บทที่ 3 ทะลุมิติ
เมื่อเปลือกตาที่หนักอึ้งราวกับมีแท่งตะกั่วถ่วงไว้ค่อยๆ ปรือขึ้นอย่างยากลำบาก ภาพที่ปรากฏตรงหน้าพร่าเลือน ก่อนจะค่อยๆ ปรับโฟกัสจนชัดเจน ไม่ใช่เพดานสีขาวสะอาดของโรงพยาบาล แต่เป็หลังคาดินเหนียวที่มีใยแมงมุมเกาะอยู่เต็มไปหมด แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านรูโหว่บนหลังคาลงมาเป็ลำ ทำให้เห็นฝุ่นละอองเล็กๆ ลอยคว้างอยู่ในอากาศ เธอพยายามยันตัวลุกขึ้น แต่เรี่ยวแรงกลับไม่มีเลยแม้แต่น้อย ทำได้เพียงขยับศีรษะหันไปรอบๆ
นี่คือห้องเล็กๆ แคบๆ ที่น่าจะเรียกว่ากระท่อมมากกว่าบ้าน ผนังทำจากดินเหนียวที่แตกระแหง มีลมเย็นๆ พัดแทรกเข้ามาตามรอยแยก เฟอร์นิเจอร์หนึ่งเดียวในห้องคือเตียงไม้เก่าๆ ที่เธอ... ไม่สิ ร่างนี้... กำลังนอนอยู่ มันคือแคร่ไม้ที่แข็งกระด้างจนทำให้รู้สึกเจ็บไปทั้งแผ่นหลัง
เกิดอะไรขึ้น? ที่นี่ที่ไหน? ไป่หลิงรู้สึกสับสนอย่างหนัก หัวสมองที่เคยเฉียบคมประมวลผลข้อมูลไม่ทัน ภาพสุดท้ายที่จำได้คือแสงไฟหน้ารถบรรทุก ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลงสู่ความมืดมิด เธอคิดว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว แต่ทำไมถึงรู้สึกเ็ป และได้ยินเสียง?
"พี่ใหญ่... พี่ใหญ่ฟื้นแล้ว!"
เสียงเล็กๆ แหบแห้งดังขึ้นข้างเตียง ไป่หลิงหันไปมองอย่างเชื่องช้า เด็กผู้หญิงตัวเล็กผอมแห้งคนหนึ่งกำลังจ้องมองเธอด้วยดวงตากลมโตที่เบิกกว้างด้วยความดีใจและโล่งอก เด็กคนนั้นสวมเสื้อผ้าปุปะที่เคยเป็สีสดใสแต่บัดนี้ซีดจางและเปรอะเปื้อน ใบหน้าเล็กๆ ซูบตอบจนเห็นโหนกแก้มชัดเจน มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่ยังคงฉายแววสดใส
"พี่ใหญ่! พี่ไม่เป็ไรแล้วใช่ไหม? เหมยเหมยกลัวแทบแย่ พี่สลบไปตั้งสองวันแน่ะ"
เด็กหญิงพูดพลางยื่นมือเล็กๆ ที่สั่นเทามาจับแขนของเธออย่างแ่เบา
พี่ใหญ่? เหมยเหมย? ไป่หลิงตกตะลึงกับคำเรียกขานที่ไม่คุ้นเคยนี้ ความรู้สึกที่เธอน่าจะตายไปแล้วทำให้เธอยิ่งสับสนหนักขึ้น
แล้วความทรงจำที่ไม่ใช่ของเธอเองพลันไหลบ่าเข้ามาในสมองราวกับเขื่อนแตก! ภาพของเด็กสาวชื่อไป่ซินซินวัย 16 ปี ภาพของพ่อแม่ที่ทำงานหนักในคอมมูนประชาชนก่อนจะล้มป่วยและเสียชีวิตไปเมื่อปีก่อน ภาพของญาติฝ่ายพ่อที่ยากจนเกินกว่าจะรับเลี้ยงดูพวกเธอสามคน และภาพของญาติฝ่ายแม่ที่ร่ำรวยกว่า แต่กลับรังเกียจและขับไล่ไสส่งพวกเธอราวกับเป็ตัวเชื้อโรค
และความทรงจำสุดท้ายของไป่ซินซินคนเดิม... การที่เธอเห็นน้องชายคนกลาง ไป่ซาน ล้มป่วยเพราะขาดอาหาร เธอจึงเอาแป้งมันสำปะหลังก้อนสุดท้ายที่มีอยู่ไปแลกไข่ไก่ฟองเล็กๆ จากบ้านเพื่อนบ้าน ระหว่างทางกลับ เธอถูกจางหู่ ลูกชายของน้าสะใภ้ใจร้ายเข้ามาแย่งชิงไข่ไก่ฟองนั้น เธอขัดขืนและถูกผลักจนศีรษะฟาดกับก้อนหินอย่างแรง นั่นคือจุดจบของไป่ซินซิน และคือจุดเริ่มต้นใหม่ของไป่หลิง!
