ยอดเขากั๋วฉานที่เงียบสงบ มีสมุนไพรงอกงามทั่วทุกหนแห่ง เป็สถานที่ซึ่งอุดมไปด้วยพลังหยวนฟ้าดิน เป็สถานที่เหมาะสมต่อการบ่มเพาะมากที่สุดในนิกายเซวียนอี้
หลังจากได้บทเรียนที่แสนเ็ปในครั้งที่แล้ว กั๋วฉานไม่กล้าที่จะประมาทอีกต่อไป เขาพาเยี่ยนเฉินหยวี่และฮันหยานไปยังเรือนตำหนักของเขา และเขาบ่มเพาะพลังอยู่ใกล้สวนสมุนไพรนอกเรือนที่พักขณะที่ปกป้องเยี่ยนเฉินหยวี่และฮันหยานจากอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น หากมีใครพยายามเข้าใกล้ยอดเขา กั๋วฉานจะตรวจพบได้ในทันที
หลังจากที่กั๋วฉานได้รับทักษะหกสุริยัน ระดับการบ่มเพาะของเขาก้าวหน้ามากขึ้น เพียงไม่กี่วัน ฐานบ่มเพาะขั้นแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลางของเขาก็เสถียรโดยสมบูรณ์
เมื่อสัมผีสว่ามีใครสักครู่ใกล้เข้ามา ดวงตาของกั๋วฉานก็เบิกขึ้นในทันที เมื่อเขาเห็นเจียงเฉินและหวงต้า ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกปิติยินดีด้วยความตื่นเต้นอย่างมาก
"น้องชาย เ้ากลับมาแล้ว!"
กั๋วฉานลุกขึ้นมาจากพื้นและเดินไปต้อนรับเจียงเฉิน
"พี่ชาย หยวี่น้อยกับอาหยานเป็อย่างไรบ้าง?"
เจียงเฉินถาม
"วางใจได้ พี่ชายของเ้ายืนคุ้มกันอยู่ตลอดเวลา แม้แต่แมลงวันก็ไม่สามารถหลุดรอดไปจากััของข้าได้!"
กั๋วฉานพูดด้วยความมั่นใจเต็มที่ เขาดูโดดเด่น และพลังิญญาของเขาเพิ่มสูงขึ้น พลังหยวนของเขากล้าแข็งยิ่งขึ้น หลังจากบ่มเพาะทักษะหกสุริยันและทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลาง กั๋วฉานได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก อาจบอกได้ว่าเขาได้เกิดใหม่อีกครั้ง
"ดี ดีมาก"
เจียงเฉินผงกหัว ในครั้งนี้กั๋วฉานไม่ทำให้เขาผิดหวัง แม้ว่าเฝินจงถังจะยังไม่มาสร้างปัญหาใดๆให้เขาในตอนนี้ เห็นท่าทางของกั๋วฉานในตอนนี้ ทำให้เขารู้สึกวางใจ
"น้องชาย เ้าพบหมูป่าหนามอัคคีในหุบเขาสายหมอกรึไม่?มันเป็สัตว์อสูรที่น่าสะพรึงกลัว การจะได้ดวงจิตอสูรของมันมา เ้าต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆ!"
กั๋วฉานพูดขึ้นมาอย่างรีบร้อน
"ถุย ตาแก่ ทำไมเ้าถึงได้ดูถูกพวกเราเช่นนี้เล่า? หมูป่าหนามอัคคีที่น่าสะพรึงกลัวงั้นหรือ!ข้าจะบอกเ้าให้เอาบุญ พวกเราสังหารหมูป่าหนามอัคคีไปแล้ว!"
หวงต้าถลึงตามองกั๋วฉาน
อะไรนะ?หมูป่าหนามอัคคีถูกเ้าฆ่าตาย?ใครมันจะไปเชื่อ!
"หวงต้า ข้ารู้ว่าทุกคนชอบที่จะโอ้อวดออกมาแม้เพียงเล็กน้อยก็ดี แต่เ้าก็รู้ดีว่าทั้งหมดนั่นมันเป็ไปไม่ได้!ด้วยความสามารถของพวกเ้าทั้งสอง มันเป็ไปไม่ได้ที่จะสังหารหมูป่าหนามอัคคีเพียงไม่กี่วัน อย่ามาพยายามหลอกข้าเหมือนเด็กสามขวบ!"
