วันถัดมาูเี่อันตื่นเช้ากว่าปกติ เธอพลิกตัวไปมาพยายามข่มตาหลับอีกครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จจึงลุกไปล้างหน้าล้างตา ก่อนจะมองนาฬิกา
เจ็ดโมงสี่สิบห้านาที
ถ้าออกจากห้องตอนนี้คงได้เจอกับลู่เป๋าเหยียนสินะ
เธอเปิดประตูห้องออกไปแล้วก็เป็ไปตามคาด ลู่เป๋าเหยียนเองก็เพิ่งออกจากห้องของตนเช่นเดียวกันเขาพาดเสื้อสูทไว้กับแขนอย่างสบายๆ ท่อนขายาวก้าวตรงไปยังบันไดทางลงพลางติดกระดุมแขนเสื้อ
กิริยาที่ไม่เชื่องช้าแต่ก็ไม่ได้ดูรีบร้อนนั้นไม่ว่าใครก็ทำได้แต่เมื่อเ้าของอากัปกิริยาคือลู่เป๋าเหยียนกลับทำให้ทุกอย่างดูสง่างามและดึงดูดสายตาคนมองไปหมด
กอปรกับใบหน้าหล่อเหลาได้รูปของเขาด้วยแล้วช่างเป็ภาพที่ทำให้คนมองลืมหายใจเอาได้ง่ายๆ
ูเี่อันยืนเพ้ออยู่สักพักก่อนจะดึงสติกลับมาได้ขณะที่เธอกำลังคิดว่าจะทักทายเพื่อทำลายความอึดอัดที่เกิดขึ้นเมื่อวานอย่างไรดีลู่เป๋าเหยียนก็เดินผ่านหน้าเธอไปสีหน้านิ่ง โดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
“...”
เฮ้? จะเก๊กอะไรนักหนาเนี่ยตาบ้า
ได้จะเล่นาเย็นใช่ไหม ถึงอย่างไรพวกเธอก็เคยผ่าน่เวลาแบบนี้มาแล้วนี่
ูเี่อันเดินกลับเข้าไปนอนในห้องอย่างโมโหต่อให้ท้องร้องหิวแค่ไหนเธอก็ไม่ยอมลงไปกินข้าว จนกระทั่งเก้าโมงซึ่งเป็เวลาที่ลู่เป๋าเหยียนออกไปบริษัทแล้ว เธอถึงยอมลงไปข้างล่าง
หากเป็เมื่อก่อนถ้าลู่เป๋าเหยียนรู้ว่าเธอตื่นแล้ว เขาคงมาเรียกเธอไปกินข้าวสินะ
เธอรู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูกูเี่อันไม่อยากนอนอยู่เฉยๆ ที่บ้านอีกต่อไปเลยสะพายกระเป๋าและขับรถออกไปข้างนอก หลังขับรถวนรอบหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยธรรมชาติชมนกชมไม้จนพอใจแล้ว ูเี่อันก็โทรหาลั่วเสี่ยวซี
“ว้าวทำไมว่างโทรหาฉันได้ล่ะ”เสียงของลั่วเสี่ยวซีดูหอบเหมือนกำลังออกกำลังกายอะไรอยู่สักอย่าง“เธอไม่ไปช่วยงานบอสลู่ที่บริษัทแล้วหรือไง”
“เธอลางานได้หรือเปล่า”ูเี่อันพูดเสียงเบา “ออกมาเจอกันหน่อยสิ”
พวกเธอคบกันมาเป็สิบปีลั่วเสี่ยวซีรับรู้ได้ถึงความผิดปกติในน้ำเสียงของูเี่อันทันที
“ได้ งั้นเจอกันที่เก่าเดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อนแล้วตามไป”
“อืม”ูเี่อันตอบก่อนจะดึงบูลทูธออก และขับรถออกจากหมู่บ้านไป
พวกเธอทั้งสองคนถึงคาเฟ่เวลาไล่เลี่ยกัน
ลั่วเสี่ยวซีมองูเี่อันอยู่นานสายตาของูเี่อันในวันนี้ดูไม่ค่อยสดใสเธอหลุบตาลงพลางใช้นิ้วเรียวเขี่ยโต๊ะวนไปวนมา ราวกับไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดอย่างไรดี
ลั่วเสี่ยวซีจึงถามขึ้นตรงๆว่า “เธอกับลู่เป๋าเหยียนมีอะไรกันหรือเปล่า”
มือที่กำลังวาดโต๊ะหยุดลงทันทีูเี่อันมองลั่วเสี่ยวซีอย่างแปลกใจ
“ทำไมเธอถึงเดาว่าฉันกับตานั่นมีปัญหากันล่ะไม่คิดว่าฉันมีปัญหาเื่งานบ้างหรือไง”
“เฮอะ”ลั่วเสี่ยวซีดื่มชานมของตนก่อนเอ่ย“ถ้างานเธอมีปัญหาป่านนี้เธอคงไปขลุกอยู่กับศพในห้องเย็นของเธอแล้ว อีกอย่างตอนนี้นอกจากลู่เป๋าเหยียนแล้วจะมีใครทำให้เธอเป็แบบนี้ได้อีกล่ะ”
ูเี่อันก้มหน้าก่อนจะเริ่มเขี่ยโต๊ะอีกรอบ
“เธอยังดูออกเลยแล้วทำไมเขาถึงดูไม่ออกกันนะ เสี่ยวซี เธอว่า...ถ้าฉันสารภาพกับเขาไปเลยตรงๆฉันกับเขาจะเป็ยังไง”
“คุณพระ...”
