นางเหอยังวางแผนร้าย หากนางเซี่ยยอมแต่งเข้ามาเป็ภรรยาของเมิ่งอวิ๋นเซียวก่อนหน้านี้ ไม่เพียงช่วยดูแลงานบ้านงานเรือน แต่ยังทำให้อาจารย์เซี่ยทุ่มเทสอนหนังสือบุตรชายของนางอย่างสุดความสามารถอีกด้วย ไม่แน่ว่าในอนาคตบุตรชายของนางอาจสอบได้เป็จ้วงหยวน [1] คนใหม่!
ดังนั้นในเวลาต่อมานางเหอจึงหาข้ออ้างหลอกล่อให้นางเซี่ยมาที่เรือน ก่อนให้นางเซี่ยดื่มน้ำถ้วยหนึ่งที่ทำให้นางหมดสติ จากนั้นก็จับนางเซี่ยขังไว้ในห้องกับเมิ่งอวิ๋นเซียวโดยตรง
ผลลัพธ์เป็อย่างไรย่อมคาดเดาได้
เมิ่งอวิ๋นเซียวล่วงเกินนางเซี่ยจนความบริสุทธิ์มัวหมอง
นางเหอมีภาพต้นไผ่อยู่ในใจ [2] เมื่อเห็นว่าเปลี่ยนจากไม้กลายเป็เรือ [3] แล้ว ย่อมไม่กลัวว่าอาจารย์เซี่ยจะไม่เห็นด้วย หากเขาไม่ยอมตกลง ก็พาบุตรสาวของเขากลับไป ในเมื่อกลายเป็สตรีที่มีมลทินแล้ว ดูสิว่าจะมีใครหน้าไหนกล้ารับนางไปเป็ภรรยา
ในหมู่บ้านหากสตรีใดสูญเสียความบริสุทธิ์ ภายหลังจะประพฤติปฏิบัติตัวดีได้อย่างไร
นางเหอยังอ้างว่า นางเซี่ยเป็ฝ่ายเสนอตัวถึงประตูเอง ตนจึงไม่ยินยอมจ่ายเงินสินสอดแม้แต่เหรียญเดียว หากนางเซี่ยอยากแต่งเข้าประตูเรือนสกุลเมิ่งก็มาเลย แต่ถ้าไม่อยากเข้าก็ปล่อยไป
อาจารย์เซี่ยบันดาลโทสะเจียนตาย
คำคนช่างน่ากลัว สุดท้ายนางเซี่ยจึงยอมแต่งเข้าบ้านสกุลเมิ่งโดยที่ไม่มีสินสอดทองหมั้นจากแม่สื่อ และไม่มีพิธีแต่งงานที่ยิ่งใหญ่สมเกียรติ นางกลายเป็ภรรยาของเมิ่งอวิ๋นเซียวทันที
หลังแต่งเข้าตระกูลแล้ว งานบ้านและงานในทุ่งทุกอย่างล้วนเป็นางเซี่ยดูแล
กาลก่อนอาจารย์เซี่ยไม่เคยปล่อยให้นางต้องทนทุกข์ทรมานแม้เพียงน้อย แต่นางเซี่ยกลับต้องทุ่มเท่เวลาที่ดีที่สุดในชีวิตทั้งหมดให้บ้านสกุลเมิ่ง
ต่อมานางเซี่ยก็ตั้งครรภ์ นางเหอคาดหวังว่านางจะให้กำเนิดบุตรชายเพื่อสืบสานสกุลเมิ่งต่อไป
แต่นางเซี่ยกลับให้กำเนิดบุตรสาวคนหนึ่ง นางเหอจึงดุด่านางอย่างหยาบคายทันควัน นับจากนั้นไม่เคยแสดงสีหน้าดีๆ กับนางอีกเลย
นางเซี่ยตั้งชื่อบุตรีว่า "อู่"[4] โดยหวังว่านางจะเติบโตเป็เด็กสาวที่งดงามและมีความสุข
ทว่าน่าเสียดายที่นางเหอใจร้ายกับเมิ่งอู่ยิ่งนัก ั้แ่เล็กนางมักถูกตบตีหรือไม่ก็ถูกด่าทอ
ขณะที่เมิ่งอวิ๋นเซียวยุ่งอยู่กับการสอบเข้ารับราชการเป็ขุนนาง ไม่สนใจเื่ภายในครอบครัวตนเองแม้แต่น้อย
อีกหลายปีต่อมาเมิ่งอวิ๋นเซียวสอบผ่านระดับมณฑลได้อย่างราบรื่น เขาจึงต้องจากที่นี่ไปเมืองหลวงเพื่อสอบระดับประเทศต่อไป
หลังเมิ่งอวิ๋นเซียวจากไปไม่นาน นางเซี่ยก็พบว่าตนตั้งครรภ์อีกครา ระหว่างที่นางตั้งครรภ์ก็ไม่ได้หยุดพัก ต้องดูแลปรนนิบัติแม่สามี เลี้ยงดูเมิ่งอู่ ยิ่งต้องรับมือกับครอบครัวของลุงใหญ่ของเมิ่งอู่ที่มักเดินไปตะวันออกหยิบยืมตะวันตก [5] บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยคืน
นางเหอจ้องมองท้องของนางเซี่ยเขม็ง เห็นท้องของนางเซี่ยค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นทุกวัน
กระทั่งลูกในครรภ์ใกล้จะเจ็ดเดือน ไม่รู้ว่านางเหอไปเชิญหมอเฒ่าจากที่ใดมาจับชีพจรให้นางเซี่ย
ผลการวินิจฉัยของหมอเฒ่าคือ ครั้งนี้นางเซี่ยอุ้มท้องบุตรสาวอีกแล้ว!
