เหตุไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ทุกคน ณ ที่แห่งนั้นตะลึงค้างไป
จิ่งฝานปกติเป็คนอ่อนโยน นอบน้อม จิตใจกว้างขวาง ต่อให้มีคนล่วงเกินเขา ปกติเขาก็จะแค่ยิ้มนิดๆ แล้วก็แล้วกันไป ไม่เอาเื่เอาความอะไร
แต่ทว่าขณะนี้ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น เอาแค่จิตสังหารแรงกล้าที่แผ่ออกมาจากร่างของจิ่งฝานนั้นก็เป็สิ่งที่พวกเขาไม่เคยพบเจอมาก่อน รู้จักกันมายี่สิบกว่าปี พวกเขากลับไม่เคยรู้เลยว่าจิ่งฝานผู้อ่อนโยนนุ่มนวลดังหยก จะมีด้านแบบนี้อยู่ด้วย
อ๋าวหรานในตอนนี้ถ้าหากว่าล่วงรู้ถึงความคิดของคนเหล่านี้ คงจะต้องถกเถียงกับพวกเขายกใหญ่แน่นอน หัวข้อในการถกเถียงครั้งนี้ก็คือ ตัวเอกที่แต่เดิมสุภาพเรียบร้อยเมื่อเจอกับอ๋าวหราน ทั่วทั้งร่างกลับแผ่จิตสังหารออกมา เป็เพราะเหตุใดกัน?
แต่จะทำอย่างไรได้ตอนนี้เขาเป็ปลาบนเขียง กำลังจะถูกฆ่าอยู่แล้ว ไม่มีเวลาว่างไปคิดเื่ใดทั้งนั้น
ตอนนี้เขารับรู้แต่เพียงว่า ตาของตัวเองใกล้จะทะลักออกจากเบ้าแล้ว มือที่บีบคออยู่นั้นไม่ออมแรงเลยสักนิด
ลำคอถูกกดไว้อย่างแ่า ไม่มีโอกาสจะหายใจได้เลย ราวกับถูกบังคับให้ทำได้เพียงอ้าปาก เปล่งเสียง “โฮโฮ” ออกมา อ๋าวหรานไม่ต้องส่องกระจกดูก็รู้ได้ว่าตอนนี้ตนเองคงจะหน้าแดงหูแดง เส้นเืปูดโปนเป็แน่ เขายื่นมืออกไปหมายจะดึงมือที่บีบคอตนอยู่นั้นให้หลุดออกไปแต่ทว่ามือนั้นกลับติดแน่นอยู่บนคอเขาราวกับตะปู ไม่ขยับแม้เพียงนิด
อ๋าวหรานมองดูดวงตาของตัวเอกที่ปราศจากอารมณ์ความรู้สึกคู่นั้น แววตาคู่นั้นที่ลึกล้ำไม่สั่นไหวเพราะสิ่งใดมันเป็สีดำเข้ม เมื่อมองดูเขาก็ราวกับว่ากำลังมองดูคนตายที่ไร้ชีวิต ลึกลับจนทำให้คนหวาดกลัว นี่ยังใช่ตัวเอกอยู่อีกเหรอ? นี่มันทรราช ฆาตกรฆ่าคนในนิยาย่หลังชัดๆ!
ไม่ต้องคิดอย่างอื่น เอาแค่มองดูดวงตาคู่นั้น อ๋าวหรานก็คิดว่าตัวเองคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยแล้ว ทรมานยิ่งนัก!
แต่โชคยังดีที่อ๋าวหรานมีผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขาไว้อยู่ รักษาชีวิตเขาไว้อย่างยากลำบากจะปล่อยให้เขาตายเปล่าโดยไม่รู้เื่อะไรเช่นนี้ได้อย่างไร?
ดังนั้นตอนที่จิ่งเซียงพุ่งเข้ามาตรงหน้าของพวกเขานั้นอ๋าวหรานจึงรู้สึกซาบซึ้งใจจนน้ำตาแทบจะร่วงลงมาอยู่แล้ว ช่วยข้าที!
“ท่านพี่ ท่านกับอ๋าวหรานมีเื่เข้าใจผิดอะไรกันหรือ? ท่านปล่อยเขาก่อน เรามาพูดกันให้ชัดเจน ถ้าหากว่าเขามีความผิดจริงค่อยฆ่าก็ยังไม่สาย? ”
…...
