รั่วซียืนมองทองคำในคลังส่วนตัว ทุกปีนางจะเปลี่ยนทองคำทั้งหมดเป็ตั๋วเงินหรือเครื่องประดับมีค่า เพราะถึงนางจะชอบทองคำเพียงใด แต่ให้ง่ายต่อการขนย้ายก็มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น
่นี้ใกล้ถึงเวลาที่จะต้องแลกเปลี่ยนทองคำเป็ตั๋วเงินแล้ว นางถึงได้มายืนจมอยู่ในคลังส่วนตัว ั้แ่เช้าจนตะวันใกล้ตกดินนางก็ยังคงอยู่ที่เดิม แต่กลับตรวจนับทองคำได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
"จิงจิง พรุ่งนี้เช้าให้เถ้าแก่หวังมาแลกตั๋วเงินเอาทองคำไป เอาเฉพาะที่เรานับแค่นั้นพอ ให้อาหลี่มาอยู่ด้วยเพื่อกันมีอันใดผิดพลาด"
"เ้าค่ะ"
"อาหลี่ มากับข้า" เด็กหนุ่มที่รั่วซีเรียกว่าอาหลี่ เดินตามนางไปอย่างว่าง่าย
อาหลี่อายุน้อยกว่ารั่วซีไม่กี่ปี แต่เขาตัวใหญ่กว่านางมากนัก เด็กหนุ่มทำงานขึ้นตรงให้กับรั่วซีเพียงผู้เดียว
นางเก็บอาหลี่ได้ก่อนที่จะเจอเหมยหลิน ตอนเจอกันครั้งแรกยังดูผอมแห้งตัวเล็กกว่านางมากนัก ่เวลาหลายปีนี้กลับสูงใหญ่กว่านางเสียแล้ว
รั่วซีให้อาหลี่แอบไปเรียนวิชาป้องกันตัว เรียนรู้ทุกอย่างที่เขา้า โชคดีที่เขาหัวไวเรียนรู้ได้เร็ว ฝีมือเก่งกาจก้าวหน้า งานทุกอย่างที่รั่วซีให้ทำ เขาก็ทำมันออกมาได้ดีเสมอ
"เป็อย่างไรบ้าง เรียบร้อยถึงไหนแล้ว"
"เสร็จเรียบร้อยหมดแล้วขอรับ รอเพียงนายหญิงตรวจความเรียบร้อยอีกรอบ ก็พร้อมอยู่ได้เลยขอรับ"
"อืม อีกสามวันข้าจะไปดู เตรียมตัวให้พร้อมแล้วกัน"
อาหลี่รับคำนายของตนเสร็จก็ะโวับหายไป ไม่เดินออกทางเดิมอย่างตอนเข้ามา
่หลายเดือนมานี้ นางให้อาหลี่ไปคุ้มงานก่อสร้างเรือนในกลางป่าใหญ่ให้ เนื่องด้วยเป็พื้นที่ห่างไกลจากตัวเมืองมากนัก ทำให้กว่าจะเรียบร้อยดีก็ใช้เวลาเกือบปีทีเดียว ที่กว่าช่างจะสร้างเรือนให้ตามแบบที่นาง้า
การไปครั้งนี้นางคงไม่ต้องมีเปลี่ยนแปลงแก้ไขอีก เพราะช่างที่จะทำให้นางคงเหลือแค่อาหลี่ นอกเหนือจากนั้นนางให้เงินค่าจ้างก็ต่างแยกย้ายกันไปจนหมด
รมม้าขนาดย่อมวิ่งเยาะ ๆ อยู่กลางป่าเขา ให้หญิงสาวได้มองทิวทัศน์ภายนอกอย่างสบายอารมณ์ โดยมีอาหลี่กับจิงจิงเป็คนความคุมม้าอยู่ด้านนอก
รั่วซีมองป่าสีเขียวด้วยรอยยิ้มอย่างไม่เคยมี ไม่ว่าจะมองไปทางใดก็ล้วนสบายตา ไม่มีผู้คน ไม่มีเสียงดังรบกวนให้วุ่นวายใจ
"นายหญิงถึงแล้วขอรับ"
ใช้เวลาเกือบสองชั่วยามรั่วซีก็มาถึงเรือนพักกลางป่า นางมองบรรยากาศตรงหน้าด้วยความตื้นต้น เพียงเห็นแค่ด้านหน้านางก็หายเหนื่อยจากการเดินทางทันที