นางเหอหงุดหงิดและคับข้องใจยิ่ง มิอาจทนได้อีกต่อไป คืนนั้นนางจึงต้มยาสีดำหนึ่งชาม แล้วจับกรอกปากนางเซี่ย
สุดท้ายลูกในครรภ์ของนางเซี่ยก็เสียชีวิต ตัวนางเซี่ยเองทุกข์ทรมานแสนสาหัส นอนกรีดร้องอย่างน่าเวทนาอยู่บนเตียงทั้งคืน
เื่นี้นับว่าอันตรายยิ่งยวด หากไม่ทันระวังคงต้องกลายเป็หนึ่งศพสองชีวิต นางเหอเห็นดังนั้นก็รู้สึกประหวั่นพรั่นพรึง จึงวิ่งไปซ่อนตัวอยู่ในทุ่งตรงเนินเขากลางดึก
ต่อมาอาจารย์เซี่ยรีบไปเชิญหมอและหมอตำแยจากหมู่บ้านใกล้เคียงมาช่วย กระทั่งใกล้รุ่งสางจึงดึงนางเซี่ยกลับมาจากประตูผีได้
ในที่สุดนางเซี่ยก็ให้กำเนิดทารกเพศหญิง ทว่าเด็กน้อยสิ้นลมหายใจนานแล้ว
ทารกในครรภ์เจ็ดเดือน ทั้งเส้นผมและองคาพยพทั้งห้าล้วนเจริญเติบโตแล้ว นางเซี่ยกอดร่างไร้ิญญาของบุตรีพลางร่ำไห้ปานจะขาดใจ
นางเหอปฏิเสธว่านางไม่เคยกรอกยาให้นางเซี่ย ภายหลังเื่นี้ก็เงียบหายไป
นางเซี่ยโศกาอาดูรสุดซึ้ง หลังนอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียงสามวัน นางเหอก็ลากนางเซี่ยลงมาจากเตียงให้ไปทำงานอีกครา ยามนั้นเป็ฤดูหนาว นางเซี่ยจึงต้องซักผ้าทำอาหารด้วยน้ำเย็น นับแต่นั้นนางจึงป่วยเป็ไข้หนาวสั่น
เื่ที่นางเหอเล่นเล่ห์ซ่อนกลจนนางเซี่ยตกเป็ภรรยาของเมิ่งอวิ๋นเซียวได้อย่างไร เป็เื่ที่เมิ่งอู่แอบล่วงรู้ตอนติดต่อกับคนสกุลเมิ่งในภายหลัง
แต่เื่ที่นางเหอทำให้ลูกในครรภ์ของนางเซี่ยต้องเสียชีวิต เป็เื่ที่เมิ่งอู่ประสบพบเจอด้วยตนเอง! นางเหอไม่เพียงฆ่าน้องสาวของนาง ยังเกือบฆ่ามารดาของนางด้วย!
ยามนั้นนางยังเด็กเกินกว่าจะทำอันใดได้ ได้แต่เฝ้าดูมารดาทนทุกข์ทรมานอย่างจนหนทาง ต่อมานางนึกถึงท่านตา จึงวิ่งโซซัดโซเซไปหาท่านตา เพื่อยื้อชีวิตนางเซี่ยกลับมาใน่เวลาคับขัน
นับแต่นั้นเป็ต้นมาเมิ่งอู่จึงเกลียดชังนางเหอเหลือประมาณ
ทว่าต่อให้เกลียดชังแล้วจะทำอย่างไรได้เล่า ตนเองและนางเซี่ยโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่งพิง ได้แต่ปล่อยให้ผู้อื่นกลั่นแกล้งรังแก
เมิ่งอวิ๋นเซียวเข้าเมืองหลวงไปสอบหลายปีก็ยังไม่กลับ ไม่มีแม้แต่ข่าวคราว ครอบครัวหลังนี้ไม่เหลือความหวังใดอีกต่อไปแล้ว
……….
[1] เป็ผู้ที่สอบได้อันดับหนึ่งในการสอบเข้ารับราชการหน้าพระที่นั่งของจีนโบราณ
[2] หมายถึง ก่อนลงมือทำการใดมีการเตรียมพร้อมล่วงหน้าอย่างถี่ถ้วน
[3] หมายถึง เื่ราวดำเนินไปถึงขั้นนี้แล้วมิอาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้
[4] อู่ หมายความว่า งดงาม น่ารัก มีเสน่ห์
[5] หมายถึง ยืมเ้านี้ไปคืนเ้าโน้น หรือหยิบยืมเพื่อเอาตัวรอดไปวันๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้