ลั่วเสี่ยวซีใจนแทบจะกลิ้งตกจากโซฟา
ตอนสิบขวบูเี่อันเริ่มสนใจในตัวลู่เป๋าเหยียนพออายุสิบหกก็เริ่มรู้ตัวว่าชอบเขา หลังจากนั้นก็ได้แต่งงานกันตอนอายุยี่สิบสี่...เวลากว่าสิบสี่ปีทีู่เี่อันก็ซ่อนความรู้สึกนี้เอาไว้ ขนาดเพื่อนสนิทที่สุดอย่างเธอยังไม่คิดจะบอก
คนที่ไม่รู้จักเพื่อนเธอคนนี้ดีอาจจะคิดว่าูเี่อันเป็คนจืดจางั้แ่ม.ปลายจนถึงมหาวิทยาลัย หนุ่มๆ ที่ตามจีบูเี่อันมีเป็ขบวนแต่ทุกครั้งเพื่อนเธอจะปฏิเสธพวกเขาอย่างนุ่มนวลทว่าเด็ดขาดทุกครั้งที่ได้รับจดหมายรักก็มักจะคืนเ้าของไปโดยไม่เปิดอ่านสักนิด
ยิ่งูเี่อันเป็แบบนั้นผู้ชายที่ตามจีบก็ยิ่งเยอะขึ้น จนพวกผู้หญิงเริ่มอิจฉาและแอบนินทาลับหลังว่าูเี่อันเป็คนถือตัวและหวังสูง
แต่ความจริงแล้วไม่ว่าจะเป็หนุ่มสายวิทย์ที่ใช้สมการเป็ตัวพิสูจน์ความรักของพวกเขาหรือคุณชายไฮโซที่ขับรถสปอร์ตมาพร้อมช่อดอกกุหลาบเพื่อนเธอคนนี้ก็ปฏิเสธด้วยท่าทีเดียวกันหมด ใช่ว่าจะสนใจแต่คนรวยเสียที่ไหน
ทุกครั้งทีู่เี่อันได้ยินคำนินทาลับหลังเหล่านี้เธอก็มักจะสวนกลับอย่างไม่ไว้หน้า นานวันเข้า ผู้หญิงพวกนั้นจึงเริ่มเชื่อว่าูเี่อันคงไม่คิดจะคบใครจริงๆและได้รู้ว่าหญิงสาวที่ภายนอกอาจจะดูเหมือนไม่มีอะไรอย่างูเี่อันแท้ที่จริงแล้วเป็คนทะนงตัวขนาดไหน
มีเพียงลั่วเสี่ยวซีเท่านั้นที่รู้ว่าูเี่อันนั้นหยิ่งในศักดิ์ศรีของตนมากพอๆ กับความรักที่มีต่อลู่เป๋าเหยียน
และความรักเ่าั้ก็ยิ่งทำให้เพื่อนเธอคนนี้รู้สึกว่าตัวเองด้อยคุณค่า
ูเี่อันมักจะรู้สึกว่าตัวเองกับลู่เป๋าเหยียนนั้นอยู่คนละชั้นจึงไม่เคยคาดหวังว่าตนกับลู่เป๋าเหยียนจะได้คบกันเลยได้เก็บความลับเื่ที่ตัวเองชอบลู่เป๋าเหยียนเอาไว้ต่อให้แต่งงานกับลู่เป๋าเหยียนแล้วก็ตาม ูเี่อันก็มักจะเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าปลายทางของการแต่งงานในครั้งนี้ก็คือการหย่าร้าง