เหนื่อยใจจริง
ยังดีที่จิ่งฝานยังฟังคำพูดของจิ่งเซียงอยู่ อ๋าวหรานรู้สึกว่าแรงที่บีบคอเขาอยู่นั้นค่อยๆ คลายลง เพราะกลัวว่าจะถูกบีบคอซ้ำอ๋าวหรานจึงใช้พลังเฮือกสุดท้ายหลีกหนีออกจากจิ่งฝานถอยหลังไปสองก้าวซวนเซล้มลงไปบนพื้น อ๋าวหรานฟุบทิ้งตัวลง ลำคอปวดแสบปวดร้อนขนาดหายใจยังเจ็บ แต่อ๋าวหรานในตอนนี้กลับไม่อาจไม่อ้าปากหอบหายใจ เ็ปแค่ไหนคงพอจินตนาการได้
“ อ๋าวหราน เ้าเป็เช่นไรบ้าง?”
อ๋าวหรานผู้ซึ่งยังพูดไม่ได้ ได้แต่สั่นศีรษะสื่อความหมาย เด็กสาวคนนี้ช่วยชีวิตเขาไว้อีกแล้ว
“ ท่านพี่ ท่านรู้จักอ๋าวหรานหรือ? เขา...ทำอะไร? ”
จิ่งเซียงแปลกใจมาก่เวลานับเดือนที่ได้รู้จักคุ้นเคยกับอ๋าวหรานทำให้นางรู้ชัดอย่างแน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนชั่วหรือคนโหดร้าย นางถึงขนาดมองออกด้วยว่าจริงๆ แล้วอ๋าวหรานเป็คนที่ยืนหยัดในความดี ให้ความสำคัญและรักพวกพ้อง นางไม่เชื่อว่าอ๋าวหรานจะสามารถทำเื่ชั่วช้าเลวทรามใดๆ ได้ แต่พี่ชายของนางก็ไม่ใช่พวกที่จะฆ่าคนบริสุทธิ์ตามอำเภอใจเช่นกัน
เพราะอย่างนั้นจิ่งเซียงจึงกลัวมากด้านหนึ่งก็คือพี่ชายแท้ๆ ด้านหนึ่งคืออ๋าวหรานที่ตลอดหนึ่งเดือนมานี้อยู่ด้วยกันเข้ากันได้ดี นางกลัวจริงๆ ว่าด้านดีๆ ของอ๋าวหรานที่นางรู้จักนั้นจะเป็ของปลอม
ตัวเอกราวกับกลับเป็ปกติ จิตสังหารบนร่างก็หายไปอย่างรวดเร็ว เคียงคอถามว่า “ เขาชื่ออ๋าวหราน? มาทำอะไรที่บ้านของเรา? ”
นี่คือครั้งแรกหลังจากการพบเจออันยาวนานที่อ๋าวหรานได้ยินตัวเอกพูด เป็เสียงแหบต่ำที่แสนดึงดูด
“อ๋าวหรานคือคนที่ข้าพบเข้าระหว่างทางกลับจากการลงเขาไปเที่ยวเล่น ข้าพบเขานอนเืท่วมตัวอยู่หน้าหมู่บ้านเรา ตอนนั้นเขาใกล้จะหมดลมแล้ว ข้าก็เลยช่วยเขาไว้ บิดาของเขาคือหัวหน้าหมู่บ้านสกุลอ๋าว ไม่รู้ว่าท่านพี่ได้ยินข่าวแล้วหรือยัง ตระกูลอ๋าวถูกฆ่าล้างตระกูลไปแล้ว เขาเป็คนเดียวที่รอดมาได้ น่าสงสารมาก”
ได้ยินคำพูดของจิ่งเซียงที่สื่อความหมาย้าปกป้องเขา อ๋าวรู้สึกซาบซึ้งจากใจจริง
“ เ้าเป็คนจากหมู่บ้านสลุลอ๋าว? ”
“ ท่านพี่ ตกลงว่าท่านรู้จักเขาหรือไม่รู้จักกันแน่? ”
ตอนนี้อ๋าวหรานก็สับสนเช่นกัน ท่าทางและน้ำเสียงของตัวเอกบอกอย่างชัดเจนว่าไม่รู้จักตัวเขา ถ้าอย่างนั้นท่าทางที่เมื่อเจอกันครั้งแรกก็อยากจะฆ่าเขาให้ตายนั่นมันคืออะไรกัน?
