หมาป่านภาล้มลงกันระนาว ข้างกายสาวน้อยมีศพกองรวมกันไม่น้อย ั้แ่ต้นจนจบไม่มีหมาป่านภาตัวใดสามารถแตะต้องร่างกายของนางได้เลย
ท่าทางว่องไว ปราณแท้ในร่างกายก็หนาแน่นมาก ต้องเป็ศิษย์จากขั้วอำนาจบางแห่งแน่ ในเมื่อเป็ศิษย์ของขั้วอำนาจใหญ่ คงไม่สนใจแก่นอสูรระดับสองเหล่านี้ เมื่อการต่อสู้จบลง ถังเหล่ยรอเข้าไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เป็พอ
“อาหวู่...”
หมาป่านภาที่ล้อมหญิงสาวไว้เห่าหอนอย่างต่อเนื่อง จำนวนของฝูงมันลดลงครึ่งหนึ่งแล้ว พวกมันคิดไม่ถึงว่ามนุษย์เด็กคนเดียวจะจัดการยากเพียงนี้
หมาป่านภาที่ยังมีชีวิตอยู่เหลือไม่ถึงยี่สิบตัว ในนั้นยังมีบางตัวที่าเ็ด้วย
“ฝูงหมาป่าน่าจะถอยแล้ว”
ถังเหล่ยกล่าวพึมพำ ถึงแม้หมาป่านภาจะเ้าคิดเ้าแค้นมาก แต่ก็ไม่ได้โง่จนเอาทั้งฝูงมาตายเช่นนี้ ถ้าสู้ต่อไปหมาป่านภาสิบกว่าตัวที่เหลือคงยากจะหนีรอด
หลังจากหมาป่าส่งเสียงหอนยาว พวกมันที่ล้อมสาวน้อยรอบด้านก็เริ่มถอย
ไม่นานนักพวกมันก็หายตัวไปในป่า เหลือเพียงแสงจันทร์ที่สาดกระทบกองศพนั่น
เมื่อสาวน้อยเห็นฝูงหมาป่าล่าถอย ก็ไม่ได้ไล่ตาม เงาร่างขยับไหว ด้านหลังนางปรากฏปีกสีฟ้าคู่หนึ่งพาให้นางหายไปจากสายตาของถังเหล่ยเช่นกัน
“เหอะๆ ดูท่าสาวน้อยคนนี้จะมีปราณแท้ในร่างไม่พอ”
การต่อสู้ยาวนานเช่นนี้ ที่สาวน้อยเลือกจากสนามรบไปทันทีถือเป็ทางเลือกที่ฉลาดมาก
ผลัวะ...
สนามรบที่เพิ่งผ่านการต่อสู้มาเงียบสงบลงอย่างรวดเร็ว มีเพียงดวงจันทร์เต็มดวงที่ยังส่องประกายบนท้องฟ้า แสงจันทร์สาดส่องทุกสิ่ง รวมทั้งเงามืดที่ปรากฏตัวในสนามรบด้วย
ประกายแสงเยือกเย็นสายหนึ่งกะพริบผ่าน ศีรษะของหมาป่านภาถูกฟันขาดเป็สองซีก แต่ไม่มีเืไหลออกมาแม้แต่น้อย เพราะเืในนั้นถูกแช่แข็งภายใต้การโจมตีของสาวน้อยจนหมด
ในศีรษะหมาป่านภาว่างเปล่า แก่นอสูรระดับสองไม่ได้หาง่ายขนาดนั้น ยังดีที่รอบด้านยังมีศพหมาป่านภาสามสิบสี่ตัวที่นอนรออยู่ ต่อให้โชคร้ายแค่ไหนแต่การจะได้แก่นอสูรมาสี่ห้าเม็ดคงไม่ใช่ปัญหา
เงามืดสายหนึ่งวิ่งไปมาระหว่างศพอย่างต่อเนื่อง ศีรษะของหมาป่านภาก็ขาดเป็สองท่อน บางครั้งจะมีแก่นอสูรเป็ประกายภายใต้แสงจันทรา
“เก็บเกี่ยวได้ไม่เลว”
ถังเหล่ยเอาแก่นอสูรเม็ดหนึ่งออกมาจากศีรษะของหมาป่านภาอีกครั้ง ใบหน้าเผยความปลาบปลื้มในความโชคดี
ครั้งนี้เขาได้แก่นอสูรระดับสองมาทั้งหมดเจ็ดเม็ด ถ้าเอาแก่นอสูรเหล่านี้ไปหลอมกลั่นโดยใช้เพลิงสีทองได้ทั้งหมด พลังของถังเหล่ยจะเพิ่มขึ้นมหาศาล
