“ร้านนี้สาวๆ เพียบเลยอ่ะพี่”
เตชินทร์เอ่ยขึ้นมากลางวง พร้อมกับมองไปทั่วร้านที่ซึ่งตอนนี้เป็เวลาหลังเลิกงาน จึงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มานั่งทานอาหารอยู่ภายในร้านที่ตกแต่งด้วยสไตล์อเมริกันเรโทร ที่มีทั้งส่วน Indoor และ Outdoor แบ่งออกเป็หลายโซน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกนั่งได้ตามใจชอบ ซึ่งพวกเขาเลือกที่จะนั่งในส่วนของบาร์ค็อกเทลที่มีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลาย โดยมีกวีซึ่งเป็ญาติของชานนท์และเป็เ้าของร้าน kawaii bistro นั่งร่วมวงอยู่ด้วย
“ถ้าน้องเตชอบที่นี่ พี่ยินดีต้อนรับทุกเมื่อเลยนะคะ” กวีพูดด้วยท่าทางนิ่มนวลพร้อมส่งยิ้มหวานให้กับเตชินทร์ อีกฝ่ายได้แต่ยิ้มรับหน้าเจื่อนก่อนจะหยิบค็อกเทลตรงหน้าขึ้นมาจิบพร้อมกับหันหน้าไปด้านข้างเพื่อหลบสายตา
แล้วสายตาก็พลันไปเห็นสาวสวยผมยาวประบ่า เธอสวมชุดเดรสสายเดี่ยวสีดำรัดรูปเว้าลึกถึงกลางหลังที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะข้างๆ ซึ่งกำลังมองมาที่เขาพร้อมกับยื่นแก้วค็อกเทลในมือขึ้นมาคล้ายกับเชิญชวนให้เขาไปนั่งดื่มด้วยกันกับเธอ
“โห สาวโต๊ะนั้น อย่างแจ่มอ่ะ เดี๋ยวผมมานะพี่” เตชินทร์ลุกจากไปทันที ปล่อยให้คนที่นั่งร่วมวงอยู่ด้วยมองตามหลังเขาไป
นนท์กับวินถึงกับนั่งยิ้มพร้อมกับส่ายศีรษะไปมากับพฤติกรรมของเตชินทร์ที่พร้อมจะสานสัมพันธ์กับสาวไปทั่ว เมื่อเจอสาวที่ถูกใจ ซึ่งพฤติกรรมนี้ของหนุ่มรุ่นน้อง พวกเขาทั้งสองเจอมันบ่อยจนรู้สึกชินเสียแล้ว
“ที่พี่เรียกผมมาวันนี้ มีเื่อะไรรึเปล่าครับ” นนท์ละความสนใจตรงหน้าและเอ่ยถามธุระสำคัญที่ถูกกวีเรียกตัวมาให้พบในวันนี้
“อ่อ พี่อยากถามเธอเื่ที่ดินที่ปากช่องตรงที่คุณน้าบอกว่าจะเอาไว้ทำรีสอร์ตและบ้านพักตากอากาศน่ะ”
“แล้วทำไมพี่ไม่คุยกับแม่ผมล่ะ”
“คุยแล้ว คุณน้าบอกให้มาคุยกับนายเพราะที่ดินตรงนั้น ท่านยกให้นายดูแลจ้ะ” นนท์ปรายตามองอย่างนึกสงสัย เพราะปกติแล้วกวีมักจะไม่สนใจเื่เกี่ยวกับที่ดินหรืออสังหริมทรัพย์ แต่มักจะสนใจในแฟชั่นการออกแบบและการทำอาหารเสียมากกว่า
“จะซื้อที่ไว้ทำฮาเร็มรึไงพี่” นนท์แกล้งกระเซ้าญาติผู้พี่ จึงถูกตีที่แขนไปหนึ่งที
“อีตาบ้า ปากเสีย ฉันน่ะมันพวกรักเดียวใจเดียวย่ะ ไม่เหมือนกับนายหรอก เปลี่ยนสาวไม่ซ้ำหน้า” เหน็บแนมญาติผู้น้องพอเป็พิธี ก่อนพูดธุระของตนต่อไป
“พอดีคนรู้จักของฉันน่ะ เขาอยากได้ที่ดินตรงนั้นเพราะมันสำคัญสำหรับเขามากต่างหากล่ะ เอางี้...ถ้านายว่างวันไหนพาฉันกับเพื่อนไปดูที่ดินผืนนั้นได้ไหมล่ะ แล้วเดี๋ยวค่อยคุยรายละเอียดกันอีกที แต่ขอให้รู้แน่ๆ ก่อนว่าตอนนี้ยังไม่มีใครจับจองที่ดินตรงส่วนนั้นไป”
“ยังไม่ได้เริ่มเปิดขายหรือให้ใครมาจับจองที่เลยพี่ คุณแม่ก็เพิ่งให้ข่าวไปเมื่อวันก่อนเอง แต่แผนงานคร่าวๆ ก็พอรู้มาบ้างแล้วว่าจะมีส่วนที่สร้างเป็โรงแรมและบ้านพัก ทางทีมเขาก็วางแปลนและแผนผังบางส่วนไว้แล้ว มีแต่ผมเนี่ยแหละที่ยังไม่ได้ลงไปดูพื้นที่เลยว่าอะไรอยู่โซนไหน งั้นถ้าวันไหน ผมจะไปดูที่ดิน ผมจะบอกพี่แล้วกัน ทำตัวให้ว่างไว้ด้วยนะครับ ถ้าน้องชายโทรตามน่ะ ไม่ใช่พอโทรมาก็บอกว่า ไม่ว่าง...เข้าครัวอยู่”