"พี่... พี่ไม่เป็ไร"
ไป่หลิง... ไม่สิ ตอนนี้เธอคือไป่ซินซิน... เอ่ยตอบด้วยเสียงที่แหบพร่าจนแทบไม่ได้ยิน ลำคอของเธอแห้งผากราวกับทะเลทราย
"พี่ซานซาน... ยังไม่ฟื้นเลยค่ะ"
ไป่เหมยตอบเสียงอ่อย น้ำตาคลอหน่วย เสียงเล็กๆ สั่นเครือสะท้อนความสิ้นหวัง
"ตัวเขาร้อนมากเลย ฉันไม่รู้จะทำอย่างไร"
เด็กหญิงพึมพำ น้ำตาเม็ดโตไหลรินอาบแก้มใสที่ซูบผอม แววตาของเธอมองไปยังไป๋ซินซินราวกับขอความช่วยเหลือ เป็ความรู้สึกกดดันบีบคั้นของเด็กน้อยที่ไร้ทางออก ทำให้เธอร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัวและสับสนอย่างที่สุด
ไป่ซินซินฝืนความเ็ปและอ่อนเพลีย ยันตัวลุกขึ้นนั่งจนสำเร็จ เธอกวาดตามองไปอีกมุมหนึ่งของกระท่อม บนกองฟางเก่าๆ มีร่างของเด็กชายวัยประมาณสิบขวบนอนขดตัวอยู่ เนื้อตัวสั่นเทา ริมฝีปากแห้งแตก ใบหน้าแดงก่ำเพราะพิษไข้
"ติ๊ง!" เสียงอิเล็กทรอนิกส์ที่คุ้นเคยดังขึ้นในหัวของเธออีกครั้ง แต่คราวนี้มันมาพร้อมกับภาพ! หน้าต่างโปร่งใสสีฟ้าอ่อนปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ มีเพียงเธอคนเดียวที่มองเห็นมัน บนหน้าต่างนั้นมีข้อมูลปรากฏขึ้นเป็ตัวอักษร
[กำลังสแกนเป้าหมาย: ไป่ซาน] ** [สถานะ: ขาดสารอาหารรุนแรง, ติดเชื้อจากาแ, มีไข้สูง .. [สถานะ: ขาดสารอาหารรุนแรง, ติดเชื้อจากาแ, มีไข้สูง] [วิเคราะห์ข้อมูล... ประเมินผล...] [อัตราการรอดชีวิตปัจจุบัน: 12%] [คำแนะนำของระบบ: ้าการรักษาทางการแพทย์และโภชนาการอย่างเร่งด่วนภายใน 12 ชั่วโมง มิฉะนั้นอัตราการรอดชีวิตจะลดลงเหลือ 0%]
12%! ตัวเลขสีแดงฉานนั้นกระแทกเข้าใส่จิตสำนึกของไป่ซินซินอย่างจัง! มันไม่ใช่แค่ตัวเลขสถิติในรายงานธุรกิจ แต่มันคือความเป็ความตายของเด็กชายคนหนึ่ง... น้องชายของร่างนี้! หัวใจของเธอที่เคยด้านชากับความตายของตัวเอง บัดนี้กลับบีบรัดอย่างรุนแรง ความรู้สึกห่วงใยและเ็ปที่ไม่ใช่ของเธอ แต่เป็ของไป่ซินซินคนเดิมเอ่อล้นขึ้นมาจนจุกอก เธอคือไป่หลิง นักธุรกิจพันล้านผู้ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา และบัดนี้ ในร่างของเด็กสาวบ้านนอกคนนี้ เธอก็จะไม่มีวันยอมแพ้เช่นกัน!
