ดวงตาของจ้าวเถี่ยจู้ราวกับมีไฟสุมก็ไม่ปานขณะที่หญิงสาวคนนั้นใช้ท่ามือใส่เล่ยจื่อเขาก็มาหยุดยืนอยู่ที่ด้านหน้าของหญิงสาวแล้วซัดฝ่ามือราวกับเหล็กของเขาเข้าที่กระดูกสันหลังของอีกฝ่ายเข้าไปอย่างแรง
แต่คนตรงหน้ากลับเอี้ยวตัวหลบไปด้านข้างได้ทันก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างเปลี่ยนท่ามือเป็รูปอื่น
“ท่าโบยบินอิสระ” พูดจบเขาก็ะโถอยหลังหลบในทันทีแต่ก็ไม่ทันการ เขาโดนท่ามือนั้นเข้าที่ซี่โครงเต็มๆทำให้รู้สึกราวกับถูกรถชนก็ไม่ปาน จากนั้นตัวเขาก็กระเด็นลอยไปตกที่พื้น
“นางปีศาจนี่โผล่มาจากไหนกัน” เขารู้สึกเหมือนกับกระดูกในร่างกายของเขาหักไปหมดทั้งตัวผู้หญิงคนนี้นี่เก่งกาจพอตัว ลำพังแค่ท่ามือนั่น เขาก็ต้านทานไม่ได้แล้วแม้ว่าร่างกายเขาจะหายดี เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะผู้หญิงคนนี้ได้
หญิงสาวในชุดกิโมโนไม่ได้มองมาทางจ้าวเถี่ยจู้เลยแม้แต่น้อยกลับเดินไปทางหน่วยคอมมานโดัเพียงแค่เธอมองมาคนในหน่วยก็ล้มลงไปกับพื้นถึงสองคนทันใดนั้นมีคนในหน่วยคนหนึ่งโยนมีดในมือไปข้างตัวพร้อมทั้งหยิบเอาปืนกลขึ้นมาถือซึ่งเป็การตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วว่าตนจะใช้ปืนนี่กับนางปีศาจตรงหน้าถ้าตนโดนปลอกะุเด้งใส่จนตายล่ะก็ ก็ถือเสียว่าตนโชคไม่ดีเอง
เสียงปืนดังขึ้นพร้อมทั้งหญิงสาวในชุดกิโมโนอยู่ดีๆก็หายไปก่อนจะปรากฏตัวอีกครั้งที่ด้านข้างของหน่วยคอมมานโดัคนนั้น
“เคลื่อนไหวได้เร็วจริงๆ” จ้าวเถี่ยจู้พึมพำออกมาเคลื่อนไหวได้เร็วพอๆ กับเขาไม่มีผิดยิ่งเคลื่อนไหวได้เร็วเท่าไหร่ศัตรูก็จะยิ่งมองไม่เห็นเท่านั้น
หญิงสาวใช้ท่ามืออีกรอบทำให้หน่วยคอมมานโดัคนนั้นกระอักเืและกระเด็นลอยไปไกล
“คุณเหม่ยจือจื่อ” อันเป่ยชิงไห่เรียกหญิงสาวอย่างเคารพพร้อมทั้งก้มหน้าให้โดยที่ไม่พูดอะไรต่อ
อันเป่ยชิงไห่เห็นคนที่อยู่ในห้องต่างก็ล้มลงไปนอนกองกับพื้นจนหมดเขาจึงเดินไปหยิบมีดจากหน่วยคอมมานโดัขึ้นมาแล้วเดินไปทางเล่ยจื่อ
จ้าวเถี่ยจู้มองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างใ ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่มีแรงแต่เมื่อเห็นว่าพี่น้องของเขากำลังจะได้รับอันตรายเขาจึงรวบรวมแรงที่มีทั้งหมดใช้มือดันพื้นเพื่อลุกขึ้นยืนแล้วตรงไปทางอันเป่ยชิงไห่อีกฝ่ายสนใจแต่เล่ยจื่อเท่านั้นจึงไม่ทันตั้งตัวเมื่อโดนเขาซัดฝ่ามือจนลอยไปไกลเขาใช้เพียงแค่แรงที่มีอันน้อยนิดเท่านั้นทำให้อีกฝ่ายไม่ได้รับาเ็อะไรมาก
แววตาของอันเป่ยชิงไห่ลุกเป็ไฟเพราะไม่คิดว่าตนจะโดนคนที่อ่อนแอแบบนี้ซัดจนกระเด็นไปไกลแถมยังต่อหน้าต่อตาเหม่ยจือจื่ออีกด้วย เป็ความอัปยศที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ดังนั้นเมื่อชายหนุ่มตั้งตัวได้จึงหยิบมีดข้างตัวขึ้นมาแล้วพุ่งไปหาจ้าวเถี่ยจู้ทันที