กั๋วฉานจ้องกลับไปมองที่หวงต้าด้วยท่าทีจริงจัง
"บัดซบ ข้าไม่เคยคิดว่าเ้าเป็เด็กสามขวบ! แต่ในความคิดบิดาเ้า เ้าเป็เพียงแค่เด็กหกเดือนเท่านั้น!"
หวงต้าก่นด่าออกมา กั๋วฉานกล้ามาดูถูกมัน?หากไม่ใช่ว่าเจียงเฉินอยู่ที่นี่ ป่านนี้หวงต้าคงกระโจนเข้าไปกัดก้นของเ้าแก่นี่ไปแล้ว
"พี่กั๋ว หวงต้าพูดถูกต้อง พวกเราสังหารหมูป่าหนามอัคคีได้จริงๆ นี่คือดวงจิตอสูรของมัน"
เจียงเฉินพลิกฝ่ามือของเขาขึ้น และนำดวงจิตอสูรออกมาจากแหวนมิติของเขา ท่าทีของกั๋วฉานพลันเปลี่ยนไปในทันที เมื่อเขารู้สึกถึงกลิ่นอายพลังงานที่แข็งแกร่งออกมาจากดวงจิตอสูร
"นะ...นี่มัน ดวงจิตอสูรหมูป่าหนามอัคคี! นะ.. น้องชาย เ้าทำได้ยังไงกัน? นี่มันไม่น่าเชื่อ มันเป็ไปได้อย่างไร?"
กั๋วฉานตกตะลึงในสิ่งที่เขาเห็น แม้ว่าเขาไม่เคยเห็นดวงจิตอสูรของหมูป่าหนามอัคคีจริงๆสักครั้ง แต่เขาสามารถบอกได้ว่ามันคือดวงจิตอสูรแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลางระดับสูงสุด มันต้องเป็ของหมูป่าหนามอัคคีเป็แน่ เจียงเฉินไม่ล้อเล่นแน่ๆ
"พี่กั๋ว ท่านไม่จำเป็ต้องใไป คืออย่างนี้เื่มันมีอยู่ว่า........."
เจียงเฉินเริ่มเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในหุบเขาสายหมอกให้กั๋วฉานฟัง กั๋วฉานได้ยินแล้วเกิดความเครียดขึ้น
"น้องชาย ประเสริฐมาก!เ้าฉลาดจริงๆ! เ้าวางแผนชั่วร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร?นิกายชิงิที่น่าสงสารต้องพบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่เพราะเ้า อีกทั้งยังหลอกใช้พวกมันช่วยเ้าสังหารหมูป่าหนามอัคคี และรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทั้งหมด เ้าสามารถบั่นทอนกำลังทั้งสองฝ่าย!ช่างเป็แผนที่หลักแหลมเสียจริง!"
กั๋วฉานชื่นชมเจียงเฉินขึ้นมาในทันใด ในความจริงนั้น เขาไม่ได้ตาดหวังกับเจียงเฉินที่เดินทางไปหุบเขาสายหมอกก่อนหน้านี้ เป้าหมายของพวกเขาคือหมูป่าหนามอัคคีที่ทรงพลัง เขาไม่สามารถจิตนาการได้เลยว่าเจียงเฉินจะสามารถสังหารสัตว์อสูรที่อยู่ในจุดสูงสุดของแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลางได้อย่างไร
แต่ที่ทำให้เขาประหลาดใจคือ เจียงเฉินสามารถทำได้ และเขาก็ได้ทำในสิ่งที่กั๋วฉานไม่เคยคาดฝันเกี่ยวกับมัน ป้ายสีและให้พวกมันสู้กันเอง เป็วิธีที่วิเศษจริงๆ
"ไม่มีอะไรหรอก จริงๆแล้ว นิกายชิงิตามตอแยข้าก่อน นั่นเป็เหตุผลว่าทำไมข้าถึงไม่รู้สึกผิดใดๆที่ใช้มันเพื่อประโยชน์ของข้า"
