รอจนเวลาคล้อยมาค่ำมืด ในที่สุดหลินหร่านก็ฟื้นขึ้นมา
อวี้ฉู่จาวคอยดูแลอยู่ข้างกายไม่ห่าง
หลินหร่านลืมตาขึ้นมาก็พบกับใบหน้าของอวี้ฉู่จาว
“ฝ่าา” หลินหร่านเรียกด้วยน้ำเสียงแ่เบาและแหบแห้ง
อวี้ฉู่จาวเรียก “อวิ๋นซี”
หลินหร่านใช้มือดันตัวเองเพื่อลุกขึ้นนั่ง โดยมีอวี้ฉู่จาวคอยประคองให้ลุกขึ้นมานั่งเอนหลังพิงไหล่กว้างของตนเอง พร้อมกุมมือหลินหร่านไว้
“นำยามา” อวี้ฉู่จาวะโออกไปข้างนอก
ติงหร่วนเดินเข้ามาพร้อมกับถาดยา
อวี้ฉู่จาวหยิบถ้วยใส่ยาขึ้นมา “อวิ๋นซี ดื่มยาก่อนเถิด”
หลินหร่านว่านอนสอนง่าย รับถ้วยยามาดื่มด้วยตนเอง แต่ถูกอวี้ฉู่จาวยกหนีเสียก่อน
หลินหร่านเงยหน้ามองอวี้ฉู่จาวจึงได้เข้าใจความหมายแล้วลดมือของตนเองลง
อวี้ฉู่จาวหยิบช้อนขึ้นมาก่อนจะค่อยๆ เป่ายาร้อนๆ และบรรจงป้อนไปที่ปากของหลินหร่านช้าๆ หลินหร่านอ้าปากกลืนยาขมเข้าไปอย่างว่าง่าย
ในมือของอวี้ฉู่จาวเตรียมผลไม้เชื่อมเอาไว้ให้ แต่หลินหร่านก็ไม่แสดงท่าทีที่บ่งบอกว่ายานั้นมีรสชาติขมเลย
“ไม่ขมหรือ” อวี้ฉู่จาวถาม
“...ขมขอรับ”
“ถ้าขมทำไมเ้าไม่บอกข้า ทำไมถึงไม่แสดงออก”
“ถึงชีวิตข้าจะขมขื่น แต่ข้าก็ไม่กลัวขม...ข้ากลัวความเ็ป...แต่ ข้าก็ทนความเจ็บได้ขอรับ”
ในใจของอวี้ฉู่จาวรู้สึกถึงความเ็ปขึ้นมา ไม่กลัวความขมเพราะชีวิตพบเจอแต่เื่ขมขื่น กลัวเจ็บแต่ก็สามารถอดทนต่อความเ็ปได้ ซึ่งนั่นทำให้ความเ็ปทวีคูณมากขึ้นหลายต่อหลายเท่า
“ไม่ต้องกลัว จะไม่มีใครทำให้เ้าเ็ปได้อีก”
หลังจากนั้นอวี้ฉู่จาวจึงค่อยๆ ป้อนยาให้หลินหร่านต่อไป
…..
อวี้ฉู่จาววางถ้วยยาลงก่อนโน้มลงไปจูบที่ริมฝีปากของหลินหร่าน แล้วถึงนำผลไม้เชื่อมใส่ไปในปากของหลินหร่านหนึ่งชิ้น
แม้ว่าหลินหร่านจะไม่กลัวขม แต่อวี้ฉู่จาวจะทนให้หลินหร่านต้องอดทนต่อความขมได้อย่างไร?
“วันนี้ใมากใช่หรือไม่”
“อื้อ” หลินหร่านเคี้ยวผลไม้แห้งในปากพลางพยักหน้าไปด้วย
“กลัวว่านางเว่ยตายไปแล้วจะมาเอาชีวิตเ้าไปหรือ” อารมณ์ของอวี้ฉู่จาวเปลี่ยน น้ำเสียงก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ไม่เหลือความอ่อนโยนใดๆ ให้หลินหร่านเลย น้ำเสียงไม่เหมือนว่ากำลัง้าปลอบโยนแม้แต่น้อย
หลินหร่านมองสีหน้าของอวี้ฉู่จาว ไม่รู้ควรเอ่ยอะไร “ฝ่าา…”
หลินหร่านคิดอยู่ในใจ หรือฝ่าาจะคิดว่าเขาอ่อนแอ ไม่เหมาะสมกับตนเอง?
