“ได้สิ คุณต้องได้พบเขาแน่นอน”
หลิวเทียนเฉวียนจ้องหน้าเซี่ยเสี่ยวหลานอยู่นานพอสมควร
หน้าตาสะสวย ไม่แปลกที่นายกเทศมนตรีทังจะไม่ชายตาแลคนอื่น และเปิดไฟเขียวให้เธอตลอดเวลา
สมองของเธอก็ฉลาดเฉลียวกว่าผู้หญิงทั่วไป มิเช่นนั้นคงสอบเข้ามหาวิทยาลัยดังของแผ่นดินใหญ่ไม่ได้
แต่คงเพราะถูกคนยกยอมากเกินไป เมื่อทำอะไรถึงได้โอหังเช่นนี้
หลิวเทียนเฉวียนี้เีต่อปากต่อคำกับเซี่ยเสี่ยวหลาน เนื่องจากสิ่งที่เขาทุ่มเทมานานหลายเดือนไม่บรรลุเป้าหมาย เถ้าแก่หลิวย่อมรู้สึกโกรธเป็ธรรมดา
ชายอ้วนเปลี่ยนสีหน้าอย่างกะทันหัน หลิวเทียนเฉวียนมีวันนี้ได้ แน่นอนว่านิสัยของเขาย่อมไม่นุ่มนวล
พานซานขมวดคิ้ว เถ้าแก่จากฮ่องกงพูดจากับแฟนโจวเฉิงเช่นนี้เหมือนจะกร่างไปหน่อยหรือเปล่า เซี่ยเสี่ยวหลานส่ายหน้าให้เขา ก่อนจะหยิบสัญญาขึ้นมาจากโต๊ะ “ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอคนมาจัดการเื่สัญญาฉบับนี้ถึงที่นะคะ ไม่ทราบว่าตอนเซียงมี่หูตกลงมอบงานให้กับบริษัทเทียนเฉิน ทางเซียงมี่หูได้ยินยอมให้เทียนเฉินแบ่งงานรับเหมาให้กับผู้อื่นหรือเปล่า”
นึกไม่เลยว่า สุดท้ายก็ต้องแตกหักกันจนได้
ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีทางเสียใจภายหลัง หลิวเทียนเฉวียนเป็พวกเ้าเล่ห์เพทุบาย ลุงของเธอไม่มีทางสู้เขาไหวแน่นอน
อยู่ให้ห่างจากหลิวเทียนเฉวียน ไม่เพียงสามารถหลีกหนีการล่อลวงทางธุรกิจ เื่วุ่นวายอย่างเด็กนั่งดริงก์ก็จะไม่เกิดขึ้นอีก ในเมื่อหลิวหย่งตัดสินใจแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานก็สนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ เธอเองก็เห็นด้วยกับสิ่งที่พานซานกล่าว เื่วัสดุก่อสร้างหากจัดการได้ก็ควรจัดการ ถ้าหลิวเทียนเฉวียนไม่้า หย่วนฮุยก็สามารถนำไปเทขายราคาถูกได้
วัสดุก่อสร้างมีมูลค่าเท่าไร?
หลายอย่างคือสินค้าที่ร้านขายวัสดุตกแต่งภายในหย่วนฮุย
มีเงินเพียงก้อนเดียวที่คงไม่สามารถนำกลับคืนมาได้ ก็คือเงินค่ามัดจำตอนเซ็นสัญญามูลค่าสี่หมื่นหยวน
เงินก้อนนี้มอบให้กับบริษัทที่เซ็นสัญญากับหย่วนฮุยอย่าง ‘เทียนเฉิน (天辰)’ หากหลิวเทียนเฉวียน้าโกงเงินก้อนนี้ แน่นอนว่าเซี่ยเสี่ยวหลานคงขอเงินคืนจาก ‘เทียนเฉิน (天辰)’ ไม่ได้
เซี่ยเสี่ยวหลานกับหลิวหย่งขอตัวกลับก่อน
พานซานจงใจเดินรั้งท้าย รอยแผลเป็ที่เปลือกตาขวาของเขาขยับเล็กน้อย
“เถ้าแก่หลิว คุณฟอกขาวตัวเองเป็นักธุรกิจชาวฮ่องกงเชิดหน้าชูตาที่เผิงเฉิง คิดว่าไม่มีใครรู้สิ่งที่คุณเคยทำไว้ที่มณฑลิ่หรืออย่างไร ที่นี่ไม่ใช่ฮ่องกง ดังนั้นผมขอเตือนไว้ก่อน แม้แต่ัก็ยังไม่กล้ากดขี่งูเ้าถิ่นเลย คุณคงคิดว่าตัวเองเก่งกาจพอที่จะรังแกเถ้าแก่ตัวเล็กๆ ในท้องถิ่นได้สินะ แต่ไม่รู้เลยว่า...หึหึ”
