้ายเ้า ถึงกล้ามาสร้างความเสื่อมเสียให้องค์หญิงอย่างข้า?” ฉู่ชิงเฉียงเดินเข้าไปถีบเซียวเทียนฉีจนกลิ้งไปกับพื้น
เซียวเทียนฉีกลับมองฉู่ชิงเฉียงด้วยแววตารักใคร่ปรารถนา “เหตุใดองค์หญิงจึงเอ่ยเช่นนี้? องค์หญิงกับข้าน้อยมีใจให้กันมานานแล้ว เหตุใดจึงเอ่ยวาจาเืเย็นเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ?”
“เ้า……” ฉู่ชิงเฉียงโกรธเป็ฟืนเป็ไฟ ง้างมือจะตบหน้าเซียวเทียนฉีเข้าสักฉาด
โชคยังดีที่ทหารเข้ามาบังไว้ได้ทัน
“สรุปแล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ความอดทนอดกลั้นของฮ่องเต้ซีิหมดสิ้นลงแล้ว ั้แ่เช้าตื่นบรรทม หัวหน้าขันทีมาเล่าเื่นี้ให้ทราบ จึงโกรธเืขึ้นพระพักตร์ สั่งยุติออกว่าราชการที่ท้องพระโรงในวันนี้
“ฝ่าาปรีชา ข้าน้อยชื่นชมรักใคร่องค์หญิงห้ามาเนิ่นนาน ทั้งยังตั้งเป้าหมายใช้ชีวิตร่วมกัน ขอให้ฝ่าาช่วยให้ฝันเป็จริงด้วยพ่ะย่ะค่ะ” เซียวเทียนฉีคำนับลงกับพื้นจนเสียงดังไปทั่ว
ในเวลานี้ มู่อวิ๋นจิ่นที่ใช้วิชาตัวเบาะโขึ้นซ่อนตัวในต้นไม้ใหญ่ พยายามตั้งใจฟังเื่ราวในท้องพระโรง
ฮ่องเต้ซีิสงบสติอารมณ์ ก่อนชี้หน้าเซียวเทียนฉีและฉู่ชิงเฉียงถามอย่างจริงจัง “วันนี้พวกเ้าสองคน ต้องเล่าเื่ทุกอย่างออกมาให้หมด!”
“เสด็จพ่อ ลูกไม่รู้จักคนผู้นี้มาก่อน ไม่รู้ว่าตั้งใจมาทำลายชื่อเสียงลูกด้วยจุดประสงค์อันใดเพคะ” ฉู่ชิงเฉียงคุกเข่าลงอีกครั้ง แสดงความบริสุทธิ์ใจทั้งหมดออกมา
“องค์หญิง เหตุใดต้องปฏิเสธความสัมพันธ์ของพวกเราก่อนหน้านี้ด้วย? องค์หญิงเป็คนของกระผมแล้ว กระผมได้ให้คำมั่นจะรับแต่งกับองค์หญิงแล้วนิขอรับ” เซียวเทียนฉีขมวดคิ้วขึ้น แสดงความเ็ปรวดร้าวผ่านดวงตา
“เพ้อเ้าสิ้นดี!” สรุปแล้วใครส่งเ้ามา? ขืนเ้ายังไม่พูดความจริง ข้าจะตัดหัวเ้าทิ้งซะ!” ฉู่ชิงเฉียงดึงดาบของทหารขึ้นไปจ่อคอเซียวเทียนฉี
เซียวเทียนฉีชะงักชั่วขณะ ก่อนแสร้งทำเป็ใจกล้า “หากองค์หญิงจะฆ่ากระผม กระผมก็ยอมได้ เพียงแต่สิ่งที่กระผมเล่ามาทั้งหมดในวันนี้ ไม่มีประโยคใดเป็เท็จเลยขอรับ” เซียวเทียนฉีค่อยๆ หลับตาลง “หากฝ่าา ฮองเฮาไม่เชื่อคำพูดของข้าน้อย เช่นนั้นก็ลองตรวจสอบโส่วกงซา[1]ที่องค์หญิงห้าดูว่ายังอยู่หรือไม่ ก็จะทรงทราบทุกอย่างพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อสิ้นเสียงพูดของเซียวเทียนฉี ดาบในมือฉู่ชิงเฉียงก็ล่วงหล่นลงพื้น จนเกิดเสียงดังไปทั่วท้องพระโรงเป็เวลานาน
ใบหน้าฉู่ชิงเฉียงเต็มไปด้วยความลนลานและตระหนก เมื่อมองเซียวเทียนฉีที่คุกเข่ากับพื้น บัดดลนั้นนางก็นึกออกทันทีว่าใครอยู่เื้ัเขา
มู่อวิ๋นจิ่น ต้องเป็นางสารเลวมู่อวิ๋นจิ่นไม่ผิดแน่!!!
