ภายในห้องทดลองลับของกู่เทียน ทุกอย่างเงียบสงัดลงหลังจากที่ทั้งสามคนได้กลืนใบไม้แห่งจิติญญาลงไป พลังิญญาอ่อนๆ ที่เคยโอบล้อมพวกเขาค่อยๆ จางหายไป ทิ้งไว้เพียงััที่สงบนิ่งลึกซึ้ง เป็สัญญาณว่าั้แ่นี้เป็ต้นไป พวกเขาจะสามารถป้องกันการถูกค้นหาจิติญญาหรือสอดแนมจากผู้มีพลังสูงได้บ้าง แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้กล่าวอะไร กู่เทียนก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่เต็มไปด้วยความแน่วแน่
"สิ่งต่อไปเพื่อรับประกันความปลอดภัยและชีวิตของทุกคน..."
กู่เทียนชี้ไปที่ก้อนหินสีแดงเข้มที่ดูแปลกประหลาดบนเตียง หินเ่าั้เปล่งแสงริบหรี่เล็กน้อยราวกับมีชีวิต ก่อนจะพูดขึ้น "นี่คือ หินเืแห่งความเป็นิรันดร์"
ทั้งสามคนที่ได้ยินชื่อของมันก็รู้สึกงงในทันทีเพราะพวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อมันมาก่อนเลยแต่ว่ามันต้องไม่ใช่ของธรรมดาแน่ๆ
กู่เทียนเริ่มอธิบายเกี่ยวกับหินนั้นทันที "คุณสมบัติของมันคือ หินหนึ่งก้อนสามารถให้ชีวิตที่สองแก่มนุษย์ได้ ไม่ว่าเราจะถูกสังหาร ตายจากโรคประหลาด พิษ หรืออื่นๆ ตราบใดที่หินเืแห่งความเป็นิรันดร์ที่มีเืของเรายังคงอยู่ เราจะสามารถฟื้นคืนกลับมาอย่างสมบูรณ์ ยกเว้นว่าตายจากการหมดสิ้นอายุขัย ส่วนวิธีใช้งานคือการนำเืของตัวเองไปแตะที่หินเืแห่งความเป็นิรันดร์ แต่..."
กู่เทียนหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ "มันมีข้อเสียอยู่บ้าง หลังจากเราตายแล้วเกิดใหม่โดยหินเืแห่งความเป็นิรันดร์ ภายใน 120 วันแรกหลัง เราจะกลายเป็มนุษย์ธรรมดา ไร้เรี่ยวแรง และต้องนอนติดเตียง พลังทั้งหมด รวมถึงสัตว์ร้ายจะถูกผนึกไว้ แต่หลังจากครบกำหนด 120 วัน ระดับพลัง และสัตว์ร้ายของเราจะกลับมาเป็เหมือนเดิม แต่ด้วยความช่วยเหลือจากต้นสนพันปีและอุปกรณ์การแผนมากมายตามหลักการคำนวณมันจะช่วยลดให้เหลือประมาณ 30 วันครับ นี้คือจำนวนสูงสุดเท่าที่ลดได้แล้ว ณ ปัจจุบัน"
ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งห้องไปชั่วขณะ กู่หลง กวงเยว่ และกู่โม่ต่างตกตะลึงจนแทบพูดไม่ออก
กู่หลงเป็คนแรกที่เอ่ยปาก "ลูก... ไปได้ของแบบนี้มาจากไหนกัน?"
กู่เทียนหัวเราะเบาๆ ก่อนจะตอบกลับ "ผมทดลองสร้างมันขึ้นมานะครับ"
"หา?" กวงเยว่ขมวดคิ้ว
กู่โม่เองก็มองหลานชายด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ "หลานบอกว่าหลานเป็คน สร้างมันขึ้นมาเอง อย่างงั้นเหรอ?"
กู่เทียนพยักหน้า "ใช่ครับ ผมกลัวตายนะ และผม้าสิ่งที่จะรับประกันชีวิตของผมเองให้ได้"
กู่เทียนมองไปที่หินเืห้าก้อนที่วางอยู่ตรงหน้า "เนื่องจากส่วนผสมมันหายากมาก และผมต้องทดลองล้มเหลวไปหลายพันครั้ง วัตถุดิบบางอย่างที่ผมใช้ก็ได้ หายไปจากโลกนี้ตลอดกาลแล้ว ดังนั้นตอนนี้ผมเลยมีมันแค่ ห้าก้อน เท่านั้น"
ทั้งสามคนจ้องมองหินเืตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ ในใจของพวกเขาตอนนี้มีคำถามมากมายเกิดขึ้น
นี่ลูกชายของพวกเขายังมีขีดจำกัดอยู่อีกหรือเปล่า?