เจียงเฉินพูดออกมา ในความจริง ถึงแม้ว่านิกายชิงิจะไม่ได้ล่วงเกินเขา แต่เพื่อที่จะเอาดวงจิตอสูรหมูป่าหนามอัคคี เจียงเฉินก็ยังคงใช้วิธีเดิม
ในฐานะบุรุษ เขามีเหตุผลต่อครอบครัวและคนที่เขารัก เพื่อพวกเขาแล้วเขาจะยอมบ้าคลั่ง ไม่ว่าจะเป็มนุษย์หรือสิ่งของ เขาสามารถใช้พวกมันทั้งหมดเพื่อผลประโยชน์ของเขาได้ และนิกายชิงิเป็ได้เพียงเครื่องมือของเขาเท่านั้น
"อย่างไรก็ตาม ข้าไม่คิดว่านิกายชิงิจะปล่อยเื่นี้ไปง่ายๆ ข้ารู้มาว่า มันเป็หนึ่งในนิกายใหญ่ของแคว้นเฉียน ความแข็งแกร่งของพวกมันนั้นเทียบเท่านิกายเซวียนอี้ของพวกเรา พวกมันไม่ใช่ใครที่สามารถตอแยได้ง่ายๆ บางทีพวกมันจะไม่ปล่อยเ้าไป"
กั๋วฉานพูดด้วยน้ำเสียงเป็กังวล
"ไม่ต้องกังวล ข้าไม่เคยสนใจนิกายชิงิสักนิด เมื่อเราได้ดวงจิตอสูรหมูป่าหนามอัคคีมา ตอนนี้ข้าจะเริ่มปรุงยาหกสุริยัน ท่านเตรียมส่วนผสมทั้งหมดพร้อมแล้วหรือไม่?"
เจียงเฉินถามออกมา อาการของเยี่ยนเฉินหยวี่ทรุดลงวันต่อวัน เมื่อเขาได้ดวงจิตอสูรหมูป่าหนามอัคคีมาแล้ว เขาก็ไม่้าให้มันล่าช้าอีกต่อไป
"ส่วนผสมจากสี่สิบเก้าชนิดที่จำเป็สำหรับการปรุงยาหกสุริยัน ข้าเตรียมไว้แล้วสี่สิบเจ็ดชนิด รวมดวงจิตอสูรของหมูป่าหนามอัคคีก็เป็สี่สิบแปดชนิด ยังขาดสมุนไพรอย่างสุดท้าย กล้วยไม้หยินม่วง สมุนไพรนี้มันเติบโตเฉพาะที่ มันไม่สามารถเติบโตที่นี่ได้ และข้าไม่สามารถหามันได้จากทั่วทั้งนิกายเซวียนอี้"
กั๋วฉานขมวดคิ้ว เขาพยายามสุดความสามารถในการรวบรวมสมุนไพรทั้งหมดในไม่กี่วันมานี้ เพื่อให้เจียงเฉินปรุงยาหกสุริยันได้ เขาได้ใช้โชคทังหมด แต่มันยังขาดสมุนไพรอย่างสุดท้ายที่เขาไม่มี กล้วยไม้หยินม่วง เป็ส่วนผสมหลักของยาหกสุริยันไม่สามารถใช้สิ่งอื่นทดแทนได้
"ข้าพบกล้วยไม้หยินม่วงที่หุบเขาสายหมอกแล้วล่ะ"
ขณะที่พูด เจียงเฉินได้นำกล้วยไม้หยินม่วงที่กำลังส่องประกายออกมาจากแหวนของเขา กั๋วฉานถึงกับตกตะลึง เขาจ้องมองที่เจียงเฉินพร้อมทั้งปากของเขาเปิดกว้าง เขาถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเผชิญกับน้องชายคนนี้
ในอดีต เขาเชื่อว่าไม่มีใครในโลกที่สามารถทำได้ทุกสิ่งที่เขา้า อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาได้พบเจอเจียงเฉิน เขาเริ่มที่จะเชื่อมั่นว่าชายหนุ่มคนนี้เป็ชายที่เต็มไปด้วยปาฏิหารย์
กั๋วฉานกังวลว่าเขาจะหากล้วยไม้หยินม่วงมาได้อย่างไร แต่ตอนนี้เจียงเฉินกลับมาพร้อมกับมัน นี่ไม่เพียงพิสูจน์ถึงความสามารถของเจียงเฉินเท่านั้น แต่มันยังแสดงถึงโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ที่เจียงเฉินมี