กวีมองค้อนไปหนึ่งที แต่มันก็คือเื่จริง เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตของเขาคือการอยู่ที่ร้านและเข้าครัว เพราะมันคือความสุขของเขา ยามที่ได้ปรุงอาหารและคิดเมนูใหม่ๆ และยิ่งได้แม่ครัวที่รู้ใจมาคอยช่วยเหลือ ทุกอย่างเลยดูราบรื่นจนกลายมาเป็ kawaii bistro ที่ทุกคนได้รู้จักในวันนี้
“ขอบใจไอ้น้องชาย งั้นวันนี้เจ๊เลี้ยงเอง จัดเต็มได้เลยนะจ๊ะ หนุ่มๆ”
กวีตบไหล่นนท์และลุกจากไป เขารีบเดินไปที่หลังร้านเพื่อบอกข่าวดีให้กับใครคนหนึ่งได้รับรู้
ภายในครัวหลังร้าน พนักงานทุกคนกำลังรีบเร่งปรุงอาหารเพื่อออกเสิร์ฟให้ทันกับออเดอร์หน้าร้าน กวีผลักประตูห้องครัวเข้ามา เขาสอดส่ายสายตามองหาคนที่้าจะพบตัว เมื่อเห็นก็ยิ้มมุมปาก นึกขำขันและเอ็นดูกับภาพตรงหน้าที่ได้เห็น
หญิงสาวร่างบางกำลังง่วนกับการปรุงน้ำซอส เธอดูขะมักเขม้นและตั้งใจกับงานตรงหน้า หยิบขวดเครื่องปรุงเติมลงไปในอาหารด้วยการเหยาะขวดนั้นที ขวดนี้ที แต่อาจจะด้วยความรีบร้อน หญิงสาวจึงไม่ทันได้ระวัง แก้มเธอจึงเปื้อนซอสไปด้วย
“แพร พี่มีข่าวดีมาบอก มานี่เร็ว” กวักมือเรียกหญิงสาวที่กำลังง่วนอยู่หน้าเตาให้มาหาเขา
“สักครู่นะคะพี่กีวี่ แพรขอเคลียร์เมนูนี้ให้เสร็จก่อนค่ะ”
หญิงสาวตอบก่อนจัดการเมนูอาหารตรงหน้าด้วยการราดน้ำซอสที่เธอเพิ่งเคี่ยวเสร็จลงไปบนเนื้อสันในที่ถูกย่างออกมาจากเตา จากนั้นจึงกดเรียกให้พนักงานเสิร์ฟมารับอาหารไป เสร็จแล้วเธอจึงรีบเดินมาหารุ่นพี่คนสนิทที่เป็ทั้งเ้านายและเพื่อนที่ปรึกษาของเธอ
“พี่กีวี่มีเื่อะไรเหรอคะ”
เรียกเขาด้วยชื่อที่ชายหนุ่มตั้งขึ้นมาเอง โดยเขาให้เหตุผลว่าชื่อนี้เหมาะสมกับตัวเขามากที่สุดเพราะทั้งน่ารักและสดใส ซึ่งชื่อนี้มีไว้เฉพาะคนที่สนิทเท่านั้นถึงเรียกได้ กวียิ้มรับอย่างอ่อนโยน เอามือจับไหล่ของหญิงสาวให้หันหน้ามาหาเขา จากนั้นจึงเอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดแก้มให้กับเธอ
“เื่ที่ดินตรงปากช่อง ฉันจัดการให้เธอแล้วนะ เ้าของเขาบอกว่าถ้าจะไปดูที่เมื่อไร เขาจะโทรบอกเราให้ไปด้วยกัน”
พูดพลางเอ่ยถึงเื่ที่แพรเคยมาคุยกับเขาไว้เมื่อต้นเดือนก่อน หลังจากที่หญิงสาวได้เห็นข่าวการเปิดตัวโครงการรีสอร์ตแห่งใหม่ที่เตรียมสร้างบนที่ดินกว่าหนึ่งร้อยไร่ในพื้นที่ปากช่อง ซึ่งมันจะไม่น่าสนใจเลย ถ้าที่ดินผืนนั้นไม่ใช่ที่ดินของยายเธอ ที่ถูกป้าซึ่งเป็พี่สาวแท้ๆ ของแม่ หลอกเอาไปขายให้กับนายทุน
เ้าของโครงการรีสอร์ตแห่งนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือคุณหญิงดาราวดี แม่ของนายชานนท์นั่นเอง กวีถึงต้องยื่นมือเข้ามาช่วยหญิงสาวตรงหน้าคนที่เขารักเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง
“จริงเหรอคะพี่ หื้อ...ดีใจจัง คุณนนท์ใจดีจังเลย แพรอยากเห็นหน้าเขาจังเลยค่ะ”
หญิงสาวเอ่ยด้วยความปีติยินดี ดวงตาของเธอเป็ประกายอย่างมีความหวังเพราะความฝันอย่างสุดท้ายที่อยากจะทำให้ได้คือ การนำที่ดินของยายกลับมาอยู่ในความดูแลของตน
“ไปสิ เดี๋ยวพี่พาไปเจอ จะได้แนะนำให้รู้จักกันไว้” กวีเดินจูงมือหญิงสาวให้ออกจากครัวไปหานนท์ตรงบาร์ค็อกเทลด้วยกัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้