สิ่งที่พวกเขารู้เกี่ยวกับกู่เทียน บางทีอาจเป็แค่เพียงยอดของูเาน้ำแข็งหรือส่วนตรงกลางเท่านั้นหรือเปล่า
กู่เทียนมองพวกเขาก่อนจะพูดขึ้น "เื่นั้นช่างมันก่อน เรามาทำประกันชีวิตชั้น 1 กันก่อนดีกว่า"
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังคงมีคำถามมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก กู่หลงเป็คนแรกที่กัดนิ้วตัวเองก่อนจะยื่นมือไปแตะที่ หินเืแห่งความเป็นิรันดร์
ทันทีที่หยดเืหยดแรกัักับหิน มันเปล่งแสงสีแดงออกมา และคลื่นพลังบางอย่างก็เริ่มแผ่ออกมาจากร่างกู่หลง
กวงเยว่และกู่โม่เห็นแบบนั้นก็ไม่รอช้า ทั้งคู่กัดนิ้วตัวเองแล้วแตะหินเืแห่งความเป็นิรันดร์เช่นกัน
ทันใดนั้น หินเืแต่ละก้อนก็ส่องแสงสว่างสีแดงขึ้นมา และไหลเวียนพลังงานเข้าสู่ร่างของพวกเขา
พวกเขารู้สึกได้ถึงพลังบางอย่างที่ซึมลึกเข้าไปในร่างกาย เสมือนมีเกราะคุ้มกันที่มองไม่เห็นเข้ามาปกป้องชีวิตของพวกเขา
กู่เทียนมองดูปฏิกิริยาของทั้งสามคนก่อนจะพยักหน้า "แบบนี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว"
กู่โม่ที่ยังคงรู้สึกถึงพลังงานแปลกๆ ในร่างของตัวเองพูดขึ้น "มันรู้สึก... แปลกๆ แฮะ เหมือนกับมีอะไรบางอย่างฝังอยู่ในร่างเราตลอดเวลาเลย"
กวงเยว่เองก็ััได้ "ใช่ เหมือนมีอะไรอยู่ในร่างกายของเราอยู่ตลอดเวลา"
กู่เทียนยิ้มเล็กน้อย "ผ่านไปสักพัก พวกเราก็จะไม่รู้สึกถึงมันเองครับ แต่ถ้าวันหนึ่งพวกเราตายไป มันจะเริ่มทำงานทันที แล้วพวกเราจะกลับมามีชีวิตเกิดใหม่ที่ก้อนหินเ่าั้"
หลังจากที่ทุกคนได้รับ ประกันภัยชั้นหนึ่ง เรียบร้อยแล้ว บรรยากาศภายในห้องทดลองก็ผ่อนคลายลง พวกเขาเริ่มพูดคุยกันตามประสาครอบครัว ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสนิทสนม
แต่จู่ๆ กวงเยว่ก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสงสัย "ว่าแต่ห้องนี้...."
ก่อนที่เธอจะทันได้พูดจบ กู่หลงก็รีบขัดขึ้นมาทันที "เรารีบออกไปข้างนอกแล้วทานข้าวกันดีกว่าที่รัก!"
ไม่รอให้กวงเยว่มีโอกาสตอบโต้อะไร กู่หลงก็ลากภรรยาของตัวเองออกไปจากห้องทันที ทิ้งให้เธอได้แต่มองเขาด้วยสายตาตัดพ้อ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร
ก่อนออกจากห้อง กู่หลงหันกลับมายิ้มให้กู่เทียน พร้อมยก สี่นิ้ว ขึ้นมาเป็สัญลักษณ์บางอย่าง
กู่เทียนยิ้มตอบกลับไป ก่อนจะยกนิ้ว โป้ง ขึ้นมา
พ่อลูกสองคนยิ้มให้กันราวกับมีข้อตกลงลับบางอย่าง กู่โม่ที่เห็นฉากนี้ก็ได้แต่ส่ายหัวเบาๆ ด้วยความเหนื่อยใจ ก่อนจะเดินตามออกไป แต่ก่อนที่เขาจะออกไปจากห้อง กู่เทียนก็พูดขึ้น
"คุณปู่ครับ ช่วยบอกให้คุณพ่อกับคุณแม่รออยู่ที่ส่วนกลางของห้องทดลองสักครู่นะครับ"
กู่โม่พยักหน้าตอบตกลง ก่อนจะเดินออกไปทำตามที่หลานชายของเขาขอ
กู่เทียนรอจนทุกคนออกไปหมด ก่อนจะเดินไปที่มุมห้อง เขาหยิบหินสีดำสนิทที่มีลวดลายสีแดงเรืองแสงอยู่ภายในขึ้นมา มันคือ หินแห่งความทรงจำ สมบัติที่ถูกดัดแปลงโดยกู่เทียนเอง
จากนั้นกู่เทียนก็เดินตามออกไป ไปยัง ส่วนกลางของห้องทดลอง
ภายในห้องรับแขก ทั้งสามคน กู่หลง กวงเยว่ และกู่โม่ นั่งรอกู่เทียนอยู่บนเก้าอี้ พวกเขามองไปที่กู่เทียนด้วยสายตาแห่งความสงสัย กู่หลงเป็คนเอ่ยปากถามขึ้นก่อน
"ลูกจะทำอะไรอีกงั้นเหรอ?"
