ถังชิงหรูส่งพลังงานเข้าสู่ร่างกายของหลีซู นางรู้สึกอุ่นที่ฝ่ามือ แม้แต่ร่างกายก็รู้สึกร้อนขึ้นมา
ยามนี้หลีซูเริ่มทรมาน พิษสิบกว่าชนิดผสานรวมเป็หนึ่งเดียวกับร่างกายเขามานาน การจะรีดเค้นพวกมันออกมาย่อมเ็ปถึงเส้นเอ็นและกระดูก ร่างกายราวถูกแผดเผาอยู่ในกองเพลิง หากมิใช่ว่าในยาอาบมีส่วนผสมของสมุนไพรซึ่งมีฤทธิ์เย็น เกรงว่าคงทนไม่ได้นานแล้ว
เคราะห์ดีที่ถังชิงหรูควบคุมร่างกายของเขาไว้มิให้ขยับตัวส่งเดช และยังเพิ่มสมุนไพรที่ช่วยสงบจิตใจในยาอาบ ทุกอย่าง... น่าจะไปได้สวย
"อ๊า" หลีซูคำรามด้วยความเ็ป
ถังชิงหรูมองบุรุษตรงหน้า ของเหลวสีดำซึมออกมาจากแผ่นหลังของเขาเป็จำนวนมาก ล้วนแต่เป็พิษจากภายในของเขาทั้งสิ้น
ยามเห็นของเหลวเ่าั้ นางรู้สึกราวกับเห็นทากดูดเืดุร้ายคลานยั้วเยี้ยออกมา ชวนสะอิดสะเอียนเป็อย่างยิ่ง ที่จริงของเหลวเ่าั้น่ากลัวยิ่งกว่าทากดูดเื พวกมันกลืนกินชีวิตของเขาทีละน้อย ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ อายุนับวันยิ่งสั้นลง จากที่นางตรวจวินิจฉัยร่างกายของเขาครั้งแรก แม้ว่าตอนนี้เขาจะใช้พิษต้านพิษ แต่ละวันต้องอาศัยพิษและหนอนพิษจำนวนมากมาต่อชีวิต แต่ก็อยู่ได้ไม่เกินสามสิบห้าปี เพลานี้เขาคงจะอายุยี่สิบกว่าปีแล้ว ดังนั้นจึงเหลือเวลาอีกไม่กี่ปีเท่านั้น
แน่นอนว่าหากถอนพิษจากร่างกายของเขาได้ แล้วค่อยๆ ฟื้นฟูสภาพร่างกายอีกสักระยะหนึ่ง คิดว่าน่าจะมีโอกาสรอดชีวิต เพียงแต่เมื่อเทียบกับคนปรกติทั่วไป อายุของเขาก็ยังคงสั้นกว่ามาก อย่างไรเสียเมื่อก่อนนี้เขาก็ััพิษมามาก าเ็ถึงแก่นราก การที่เขายังคงรูปโฉมงามสง่าได้ก็นับว่า์ปรานีเป็พิเศษแล้ว ปรกติแล้ว ผู้ที่ััพืชพิษและหนอนพิษมาเป็เวลานานล้วนแต่อัปลักษณ์มือเท้าหงิกง่อย ไม่มีทางหน้าตาดีขนาดนี้ หลีซูััได้ถึงมือน้อยนุ่มนวลดุจรังไหมที่ทาบอยู่บนแผ่นหลังของตนเอง ชั่วขณะที่กำลังทรมาน กลับมีความรู้สึกวาบหวิวเจืออยู่
หนึ่งชั่วยามผ่านไป ถังชิงหรูไม่อาจฝืนร่างกายได้อีกต่อไป นางรั้งมือกลับ ปาดเหงื่อบนหน้าผาก ทรุดกายนั่งลงตรงหน้าพลางสบตาเอ่ยว่า "วันนี้พอแค่นี้ก่อน ต่อไปข้าจะมาขจัดพิษให้ท่านอีกทุกสองวัน ส่วนต่อไปจะใช้วิธีการไหน ก็ต้องดูสถานการณ์เฉพาะหน้าในแต่ละครั้งก่อน"
หลีซูไร้เรี่ยวแรงจะเอ่ยวาจา