แต่ตอนนีู้เี่อันกลับบอกว่าจะสารภาพรักกับลู่เป๋าเหยียน
ลั่วเสี่ยวซีเบิกตากว้างอย่างใ“ทำไมอยู่ดีๆ คิดจะสารภาพล่ะ เพี้ยนไปแล้วเหรอเธอ”
ูเี่อันนิ่งไปสักพักก่อนตอบ
“เปล่าฉันแค่เริ่มโลภแล้วล่ะ ตอนที่แอบชอบเขาฉันคิดเสมอว่าแค่ได้เห็นเขาในนิตยสารก็เพียงพอแล้ว ตอนที่ได้แต่งงานกันฉันก็แค่คิดว่า ได้อยู่ร่วมชายคากับเขาทุกวันแบบนี้ก็พอใจแล้วแต่ไม่รู้ว่าั้แ่เมื่อไร ที่ฉันเริ่มรู้จักคำว่าหึงหวง ฉันไม่อยากหย่ากับเขาฉันอยากจะเป็ภรรยาของเขา อยู่เคียงข้างเขาไปตลอดชีวิต...”
“แต่ก่อนฉันสามารถเมินเฉยเื่ข่าวฉาวของเขากับหานรั่วซีได้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่ฉันไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าเขากำลังอยู่กับคนอื่น”
ตลอดการอธิบายูเี่อันดูกังวลใจ ราวกับว่าตัวเองทำเื่อะไรผิดไป แต่ก็ไม่อยากขอโทษไม่อยากยอมรับว่าเป็ความผิดของตน
ลั่วเสี่ยวซีถอนหายใจ“ที่เธอเป็แบบนี้เขาไม่เรียกว่าโลภ แต่เพราะเธอชอบเขามากต่างหาก”
“เมื่อวานพวกฉันเจอกับหานรั่วซีโดยบังเอิญก็เลยทะเลาะกัน” ูเี่อันคนชานมในแก้ว พลางมองน้ำชาที่ไหลเวียนวนไปมาในนั้น“แต่งงานกันมาสามเดือนกว่าาเย็นทั้งสองครั้งที่เกิดขึ้นก็เพราะหานรั่วซีเป็ต้นเหตุ หานรั่วซี...มักจะทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกคุกคาม”
ลั่วเสี่ยวซีนิ่งคิดก่อนตอบ“เอาจริงๆ ฉันไม่เห็นด้วยที่เธอจะสารภาพ ดูฉันเป็ตัวอย่างสิสารภาพรักกับพี่ชายเธอแล้วเป็ไง โดนเขาปฏิเสธมานับครั้งไม่ถ้วนจนพ่อด่าฉันอยู่ทุกวันนี้ที่ทำให้เขาต้องขายหน้า สรุปนะ ฉันว่าเธอค่อยๆ ทำให้เขาเคยชินที่มีเธออยู่ข้างกายดีกว่ารออยู่นิ่งๆ จนกว่าอีกฝ่ายจะเคลื่อนไหว แล้วค่อยจัดการเขาซะ! ง่ายแค่นี้เอง!ส่วนหานรั่วซีน่ะเหรอ ฉันว่าเธอจัดการได้แน่”
ให้ลู่เป๋าเหยียนเป็คนเข้าหาเธอก่อน? คงจะยาก...
