“เปรี้ยง!” แม้เสียงของเย่เฟิงจะไม่ดังมาก แต่กลับเหมือนเสียงฟ้าผ่าที่ดังกึกก้องในหัวของทุกคน
ต่อหน้าเซิ่งจื่อแห่งนิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่ เย่เฟิงกลับกล่าวโดยไร้ซึ่งความเกรงกลัวใด ๆ “เขาจะฆ่าคนที่อยากกำจัดเขาก็เท่านั้น รวมทั้งเซิ่งจื่อแห่งนิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่ด้วย”
เซิ่งจื่อแห่งนิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่้าฆ่าเย่เฟิง เขาเย่เฟิงก็จะฆ่าอีกฝ่ายเช่นกัน ประโยคนี้ช่างห้าวหาญยิ่งนัก ห้าวหาญจนไม่รู้ขอบเขต
อีกฝ่ายเป็ถึงเซิ่งจื่อ ไม่เพียงมีฐานะสูงส่ง แต่พลังยังแกร่งกล้า อยู่จุดสูงสุดของขั้นบ่มเพาะกายา อีกอย่างตอนนี้ข้างกายเซิ่งจื่อยังมีผู้ช่วยอีกหลายคน คนเหล่านี้ล้วนมีลมปราณแข็งแกร่ง เพียงแค่ผู้ฝึกยุทธ์จุดสูงสุดของขั้นบ่มเพาะกายาที่โจมตีหวังิผู้นั้นก็ไม่ใช่คนที่เย่เฟิงจะจัดการได้ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงการฆ่าเซิ่งจื่อแห่งนิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่ นั่นเพราะหากเซิ่งจื่อแห่งนิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่้าฆ่าเย่เฟิงจริง ๆ เขาก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เกรงว่าไม่ต้องลงแรงมากด้วยซ้ำ
ดังนั้นผู้ฝึกยุทธ์นิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่ 3 คนนั้นจึงะเิหัวเราะราวกับได้ยินเื่ที่ตลกขบขันที่สุดในยุทธภพก็ไม่ปาน
“เซิ่งจื่อ ได้โปรดอนุญาตให้ลงมือสังหารเ้าคนโอหังผู้นี้ด้วย” หลังจากหัวเราะอย่างสะใจแล้ว มีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 8 คนหนึ่งหันไปมองเซิ่งจื่อพร้อมโค้งคำนับขออนุญาต
“ไปเถอะ!” เซิ่งจื่อแห่งนิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่โบกมือ ท่าทีเกรงขาม สีหน้าไร้ความผันผวนใด ๆ และดวงตาคู่นั้นยังฉายแววชั่วร้าย
“กล้าล่วงเกินเซิ่งจื่อ เ้าต้องตาย!” ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นเดินไปหาเย่เฟิงพร้อมกล่าวเช่นนั้น และประโยคนี้ราวกับเป็คำตัดสินความเป็ตาย
“ไม่ทราบว่าข้าไปล่วงเกินอะไรหรือ?” เย่เฟิงแสยะยิ้ม “อย่ามาพล่ามไร้สาระ เ้าไม่คู่ควรจะเป็คู่ต่อสู้ของข้าด้วยซ้ำ ไสหัวไปซะ!”
ไป๋หลิงและซุนจิ้งได้ยินเช่นนั้นก็หันไปมองเย่เฟิงด้วยความตกตะลึง พวกนางไม่เข้าใจ เหตุใดเย่เฟิงจึงกล้าอวดดีต่อหน้าเซิ่งจื่อแห่งนิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่ และความอวดดีนั้นก็ไม่ใช่การเสแสร้ง ความไม่ธรรมดานี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 6 ทั่ว ๆ ไปพึงมี
อาจกล่าวได้ว่า ความแข็งแกร่งเช่นนั้นของเย่เฟิงล้ำหน้าความคิดของพวกนางสองคนไปแล้ว
“เ้าว่าอะไรนะ?” ผู้ฝึกยุทธ์นิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่คนนั้นไม่คิดว่าเย่เฟิงจะก้าวร้าวได้ถึงเพียงนี้ เขาจึงเกิดโทสะขึ้นมาทันทีพร้อมกล่าวขึ้น “อยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 6 แต่กล้าโอหังต่อหน้าข้า แค่ข้าโบกสะบัดมือก็ฆ่าเ้าได้แล้ว!”
