ภายในใจของฮูหยินสกุลจางรู้สึกสบายใจหลังได้ฟังมองดวงตาเป็ประกายฉายแววเ้าเล่ห์ของอวี๋เจียว รอยยิ้มบนใบหน้าฮูหยินสกุลจางฉายแววเด่นชัดยิ่งขึ้นคนฉลาดชี้แนะเพียงเล็กน้อยก็เข้าใจโดยพลัน เมื่อต้องคบค้าสมาคมจึงรู้สึกสบายใจ
หลังไปรวมตัวกับอวี๋จือหางที่เรือนด้านหน้า พวกเขาก็ไปจากจวนสกุลจางทางประตูด้านหลังเมื่อเห็นว่ายังไม่มืดค่ำ ผู้ดูแลสกุลจางเอ่ยถามพลางแย้มยิ้มว่า “แม่นางเมิ่งพวกเ้ามีสิ่งของที่อยากจะซื้อหรือไม่? จะให้ข้าพาพวกเ้าไปเดินเล่นบนถนนสักหน่อยดีหรือไม่?”
ระหว่างเดินทางมา ภายในใจของอวี๋เจียวคิดเื่หนึ่งก่อนหน้านี้นางให้อวี๋เฉียวซานช่วยเอาขาเทียมมาเชื่อมที่ร้านตีเหล็กในตำบลและยังไม่ได้เอากลับไปเดิมทีคิดจะฉวยโอกาสมาในตำบลครั้งนี้ไปร้านตีเหล็กแล้วรับกลับไปด้วย
“ถ้าเช่นนั้นรบกวนไปร้านเหล็กที่ตรอกฝั่งใต้เ้าค่ะ” อวี๋เจียวเอ่ย
“ได้เลย!” จางเหล่าซานขับรถลามุ่งหน้าไปทางตรอกฝั่งใต้
“พวกท่านมีของที่อยากจะซื้อหรือไม่? ข้ามีเงิน” อวี๋เจียวหันไปเอ่ยถามอวี๋จือหางกับอวี๋ฝูหลิงเพราะรู้ดีว่าในมือพวกเขาไม่มีเงินจึงเอ่ยด้วยความหวังดี
คนทั้งสองต่างส่ายหน้า “ไม่มี”
เดิมทีตำบลชิงสุ่ยไม่ใหญ่มาก รถลามาถึงร้านตีเหล็กภายในเวลาไม่นานบุรุษร่างกำยำเปลือยท่อนบนกำลังตีเหล็กเมื่อเห็นอวี๋เจียวเดินเข้ามาจึงแย้มยิ้มถาม “แม่นางน้อย เ้า้าอะไร?”
อวี๋เจียวบอกชื่อของอวี๋เฉียวซานดวงตาของช่างตีเหล็กเป็ประกายโดยพลัน “ข้าทำเสร็จแล้ว จะไปเอามาให้เ้าเดี๋ยวนี้”
กล่าวจบ เขาวางค้อนตีเหล็กในมือลง เลิกม่านเข้าไปข้างใน ไม่นานนักก็ถือสิ่งของออกมา
เปลวไฟในเตาไฟกลางห้องลุกโชน แผดเผาจนทั้งห้องร้อนระอุอวี๋เจียวยืนอยู่เพียงครู่เหงื่อก็ท่วมร่างเสียแล้ว
“ของพวกนี้ละเอียดยิ่งนัก แม่นางรู้หรือไม่ว่าเอาไปใช้ทำอะไร?” ช่างตีเหล็กเอ่ยถามด้วยความสนใจใคร่รู้ยิ่งนัก
อวี๋เจียวหยิบชิ้นส่วนมาจากมือของช่างตีเหล็กภายในแววตาฉายแววพึงพอใจถึงแม้ของเหล่านี้จะไม่อาจเทียบกับอุปกรณ์เ่าั้ในชาติก่อนแต่อย่างน้อยก็ทำออกมาได้ นางรับสิ่งของมา เอ่ยพลางแย้มยิ้มว่า“ใช้ประโยชน์ได้ไม่มากนัก เป็เพียงของเล่นเล็กน้อยเ้าค่ะ”
ช่างตีเหล็กผู้นั้นรู้ว่านางไม่ได้พูดความจริงเห็นได้ชัดว่าไม่อยากบอกตน ดังนั้นเขาจึงไม่ซักไซ้ต่อไป