หลังนั่งพักผ่อนกันอยู่สักพักลั่วเสี่ยวซีก็ลากูเี่อันไปช้อปปิ้ง
“เป็ถึงคุณนายตระกูลใหญ่โตแต่ไม่รู้จักช้อปปิ้งบ้างเลย ไม่เกรงใจเงินมหาศาลของลู่เป๋าเหยียนบ้างหรือไง”ลั่วเสี่ยวซีอบรมเพื่อนของตนน้ำเสียงจริงจัง “เชื่อฉัน คนแบบลู่เป๋าเหยียนเกิดใหม่อีกสิบชาติก็ยังใช้เงินไม่หมด ถ้าเธอใช้เงินของเขาซื้ออะไรบ้างเขาจะยิ่งรู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จ ว่าแต่เขาได้ให้บัตรเครดิตหรือบัตรเสริมอะไรกับเธอบ้างหรือเปล่า”
ูเี่อันหยิบบัตรเสริมของแบล็กการ์ดขึ้นมาก่อนจะอธิบายว่านี่คือค่าทำอาหารเย็นที่ลู่เป๋าเหยียนให้กับเธอ
พรืด...ลั่วเสี่ยวซีหลุดขำจนตัวงอ
“ูเี่อันยัยซื่อบื้อ นี่มันบัตรเสริมของแบล็กการ์ดเลยนะ ลู่เป๋าเหยียนให้มันกับเธอความหมายของเขาคือให้เธอเอาไปใช้ได้ตามใจเขาไม่มาสนหรอกว่าเธอจะรูดเป็แสนหรือเป็ล้าน”
ูเี่อันนึกไปถึงตอนที่เธอจะคืนบัตรให้กับลู่เป๋าเหยียนแล้วเขาทำท่าไม่พอใจ
หรือว่า...ลั่วเสี่ยวซีจะพูดถูกเพราะว่าเธอไม่รักษาน้ำใจเขา เขาก็เลยโกรธ?
ตาบ้าเอ๊ย...
“เลิกคิดๆเอาเป็ว่าวันนี้เธอถูกใจอะไร ก็ซื้อมันให้หมด! เขาไม่สะทกสะท้านแน่นอน!”
ลั่วเสี่ยวซีลากูเี่อันเข้าไปในร้านขายชุดชั้นในก่อนจะตรงไปยังโซนชุดนอน
“เธอจะซื้อชุดนอนงั้นเหรอ”ูเี่อันถาม
“เธอต่างหากที่จะซื้อ!”ลั่วเสี่ยวซีเลือกเสื้อผ้าบนราวพลางยิ้มอย่างเ้าเล่ห์ก่อนจะหยิบชุดนอนที่ทั้งบางทั้งสั้น แถมยังคอวีลึกส่งใหู้เี่อัน
“ตัวนี้เป็ไง วับๆ แวมๆดูเซ็กซี่น่าค้นหา คิดว่าจะถูกใจบอสลู่ของเธอไหม”
ูเี่อันเข้าใจทันทีว่าลั่วเสี่ยวซี้าทำอะไรหน้าของเธอแดงเป็ลูกตำลึงก่อนจะผลักมือเพื่อนของตนให้เก็บชุดเข้าที่
“บ้าเหรอ ฉันกับเขาพวกเรา...”
“ยังกลางวันแสกๆ อยู่แท้ๆคุณนายลู่ก็เริ่มวางแผนว่าคืนนี้จะยั่วยวนสามียังไงแล้วเหรอคะ”
เสียงประชดประชันของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นูเี่อันรู้สึกคุ้นกับเสียงนี้ แต่นึกไม่ออกว่าเป็เสียงของใครจึงหันกลับไปมอง
ที่แท้ก็เฉินเสวียนเสวียนกับหานรั่วซีนี่เอง
หานรั่วซีรวบผมลอนของเธอและสวมแว่นกันแดดกับมาสก์ปิดปากสีดำ เธออยู่ในชุดเรียบๆ ดูติดดิน หากมองไกลๆ คงไม่มีทางรู้ว่าเธอคือใครเว้นแต่คนที่สนิทกันมากเท่านั้น
ในทางกลับกันเฉินเสวียนเสวียนกลับแต่งตัวหรูหราจัดเต็มเธอยังคงมีท่าทีเย่อหยิ่งเหมือนเมื่อในวันงานปาร์ตี้ที่พยายามหาเืู่เี่อันแถมยังดูถูกที่เธอเป็เพียงแค่แพทย์นิติเวช
ั้แ่เหตุการณ์ครั้งนั้นยัยนี่ยังไม่เข็ดอีกเหรอ? ูเี่อันขมวดคิ้วมุ่นพลางคิดในใจเธอกับลู่เป๋าเหยียนจดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายเธอจะยั่วยวนเขาตอนกลางวันหรือกลางคืนแล้วเฉินเสวียนเสวียนมีสิทธิ์อะไรมายุ่งด้วยล่ะ
เธอกำลังคิดจะโต้กลับแต่กลับถูกลั่วเสี่ยวซีรั้งเอาไว้
รับมือกับคนพวกนี้ลั่วเสี่ยวซีถนัดที่สุด
“เสวียนเสวียนเธอคงอิจฉาที่เจี่ยนอันมีสามีแบบลู่เป๋าเหยียนล่ะสิ แต่ก็อย่างว่าเธอไม่อิจฉาสิแปลก เพราะขนาดพ่อแม่เธอพยายามเสนอขายเธอให้ใครต่อใครก็ไม่มีคนเอาสักที เธอเลยได้แต่อิจฉาคนอื่นไปวันๆ แบบนี้สินะ”
เฉินเสวียนเสวียนกับลั่วเสี่ยวซีไม่ถูกกันเป็ทุนเดิมอยู่แล้ว
“ลั่วเสี่ยวซีเธอยังจะมีหน้ามาพูดอีกเหรอ ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นว่าเธอถูกซูอี้เฉิงปฏิเสธมานับครั้งไม่ถ้วนจริงสิ เธอคงไม่รู้ว่าจางเหมยเป็ลูกสาวของคุณป้าฉันสินะอีกไม่นานจางเหมยก็คงได้เป็แฟนกับซูอี้เฉิง คนที่ควรจะต้องอิจฉาคนอื่นคือเธอต่างหาก!”