แม้ว่าเขาจะนั่งเฉยๆ มิได้ทำสิ่งใด แต่พลังสองสายในร่างกายต่อสู้กันตลอดเวลา จนเขารู้สึกว่าร่างของตนเองแทบแตกเป็เสี่ยงๆ ยามนี้แค่มีแรงถลึงตาใส่อีกฝ่ายสักสองสามครั้งก็นับว่าเก่งแล้ว เขาอยากลุกก็ลุกขึ้นทันที เรือนกายแข็งแกร่งที่มีแต่กล้ามเนื้อจึงเผยออกมาต่อหน้าถังชิงหรู
ถังชิงหรูมองร่างกายที่มีหยาดน้ำเกาะพราวด้วยสีหน้าตะลึงพรึงเพริด นางรีบหมุนตัวกลับหลังหันไม่มองเขา
"ฮึ!" หลีซูแค่นเสียงเยาะ "เพิ่งมารู้จักหลบเลี่ยงตอนนี้ มิสายไปหน่อยหรือ เมื่อครู่เ้าไม่เพียงจับข้าถอดเสื้อผ้า ยังลูบคลำร่างกายของข้าด้วย ข้าเห็นแก่นแท้ของเ้าจนทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว ตอนนี้จะมาแสร้งทำท่าเหมือนสตรี คิดว่าข้าจะหลงกลอย่างนั้นรึ"
ถังชิงหรูขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเอ่ยว่า "ข้าไม่ได้แกล้งทำตัวเป็สตรี แต่ข้าก็เป็สตรีอยู่แล้วต่างหาก"
นางหมุนกายกลับมา จงใจถลึงตาอย่างดุดันต่อหน้าชายหนุ่ม
หลีซูเพิ่งสังเกตว่าตนเองขยับได้แล้ว สีหน้าค่อยดีขึ้นเล็กน้อย ทว่าแม้ไม่ถูกควบคุม แต่ก็ยังขยับตัวไม่ได้ เนื่องจากไม่มีเรี่ยวแรง ยืนนิ่งอยู่ในถังน้ำ จะก้าวออกไปก็ไม่ได้ จะย่อตัวนั่งลงก็ไม่ไหว จึงได้แต่จ้องถังชิงหรูที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
ถังชิงหรูเห็นเขาเบิกตากว้าง ก็นึกว่าชายหนุ่ม้าท้าทายตนเอง เมื่อเขาไม่พูด แล้วนางจะเข้าใจได้อย่างไร
"พยุงข้าออกไป" หลีซูกล่าวเสียงเย็น
"ตอนนี้ข้าเองก็ไม่มีแรงแล้ว" ถังชิงหรูหาได้โป้ปด นางไร้เรี่ยวแรงแล้วจริงๆ แค่ถ่ายทอดพลังให้เขาก็ลำบากมากแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องอยู่ในท่านั้นถึงสองชั่วยาม แม้ว่านางจะไม่ได้ทำอะไรเลย แต่การอยู่ในท่านั้นถึงสองชั่วยามเต็ม ร่างกายก็แทบจะเป็ตะคริวได้เหมือนกัน
"หรือเ้าจะให้คุณชายเยี่ยงข้าอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ?" หลีซูเริ่มหน้าง้ำ
ความรู้สึกที่ขึ้นก็ไม่ได้ลงก็ไม่ได้ช่างสมควรตายยิ่งนักที่น่าสะอิดสะเอียนที่สุดก็คือยาอาบในถัง บัดนี้พิษปริมาณมากถูกขับออกมา ยาในถังได้เปลี่ยนเป็สีดำขุ่นคลั่ก ถึงแม้เขาจะัักับของมีพิษอยู่เป็ประจำ แต่มิได้หมายความว่าจะไม่รักความสะอาด ในบางครั้งนิสัยรักสะอาดของเขาก็เหมือนเป็โรคอย่างหนึ่ง
ถังชิงหรูเห็นเขาแลดูน่าเวทนา การยืนอยู่ในน้ำเป็เวลานานอาจได้รับผลกระทบจากพิษร้าย ร่างกายอ่อนเปลี้ยมีเพียงแค่แรงลุกขึ้นเท่านั้น