จ้าวเถี่ยจู้นั่งอยู่บนพื้นไม่ขยับเขยื้อนตัวเลยสักนิดราวกับกลายเป็อัมพาตก็ไม่ปานขณะที่สายตาเห็นอันเป่ยชิงไห่ค่อยๆพุ่งเข้ามาหา ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าสมองว่างเปล่า เขาแก้แค้นให้ซือหรูได้แล้วญาติมิตรที่ไหนก็ไม่มี บางทีตายไปก็ดีเหมือนกัน เพียงแต่... สมองของเขาอยู่ดีๆก็ปรากฏภาพของคนที่อยู่ที่บ้านขึ้นมา ถ้าเกิดเขาตายไปไม่รู้คนที่บ้านจะเสียใจมากไหม ซูเหยียนหนีคงดีใจที่ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าอีกเขาคิดพร้อมทั้งยิ้มออกมา อีกทั้งภาพตรงหน้ายังกลายเป็สีเทาไปหมด
ขณะนั้นเองแรงที่ไม่รู้มาจากไหนก็ไหลบ่าเข้ามาในตัวเขาและก่อนที่มีดจะถึงตัว เขากลับกลิ้งตัวหลบได้ทันอย่างฉิวเฉียด
เขาลุกขึ้นยืนช้าๆ ยกมือของตนขึ้นมาพิจารณา พบว่าแรงค่อยๆไหลเข้ามาในตัวเขาเรื่อยๆ ราวกับไม่มีที่สิ้นสุดเขารู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาดีขึ้นและไม่รู้สึกเจ็บแผลอีกต่อไปแรงที่ไหลเข้ามาก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าแรงที่เขาเคยมีแต่ก่อนเสียอีก!!
“แรงแบบนี้!! ผมชอบ” เขายิ้มออกมาถึงแม้ว่าภาพตรงหน้าจะยังเป็สีเทาอยู่แต่สมองของเขากลับแจ่มชัดอย่างยิ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ ตัวเขาราวกับหนังแอ็คชั่นที่ค่อยๆ เคลื่อนไหวอย่างช้าๆก็ไม่ปาน เขามองไปที่อันเป่ยชิงไห่ที่ถือมีดพุ่งเข้าใส่เขาเป็ภาพสโลว์โมชั่นเขาใช้มือฟาดลงไปที่มีดนั่นแล้วทันใดนั้นมีดก็หักกลายเป็สองท่อนทันที
สมองของอันเป่ยชิงไห่ว่างเปล่าขณะที่เหม่ยจือจื่อมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสายตาเคร่งเครียด
เขารู้สึกดีกับแรงที่มีตอนนี้เหลือเกินเขามองไปที่อีกฝ่ายก่อนจะใช้มือฟาดไปที่หน้าเต็มแรงขณะที่ฝ่ามือเขากระแทกไปที่หน้าของอีกฝ่ายทำให้เกิดเสียงดังอันสุดแสนจะไพเราะขึ้นแล้วหลังจากนั้นฟันซี่หนึ่งรวมถึงเืก็ไหลออกมาจากปากของอันเป่ยชิงไห่ก่อนที่จะล้มลงไปกับพื้นในที่สุด
เหม่ยจือจื่อเคลื่อนไหวร่างกายมาหยุดยืนที่หน้าของจ้าวเถี่ยจู้อย่างรวดเร็วเพียงแต่ในสายตาชายหนุ่ม การเคลื่อนไหวนี้ไม่ได้รวดเร็วเหมือนเมื่อสักครู่อีกแล้วเพราะเขาจับทางของอีกฝ่ายได้แล้ว
ขณะที่มือของหญิงสาวกำลังจะเปลี่ยนท่าเพื่อซัดใส่จ้าวเถี่ยจู้อยู่นั้น จ้าวเถี่ยจู้ก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยพร้อมทั้งใช้แรงที่มีทำลายท่ามือของอีกฝ่ายแรงที่ส่งออกมาจากชายหนุ่มราวกับน้ำป่าที่ทะลักเข้ามาก็ไม่ปานทำให้หญิงสาวต้องถอยหลังไปหลายก้าวแล้วท่ามือที่ทำอยู่ก็ถูกทำลายในที่สุด
“คุณเป็ใครกัน!” เหม่ยจือจื่อถามขึ้น