“ท่านพี่ ตกลงมันเื่อะไรกัน? ”
ตอนนี้แม้แต่จิ่งเซียงก็ร้อนรนแล้ว
“ เหมือนข้าจะจำคนผิดเสียแล้ว ” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด อีกทั้งยังไม่แหบต่ำเหมือนอย่างตอนแรกแล้ว เป็เสียงที่อ่อนโยนกังวานใสราวกับหยก
มองเห็นตัวเอกเดินเข้ามาคุกเข่าอยู่ด้านหน้าของตนเอง ทว่าอ๋าวหรานที่ยังใไม่หายจนไม่สนภาพลักษณ์ใดๆ ก้นติดกับพื้นเขยิบถูไถไปด้านหลัง
จิ่งฝานเองก็เหมือนจะรู้สึกขัดเขิน รู้สึกผิดอย่างยิ่งจึงพูดว่า “คุณชายอ๋าว ขออภัยอย่างยิ่ง เมื่อสักครู่ข้าจำท่านผิดเป็ผู้อื่น ไม่ทันทบทวนให้ดีก็ลงมือกับท่านรุนแรงเกือบถึงตาย ขออภัยจริงๆ ” แววตาคู่นั้นอบอุ่นสว่างไสว ไม่เหมือนเมื่อครู่ที่มืดหม่นทำให้คนสั่นสะท้าน
ตัวเอกตอนนี้กับตอนก่อนหน้าราวกับเป็คนละคนกัน อ๋าวหรานถึงกับสงสัยด้วยซ้ำว่าเมื่อสักครู่เป็เพียงแค่ภาพลวงตา คนที่อ่อนโยนราวกับหยกเช่นนี้จะมีแววตาเหมือนเมื่อครู่ได้อย่างไร?
“ท่านพี่ ตกลงมันเื่อะไรกันแน่? เมื่อครู่ท่านทำข้าใแทบตาย”
“ขอโทษนะเซียงเซียง เป็ความผิดของพี่เอง พวกพี่ออกเดินทางไปครั้งนี้ได้พบกับกลุ่มคนสวมหน้ากาก พวกนั้นลงมืออย่างโหดร้ายกับชาวบ้านทั่วไปที่ไร้ทางสู้ เป็การกระทำที่ยากเกินจะรับได้ พวกเราเข้าไปช่วยเหลือถึงจะทำให้พวกมันถอยร่นไปได้ พี่ไล่ตามคนสวมหน้ากากคนหนึ่งไป แล้วดึงหน้ากากของมันออก คนผู้นั้นหน้าคล้ายกับคุณชายอ๋าวเป็อย่างมาก เมื่อสักครู่เห็นหน้าคุณชายอ๋าวเข้าใจว่ามันหนีมาถึงที่นี่ จึงได้กระทำการเช่นนั้นลงไป ต่อมาได้ยินเ้าเรียกเขาว่าอ๋าวหราน ถึงได้รู้ว่าเขาเป็นายน้อยของหัวหน้าหมู่บ้านสกุลอ๋าว ตอนนั้นหมู่บ้านสกุลอ๋าวกำลังเผชิญหน้ากับเหตุร้ายจริงๆ ขออภัยเป็อย่างยิ่ง เป็ข้าที่สะเพร่าบ้าบิ่น คุณชายอ๋าว จิ่งฝานขออภัย ” พูดจบก็โค้งคำนับแก่อ๋าวหราน
อ๋าวหรานสับสนแล้ว ตอนแรกที่จิ่งฝาน้าจะฆ่าเขานั้น จิตสังหารนั้นราวกับว่า เขากับจิ่งฝานมีความแค้นฆ่าบิดาหรือฆ่าล้างตระกูลต่อกันอยู่ ตอนนี้กลับมาบอกว่าจำคนผิด แล้วยังโกรธแค้นแผ่จิตสังหารออกมาเพื่อคนที่ตนไม่รู้จักด้วยซ้ำ ตัวเอกใน่แรกเป็คนดีถึงขนาดนี้เชียว?