“น่าเสียดาย ศพหมาป่านภามากมายขนาดนี้ไม่สามารถใส่แหวนมิติได้ ไม่เช่นนั้นคงขายได้หลายเหรียญทอง”
เมื่อมองไปรอบๆ ถังเหล่ยก็ส่งเสียงถอนหายใจเบาๆ หลังจากเกิดใหม่อีกครั้งเขาก็กลายเป็คนยากจน แม้แต่วัตถุดิบกระจอกเหล่านี้ สำหรับเขาแล้วก็ยังมีค่าอยู่
สิ่งที่สำคัญที่สุดของนักปรุงยาก็คือวัตถุดิบ นักปรุงยาที่ทรงพลังล้วนใช้เงินซื้อวัตถุดิบกองขึ้นมา ถังเหล่ยในชาติที่แล้วหลงใหลเงินทองอย่างมาก ถึงขนาดที่ยกระดับขึ้นจนสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ไม่อยู่ในสายตา
ตอนนี้ถังเหล่ยกลับมาที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง นิสัยรักเงินทองจึงปรากฏอย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อได้รับแก่นอสูรมา ถังเหล่ยก็เตรียมตัวจากไป การเคลื่อนไหวเมื่อครู่เสียงดังมาก ใครจะรู้ว่าจะมีสัตว์อสูรตัวอื่นมาร่วมด้วยหรือไม่
ขณะที่เขากำลังเตรียมตัวจากไป ทันใดนั้นภายใต้แสงจันทร์มีแสงสีฟ้าสายหนึ่งพุ่งผ่านไป
แย่แล้ว!
ถังเหล่ยหลบไปด้านข้างตามสัญชาตญาณ แสงสีฟ้าตกลงบนต้นไม้ด้านข้าง มีน้ำแข็งบางๆ ชั้นหนึ่งปรากฏออกมา
ผลัวะ ผลัวะ...
แสงสีฟ้าสองสายปรากฏอีกครั้ง การโจมตีพุ่งไปทางถังเหล่ย
“เข้าใจผิด เข้าใจผิดแล้ว สาวน้อยโปรดยั้งมือด้วย!” ถังเหล่ยหลบแสงสีฟ้าพลางะโออกมาทันที
เขาจะไม่รู้ว่าเ้าของแสงสีฟ้าคนนี้เป็ใครได้อย่างไร?
“ไม่ต้องะโเสียงดังขนาดนั้น เ้าเป็ใครกัน!?”
เงาร่างสีฟ้าร่อนลงบนกิ่งไม้ด้านข้างถังเหล่ย สาวน้อยมองเขาด้วยสายตาหวาดระแวง
เมื่อครู่สาวน้อยแค่จากไปเพื่อฟื้นฟูปราณแท้ในร่างกาย นางเตรียมตัวมาเก็บแก่นอสูรไป ใครจะรู้ว่าจะมีคนฉวยโอกาส
ท่าทางของชายหนุ่มกับสาวน้อยไม่ต่างกันมาก แต่พลังของชายหนุ่มยังเป็เพียงผู้ฝึกยุทธ์ พลังแค่นี้ยังเสนอหน้าเข้ามาในเทือกเขาสัตว์อสูรหรือ หรือว่าสมองมีปัญหา?
“ข้าเห็นว่าท้องฟ้าวันนี้ไม่เลว จึงออกมาเดินเล่น ใครจะรู้ว่าจะมาเจอกับศพกองหนึ่ง จากนั้นข้าเลย...”
ถังเหล่ยกระแอมสองครั้ง กล่าวออกมาอย่างอึดอัด
สาวน้อยขมวดคิ้วเล็กน้อย ดึกๆ ดื่นๆ มาเดินเล่นในเทือกเขาสัตว์อสูร คิดว่านางโง่หรือ?
“ข้าไม่สนใจว่าเ้ามาทำอะไร เอาแก่นอสูรของข้าที่เ้าขโมยไปเมื่อครู่ออกมา”
ขโมยหรือ?
ถังเหล่ยในตอนนี้เริ่มไม่สบอารมณ์แล้ว นี่จะเรียกว่าขโมยได้อย่างไร? เขาผ่าศีรษะหมาป่านภาออกมาทีละตัวอย่างยากลำบากชัดๆ
“ข้าเพิ่งมาที่นี่ ไม่รู้ว่าแก่นอสูรที่เ้าว่าคืออะไร?”