"น้องชาย เ้านี่มันทำอะไรก็ได้จริงๆ สมุนไพรที่เหลือเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว มีที่ว่างอยู่ในห้องหลอมยาเ้าสามารถไปปรุงยาที่นั้นโดยไม่มีสิ่งใดรบกวนเ้าได้"
การปรุงยาหกสุริยันนั้นกับการปรุงยาห้าธาตุแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ขั้นตอนมันซับซ้อนยิ่งกว่า ไม่มีเม็ดยาธรรมดาใดๆสามารถเทียบกับมันได้ หากเจียงเฉินปรุงยาขึ้นมาหนึ่งเม็ด เขาจำเป็ต้องใช้เวลาสองถึงสามวันเพื่อปรุงมัน เพียงแค่ขั้นตอนการหลอมรวมดวงจิตอสูรหมูป่าหนามอัคคีลงในเม็ดยาก็ยุ่งยากมากพอแล้ว
หากเป็กั๋วฉาน ไม่เพียงแค่ไม่รู้เวลาที่จำเป็ต้องใช้ เขายังไม่มีความสามารถที่จะปรุงเม็ดยานี่ได้ เปลวเพลิงทั่วไปไม่สามารถทำอะไรกับดวงจิตอสูรของหมูป่าหนามอัคคีได้
ห้องปรุงยาของกั๋วฉานนั้นกว้างใหญ่ยิ่งนัก มันเป็ห้องปรุงยาที่กว้างใหญ่ที่สุดในนิกายเซวียนอี้ กำแพงทั้งสี่ด้านถูกปิดผนึก มันกว้างใหญ่ราวกับวัง มีลิ้นชักลับมากมายอยู่ภายในกำแพงของห้องเตา แม้ว่าลิ้นชักจะปิดอยู่ เจียงเฉินยังคงสามารถได้กลิ่นหอมของสมุนไพรจากพวกมันได้
ในนี้ สมุนไพรเกือบทั้งหมดของนิกายเซวียนอี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่นี่
พื้นของห้องปรุงยาสร้างจากหินสีทอง มันดูหรูหรา ้าของห้องเตา มีหน้าต่างทรงกลมทำจากผลึกโปร่งแสงจำนวนมากมาย หน้าต่างทรงกลม้ากับพื้นสี่เหลี่ยมด้านล่างเข้ากันราวกับเป็ธรรมชาติ และตรงกลางห้องมีเตาหลอมยาสีทองสูงหนึ่งจ้างตั้งอยู่
นี่เป็เตาหลอมยาที่ล้ำค่าอย่างมาก ด้วยความสามารถของกั๋วฉาน เขาไม่จำเป็ต้องใช้เตาในการปรุงยาธรรมดาทั่วไป เขาสามารถใช้พลังหยวนและพลังวิญญารวมถึงเปลวไฟ อย่างไรก็ตามหากเขา้าปรุงยาที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน เขาจำเป็ต้องใช้เตาหลอมช่วยในการปรุงยา หากมิเช่นนั้นเขาก็ไม่สามารถอดทนต่อกระบวนการหลอมยาทั้งหมดของมันได้
แม้ว่าห้องปรุงยานี้มันจะดูหรูหราและยิ่งใหญ่ สำหรับเจียงเฉินที่มีประสบการณ์มากมาย เขาเคยพบเห็นห้องปรุงยามามากมาย ห้องปรุงยาเช่นนี้ไม่มีค่าใดๆสำหรับเขา ถึงอย่างนั้น เมื่อเขายืนอยู่ภายในมัน เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงจวนเ้าเมืองในเมืองเทียนเซียง หากเขาเทียบกับห้องหลอมยาในจวนเ้าเมือง ห้องหลอมยาที่จวนเ้าเมืองก็ไม่ต่างอะไรกับขยะ