จากนั้นอีกฝ่ายปลดปล่อยพลังปราณพร้อมถือมีดยาว ก่อนจะตวัดมีดใส่เย่เฟิงด้วยท่าทีคลุ้มคลั่ง ทว่าเย่เฟิงกลับไร้ซึ่งความหวาดผวา เขาสงบนิ่งราวกับภูผาขณะมือถือหอก ก่อนจะปาหอกออกไป รังสีหอกเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็ว ดูแล้วช่างเร็วกว่าตัวหอกมากโข ทั้งยังมีแสงแห่งการทำลายล้างโคจรและแฝงด้วยอำนาจหอก ต่อให้อีกฝ่ายเป็ผู้ฝึกยุทธ์จุดสูงสุดของขั้นบ่มเพาะกายาที่ 8 ก็ต้องตายอยู่ดี ไม่แน่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 9 ก็อาจรับมือกับมันไม่ได้เช่นกัน
“วูบ!” รังสีหอกทะลวงทุกสิ่ง ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นตัวแข็งทื่ออยู่ตรงจุดเดิม ก่อนจะพบว่าหอกเสียบอยู่ที่ลำคอของเขา เืพุ่งกระฉูดเป็น้ำพุ ชีวิตของเขาก็ดับสูญไปในชั่วพริบตา
“ข้าบอกแล้วไง ว่าเ้าไม่คู่ควรเป็คู่ต่อสู้ของข้า” เย่เฟิงกล่าวขณะดึงหอกัเงินประกายออกจากลำคออีกฝ่าย เป็อีกหนึ่งคมหอกที่คร่าชีวิตของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 8
“ตึกตัก!” ไป๋หลิงเห็นฉากนี้ต้องใจเต้นโครมคราม นางไม่รู้ว่าพลังของเย่เฟิงจะแข็งแกร่งถึงระดับไหน แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ของนิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่ก็ยังคงถูกหอกสังหารในพริบตา นางและซุนจิ้งกระทั่งไม่กล้าเชื่อว่าเย่เฟิงอยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 6
“สวะ! ฆ่าคนของนิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่ข้า เ้าต้องตาย!” มีเสียงหนึ่งดังขึ้นฉับพลัน ก่อนจะเห็นฝ่ามือพุ่งมาหาเย่เฟิงจากทิศทางหนึ่ง ฝ่ามือนี้้าปลิดชีวิตเย่เฟิง
“ไปให้พ้น!” แววตาของเย่เฟิงเผยประกายคมกริบ เขาหันไปมองผู้ที่ลอบโจมตีเขาพร้อมกับปลดปล่อยไอสังหาร จากนั้นฝ่ามือภูผาพิฆาตที่ผสานด้วยเอกลักษณ์หอกถูกปล่อยออกไป
“ปัง!” เสียงพลันะเิดังสนั่นหวั่นไหว ฝ่ามือภูผาพิฆาตของเย่เฟิงเข้าปะทะกับฝ่ามือของอีกฝ่าย พร้อมกับมีคลื่นทำลายล้างแพร่กระจายไปทั่วอากาศ
อย่างไรก็ตามฝ่ามือภูผาพิฆาตที่ผสานด้วยเอกลักษณ์หอกมีพลังที่น่าหวาดกลัว สามารถทำลายได้ทุกสิ่ง ฝ่ามือของผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นถูกฝ่ามือภูผาพิฆาตทำลายในชั่วพริบตา จากนั้นฝ่ามือภูผาพิฆาตตรงไปหาผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นต่อ ก่อนจะโจมตีเข้าที่หน้าอก ทำให้อีกฝ่ายกระเด็นปลิว กระดูกแตกหัก เืไหลซึม
ส่วนเย่เฟิงยังคงยืนตระหง่านอยู่ที่เดิม เป็อีกหนึ่งหอกที่คร่าชีวิตของผู้ฝึกยุทธ์นิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่คนที่สองภายในหนึ่งกระบวนท่า!