ชายหนุ่มมองสาวน้อยด้วยความไร้เดียงสา คิดจะให้คืนสิ่งที่ถังเหล่ยเก็บไปแล้ว เป็ไปไม่ได้แน่
“เ้าไม่รู้หรือ? ดี! วันนี้ข้าอยากจะเห็นนักว่าเ้ารู้หรือไม่!?”
ชัดเจนว่าสาวน้อยโมโหขึ้นมาแล้ว ในมือขวามีแสงสีฟ้าจางๆ กะพริบไหว ขอเพียงสาวน้อยยินยอม มันแทบจะสามารถสังหารถังเหล่ยได้ทันที
ระดับผู้ฝึกยุทธ์กับระดับผู้ทรงยุทธ์นั้นต่างกันราวกับฟ้ากับเหว
แต่ถังเหล่ยคาดเดานิสัยของสาวน้อยได้แล้ว ถ้านางคิดจะสังหารเขาจริงๆ คงไม่ให้โอกาสเขาพูดหรอก
ปัง...
แสงสีฟ้าบนร่างของสาวน้อยพลันส่องสว่าง ทำให้ถังเหล่ยใ
“รนหาที่ตาย!”
นางสะบัดมือออกไป แสงสีฟ้าสายหนึ่งพุ่งไปทางขวาของสาวน้อย ภายใต้แสงสีฟ้าส่องสว่าง อยู่ๆ ศีรษะหมาป่าั์ตัวหนึ่งก็ปรากฏในความมืด
โฮก...
หมาป่าั์คำราม มันอ้าปากกว้าง แล้วมีดสายลมที่มองเห็นด้วยตาเปล่าก็พุ่งออกมา มันป้องกันแสงสีฟ้าเอาไว้ได้ จากนั้นก็หลบไปด้านข้าง
สัตว์อสูรระดับสาม!
ถังเหล่ยจิตใจสั่นไหว เ้านี่ต้องเป็จ่าฝูงของฝูงหมาป่านภาเมื่อครู่นี้ โชคดีที่สาวน้อยคนนี้ยังไม่จากไป ไม่เช่นนั้นเขาคงตายในปากของหมาป่าไปแล้ว
สาวน้อยไม่มีเวลามาสนใจถังเหล่ยอีก สัตว์อสูรระดับสามมีพลังเช่นเดียวกับระดับผู้ทรงยุทธ์ อีกทั้งยังสามารถใช้ความสามารถพิเศษได้ ถ้านางต้องสู้คงตึงมือมาก
วิหคั์สีฟ้าบินออกมาจากร่างของสาวน้อยอีกครั้ง มันพุ่งไปทางหมาป่าั์ เงาร่างของสาวน้อยกะพริบไหวไปมา นางกำลังเคลื่อนไหวหาโอกาสคิดจะโจมตีหมาป่าั์ให้ตายในกระบวนท่าเดียว
ถังเหล่ยรีบหลบไปบนต้นไม้ ฉวยโอกาสตอนที่พวกเขาต่อสู้กันแอบหนีไป
“รีบมาช่วยข้าเร็วเข้า!”
ทันใดนั้นสาวน้อยก็ะโออกมา หรือที่แท้ปราณแท้ในร่างของสาวน้อยยังไม่เพียงพอ เดิมทีนางคิดว่าหมาป่านภาจากไปแล้ว จึงฟื้นฟูปราณแท้แค่บางส่วนจึงกลับมาเก็บแก่นอสูร ใครจะรู้ว่าในความมืดยังซ่อนสัตว์อสูรระดับสามอีกตัวเอาไว้
มีแต่คนโง่ที่จะไปช่วยเ้า!
ถังเหล่ยเม้มปาก ให้เขาที่มีพลังแค่นี้ไม่ช่วยก็ไม่ต่างอะไรจากรนหาที่ตาย
ถังเหลยโบกมือให้สาวน้อย เขาคิดในใจ อย่าโทษข้าเลยที่ไม่ช่วย รอจนข้าบ่มเพาะถึงระดับผู้ทรงยุทธ์ก่อน ข้าจะมาแก้แค้นให้เ้าด้วยตัวเอง
เมื่อเห็นถังเหล่ยคิดจะจากไปคนเดียว สาวน้อยโมโหจนต้องขบฟัน
“คิดหนีหรือ? ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!”
สาวน้อยจะปล่อยให้ถังเหล่ยจากไปสบายๆ ได้อย่างไร? เงาร่างหนึ่งขยับเล็กน้อยคอยชักนำ หมาป่านภาระดับสามพลันพุ่งไปทางถังเหล่ย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้