แค่เงินไม่กี่หมื่นหยวน ใครจะอยากเสียเวลาคุยกับหลิวเทียนเฉวียนกัน
พานซานมาเผิงเฉิงคราวนี้ก็เพราะไม่้าให้หลิวเทียนเฉวียนแค้นฝังหุ่น และพยายามหาทางกลั่นแกล้งหลิวหย่งในอนาคต
ใบหน้าของหลิวเทียนเฉวียนกระตุกเล็กน้อย เขาอดจ้องหน้าพานซานไม่ได้
ตอนแรกเขานึกว่าพานซานเป็คนติดตามธรรมดาๆ ของเซี่ยเสี่ยวหลานเสียอีก
ก็เหมือนกับหลี่ต้งเหลียงและเก่อเจี้ยนที่คอยติดตามหลิวหย่ง พวกเขาเก่งกาจก็จริง แต่กฎหมายในแผ่นดินใหญ่นั้นเข้มงวดมาก หลิวเทียนเฉวียนมีอภิสิทธิ์จากการเป็นักธุรกิจชาวฮ่องกงที่มาลงทุนในเผิงเฉิง ดังนั้นเขาย่อมไม่กลัวว่าคนติดตามข้างกายหลิวหย่งจะลงมือกับเขา
แต่คนติดตามไม่ควรรู้เื่ธุรกิจที่เขาทำที่มณฑลมณฑลิ่ไม่ใช่หรือ
หลิวเทียนเฉวียนยังคงใและสงสัย ทว่าพานซานกลับเดินจากไปแล้ว
ผ่านไปครู่ใหญ่ หลิวเทียนเฉวียนถึงเรียกฝานอวี่ให้เข้ามา
“เล่าให้ฉันฟังสิ ผู้ชายของเซี่ยเสี่ยวหลานเป็คนแบบไหน”
ฝานอวี่ไม่รู้รายละเอียดมากนัก
เธอรู้เพียงว่าที่ฝานเจิ้นชวนถูกจับเป็เพราะเขา้าแต่งงานกับเซี่ยเสี่ยวหลาน แต่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ยินยอม ดังนั้นคู่ครองของเซี่ยเสี่ยวหลานจึงมาเอาเื่ ฝานเจิ้นชวนจึงถึงคราวเคราะห์!
ส่วนที่ว่าคู่ครองของเซี่ยเสี่ยวหลานทำได้อย่างไรนั้น คนระดับฝานอวี่คงไม่อาจเข้าใจได้ แม้เธอจะเป็คนรักของฝานเจิ้นชวนมานานหลายปี แต่ฝานเจิ้นชวนคือผู้ซึ่งทะนงในศักดิ์ศรี มีหรือจะเล่าเื่งานให้ของเล่นแก้เบื่อคนหนึ่งฟัง
“ว่ากันว่าคู่ครองของเธอคือ...”
มืออวบอ้วนของหลิวเทียนเฉวียนประสานเข้าด้วยกัน
—-----------------------------------------
“ลุงคะ ลุงต้องทำใจด้วยนะว่าเงินก้อนนี้คงเอากลับคืนมาไม่ได้อีกแล้ว”
ที่เอากลับมาไม่ได้คงไม่มากถึงเก้าหมื่น แม้หลิวหย่งจะรู้สึกเสียดายก็จริง แต่เื่นี้มอบบทเรียนให้กับเขายิ่งนัก ที่จริงเขารู้สึกโล่งอกเสียด้วยซ้ำ แตกหักกับหลิวเทียนเฉวียนตอนนี้ก็ดีเหมือนกัน ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องไปคุยงานที่ห้องเต้นรำอีก สถานที่แบบนั้นหลิวหย่งเองก็ไม่ค่อยชอบนัก
ไปบ่อยครั้งเข้าจิตใจมนุษย์ย่อมฟุ้งซ่าน ขาดสมาธิในการเรียนรู้งาน ขาดสมาธิในการทุ่มเทให้ธุรกิจ
วันๆ ขลุกอยู่กับเถ้าแก่ใหญ่ผู้ร่ำรวยหลายสิบล้าน มีหรือจะปรายตามองธุรกิจเล็กๆ ที่ทำเงินแค่หลักร้อยหลักพัน
หลิวหย่งเสียเงินโดยเปล่าไปหลายหมื่นหยวน แต่กลับรู้สึกโล่งไปทั้งตัว “ลุงเตรียมใจไว้แล้วล่ะ จากนี้ลุงจะทำงานให้หนักขึ้น ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกสามสี่เดือนก่อนขึ้นปีใหม่ ลุงจะพยายามหาเงินกลับคืนมาให้ได้”