เขาไม่ได้ตอบออกไปตอนนี้แรงของเขามาถึงขีดสุดแล้วแต่แรงก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทำให้ตอนนี้ร่างกายของเขาเริ่มจะรับไม่ไหวคงต้องหาทางระบายมันออกไปบ้างเพื่อที่ร่างกายเขาจะได้รู้สึกดีขึ้นเพียงแค่พริบตาเดียวเขาก็มายืนอยู่ที่ด้านหน้าเหม่ยจือจื่อแล้วใช้ฝ่ามือง่ายๆซัดใส่อีกฝ่ายส่วนหญิงสาวเพียงแค่ทำเสียงในลำคอเล็กน้อยแล้วเปลี่ยนท่าในมือหลายสิบท่าทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าใจมันสั่นนิดหน่อยและแรงที่อยู่ที่มือก็เริ่มลดลงเมื่อปะทะกับหญิงสาวจึงทำให้พวกเขาต่างก็กระเด็นมาข้างหลังกันทั้งคู่
“ท่ามืออะไรกันแปลกจริงๆ ขนาดผมยังโดนไปด้วย” จ้าวเถี่ยจู้พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เหม่ยจือจื่อก็แปลกใจเช่นกัน ท่ามือ ทำลายจิตนี่เป็ท่าที่ตกทอดต่อกันมาจากบรรพบุรุษของเธอ ถ้าคนที่เก่งพอๆกันกับเธอโดนเข้าไปล่ะก็ จะไม่มีสติต่อสู้ทันทีไม่คิดเลยว่าคนตรงหน้าจะมีจิตที่เข้มแข็งขนาดนี้
แปะๆๆ เสียงปรบมือดังขึ้นมาจากหน้าประตูทางเข้าห้องเมื่อจ้าวเถี่ยจู้หันไปดูก็เห็นชายคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ตรงบันไดพร้อมทั้งปรบมือไปด้วย “เก่งจริงๆ เหม่ยจือจื่อ เด็กปีศาจ ไม่คิดเลยว่าเธอจะมาที่จีนนี่ด้วย” ชายคนนั้นพูดก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินมายืนใกล้ๆ เขา
“เย่ฝูเชิง!” สีหน้าของเหม่ยจือจื่อเปลี่ยนเป็เคร่งเครียดทันที
“น้องชายคนนี้ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย อยู่ในหน่วยคอมมานโดังั้นหรือ?” ชายที่ชื่อเย่ฝูเชิงหันมาถามเขา
“อยู่สำนักงานปฏิบัติการพิเศษ”
“เอ๋ หน่วยเดียวกันเลย อ่อรู้แล้วนายคือจ้าวเถี่ยจู้ที่เฉินซือหลิงให้เข้ามาอยู่ในหน่วยเป็พิเศษสินะไม่คิดเลยว่าฝีมือจะร้ายกาจแบบนี้ ถึงขนาดสู้ได้สูสีกับเหม่ยจือจื่อได้”
“ชมเกินไปแล้ว” เขาพูดอย่างระมัดระวังชายที่มาใหม่นี่สร้างแรงกดดันให้เขาไม่น้อยไปกว่าหญิงสาวอีกคนที่อยู่ในห้องเลยเพียงแต่ชายคนนี้เป็คนในสำนักงานปฏิบัติการพิเศษเหมือนกันฉะนั้นน่าจะเป็มิตรมากกว่าศัตรู
“น้องเถี่ยจู้ พวกเรามาจัดการเหม่ยจือจื่อกันก่อนดีกว่าแล้วค่อยมาคุยกันดีไหม”
“ดี” เขาพูดพร้อมทั้งยิ้มออกมาจากนั้นจึงพุ่งเข้าใส่เหม่ยจือจื่อทันที เย่ฝูเชิงค่อยๆ เดินอย่างช้าๆไปหาหญิงสาวเช่นกันแต่พวกเขาทั้งสองกลับถึงตัวของเหม่ยจือจื่อพร้อมกัน
เหม่ยจือจื่อถอยหลังหลบก่อนจะใช้มือทำท่าหลายท่าเพื่อโจมตีเขาและชายหนุ่มอีกคนโดยที่ตัวหญิงสาวเองก็ถอยร่นไปเรื่อยๆ
แต่ท้ายสุดสองมือหรือจะสู้สี่มือได้เหม่ยจือจื่อโดนฝ่ามือของเย่ฝูเชิงเข้าไปจนล้มกลิ้งลงไปกับพื้น ทันใดนั้นหญิงสาวก็หยิบลูกบอลลูกหนึ่งขึ้นแล้วมาขว้างไปที่พื้นทำให้เกิดแสงสว่างจ้าขึ้นมาแวบหนึ่งเมื่อแสงหายไปตัวเหม่ยจือจื่อก็หายไปด้วยเช่นเดียวกัน
“ชิ ถึงกับใช้ะเิแสงไฟเพื่อหนีเลยเหรอ!” เขาพูดอย่างไม่สบายใจนัก