กู่เทียนยิ้มบางๆ ก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ
"ลบความทรงจำของทุกคนเกี่ยวกับ ห้องที่เก็บหินเืแห่งความเป็นิรันดร์ เมื่อกี้นี้ครับ"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้งสามคนก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่พวกเขาจะเข้าใจได้ในทันทีว่าทำไมกู่เทียนถึงต้องทำแบบนี้
แม้ว่า กลีบดอกไม้แห่งจิติญญาอะไรนั้น จะสามารถป้องกันการค้นหาิญญาได้ก็จริง แต่มันก็สามารถถูกทำลายได้ ถ้าหากวันหนึ่งมีใครบางคนสามารถเจาะทะลวงเกราะป้องกันนี้ได้ ข้อมูลเกี่ยวกับ หินเืแห่งความเป็นิรันดร์ ก็อาจจะหลุดรอดออกไป และนั่นอาจนำพาภัยอันตรายมาสู่พวกเขาทั้งหมด ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาความลับนี้ ก็คือทำให้ไม่มีใครรู้ว่ามันมีอยู่ั้แ่แรก
พวกเขามองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าพร้อมกัน ทั้งสามคนต่างเข้าใจถึงความสำคัญของเื่นี้ พวกเขาไม่รอช้าและขยับตัวไปนั่งในตำแหน่งเดิมที่พวกเขาได้ทำการวางแผนสองปีก่อนหน้านี้
กู่เทียนเห็นดังนั้นก็ไม่พูดอะไรต่อ เขาหยิบ หินแห่งความทรงจำ ออกมา ตั้งค่าให้มันลบความทรงจำของพวกเขาั้แ่่นี้ทั้งหมดเหลือไว้เพียง่เวลาก่อนหน้าที่วางแผนสองปีเสร็จสิ้นแล้ว
แสงสว่างจางๆ เปล่งประกายออกจากหิน
ทันใดนั้น คลื่นพลังบางอย่างก็แผ่กระจายไปทั่วห้อง มันครอบคลุมร่างของทุกคน ก่อนที่มันจะค่อยๆ จางหายไป
ในเวลาต่อมา กู่เทียนรู้สึก มึนงง ไปชั่วขณะหนึ่ง แต่เขาก็รวบรวมสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว เขาสูดหายใจเข้า ก่อนจะพูดขึ้นมา "เมื่อทุกคนได้รับมอบหมายหน้าที่กันหมดแล้ว เราก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองกันเถอะครับ"
สามคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อยเช่นกัน พวกเขาพยายามตั้งสติ ก่อนที่กู่โม่จะเป็คนพูดขึ้นก่อน
"อืม... งั้นปู่จะเริ่มออกเดินทางในอีกสองวันนะ"
"ส่วนฉันเองก็ต้องไปเตรียมเื่ที่ดินสำหรับสร้างมหาวิทยาลัยพร้อมขอใบอนุญาตก่อน" กู่หลงพูดเสริม
กวงเยว่พยักหน้าตอบรับพร้อมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตรวจดูวัตถุดิบทันที
พวกเขาทุกคนไม่มีใครรู้เลยว่า ่เวลาหลายสิบนาทีที่ผ่านมานั้น ได้ถูกลบหายไปจากความทรงจำของพวกเขาโดยสมบูรณ์แล้ว
พวกเขาคิดว่าพวกเขาเพิ่งพูดคุยกันถึงแผนการสองปีเสร็จ และกำลังจะออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง ความลับของห้องนั้นได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย กู่เทียนมองพวกเขาทั้งสามคนก่อนจะยิ้มบางๆ "งั้นก็ขอให้ทุกคนโชคดีนะครับ"
