เมื่อเทียบกับคู่ของลั่วเสี่ยวซีกับฉินเว่ยที่ไปกันได้ดี ทางลู่เป๋าเหยียนกับูเี่อันบรรยากาศช่างเงียบสงัด ทั้งสองคนนั่งเงียบ ไม่พูดอะไรสักคำตลอดทางจนถึงบ้าน
ลุงสวีดีใจที่เห็นเ้านายทั้งสองกลับบ้านมาพร้อมกัน ทว่าเมื่อมองดูดีๆ สีหน้าของทั้งสองคนดูมีอะไรผิดไป เห็นดังนั้นเขาจึงส่งสัญญาณบอกให้คนรับใช้ออกไปก่อน ส่วนตัวเขาเองก็เดินไปทางสวนดอกไม้อย่างเงียบๆ
ณ ห้องรับแขกอันกว้างขวาง มีเพียงลู่เป๋าเหยียนและูเี่อันสองคน
“ูเี่อัน” สีหน้าของลู่เป๋าเหยียนเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ทำไมเธอถึงไปที่แบบนั้น”
เขามีสิทธิ์อะไรมาถามเธอแบบนี้ พวกเราก็แค่เป็สามีภรรยากันในนาม เขาพูดเองไม่ใช่หรือไง
“นายเองก็ไปที่แบบนั้นเหมือนกันไม่ใช่เหรอไง” ูเี่อันเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“ฉันไปเพราะเื่ธุรกิจ อีกอย่าง ฉันไม่ได้ไปคุยกับเพศตรงข้ามแปลกหน้าอย่างออกรสออกชาติแบบเธอ คุณนายลู่”
ก่อนเขาจะไปถึงไม่รู้ว่าเธอกับเ้าหรันนั่งอยู่ด้วยกันมานานแค่ไหน แค่คิดเขาก็รู้สึกอยากสั่งปิดผับแห่งนั้นไปซะ
ูเี่อันรู้สึกได้ว่าเขาเริ่มโมโหขึ้นมาแล้วจริงๆ เธอก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเองแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้คุยกับเขาอย่างออกรสออกชาติสักหน่อย ถ้านายอยากฟังว่าฉันชันสูตรศพในที่เกิดเหตุยังไง ฉันเล่าให้นายฟังก็ได้ ทีเมื่อวานนายแอบนัดคุยกับหานรั่วซีที่โรงแรม ฉันยังไม่ว่าอะไรเลย”
ลู่เป๋าเหยียนหรี่ตา “เธอเห็น?”
เขายกมุมปาก เหมือนจะยิ้มก็ไม่เชิง “เธอได้ยินอะไรบ้าง”
“เื่ของนายกับหานรั่วซีหลังจากหย่ากับฉันอะไรนั่นแหละ ฉันได้ยินหมดแล้ว!” ฮึๆ โดนเธอพูดแทงใจดำเข้าแล้วล่ะสิ ดูสิคราวนี้เขาจะทำอะไรเธอได้ เธอคิดอย่างพอใจ
“ใครบอกเธอว่านั่นคือคำสัญญา” เขาพูดเฉไฉไปอย่างตัดรำคาญ
“ตากับหูของฉันไง” ูเี่อันกล่าว “แต่ฉันไม่สนหรอกนะว่านายกับหานรั่วซีจะแอบไปทำอะไรลับหลัง เพราะฉะนั้นนายเองก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งเื่ของฉัน”
เขายกมุมปากยิ้มบางแบบมีเล่ห์นัยพลางเดินเข้ามาใกล้เธอ
“เธอหึงฉัน?”
เธอกะจะปฏิเสธออกไป แต่คิดแล้วแค่ปฏิเสธอย่างเดียวคงไม่พอ
เธอยิ้มกว้างแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างงั้น นายเองก็หึงฉันงั้นสิ?”
ลู่เป๋าเหยียนคิดไม่ถึงว่า ภรรยาตัวน้อยของเขาจะมีไหวพริบขนาดนี้ เขายิ้มบาง “คุณนายลู่ คนเราต้องรู้สถานะของตัวเอง”
จากคำพูดนี้สื่อได้ว่า เธอจะคิดเข้าข้างตัวเองมากไปแล้ว
ูเี่อันกะพริบตาปริบๆ “นายไม่ได้หึงฉัน?” เธอเริ่มโมโห
“ถ้าอย่างนั้นที่นายห้ามไม่ให้ฉันคุยกับคนอื่น แต่ตัวเองกับแอบนัดพบกับแฟนสาวในข่าวมันคืออะไร แบบนี้สองมาตรฐานชัดๆ ไม่ยุติธรรมเลย! ฉันไม่ยอมให้นายเอาเปรียบหรอก ถ้าจะให้ฉันรักษาระยะห่างกับคนอื่น ตัวนายเองไปเลิกกับหานรั่วซีก่อนเถอะ!”