แต่เมื่อจิ่งฝานพูดจบ ลูกหลานตระกูลจิ่งทางด้านหลังก็ทยอยตอบรับว่ามีเื่เช่นนี้เกิดขึ้นจริง ดูแล้วตัวเอกคงจะไม่ได้โกหก แต่ในต้นฉบับไม่มีเื่เช่นนี้เกิดขึ้นเสียหน่อย เื่พวกนี้มันโผล่มาจากไหนกัน? หรือว่าที่ระบบบอกว่าพลังชีวิตของตัวเอกหายไป่หนึ่งก็เป็เพราะเหตุการณ์นี้?
เมื่อเห็นว่าอ๋าวหรานไม่พูดอะไรเลย จิ่งเซียงก็รู้สึกร้อนรนขึ้นมา อ๋าวหรานไม่ใช่คนไม่ดีและการที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับพี่ชาย ถือเป็เื่ดีอย่างยิ่ง แต่ถ้าหากว่าอ๋าวหรานเกลียดพี่ชายขึ้นมา จิ่งเซียงคงจะรู้สึกเสียใจ นางไม่อยากให้คนทั้งสองคนมีช่องว่างระหว่างกัน
“ อ๋าวหรานขอโทษนะ เป็เพราะพี่ชายข้าไม่ดูให้ดีเอง เ้าอย่าโกรธเลยนะ”
อ๋าวหรานดึงสติกลับมา เห็นจิ่งเซียงดวงตาชื้นรื้นน้ำตา จู่ๆ ก็รู้สึกสงสารขึ้นมา
อ๋าวหรานที่รู้สึกขายหน้าเล็กน้อย รีบพูดว่าไม่เป็ไรๆ ด้วยน้ำเสียงแหบต่ำ เป็แค่ความเข้าใจผิดเท่านั้น เขาไม่ติดใจอะไร
เมื่ออ๋าวหรานพูดจบดวงหน้างดงามทั้งสองก็ยิ้มออกมา ทำให้อ๋าวหรานสักพักตะลึงค้างมองคนนั้น สักพักก็ตะลึงค้างมองคนนี้ จะโทษว่าอ๋าวหรานไม่หนักแน่นไม่ได้หรอก ต้องโทษเพื่อนของเขาที่บรรยายรูปลักษณ์ของสองคนนี้ออกมาได้ดีเกินไป ต่อให้จะเป็คนที่หนักแน่นสักแค่ไหนก็คงรับไม่ไหวหรอก
“ คุณชายอ๋าวาเ็สาหัส ดูแล้วเหมือนจะยังไม่หายดี ข้าน้อยเมื่อสักครู่ก็เพิ่งจะทำร้ายท่านไป ไม่สามารถปัดความรับผิดชอบได้ จิ่งฝานจะรับผิดชอบท่านจนถึงที่สุด คุณชายอ๋าว ท่านพักรักษาตัวอยู่ที่หมู่บ้านสกุลจิ่งนี้อย่างสบายใจเถิด”
รับผิดชอบบ้าอะไรกัน?
เวรเอ้ย เ้าตัวเอกนี่แกทำอะไร?
“ คุณชายอ๋าวอย่าขยับ เกรงว่าท่านคงไม่มีแรงลุกขึ้นมา ให้ข้าอุ้มท่านไปก่อนเถอะ ล่วงเกินแล้ว ”
“ ไม่ต้อง ไม่ต้อง ข้าขี่ม้าเอาก็ได้”
อุ้มท่าเ้าหญิงมันทำลายภาพลักษณ์อันน่าเกรงขามของชายชาตรีนะ!
“คุณชายอ๋าวขี่ม้าตัวเดียวกับข้าน้อยไปก่อนเถิด”
อ๋าวหรานอยากปฏิเสธ
แต่เขาไม่มีแรงจะดึงดันแล้วจริงๆ และเมื่อมองเห็นสีหน้ารู้สึกผิดของตัวเอก อ๋าวหรานก็คิดว่าปล่อยเขาดึงดันทำไปก็แล้วกัน