นางเข้าไปประคองพลางกล่าวเสียงเรียบ "เช่นนั้นท่านก็เกาะข้าให้แน่น หากล้มลงไป ข้าไม่รับผิดชอบนะ อย่างไรเสียยามนี้ข้าเองก็้าผู้อื่นมาช่วยพยุงเหมือนกัน"
หลีซูจับข้อมือของนางไว้แน่น ชั่วขณะที่เห็นดวงหน้าขาวซีดของนาง พลันเกิดความรู้สึกว้าวุ่นในหัวใจ
ั้แ่จำความได้ นี่คือสตรีคนที่สองที่ดีต่อเขา คนแรกคือมารดาของตนเองซึ่งตายไปนานแล้วภายใต้เงื้อมมือของศัตรู
แต่เขารู้ว่าที่นางทำแบบนี้เพราะมีข้อแลกเปลี่ยน หากตอนนั้นตนเองไม่หยิบยื่นยาถอนพิษให้ นางก็คงไม่สนใจความเป็ความตายของเขา ในโลกใบนี้ไหนเลยจะมีคนใจบุญสุนทานขนาดนั้น ใครจะเป็หรือตายไม่เกี่ยวข้องกับตนเองสักนิด สนใจแต่เื่ในบ้านของตัวเองก็พอแล้ว
ถังชิงหรูประคองหลีซูไปที่เตียงขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้า นับได้ว่านี่คือส่วนที่งดงามหรูหราที่สุดของห้อง การตั้งเตียงหลังใหญ่พอให้สี่ห้าคนนอนในเรือนทรุดโทรมและคับแคบเช่นนี้ชวนให้รู้สึกเหลือเชื่อจริงๆ
หลีซูเดินสะดุดเสียหลักล้มลงไปที่พื้น ถังชิงหรูรีบประคองเขาไว้ พลางเอ่ยถามด้วยสีหน้าห่วงใย "เป็อย่างไรบ้าง ยังไหวหรือเปล่า"
ยามฝ่ามือของหลีซูัักับฝ่ามือของถังชิงหรู มือเล็กนุ่มนิ่มราวกับไร้กระดูก เมื่อเทียบกับฝ่ามือหนาของเขาแล้ว นางก็ยังดูอ่อนแอกว่าอยู่ดี นี่คือความแตกต่างระหว่างชายหญิง ไม่ว่าปรกติสตรีจะมีเขี้ยวเล็บมากมายเพียงใด ท้ายที่สุดแล้วเมื่ออยู่ต่อหน้าบุรุษก็ยังคงอ่อนแอกว่าอย่างเห็นได้ชัด
แน่นอนว่าที่หลีซูคิดเช่นนี้เพราะไม่เคยเห็นถังชิงหรูยามทุบตีเฉินิ หากเขาได้เห็นคงจะไม่รู้สึกว่าสตรีคนนี้อ่อนแอเป็แน่
ผู้หญิงซึ่งปฏิเสธผู้ชายทุกคนที่มาตามจีบจากดาวต่างๆ ในศตวรรษที่สามสิบเอ็ดและยังมีชีวิตรอดมาได้ถึงตอนนี้ หากอ่อนแอก็เกรงว่าแม้แต่ิญญาคงสูญสลายไปนานแล้ว
นางวางหลีซูลงบนเตียง พอหันกลับไปเห็นข้างนอกมีแต่ความมืดมิด เสียงแมลงร้องระงมดับความเงียบสงัดยามราตรี ในป่าลึกบนูเาเช่นนี้ เขาคงมีแต่แมลงเ่าั้อยู่เป็เพื่อน
หลีซูเห็นนางเดินออกไป ก็ไม่กล่าวสิ่งใด หลับตาลงเงียบๆ
ข้างนอกมืดสนิท สตรีผู้นั้นยังคิดจะไป ดูท่าคงไม่อยากอยู่บ้านหลังเดียวกับตัวประหลาด ฮึ! นางไม่ส่องคันฉ่องดูเสียบ้างเลย ท่าทางอย่างกับสาวชาวบ้านอย่างนาง ยังต้องกังวลว่าตนเองจะกินไม่เลือกหรืออย่างไร