ครั้งก่อนตอนอวี๋เฉียวซานมาสั่งทำของเหล่านี้ที่ร้านตีเหล็กได้จ่ายเงินมัดจำเพียงสี่สิบอีแปะเท่านั้นอวี๋เจียวจึงจ่ายด้วยเหรียญทองแดงอีกหนึ่งพวง ช่างตีเหล็กผู้นั้นดีใจยิ่งกว่าอะไรยามปกติตีมีดทำครัวหนึ่งเล่มจะได้เงินแค่ห้าสิบอีแปะถึงแม้สิ่งของเล็กน้อยเหล่านี้จะยุ่งยาก นอกจากนั้นยังเสียหายจำนวนไม่น้อยแต่ใช้เหล็กไม่มากนัก
หลังรับของ พวกเขาออกมาจากร้านตีเหล็กทันใดนั้นมีคนโผล่ออกมาจากตรอกด้านข้างแล้วขวางทางอวี๋เจียวเอาไว้ “แม่นางเมิ่งท่านหมอเจียงของพวกเราเชิญท่านไปพบขอรับ”
อวี๋เจียวหรี่ดวงตาถึงแม้ไม่รู้ว่าเจียงชิงเหอรู้ว่านางอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แต่ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเพราะเหตุใดเจียงชิงเหอถึงอยากพบนางจะต้องเป็เื่เกี่ยวกับเทียบยารักษาแผลพุพองบนหลังแน่นอนนางไม่มีเจตนาจะไปจึงเอ่ยกับบุรุษที่ขวางทางว่า “เ้านำความกลับไปบอกท่านหมอเจียงเทียบยาใช้รักษาโรคแตกต่างไปตามตัวบุคคล แค่โรคแผลพุพองบนหลังโรคเดียวยังมีความแตกต่างกันถึงสามประการเช่นพลังหยินพร่องธาตุไฟลุกโหม เืลมไม่เพียงพอหรือตัวร้อนจนกระทบพลังหยินต่อให้ซื้อเทียบยาของข้าไปก็ไร้ประโยชน์ จำต้องแยกแยะและรักษาไปตามอาการ”
ผู้ที่มาเชิญอวี๋เจียวคือเด็กคิดเงินในสำนักหุยชุนเขาเผยสีหน้าลำบากใจหลังได้ฟัง ยังคงขวางอวี๋เจียวเอาไว้ไม่ยอมจากไปเพราะกลัวเหลือเกินว่าจะทำหน้าที่ที่เจียงชิงเหอมอบหมายให้เขาได้ไม่ดีเอ่ยอย่างดันทุรังว่า “ท่านหมอเจียงบอกว่าอยากพบท่าน”
อวี๋เจียวเบี่ยงกายเดินผ่านข้างกายเขาไป เอ่ยอย่างราบเรียบว่า“เ้าแค่นำสิ่งที่ข้าบอกกลับไปเป็พอ”
เด็กคิดเงินยังอยากเหนี่ยวรั้ง จางเหล่าซานสาวเท้าเข้ามาข้างหน้าใช้มือรั้งคนเอาไว้ ใบหน้าฉายแววดุดัน “ไม่ได้ยินที่แม่นางเมิ่งบอกงั้นรึ? รีบไสหัวไปเร็วเข้า!”
เด็กคิดเงินเห็นว่าจางเหล่าซานไม่ใช่คนน่ายั่วโมโหจึงไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดอีกทำได้เพียงจากไปด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม
“ขอบคุณเ้าค่ะ” อวี๋เจียวเอ่ยทั้งรอยยิ้มกับจางเหล่าซาน
จางเหล่าซานฉีกยิ้มเช่นกัน “ไม่เป็ไรๆ ”ไม่เอ่ยถึงเื่ที่เขาซาบซึ้งใจเพราะอวี๋เจียวรักษาโรคลมชักของฉีเกอเอ๋อร์จนหายดีเอ่ยถึงแค่เพียงครั้งนี้ หากอวี๋เจียวรักษาอาการป่วยของคุณหนูใหญ่ในจวนจนหายได้จริงๆเขาจะต้องได้หน้าจากนายท่านกับฮูหยินแน่นอน