ฮ่องเต้ซีิได้ยินเซียวเทียนฉีเอ่ยคำว่า “โส่วกงซา” สามพยางค์ ใบหน้าฉู่ชิงเฉียงก็เผยคำตอบทุกอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องเปิดดู พระทัยของฮ่องเต้ซีิแตกสลายด้วยความผิดหวังและโกรธกริ้ว พลันตบโต๊ะเสียงสนั่น
“คุกเข่าเดี๋ยวนี้!”
ฉู่ชิงเฉียงคุกเข่าลง เม้มริมฝีปาก ชำเลืองไปที่ไทเฮาเจิ้ง
อย่างไรเสีย ไทเฮาเจิ้งก็เชื่อมั่นในตัวฉู่ชิงเฉียงว่าเป็อย่างไร จึงถอนหายใจยืดยาว “เฉียงเอ๋อร์ เปิดโส่วกงซาออกมา เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของเ้าต่อหน้าเสด็จพ่อเร็วเข้า”
“องค์หญิงเก้า พระชายาหกเสด็จแล้ว”
สิ้นเสียงกล่าว ฉู๋ชิงหยวนกับมู่อวิ๋นจิ่นจับมือกันเดินเข้ามาในท้องพระโรง
มู่อวิ๋นจิ่นสังเกตเห็นฉู่ชิงหยวนหลบมุมแอบฟังอยู๋ จึงะโลงจากต้นไม้ พากันเดินเข้ามาในท้องพระโรง
ฮ่องเต้ซีิที่โปรดปรานฉู่ชิงหยวนเป็อย่างมาก พอเห็นนางมาคิ้วที่ขมวดแทบผูกกัน พอผ่อนคลายลงมาบ้าง ส่วนมู่อวิ๋นจิ่นเป็พระชายาของฉู่ลี่ ฮ่องเต้ซีิจึงมิได้มองเป็คนนอก จึงสั่งให้ขันทีนำจัดเก้าอี้เพิ่มสองตัว
มู่อวิ๋นจิ่นนั่งลงเรียบร้อย จากนั้นส่งสายตาเยาะเย้ยไปให้ฉู่ชิงเฉียงที่กำลังคุกเข่าอยู่
ฉู่ชิงเฉียงรู้ได้ทันทีว่าเื่ระหว่างนางกับหรงิ่ไม่มีทางเป็ไปได้แล้ว
ถ้านางเอ่ยเื่ระหว่างนางกับหรงิ่ ไม่แน่ว่ามู่อวิ๋นจิ่นที่กุมความลับของนางกับหรงิ่ไว้ อาจเปิดเผยในท้องพระโรงในวันนี้ ถึงตอนนั้นจุดจบของนางย่อมไม่งดงามแน่นอน
การเล่นงานของมู่อวิ๋นจิ่นในครั้งนี้ช่างเหี้ยมโหดอำมหิตจริงๆ ฆ่าคนโดยไม่ทิ้งร่องรอย!
“องค์หญิงไม่มีโส่วกงซาให้เปิดแล้วใช่ไหม? เหตุใดองค์หญิงถึงไม่ยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างเราสอง? เห็นว่ากระผมมิใช่ลูกขุนนางมียศมีศักดิ์ เป็เพียงลูกพ่อค้าที่ต่ำต้อยใช่ไหมขอรับ?” เซียวเทียนฉีเห็นมู่อวิ๋นจิ่นมาแล้ว จึงมั่นใจเพิ่มขึ้นเป็กอง
ทันใดนั้นฉู่ชิงเฉียงล้มพับลงกับพื้น ดวงตาค่อยๆ แดงก่ำทั้งสองข้าง มองไปทางฮ่องเต้ซีิเบื้องหน้า
“โส่วกงซาอยู่ไหน? เจิ่น[2]้าเห็นโส่วกงซา!” ฮ่องเต้ซีิกริ้วจนเส้นพระโลหิตขึ้นพระพักตร์ ยกพระหัตถ์ชี้หน้าฉู่ชิงเฉียง แม้ในพระทัยเข้าใจเื่ราวทั้งหมดแล้ว
ฉู่ชิงเฉียงไม่เคยลิ้มรสความอยุติธรรมเช่นนี้มาก่อนในชีวิต นางไม่มีทางเผยโส่วกงซาออกมาให้ใครได้เห็น!