ขณะที่หลีซูนึกว่าถังชิงหรูลงเขาไปแล้ว ก็มีกลิ่นหอมฟุ้งลอยมาจากห้องครัวที่อยู่ติดกัน เขาลืมตาขึ้นมองไปเบื้องหน้าด้วยความประหลาดใจ ดวงตาคู่นั้นฉายแววสับสน สองมือบีบผ้าห่มไว้แน่น พยายามควบคุมความว้าวุ่นเอาไว้
ไม่ช้า ถังชิงหรูก็ผลักประตูเข้ามา มือของนางถือชามมาสองใบ หลังจากวางลงบนโต๊ะ ก็เดินออกไปอีกสองสามรอบ ยามนี้มีกับข้าวเจ็ดอย่างกับน้ำแกงอีกชามตั้งอยู่บนโต๊ะ รวมถึงข้าวสวยอีกสองชาม
ถังชิงหรูเงยหน้าขึ้นมองคนบนเตียง "ตอนนี้ท่านมีแรงหรือยัง ถ้ามีแล้วก็ลงจากเตียงมากินข้าวเถอะ แต่หากยังไม่มี ก็เอาไว้ค่อยกินพรุ่งนี้"
หลีซูขยับนิ้วมือ ด้วยสภาพร่างกายของเขาตอนนี้ เรี่ยวแรงเริ่มฟื้นฟูขึ้นมาบ้างแล้ว เขาค่อยๆ ขยับลงจากเตียง มานั่งฝั่งตรงข้ามกับถังชิงหรู
อาหารบนโต๊ะหอมฟุ้งไปทั่วห้อง นี่คือสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ปรกติก็กินแต่ของป่าผลไม้ป่าไปตามมีตามเกิด ไม่เคยรู้ว่าอาหารจะมีกลิ่นหอมขนาดนี้ แน่นอนว่าในความทรงจำ เขาเคยมีชีวิตสุขสบายมีเสื้อผ้าและอาหารดีๆ เพียงแต่ต่อมาก็ตกต่ำจนกระทั่งกลายเป็...
"ไฉนไม่กินเล่า?" ถังชิงหรูเงยหน้าขึ้นมองเขา "วันนี้มืดแล้ว ข้าคงต้องขอค้างคืนที่นี่ ของป่าบนเขาของท่านมีเยอะทีเดียว เมื่อครู่ยามข้าออกไปเก็บสมุนไพร เห็นของกินดีๆ ที่ขึ้นในป่าเต็มไปหมด ท่านใช้ชีวิตอยู่ในขุมสมบัติแบบนี้ทุกวัน คงจะมีชีวิตสุขสบายมาก มิน่าเล่าถึงยอมอยู่คนเดียวที่นี่มากกว่าจะเข้าไปอยู่ในเมือง"
"ที่ข้าไม่ยินดีเข้าเมืองหาใช่เพราะเห็นแก่กิน" หลีซูมองนางด้วยสายตาเ็า "เ้านึกว่าใครจะอยากไร้อนาคตเหมือนกับเ้ากันล่ะ"
"แล้วไฉนคนที่มีอนาคตเช่นท่านถึงได้ปล่อยให้ตนตกอยู่ในสภาพอนาถเยี่ยงนี้เล่า ตอนนี้ท่านก็มาให้ข้าถอนพิษอยู่มิใช่หรือ ท่านเองเป็ผู้เชี่ยวชาญเื่พิษ เื่ที่แม้แต่มือฉมังเช่นท่านยังทำไม่ได้ กลับมาฝากความหวังไว้ที่ข้า ท่านรู้สึกว่ายุติธรรมแล้วหรือ ถึงเวลาหากข้าแก้พิษให้ท่านไม่ได้ ท่านคิดจะสังหารข้าหรือเปล่าล่ะ" ถังชิงหรูคีบไข่ไก่ซีกหนึ่งเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ พลางเอ่ยวาจาอย่างเอ้อระเหย
"หากเ้ายังปากมากอีก ข้าจะวางยาพิษให้เ้าเป็ใบ้เสีย" หลีซูบีบตะเกียบไว้แน่น เอ่ยวาจาด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
ถังชิงหรูยังคงตั้งหน้าตั้งตากินต่อไป หลายวันมานี้นางยุ่งทั้งวัน ไม่ได้กินอาหารที่ทำกินเองมานานแล้ว ทุกวันมีจิ่นเอ๋อร์กับหวนเอ๋อร์คอยดูแล อาหารป่าที่กินอยู่ตอนนี้ก็ใช้เครื่องปรุงพิเศษที่แลกมาจากระบบ รสชาติโอชาจนแทบอยากจะกลืนลิ้นลงไปด้วย