"เหมยเหมย" เธอเรียกน้องสาว เสียงของเธอที่เคยแหบพร่า บัดนี้กลับแฝงไว้ด้วยความเด็ดเดี่ยว
"ไปตักน้ำสะอาดมาให้พี่หน่อย เอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้ซานซาน เราต้องลดไข้ให้เขา"
ไป่เหมยที่กำลังจะร้องไห้ชะงักไปเมื่อเห็นแววตาของพี่สาว มันไม่ใช่แววตาของเด็กสาววัยสิบหกที่สิ้นหวังอีกต่อไป แต่เป็แววตาที่คมกล้า มุ่งมั่น และเปี่ยมไปด้วยอำนาจบางอย่างที่ทำให้เด็กน้อยรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างน่าประหลาด เธอพยักหน้ารับอย่างแข็งขันแล้วรีบวิ่งไปทำตามคำสั่งทันที
ไป่ซินซินพยุงร่างที่ยังโคลงเคลงของตัวเองลุกขึ้นยืน เธอกวาดตามองไปรอบๆ กระท่อมผุพังแห่งนี้อีกครั้งอย่างละเอียดทุกตารางนิ้ว ในฐานะ CEO ที่เคยบริหารองค์กรขนาดใหญ่ การประเมินสถานการณ์และทรัพยากรที่มีอยู่คือสัญชาตญาณแรกของเธอ
ทรัพย์สิน... แทบจะเป็ศูนย์ ตู้ไม้เก่าๆ ว่างเปล่า มีเพียงเสื้อผ้าเก่าขาดไม่กี่ชิ้น โอ่งดินเผาที่มุมห้องมีน้ำเหลือติดก้นโอ่งเพียงเล็กน้อย ในครัวเล็กๆ มีเพียงแป้งมันสำปะหลังหยาบๆ เหลืออยู่ไม่ถึงหนึ่งกำมือ และหัวมันเทศเหี่ยวๆ สองสามหัว นี่ไม่ใช่แค่ความจน แต่มันคือความแร้นแค้นที่พร้อมจะกลืนกินชีวิตของพวกเธอสามคนพี่น้องได้ทุกเมื่อ!
ไป่ซินซินกัดริมฝีปากล่างที่แห้งแตกของตัวเองอย่างครุ่นคิด จากความทรงจำของร่างเดิมทำให้เธอทราบว่าตอนนี้คือปี 1978 และการรักษาทางการแพทย์ในยุคนนี้ ที่หมู่บ้านห่างไกลความเจริญเช่นนี้เป็เื่เพ้อฝัน คลินิกที่ใกล้ที่สุดคือของหมอสมุนไพรเฒ่าในหมู่บ้าน ซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้เงิน และเงินคือสิ่งที่เธอไม่มีเลยแม้แต่เหมาเดียว! แล้วโภชนาการล่ะ? ด้วยมันเทศเหี่ยวๆ กับแป้งหนึ่งกำมือ... มันทำได้แค่ประทังชีวิต ไม่ใช่การฟื้นฟูร่างกาย
ความสิ้นหวังคืบคลานเข้ามาในใจเธออีกครั้ง แต่ก่อนที่มันจะกัดกินจิตใจของเธอจนหมดสิ้น...
"ติ๊ง!" เสียงของระบบดังขึ้นในหัวอีกครั้ง พร้อมกับหน้าต่างโปร่งใสที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า
[ระบบวิเคราะห์ความสำเร็จ กำลังสแกนสภาพแวดล้อมเพื่อค้นหาโอกาส...] [กำลังประมวลผลข้อมูลภูมิประเทศ, สภาพอากาศ, ทรัพยากรชีวภาพในรัศมี 5 กิโลเมตร...]
ดวงตาของไป่ซินซินเบิกกว้าง นี่คืออะไร? ฟังก์ชันค้นหาโอกาสงั้นหรือ? ราวกับมีแผนที่สามมิติปรากฏขึ้นในสมองของเธอ ภาพของหมู่บ้านต้าซาน, แม่น้ำที่ไหลผ่าน, และูเาขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลังกระท่อมของเธอถูกวิเคราะห์อย่างละเอียด จุดสีต่างๆ ปรากฏขึ้นบนแผนที่นั้น... สีแดงคือความเสี่ยง, สีเทาคือไร้มูลค่า, และสีเขียว... คือโอกาส!