ลั่วเสี่ยวซียิ้มเย็นก่อนจะสวนกลับ
“การได้เป็แฟนเขาก็หมายความว่าใกล้ถูกเขาเขี่ยทิ้งไปทุกทีเธอเคยเห็นผู้หญิงคนไหนคบกับเขาได้เกินครึ่งปีไหมล่ะ? อย่าแสดงความโง่ของตัวเองไปมากกว่านี่เลยมันน่าสมเพช”
สีหน้าของเฉินเสวียนเสวียนเริ่มดูไม่ได้หานรั่วซียกมือถอดแว่นกันแดดออก
“คุณหนูลั่วอย่างน้อยหญิงสาวพวกนั้นก็เคยได้เป็แฟนกับซูอี้เฉิงส่วนคุณไม่ได้เป็อะไรกับเขาสักอย่าง คงไม่มีสิทธิ์มาดูถูกคนอื่นหรอกมั้งคะ”
ลั่วเสี่ยวซีเลิกคิ้วดาราดังจะทำากับเธองั้นเหรอ คราวนี้ต้องคิดดีๆ หน่อยว่าจะรับมืออย่างไร
“คุณหานคุณต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์มาพูดแบบนี้” จู่ๆ ูเี่อันก็พูดขึ้น“ั้แ่เริ่มเข้าวงการคุณก็คิดหาทางสร้างข่าวซูบซิบกับลู่เป๋าเหยียน หลายปีมานี้คุณหลอกแฟนคลับและคนในโลกอินเทอร์เน็ตได้ก็จริงแต่คุณหลอกตัวเองกับลู่เป๋าเหยียนได้หรือเปล่า”
“ที่บอกฉันเื่เพชรนั่นคงเพราะอยากให้ฉันกับลู่เป๋าเหยียนเข้าใจผิดกันสินะคะแต่น่าเสียดายที่มันไม่มีวันเป็แบบนั้น ถ้าลู่เป๋าเหยียนชอบคุณจริงๆคนนิสัยอย่างเขาคงแต่งงานกับคุณไปตั้งนานแล้ว เขาคงไม่ปล่อยให้ผู้หญิงของเขาไร้เกียรติแบบนี้เขากับคุณไม่ได้เป็อะไรกัน เื่นี้เขาบอกกับฉันด้วยตัวเองเพราะฉะนั้นคุณไม่ต้องเปลืองแรงมายุแยงให้พวกเราแตกกันหรอกค่ะ”
“สิ่งที่คุณได้ยินมานั้นถูกต้องพวกเราเคยตกลงกันว่าจะหย่าในอีกสองปีให้หลัง แต่เวลาสองปีถึงจะไม่นานนักแต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดเื่ราวต่างๆ ได้มากมายสุดท้ายแล้วฉันกับลู่เป๋าเหยียนจะเป็ยังไง มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณแต่มีเื่หนึ่งนะคะ ที่ฉันมั่นใจมากว่ามันจะไม่เกิดขึ้น นั่นก็คือต่อให้พวกเราหย่ากันจริงๆ ลู่เป๋าเหยียนก็ไม่มีทางหันไปคบคุณในเื่นี้อย่างน้อยเสี่ยวซีกับพี่ชายฉันก็ยังคงมีทางเป็ไปได้เพราะฉะนั้นคนที่ไม่มีสิทธิ์มาพูดจาดูถูกคนอื่นแบบนี้น่าจะเป็คุณมากกว่าจริงไหมคะ”