พูดจบ เธอก็แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ลู่เป๋าเหยียน แล้ววิ่งขึ้นห้องไป
การแต่งงานวันแรกของูเี่อันผ่านไปด้วยความรู้สึกอันแปรปรวน
วันที่สองของการแต่งงาน
8:20 น. ูเี่อันถึงลงมาจากห้อง ลุงสวีเห็นดังนั้นจึงเดินมาหาเธอ “คุณผู้หญิงเก้าโมงวันนี้ คุณชายจะเดินทางไปเยี่ยมบ้านคุณผู้หญิงนะครับ ผมจัดเตรียมของทั้งหมดไว้แล้ว หากคุณผู้หญิงทานอาหารเข้าเสร็จแล้วก็สามารถออกเดินทางได้ทันทีครับ”
เธอรู้สึกงง “ไปเยี่ยมบ้านหนูเหรอคะ?”
“หลังแต่งงานวันที่สาม จะต้องกลับไปเยี่ยมบ้านฝ่ายหญิงครับ” ลุงสวีอธิบายอย่างใจเย็น “มันเป็ธรรมเนียมของพวกเราน่ะครับ เช้าวันนี้คุณนายก็ได้โทรมากำชับเื่นี้”
“แต่ว่า...” เธอนับ “หนูเพิ่งแต่งงานกับเขาเองนี่คะ เพราะฉะนั้นวันนี้ควรเป็วันที่สองไม่ใช่เหรอคะลุง”
“พรุ่งนี้ฉันไม่ว่าง เธอคิดเสียว่าวันนี้เป็วันแต่งงานวันที่สามของพวกเราละกัน”
ลู่เป๋าเหยียนวันนี้อยู่ในชุดสูท รองเท้าหนัง เขาเดินลงบันไดมาพลางติดกระดุมเสื้อสูทด้วยท่าทางสง่างามดูสูงศักดิ์
เธอเงียบไปชั่วขณะ
เอาเถอะ ถึงอย่างไรการแต่งงานแค่ในนามครั้งนี้ ก็แค่เพื่อผลประโยชน์ของเขากับเธอ เขาอยากได้ผู้หญิงสักคนมาเป็ภรรยาเพื่อที่แม่เขาจะได้เลิกจับคู่ให้เขาเสียที ส่วนเธอก็แค่อยากได้คนที่แกร่งพอจะต่อกรกับพ่อเธอได้ก็เท่านั้น
หลังอาหารเช้า ลุงสวีก็นำของทั้งหมดเข้าไปเก็บไว้ท้ายรถ
“คุณชายครับ พร้อมออกเดินทางแล้วครับ” ลู่เป๋าเหยียนลุกขึ้น ูเี่อันจึงรีบเดินตามเขาไปทันที
“ลู่เป๋าเหยียน พวกเราไม่ต้องไปที่บ้านพ่อฉันก็ได้นะ นายเองก็คงไม่อยากไปหรอกใช่ไหม”
“คนที่ไม่อยากไป น่าจะเป็เธอมากกว่า”
สายตาเฉียบคมของเขามองเธอได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เหมือนทุกสิ่งบนโลกใบนี้ไม่สามารถรอดพ้นจากสายตาเขาไปได้
“...”