เขาไม่มีทางปล่อยให้เงินสูญเปล่าไปได้จริงๆ
แต่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้พูดเื่นี้ต่อ เธอหยุดคิดเล็กน้อย สุดท้ายก็ตัดสินใจถามหลิวหย่ง
“ลุงจะสารภาพกับป้าไหม ทั้งเื่ขาดทุนคราวนี้กับเื่เด็กนั่งดริงก์คนนั้น ฉันกลัวว่าถ้าป้าไปได้ยินจากปากคนอื่นแล้วจะไม่เป็ผลดีกับลุงเท่าไร”
หลี่เฟิ่งเหมยยังอยู่ที่เผิงเฉิง
แม้พรุ่งนี้เธอจะเดินทางกลับแล้ว แต่ในอนาคตก็มีโอกาสกลับมาที่เผิงเฉิงอยู่ดี หากหลิวเทียนเฉวียน้าปลุกปั่น โดยเอาเื่เด็กนั่งดริงก์ออกมาพูดอีกครั้งจะทำอย่างไร เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าเทียบกับการปล่อยให้หลิวเทียนเฉวียนกุเื่เหลวไหลขึ้นมา สู้ให้ลุงเธอสารภาพเองเสียดีกว่า อำนาจการคุมเกมอยู่ในมือ เพียงอธิบายให้ป้าสะใภ้หลี่เฟิ่งเหมยเข้าใจ แสดงท่าทียอมรับผิด จะได้หลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
หลิวหย่งรู้สึกเข่าอ่อนขึ้นมาทันที
แม้จะไม่ได้ทำเื่ที่ผิดต่อภรรยา แต่การไปห้องเต้นรำก็ทำให้เขารู้สึกใจหวิวขึ้นมายิ่งกว่าเดิม!
ใจหวิวยิ่งกว่าขาดทุนหลายหมื่นหยวนเสียอีก
หลิวหย่งจนปัญญา หลังกลับไปบ้านพักเขาจึงกลั้นใจสารภาพผิดทันที
ป้าสะใภ้จะโมโหหรือเปล่าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่อาจรู้ได้ แต่ตอนตีสามเธอถูกหลิวเฟินปลุกขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ
“ทำไมแม่ได้ยินเสียงลุงของลูกทะเลาะกับป้าล่ะ”
ห้องพักในบ้านพักรับรองเก็บเสียงไม่ค่อยดีนัก หากหน้าต่างปิดไม่สนิทย่อมได้ยินเสียงจากห้องข้างๆ อย่างแน่นอน
มีทั้งเสียงสะอื้น เสียงก่นด่า และเสียงร้องไห้
เซี่ยเสี่ยวหลานฟังแล้วไม่เหมือนทั้งคู่กำลังทะเลาะกัน แต่เหมือนป้าสะใภ้กำลังต่อว่าลุงเธอฝ่ายเดียวมากกว่า ก็สมควรแล้ว ถ้าไม่สงสารคนอื่นส่งเดชก็คงไม่ต้องมารับกรรมเช่นนี้
“คงเพราะเื่ซื้อเรือนสี่ประสานที่ปักกิ่งมั้งคะ ถูกป้าสะใภ้เอ็ดหน่อยลุงคงไม่เป็ไร แม่นอนเถอะ ทำเป็ไม่ได้ยินเสีย ลุงจะได้ไม่รู้สึกขายหน้า”
หลิวเฟินเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
เื่เรือนสี่ประสานที่ปักกิ่งยังมีอะไรต้องทะเลาะกันอีก ทั้งคู่คืนดีกันแล้วมิใช่หรือ
เช้าวันรุ่งขึ้น หลิวหย่งสั่งงานหลี่ต้งเหลียงกับเก่อเจี้ยนด้วยดวงตาดำคล้ำ
“เดี๋ยวพวกนายไปกับฉัน พาพวกคนงานไปด้วยจำนวนหนึ่ง เราจะไปขนวัสดุก่อสร้างที่เซียงมี่หูกลับมา ั้แ่วันนี้เป็ต้นไปงานที่เซียงมี่หูเป็อันยกเลิก!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้