และในตอนนี้ มีจุดสีเขียวสว่างวาบโดดเด่นที่สุดอยู่บนูเาหลังบ้าน!
[ตรวจพบโอกาสในการสร้างรายได้!] [วัตถุเป้าหมาย: เห็ดหอมูเา (สายพันธุ์ฤดูใบไม้ผลิ) ] [ตำแหน่ง: ทางลาดชันด้านทิศตะวันตกของูเาหลังหมู่บ้าน บริเวณใต้ต้นโอ๊กโบราณ] [รายละเอียด: เนื่องจากสภาพอากาศที่ชื้นผิดปกติในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เห็ดหอมูเาซึ่งเป็ของป่าหายากและมีราคาสูง งอกงามเป็พิเศษในบริเวณดังกล่าว] [อัตราความสำเร็จในการเก็บเกี่ยว (หากดำเนินการทันที) : 85%] [ความเสี่ยง: สภาพร่างกายของผู้ใช้อ่อนแอ, พื้นที่ลาดชัน, มีโอกาสพบสัตว์ป่าขนาดเล็ก (ไม่เป็อันตรายถึงชีวิต) ] [มูลค่าทางการตลาดโดยประมาณ (ต่อจิน) : 1-1.5 หยวน]
หัวใจของไป่หลิงเต้นรัว! ในยุคที่คนงานในเมืองมีรายได้เพียงเดือนละ 20-30 หยวน เห็ดป่าราคาจินละ 1 หยวนถือเป็ของราคาแพงมหาศาล! นี่ไม่ใช่แค่แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์... แต่มันคือทางด่วนสู่การรอดชีวิต!
"เหมยเหมย!" เธอเรียกน้องสาวที่กำลังใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าผากของพี่ชายอย่างขะมักเขม้น
"ดูแลซานซานให้ดีนะ พี่จะออกไปข้างนอกสักพัก"
"พี่ใหญ่จะไปไหนคะ?" ไป่เหมยถามด้วยความเป็ห่วง
"พี่ก็ยังไม่หายดีเลยนะ"
"พี่ไม่เป็ไรแล้ว" ไป่ซินซินกล่าวอย่างหนักแน่น เธอเดินไปหยิบตะกร้าสานใบเล็กที่ผุพังเกือบเต็มทีและเคียวเก่าๆ ที่ขึ้นสนิมขึ้นมา
"พี่จะไปหาของดีๆ มาทำให้น้องๆ กิน และหาเงินไปซื้อยาให้ซานซาน"
แววตาที่มุ่งมั่นของเธอทำให้ไป่เหมยไม่กล้าทัดทานอีกต่อไป ทำได้เพียงพยักหน้ารับทั้งน้ำตา
"พี่ใหญ่... ต้องรีบกลับมานะคะ พี่ใหญ่อย่าทิ้งเรานะ"
เสียงเล็กๆ สั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัวสุดขีด ใบหน้าเปื้อนน้ำตาเงยขึ้นมองไป๋ซินซิน ราวกับกำลังเกาะเกี่ยวความหวังสุดท้ายไว้ เด็กน้อยจับชายเสื้อของพี่สาวแน่น พยายามรั้งไว้ด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิด หวาดกลัวว่าหากไป๋ซินซินจากไป เธอและน้องชายที่กำลังป่วยหนักจะเหลืออยู่เพียงลำพังในโลกที่โหดร้ายนี้
"แน่นอน" ไป๋ซินซินลูบหัวน้องสาวเบาๆ
"รอพี่นะ" คำพูดที่พยายามจะให้ความมั่นใจนั้นดูเลือนลางในความกลัวที่เกาะกุมจิตใจของไป๋เหมย
****เปิดเื่ใหม่แล้วนะคะ ขอเชิญรีดที่รัก สนุกสนานกับการทะลุมิติของ CEO สาวผู้เก่งกาจจากยุคปัจจุบันได้เลย ****
**** กดหัวใจ คอมเมนต์เพิ่มเข้าชั้น เป็กำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ ****
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้