สองข้างทางรายล้อมด้วยกล้วยไม้ป่าหลากชนิด ที่แย่งกันออกดอกแข่งสีสัน ตามทางเดินโรยด้วยหินก้อนสีขาว ประดับสองข้างทางด้วยไม้พุ่มเล็ก ๆ ที่ผลิดอกด้วยเช่นกัน จนกลายเป็างกำลังอยู่ทามกลางมวลดอกไม้
ร่างบางเดินเข้าไปใกล้ ๆ มองสำรวจรอบ ๆ บริเวณเรือน ใต้ต้นไม้ใหญ่มีชิงช้าผูกไว้ มีตั่งไม้วางอยู่ข้างกัน ใบหน้าสวยจึงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
อาหลี่ช่างรู้ใจนางยิ่งนัก นางกะว่ามารอบนี้ถึงจะหาที่สำหรับผูกชิงช้า ไม่คิดว่าอาหลี่จะทำให้นางไว้แล้ว
สองเท้าเล็กก้าวต่อไปด้านใน ทั้งเรือนถูกสร้างด้วยไม้สักเนื้อดี เครื่องเรือนทั้งหมดถูกทำขึ้นจากไม้จันทร์หอม ก้าวเดินไปทางไหนก็มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทั่วทั้งเรือน
เื่เครื่องเรือนตอนมาตรวจความเรียบร้อยคราวก่อน นางบอกไว้หมดว่า้าวางสิ่งใดไว้มุมไหนบ้าง อาหลี่ก็ทำได้ดี วางได้ตรงกับที่นางบอกทุกชิ้น
รั่วซีเดินตรวจความเรียบร้อยจนมาถึง่ท้ายของเรือน อาหลี่ก็ยังช่างเอาใจใส่นางเหมือนเดิม ใต้ต้นไม้ใหญ่หลังเรือนก็ยังมีชิงช้าให้นางได้ไกวเล่นด้วยเช่นกัน
มาคราวนี้ถือว่าเรือนไม้ของนางเสร็จสมบูรณ์ เหลือเพียงนางย้ายเข้ามาอยู่เท่านั้น
"สมกับเป็อาหลี่ ทำทุกอย่างได้ตรงใจข้า"
"สวยงามมากเ้าค่ะ นายหญิงน้อยจะมาอยู่ที่นี่หรือเ้าคะ"
"พวกเ้าอยากมาอยู่ในป่ากับข้าไหมเล่า"
"อยู่ขอรับ // อยู่เ้าค่ะ"
"ดี เช่นนั้นเราจะมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน แต่ยังไงก็ยังไม่ใช่เร็ว ๆ นี้" รั่วซีส่งรอยยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับทั้งสองคน
นางตั้งใจใช้ชีวิตที่เหลือหลังออกจากหออ้ายซ่างที่นี่ แต่ถ้าอยู่เพียงลำพังนางคงจะเหงาเกินไปหน่อย มีจิงจิงกับอาหลี่อยู่ด้วยก็ดีไม่น้อย
"พวกเ้าไปจัดข้าวของที่เอามาให้เข้าที่เถิด ข้าจะนั่งเล่นตรงนี้สักพักจะตามเข้าไป" บรรยากาศที่นี่เงียบสงบอย่างที่รั่วซี้า สายลมพัดผ่านทำให้ใจนางสงบยิ่ง
นางคิดถูกจริง ๆ ที่คิดสร้างเรือนในป่าเขาเช่นนี้
นั่งรับลมด้านนอกได้ไม่นาน รั่วซีก็กลับเข้าด้านในเรือน ช่วยจิงจิงจัดเก็บเสื้อผ้าที่ขนมาเข้าตู้ อาภรณ์ที่นางนำมาล้วนเป็ผ้าชั้นดี ตัดหยิบแบบเรียบง่ายเน้นใส่แล้วรู้สึกเบาสบายให้มากที่สุด
ส่วนเครื่องประดับนอกจากปิ่นปักผมนางกลับไม่ได้เอาสิ่งใดมาเพิ่มอีกเลย อยู่ในป่าเขาเช่นนี้คงไม่ต้องแต่งกายสวยไปอวดผู้ใด
"นายหญิงขอรับ มีคนมารอพบด้านนอกขอรับ"
"ผู้ใดกัน" นางอุตส่าห์ออกมาอยู่ห่างไกลถึงในป่าที่ไร้ผู้คน เหตุใดเพียงวันแรกที่เรือนไม้เสร็จ กลับมีคนไม่ได้รับเชิญมาหานางได้
"รองแม่ทัพเหอขอรับ"