“นี่...” ไป๋หลิงและซุนจิ้งถึงกับพูดไม่ออก หัวใจสั่นระรัวไม่หยุด
“จำต้องบอกว่าเ้าแข็งแกร่งมาก แต่เ้าฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ของนิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่ไปถึงสองคน เ้าคิดถึงผลที่จะตามมาหรือไม่?” ผู้ฝึกยุทธ์จุดสูงสุดของขั้นบ่มเพาะกายาคนนั้นก้าวออกมาพลางขมวดคิ้ว เขารู้ว่ามีเพียงเขาที่จะพรากชีวิตไปจากเย่เฟิงได้ แต่ลูกมือตายไปสองคน ช่างน่าเสียดายนัก
“เ้าคงไม่ได้เห็นจุดจบของข้าหรอก เพราะว่าเ้าก็ต้องตายเช่นกัน!” เย่เฟิงกล่าวเสียงเย็น
“น่าขัน! ข้าอยากเห็นนักว่าเ้าจะทำให้ข้าตายได้ยังไง!” ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นแสยะยิ้ม เขาคือผู้ฝึกยุทธ์ที่เกือบบรรลุขั้นรวมชี่ มีพลังไม่ธรรมดา การแข่งขันของสำนักในอีกสามเดือน เขาเชื่อมั่นว่าตัวเองจะได้อยู่ในรายนามขั้นบ่มเพาะกายา
“เ้าอยู่แค่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 6 เช่นนั้นข้าจะให้เ้าโจมตีข้าสามกระบวนท่า เมื่อครบ นั่นคือเวลาตายของเ้า!” ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นกล่าวอย่างโอหัง
“ให้ข้าโจมตีสามกระบวนท่างั้นหรือ?” เย่เฟิงแสยะยิ้ม ในเมื่ออีกฝ่ายเชื่อมั่นในตัวเอง เช่นนั้นเขาก็จะไม่เกรงใจ
หอกัเงินประกายปลดปล่อยพลังที่น่ากลัว พลันรังสีหอกทะลวงห้วงอากาศด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ ซึ่งเล็งไปที่ลำคอของผู้ฝึกยุทธ์คนนั้น!
ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นใ ไม่คิดว่าเย่เฟิงจะลงมือได้เด็ดขาดเพียงนี้ อีกอย่างหอกของเย่เฟิงก็ยังรวดเร็วฉับไว แม้จะเป็เขาก็ยังรู้สึกว่ารับมือกับหอกนี้ไม่ทันการณ์แน่นอน เขาหลบการโจมตีนี้ แต่ก็ยังเซถอยหลังไปเล็กน้อย
“หนึ่งกระบวนท่า!” ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นกล่าว คล้ายนับเวลาชีวิตแทนเย่เฟิง เพราะหลังจากสามกระบวนท่านี้เขาก็จะได้ฆ่าเย่เฟิงเสียที
“ฟิ้ว!”
ไม่รอให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัวอย่างมั่นคง กระบวนท่าที่สองของเย่เฟิงก็มาเยือน รังสีหอกทะลวงอากาศมา ทั้งยังอัดแน่นไปด้วยพลังทำลายล้าง มันตรงมายังตำแหน่งหัวใจของผู้ฝึกยุทธ์คนนั้น และหอกนี้ทรงพลังยิ่งกว่าหอกแรกหลายเท่าตัว
“ทักษะหอกนี้ช่างทรงพลังนัก!” ไป๋หลิงที่อยู่ไม่ไกลเห็นฉากนี้ก็อดอุทานด้วยความใไม่ได้ พลังของเย่เฟิงเกินความคาดหมายของนางไปมาก ทักษะหอกที่ทรงอานุภาพเช่นนี้ หวังิและคนอื่นที่ตายด้วยหอกของเย่เฟิงถือว่าสมเหตุสมผลแล้ว!