หลีซูกินไปสองสามคำก็วางตะเกียบ
ถังชิงหรูเงยหน้าขึ้นมอง เดิมทีไม่นึกอยากยุ่งเกี่ยว แต่ก็เอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ "ทำไมไม่กินล่ะ ไม่ถูกปากหรือ"
หลีซูจับโต๊ะไว้ก่อนลุกขึ้น ค่อยๆ เดินไปยังตู้ไม้ฝั่งตรงข้าม แล้วเอื้อมมือไปหมายหยิบขวดใบหนึ่งมาจากบนนั้น
ถังชิงหรูเห็นเหตุการณ์ก็ปาตะเกียบไปชนขวดใบนั้นจนตกลงมาแตกเป็เสี่ยงๆ
หลีซูขมวดคิ้ว หันมามองถังชิงหรูด้วยสายตาเ็า "เ้าจะทำอันใด"
"ข้าเพิ่งล้างพิษให้ แต่ตอนนี้ท่านจะดื่มพิษเข้าไปอีกแล้ว ทุกสิ่งที่ข้าทำเป็แค่เื่ขบขันหรือไร ท่านเห็นความพยายามของข้าเป็อันใด เห็นร่างกายของตัวเองเป็สิ่งใดไปแล้ว"
หลีซูทำหน้านิ่ง ยิ้มหยันกล่าวว่า "นอกเสียจากขับพิษออกจากร่างกายข้าโดยสมบูรณ์ มิเช่นนั้นข้าก็ต้องกินพิษเป็อาหารไปตลอดชีวิตอย่างนี้แหละ"
"เช่นนั้น ทำไมท่านถึงไม่คิดหาทางแก้เล่า ตอนนี้เพิ่งเริ่มต้นไม่เท่าไรเอง ท่านก็ยอมแพ้เสียแล้วหรือ" ถังชิงหรูเดินเข้ามาหา
นางจับข้อมือััชีพจรของเขา "ดูสิ ชัดเจนอยู่ว่าเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ไฉนจึงไม่รู้จักถนอมร่างกายของตนเองเสียบ้างเลย"
หลีซูมองขวดโอสถที่แตกกระจายบนพื้น คิ้วขมวดเข้าหากัน นึกในใจ ได้จริงหรือ? หากวันนี้ไม่ดื่ม พรุ่งนี้จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้จริงหรือ ตลอดหลายปีมานี้ เขาต้องดื่มยาพิษทุกวันก่อนเข้านอน มิเช่นนั้นก็ไม่อาจสงบใจได้
"วันนี้ข้าจะค้างคืนที่นี่ หากเกิดสิ่งใดผิดปรกติ ข้าจะช่วยท่านอย่างแน่นอน" ถังชิงหรูจ้องเข้าไปในดวงตาของหลีซู
"เพราะเหตุใดเล่า?" หลีซูแค่นเสียงเยาะ "หากเ้าช่วยข้าเพราะทำตามข้อตกลงตอนนั้น ก็ไม่จำเป็ต้องวุ่นวายขนาดนี้ก็ได้ แค่ข้าตายไป เ้าก็หมดปัญหา ถึงอย่างไรคนของเผ่าอิงกูก็ถอนพิษได้หมดแล้วนี่ ข้าไม่มีสิ่งใดจะใช้ขู่บังคับเ้าอีกแล้ว"
"ข้าเป็คนพูดคำไหนคำนั้น อีกอย่าง ร่างกายของท่านอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ ทำให้ข้านึกอยากจะสู้กับ์สักตั้ง หากเขาไม่อยากให้ท่านมีชีวิต ข้าก็จะดันทุรังมิให้ท่านตาย ท่านเองก็รู้วิชาแพทย์ ควรรู้ว่าคนวิปลาสอย่างพวกเรา หากเกิดบ้าขึ้นมา ไม่ว่าอะไรก็รั้งไม่อยู่ทั้งสิ้น" ถังชิงหรูยกมุมปากเผยรอยยิ้มกว้าง