ูเี่อันเกลียดคนรู้ทันที่สุด แต่ตานี่ไม่เพียงแต่รู้ทันเธออย่างเดียว แต่อ่านเธอออกทุกอย่าง ที่จริง...เธอไม่ค่อยอยากจะกลับไปบ้านหลังนั้นเสียเท่าไร
เพราะั้แ่เธออายุสิบห้าปี ที่นั่นก็ไม่ใช่บ้านของเธออีกต่อไป
ปีที่เธออายุครบสิบห้าปีนั้น แม่พบว่าที่จริงพ่อของเธอ ‘ซูหงเยวี่ยน’ แอบนอกใจแม่เธอมานานหลายปี ถึงขนาดมีลูกสาวที่อายุน้อยกว่าเธอเพียงแค่สามเดือนด้วยกันกับผู้หญิงคนนั้น
แม่รักพ่อเธอมาก ชั่วชีวิตของแม่มีแค่พ่อคนเดียว เหตุการณ์ครั้งนั้นจึงะเืใจแม่เป็อย่างมาก จนทำให้โรคหัวใจกำเริบ และในที่สุดก็ได้จากเธอไป
หลังจากนั้นเพียงสามเดือน พ่อก็พาเจี๋ยงเสวี่ยลี่กับซูหยวนหยวนมาที่บ้านและบอกกับเธอว่า ต่อจากนี้ไปเจี๋ยงเสวี่ยลี่คือแม่ของเธอ ส่วนซูหยวนหยวนก็คือน้องสาวเธอ เธอและพี่ชายแตกหักกับพ่อั้แ่วันนั้น สำหรับเธอแล้ว บนโลกใบนี้มีเพียงแค่ซูอี้เฉิงเท่านั้นที่เป็ครอบครัวของเธอ
หลังจบม.ปลาย เธอจึงย้ายออกจากบ้านทันที หลายปีที่เรียนมหาวิทยาลัย รวมถึงไปเรียนต่อต่างประเทศ เธอไม่เคยรับเงินจากพ่อสักแดง และจะไม่กลับบ้านหากไม่จำเป็ พอเริ่มทำงาน เธอก็พักอยู่ที่อพาร์ทเมนต์ที่พี่ชายเป็คนซื้อให้มาโดยตลอด และไม่ได้กลับบ้านอีกเลย
ซูอี้เฉิงพี่ชายเธอก็โกรธแค้นพ่อขอเธอเช่นเดียวกัน เขาเริ่มเล่นหุ้นั้แ่ตอนที่แม่ยังอยู่ พอจบมหาวิทยาลัย ก็นำเงินที่หาได้มาเปิดบริษัท “เฉิงอันกรุ๊ป” ที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบันแห่งนี้ และใช้เวลาเพียงไม่นานก็ขึ้นมาเป็คู่แข่งอันดับหนึ่งของบริษัทพ่อเธอ
ตอนแรกพ่อไม่แยแสบริษัทเล็กๆ ของลูกชายเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อรู้ตัวอีกที ก็พบว่าบริษัทตนกำลังถูกเฉิงอันกรุ๊ปโจมตีอย่างหนัก จนถึงขั้นวิกฤติ ซูอี้เฉิงกะจะบีบให้เขาหมดหนทาง
ถึงอย่างนั้นก็ตาม พ่อเองก็ไม่ปล่อยให้พี่ชายเธอทำอะไรได้ตามอำเภอใจ และเพราะเธอคือจุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวของซูอี้เฉิง พ่อจึงคิดที่จะลักพาตัวเธอเพื่อข่มขู่เขา
มันเป็ทางเดียวที่จะทำให้พี่เธอยอมถอยออกไปจากศึกครั้งนี้
พี่รู้ทันแผนการของพ่อ ตอนแรกเขาคิดจะส่งเธอออกนอกประเทศไปสักระยะ แต่เธอไม่ยอม เขาจึงไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทของแม่ ‘ถังอวี้หลัน’
ถังอวี้หลันตอบอย่างไม่ต้องคิดเลยว่า “ให้เจี่ยนอันกับเป๋าเหยียนแต่งงานกัน ให้มันรู้ไปว่าจะมีใครหน้าไหนกล้าแตะต้องลูกสะใภ้ตระกูลลู่!”