“ห๊ะ? พี่สาวห้าปฏิเสธว่ามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคุณชายคนนี้จึงไม่เปิดโส่วกงซาให้ฝ่าาทอดพระเนตร หรือว่าบุรุษผู้นั้นมิใช่คุณชายท่านนี้ แต่เป็คนอื่นหรือ?” ฉู่ชิงหยวนเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบ แจ่มชัดไปทั่วท้องพระโรง
สีพระพักตร์ฮ่องเต้ซีิยิ่งดูไม่ได้ขึ้นไปอีก
ฉู่ชิงเฉียงแก้ตัวอย่างไรก็ไม่ขึ้นแล้ว จึงก้มหน้าวิเคราะห์สถานการณ์ พบว่านางถูกบีบจนมุม ไม่เหลือทางรอดอื่นอีกแล้ว
คิดมาถึงตรงนี้ นางส่งแววตาเคียดแค้นไปให้มู่อวิ๋นจิ่นทีหนึ่ง
มู่อวิ๋นจิ่นเลิกคิ้วทำเป็ไม่รู้ไม่ชี้
ฉู่ชิงเฉียงจึงกำหมัดแน่น เลิกแขนเสื้อขึ้น กัดฟันเอ่ยขึ้น “เสด็จพ่อ โปรดให้ลูกกับคุณชายท่านนี้ได้แต่งงานกันด้วยเพคะ”
ตอนนี้สิ่งที่นางทำได้เพียงอย่างเดียว คือเรียก “เซียวเทียนฉี” เป็ “คุณชาย” เพราะนางไม่รู้จริงๆ ว่าบุรุษคนนี้เป็ใครกันแน่!
พอเห็นฉู่ชิงเฉียงยอมรับความสัมพันธ์กับเซียวเทียนฉี ฮ่องเต้ซีิลุกขึ้นยืนด้วยความกริ้วถึงขีดสุด เดินลงจากบันได ไม่สนใจว่าเป็บุตรสาวอะไรทั้งนั้น ฮ่องเต้ซีิยกพระบาทขึ้นถีบ่ท้องเข้าไปสุดกำลัง
“กระทำเื่คบชู้สู่ชาย ช่างเป็ความอัปยศต่อราชวงศ์เป็ที่สุด! เจิ่นถือว่าไม่เคยมีบุตรสาวที่ชั่วช้าเช่นนี้!”
“เสด็จพ่อ……” ฉู่ชิงเฉียงะโวิงวอนอย่างน่าสมเพช
ทางด้านเซียวเทียนฉีที่อยู่ด้านข้าง รีบโผตัวเข้าไปโอบฉู่ชิงเฉียงเอาไว้ และหันกลับไปทูลฮ่องเต้ซีิ “ฝ่าาทั้งหมดเป็ความปิดของข้าน้อยเพียงผู้เดียว หากต้องลงโทษขอให้ลงโทษกระผม อย่าได้ลงโทษองค์หญิงเลยพ่ะย่ะค่ะ”
“เ้าไสหัวออกไป!” ฉู่ชิงเฉียงผลักเซียวเทียนฉี
ฉู่ชิงหยวนเห็นเหตุการณ์เบื้องหน้ารีบเข้าไปคว้าพระหัตถ์ของฮ่องเต้ซีิเอาไว้ “เสด็จพ่อใจเย็นๆ ก่อนเพคะ”
“ตระกูลเซียวสืบทอดการค้าขายกันมาเป็เวลานาน ทรัพย์สมบัติก็มีไม่น้อย จึงไม่ใช่ตระกูลเล็กแต่อย่างใด ในเมื่อพี่ห้ากับคุณชายท่านนี้มีความปฏิพัทธ์รักใคร่กัน ถึงตรงนี้ เสด็จพ่อควรให้ทั้งคู่สมหวังเพคะ” ฉู่ชิงหยวนเข้ามาอธิบาย
มู่อวิ๋นจิ่นยิ้มเย้ยอย่างสาแก่ใจ ยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบ ทำท่าทำทางสูงส่งเสมือนเื่นี้ไม่เกี่ยวข้องกับนางแม้แต่น้อย
ไทเฮาเจิ้งดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว ถึงแม้ไม่ชอบฉู่ชิงหยวน แต่จำใจต้องไหลตามน้ำเห็นด้วยกับฉู่ชิงหยวน “ชิงหยวนพูดได้ถูกต้อง ฝ่าา ตระกูลเซียวเป้นตระกุลที่มีหน้ามีตา เช่นนั้นก็ให้ชิงเฉียงกับคุณชายเซียวผู้นี้สมความปรารถนา ชิงหยวนแต่งไปก็ไม่มีทางเสียเปรียบ ”
“ที่สำคัญ เื่แต่งงานเกี่ยวดองกับอาณาจักรตงหลินนั้น ราชวงศ์ของเราก็ไม่เคยขาดองค์หญิงสูงศักดิ์ เอาเป็ว่าเื่ชิงเฉียงกับองค์ชายรองอาณาจักรตงหลิน ยังไม่ได้ป่าวประกาศให้ใต้หล้ารับรู้ ทางออกที่ดีที่สุดคือการเปลี่ยนตัวองค์หญิง……”
[1] โส่วกงซา เป็การแต้มจุดแดงบนข้อมือของสตรี หากมีอยู่แสดงว่ายังบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่หากไม่มีแสดงว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งไปแล้ว
[2] เจิ่น สรรพนามที่ฝ่าาหรือฮ่องเต้เรียกแทนตนเอง