"ไม่รู้ว่าท่านพ่อเป็อย่างไรบ้าง อาณาเขตรอบเมืองเทียนเซียงสงบสุขมาก ตราบเท่าที่ยังอยู่ในการปกป้องของราชันย์สัตว์อสูร ข้าไม่คิดว่าจะมีอันตรายใดๆเกิดขึ้น นอกจากนี้ข้ายังมอบทักษะอันทรงอำนาจแก่ท่านพ่อไปแล้ว ด้วยความสามารถและศักยภาพของเขา ข้ามั่นใจว่าอย่างน้อยที่สุดตอนนี้เขาสามารถทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้์ได้แน่นอน"
เมื่อคิดถึงเจียงเจิ้นไห่ เจียงเฉินอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา
กลับมาในปัจจุบัน เจียงเฉินพบสมุนไพรทุกประเภทซ้อนขึ้นนอกเตา พวกมันมีทั้งหมดสี่สิบเจ็ดชนิด และทั้งหมดเป็วัตถุดิบสำคัญในการปรุงยาหกสุริยัน
"กั๋วฉานยังคงเชื่อถือได้จริงๆ"
เจียงเฉินยิ้มออกมา ทันใดนั้นเขาก็ปรับพลังของเขาให้อยู่ในสภาพดีที่สุด ด้วยระดับการบ่มเพาะของเขาในปัจจุบันการปรุงยาหกสุริยันเขาต้องทุ่มสุดกำลัง
"มันง่ายที่จะหลอมรวมสมุนไพรทั้งสี่สิบแปดชนิดเข้าด้วยกัน ส่วนที่ยากที่สุดคือตอนที่หลอมรวมเข้ากับดวงจิตอสูรหมูป่าหนามอัคคี ดวงจิตอสูรที่จุดสูงสุดของแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นกลางนั้นทนทานเป็อย่างมาก เปลวเพลิงทั่วไปไม่อาจแผดเผามันได้ โชคดีที่ข้ามีเปลวเพลิงัแท้จริง หากไม่มีมันข้าคงไม่สามารถปรุงยาหกสุริยันได้ หรือแม้กระทั่งได้ดวงจิตอสูรของมันมา"
เจียงเฉินรู้สึกโชคดีอย่างมาก เปลวเพลิงที่เขามีก่อนหน้านี้เป็เพียงแค่เปลวเพลิงจากพยัคฆ์อัคคี แต่มันยังอ่อนแอมาก แต่เพียงพอสำหรับการปรุงยาขั้นมนุษย์ อย่างไรก็ตามเมื่อเป็ตัวยาขั้นสูงขึ้นและซับซ้อน เพลิงพยัคฆ์อัคคีก็ไร้ค่า แต่เมื่อเขาได้รับเปลวเพลิงัแท้จริง เป็ราชันย์เพลิงสัตว์อสูรทั้งปวง มันสามารถแผดเผาได้ทุกสิ่ง เขาจึงสามารถปรุงยาระดับสูงได้
"มานี่!"
เจียงเฉินโบกมืออย่างเรียบง่าย ภายใต้การควบคุมพลังหยวนของเขา สมุนไพรทั้งสี่สิบเจ็ดชนิด ตลอดจนกล้วยไม้หยินม่วง ลอยอยู่ตรงหน้าเขา หลังจากนั้นเจียงเฉินก็ปลดปล่อยทักษะยอดิญญาต้าเหยี่ยนออกมาทันที ด้วยสิ่งนี้เขาสามารถควบคุมสมุนไพรทุกต้นได้อย่างแม่นยำ
ฟู่..!
เกิดการสั่นะเืเล็กน้อย เจียงเฉินลูกไฟออกมาจากปากของเขา ทันใดนั้นลูกไฟก็ได้ะเิขึ้น และกลายเป็ทะเลเพลิงปกคลุมสมุนไพรทั้งหมด
แป๊กๆๆ...........
ภายใต้ความร้อนของเปลวเพลิงัแท้จริง สิ่งปนเปื้อนทั้งหมดภายในสมุนไพรได้ถูกชำระล้างจนหมดสิ้น แม้ว่ากระบวนการชำระล้างจะดูธรรมดา แต่มันเป็ขั้นตอนที่สำคัญไม่อาจละเลยได้ ที่น่าใคือเจียงเฉินชำระล้างสมุนไพรจำนวนมากในคราวเดียว
เจียงเฉินจำเป็ต้องควบคุมอุณหภูมิของเปลวเพลิงัแท้จริงด้วยทักษะยอดิญญาต้าเหยี่ยน หากอุณหภูมิสูงเกินไป สมุนไพรทั้งหมดจะกลายเป็เถ้าถ่านในทันที