ต่อหน้ารังสีหอกที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย พลางคิดในใจว่าตัวเองประเมินเย่เฟิงต่ำเกินไป และนึกเสียใจที่ท้าให้เย่เฟิงโจมตีสามกระบวนท่า
“ฟิ้ว!” รังสีหอกทะลวงอากาศมาด้วยความเร็วสูงสุด แต่ผู้ฝึกยุทธ์เบี่ยงตัวหลบเล็กน้อย ส่วนรังสีหอกอันคมกริบกรีดผ่านหน้าอกของเขาจนเป็แผลและมีเืซึมออกมา
“สองกระบวนท่า!” แต่ต่อให้ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นอยู่ในสภาพจนตรอก เขาก็ยังกล่าวเช่นนั้น
กระบวนท่าที่สองของเย่เฟิงเกือบทำร้ายเขา ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นเผยสีหน้าเคร่งขรึมและไม่กล้าดูถูกเย่เฟิงอีก เขามองเย่เฟิงเป็คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
“กระบวนท่าที่สาม เ้ารับให้ได้ล่ะ!” เย่เฟิงกล่าวเสียงเย็น
นาทีต่อมาเห็นพลังประหลาดพวยพุ่งออกจากร่างเขา ก่อนเคล็ดวิชาหอกเงินประกายจะโคจรเองในร่างกาย คล้ายกับมีรังสีหอกมหาศาลโคจรก็ไม่ปาน จากนั้นเห็นเย่เฟิงก้าวออกมา ก่อนจะไปปรากฏตัวที่เบื้องหน้าของผู้ฝึกยุทธ์ในพริบตา
“หอกดุจั!” เย่เฟิงแผดเสียงะโ เคล็ดวิชาหอกเงินประกายระดับหกเทพลังใส่ตัวหอก พร้อมมีอำนาจหอกรายล้อม ก่อนจะปล่อยการโจมตีหอกออกไป เพียงพริบตารังสีหอกก็กลายเป็ัั์ที่แท้จริง มันพุ่งไปหาผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นพลางอ้าปากพร้อมเขมือบกิน
“จะเป็ไปได้ยังไง” ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นเห็นฉากนี้ก็ต้องหน้าถอดสี เขาไม่เคยคิดเลยว่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 6 จะปลดปล่อยพลังโจมตีได้น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้
ใน่เวลาความเป็ความตายเช่นนี้ ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นกลับไร้ซึ่งความมั่นใจและความกล้าหาญ เขาใช้การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดหยุดยั้งการโจมตีของเย่เฟิง ทว่าหอกของเย่เฟิงทรงพลังเกินไป รังสีหอกทะลวงการโจมตีของผู้ฝึกยุทธ์คนนั้น ก่อนจะทะลวงผ่านหน้าอกของเขาด้วยความเร็วแสง อวัยวะภายในถูกทำลายและล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ
บรรยากาศพลันเงียบเชียบ
“ติ๋ง!” เืไหลจากปลายหอกัเงินประกายลงพื้น เสียงนี้ได้ทำลายความเงียบลง
เดิมทีผู้ฝึกยุทธ์นิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่คนนั้นให้เย่เฟิงโจมตีเขาภายในสามกระบวนท่า ทว่าสามกระบวนท่านี้กลับเป็ตัวคร่าชีวิตของเขาแทน
ไป๋หลิงตาเบิกโพลงด้วยความตื่นใ ผู้ฝึกยุทธ์จุดสูงสุดของขั้นบ่มเพาะกายาตกตายภายในสามกระบวนท่า!
นอกจากนี้ในกระบวนท่าที่สาม ผู้ฝึกยุทธ์นิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่คนนั้นได้ละเมิดกฎที่รับปากไว้กับเย่เฟิง นั่นคือใช้การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเองเข้าต่อต้าน แต่ก็ยังไร้ประโยชน์อยู่ดี เขาถูกเย่เฟิงฆ่าตายอย่างน่าอนาถ นี่เป็เื่ที่น่าใอย่างมาก หากไม่เจอกับตัว ไป๋หลิงก็ยากที่จะเชื่อว่านี่เป็เื่จริง
ซุนจิ้งตกตะลึงไม่แพ้กัน เศษสวะที่นางเคยดูถูกกลับเอาชนะผู้ฝึกยุทธ์ของนิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่ได้อย่างง่ายดาย สองศึกแรกฆ่าตายในสองการโจมตี ซึ่งเป็ผู้ฝึกยุทธ์จุดสูงสุดของขั้นบ่มเพาะกายาที่ 8 ทั้งสองคน
ศึกที่สาม ฝ่ายตรงข้ามคือผู้ฝึกยุทธ์จุดสูงสุดของขั้นบ่มเพาะกายา มีพลังแกร่งกล้ากว่าสองคนก่อนหน้าไม่รู้ตั้งเท่าไร และคนผู้นี้ยังโจมตีหวังิจนาเ็สาหัสในหนึ่งการโจมตี เพื่อเป็การแสดงพลังของเขา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้