ด้วยเหตุนี้ การแต่งงานของเธอกับลู่เป๋าเหยียนจึงเกิดขึ้น และทำให้เธอต้องกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกครั้ง
บ้านของตระกูลซูอยู่ในเขตหมู่บ้านทางเหนือของตัวเมือง หลังจากนั่งรถมาประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ถึงที่หมาย คนรับใช้ออกมาเปิดประตูต้อนรับ และนำทางเธอกับลู่เป๋าเหยียนเข้าไปในห้องรับแขก
ซูหงเยวี่ยนนั่งอยู่ที่โซฟา ส่วนเจี๋ยงเสวี่ยลี่และซูหยวนหยวนนั่งอยู่ด้านข้างของเขา เมื่อเห็นลู่เป๋าเหยียน เขาวางไปป์ในมือลง แล้วลุกขึ้นยืนยิ่มต้อนรับ “เป๋าเหยียน ผมรอพวกคุณมาตลอดทั้งเช้า”
“ขออภัยด้วยครับ” ลู่เป๋าเหยียนจับมือกับซูหงเยวี่ยน แล้วยื่นมือมาโอบเอวเธออย่างเป็ธรรมชาติ “เมื่อเช้าเจี่ยนอันตื่นสายไปหน่อยน่ะครับ”
ถึงจะพูดแบบนั้นก็ตาม แต่ในน้ำเสียงของเขาไม่ได้เป็การตำหนิเธอแต่อย่างใด มิหนำซ้ำกลับดูโอนอ่อนผ่อนตามเสียด้วยซ้ำ
ซูหงเยวี่ยนถอนหายใจ “ลูกสาวของผมคนนี้ชอบนอนตื่นสาย ไม่ไหวเอาซะเลย”
ลู่เป๋าเหยียนยกมุมปากเหยียดยิ้มบาง เขายิ่งโอบเอวเธอแน่นขึ้น “แต่ผมไม่เห็นว่าจะเป็เื่ไม่ดีตรงไหน”
หัวใจของเธอกระตุกขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว
ไม่ไหวเลยเธอนี่ ที่ลู่เป๋าเหยียนปกป้องเธอในตอนนี้ ก็แค่แสดงละครพ่อเธอดูเท่านั้นนะ
ซูหงเยวี่ยนถึงชะงักไปชั่วขณะ แต่คนมากประสบการณ์อย่างเขาผ่านเื่แบบนี้มานักต่อนัก จึงยิ้มรับได้อย่างไม่ติดขัด
“เจี่ยนอัน มีหลายคนแย่งกันอยากจะเป็พ่อตาของลู่เป๋าเหยียน นึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าลูกจะทำให้พ่อได้รับเกียรตินี้”
แต่ถ้าซูอี้เฉิงกับถังอวี้หลันคิดว่าเขาจะยอมแพ้เพียงเพราะเื่แค่นี้ พวกเขาคิดผิดแล้ว ถึงแม้ว่าในแง่ธุรกิจจะไม่มีใครกล้าเป็ศัตรูกับลู่เป๋าเหยียน แต่เขาเป็รุ่นพี่ในวงการนี้มาก่อน จึงมีเส้นสายอยู่ไม่น้อย ถ้าเขาคิดจะทำอะไรเจี่ยนอันจริงๆ ลู่เป๋าเหยียนก็คงไม่กล้าเป็ศัตรูกับเขาได้ง่ายๆ
คิดดังนั้น ซูหงเยวี่ยยกป์ขึ้นมาสูบแล้วพูดว่า “เจี่ยนอัน อยู่กับเป๋าเหยียนดีๆ นะลูก”
นี่เขากำลังขู่เธอ? ูเี่อันยิ้มเย็น “หนูรู้ว่าจะเป็ภรรยาที่ดีต้องทำยังไง พ่อไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ”
“งั้นก็ดี” ซูหวงเยวี่ยนรู้ดีว่าคนทีู่เี่อันไม่อยากเจอหน้าที่สุดคือเจี๋ยงเสวี่ยลี่กับลูกสาวของเธอ แต่กลับพูดขึ้นว่า “ทำไมไม่แนะนำคุณน้ากับน้องสาวให้เป่าเหยียนรู้จักหน่อยล่ะ”
เขาจงใจ! ูเี่อันโมโหขึ้นมาในพริบตา ทว่าทันใดนั้นกลับมีคนกุมมือเธอไว้
คนนั้นคือลู่เป๋าเหยียน
ลู่เป๋าเหยียนไม่เหลือบมองเธอสักนิด แต่กลับเดินไปหยิบของขวัญตามมารยาทที่นำมาให้กับสองแม่ลูก “เจี่ยนอันเคยเล่าเื่ของพวกคุณให้ผมฟังแล้ว ยินดีทีได้พบกันครับ”
ทำไมตอนเขาคุยกับคนอื่นช่างดูดีมีมารยาท แต่เวลาอยู่กับเธอกลายเป็ตาบ้าโรคจิตไปซะได้
เธออยากจะร้องไห้ นี่มันสองมาตรฐานชัดๆ เลย
ซูหยวนหยวนรับของขวัญที่ถูกห่ออย่างสวยงามขึ้นมากอดแนบอก ยิ้มหวาน “ขอบคุณค่ะพี่เขย”
เจี๋ยงเสวี่ยลี่เองก็รับไว้ด้วยท่าทีเกรงใจ “ลำบากเธอแล้ว”
ูเี่อันไม่อยากอยู่ในสถานที่ที่มีสองแม่ลูกนี้อีกต่อไป จึงลุกเดินขึ้นไปชั้นบน