“อวิ๋นซี เ้ารักข้าหรือไม่”
“รักขอรับ” หลินหร่านไม่ลังเล รีบตอบทันที
“เ้าอยากเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับข้า อยากเป็ชายาขอข้าหรือไม่”
“อยากขอรับ” หลินหร่านพยักหน้า
“เ้าอยากร่วมสู้ไปกับข้า ช่วยข้าแย่งชิงตำแหน่งมาหรือไม่”
แววตาของหลินหร่านเต็มไปด้วยความสับสน เหตุใดฝ่าาถึงได้เอ่ยเื่นี้กับเขา แน่นอนว่าเขาต้องยินยอมอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะสามารถช่วยเหลืออะไรอวี้ฉู่จาวได้
“อยากขอรับ” หลินหร่านไม่ได้กลัวอวี้ฉู่จาว แต่ท่าทีของอวี้ฉู่จาวทำให้เขาเสียงสั่นเล็กน้อย
อวี้ฉู่จาวจ้องหลินหร่านด้วยแววตาจริงจัง ทำให้ในใจหลินหร่านรู้สึกตระหนกไม่น้อย
หรือฝ่าาจะผิดหวังในตัวเขาแล้ว
เขาเอาแต่โทษว่าเป็เพราะตนเองขี้ขลาด ไม่มีความแน่วแน่ มักสร้างความเดือดร้อนให้ฝ่าาอยู่เสมอ
ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ช่วยเหลือฝ่าาไม่ได้เลย ทั้งยังต้องให้ฝ่าามาคอยดูแลอีก
เมื่อคิดอย่างนั้นหลินหร่านก็รู้สึกว่าผลไม้เชื่อมในปากไม่ได้หวานเหมือนตอนที่เพิ่งกินเข้าไปเลย ได้แต่กลั้นใจกลืนความขมขื่น
หลินหร่านรู้สึกราวกับกลืนพุทราเข้าไปทั้งเมล็ดโดยไม่ได้เคี้ยว ตอนแรกเขาไม่ได้อยากจะรีบกินผลไม้แห้งให้หมดเร็วๆ แต่ก็ต้องรีบกลืนลงท้องไป
หลินหร่านมองอวี้ฉู่จาวที่นิ่งเฉย แล้วยกมือโอบรอบคอเขา
“ฝ่าา…” หลินหร่านเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเป็กังวล
“ฝ่าา ข้าจะพยายาม ข้าจะเข้มแข็งขึ้น เพื่อให้ตนเองมีคุณสมบัติคู่ควรที่จะยืนอยู่ข้างฝ่าา ฝ่าาอย่าทิ้งข้านะขอรับ...ข้าจะพยายาม จะไม่ทำให้ฝ่าาผิดหวัง ข้ารักฝ่าา อยากเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับฝ่าา อยากเป็ชายาของฝ่าา ข้าจะเข้มแข็ง จะอยู่เคียงข้างฝ่าา ช่วยฝ่าา่ชิงตำแหน่ง...ข้าจะพยายามจริงๆ ฝ่าาอย่าทิ้งข้าเลยนะขอรับ…”
หลินหร่านโอบรอบลำคอของอวี้ฉู่จาวแน่น เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนจะร้องไห้ออกมา
เพียงครู่เดียวอวี้ฉู่จาวก็ยอมใจอ่อน ท่าทีจริงจังที่แสดงออกก่อนหน้านี้เพียงแค่้าให้อวิ๋นซีของเขาได้เผชิญหน้ากับความเป็จริงเท่านั้น ซึ่งเขาไม่คิดเลยว่าจะทำให้หลินหร่านคิดมากและรู้สึกไม่ปลอดภัยเช่นนี้ ทุกอย่างเป็ความผิดของเขา
อวี้ฉู่จาวยกมือโอบเอวบาง มือข้างหนึ่งตบหลังของอีกคนเบาๆ เตรียมจะเอ่ยปากพูด
“หากฝ่าาได้ขึ้นเป็ฮ่องเต้ ข้าไม่คิดอยากขอตำแหน่งฮ่องเฮาเลย ข้าขอแค่…ได้อยู่เคียงข้างฝ่าา…เพราะข้ามีเพียงฝ่าาเท่านั้น…”
อวี้ฉู่จาวคือเพียงคนเดียวที่หลินหร่านรัก เพียงคนเดียวแม้จะเกิดมาสองชาติภพ เขาคิดมาตลอดว่าความขมขื่นที่เขาพบเจอมาทั้งสองชาติภพนั้นก็เพื่อแลกกับโอกาสที่ให้อวี้ฉู่จาวชายตามองเขาในครั้งนี้
ไม่ว่าอวี้ฉู่จาวจะหันมามองเขาด้วยเหตุใด หรือตามหาเขาด้วยเหตุใด เื่นั้นเขาไม่คิดจะสนใจ เขาขอแค่ได้อยู่ข้างกายของฝ่าาก็พอ
น้ำตาของหลินหร่านหยดลงบนไหล่กว้างของอวี้ฉู่จาว ทำเอาอวี้ฉู่จาวรู้สึกเ็ปหัวใจยิ่งนัก
อวี้ฉู่จาวถอนหายใจ ตอนนี้เขาคงทำให้อวิ๋นซีใและไม่สบายใจเป็อย่างมาก
“ข้าไม่ได้ผิดหวังในตัวเ้า อวิ๋นซี” อวี้ฉู่จาวเรียกหลินหร่าน
น้ำตาของหลินหร่านยังคงเอ่อล้น “...ไม่ใช่ว่าฝ่าาอยากให้ข้าเข้มแข็งขึ้นหรือขอรับ”
อวี้ฉู่จาวตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แล้วทำไมถึงร้องไห้มากขนาดนี้ละ”
ผลสุดท้าย คำพูดของอวี้ฉู่จาวก็ทำให้หลินหร่านหยุดร้องไห้ลงได้ น้ำตาค่อยๆ หยุดไหล
เมื่อหลินหร่านสงบลงได้ อวี้ฉู่จาวจึงดึงอีกคนมาด้านหน้าตนเอง ทั้งคู่มองหน้ากัน
“อวิ๋นซี”
“...อื้อ ฝ่าารับสั่งมาได้เลยขอรับ” หลินหร่านยังคงเป็เด็กเชื่อฟัง ไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบขนตาที่เปียกชุ่ม
“เ้าอย่าแสดงท่าทีห่างเหินกับข้าเช่นนี้ ข้าไม่ชอบที่เ้าเป็แบบนี้ เราควรใกล้ชิดกันมากกว่านี้ไม่ใช่หรือ”
หลินหร่านชะงักไปเล็กน้อยแล้วพยักหน้า ก่อนยื่นมือไปจับมือของอวี้ฉู่จาว “ฝ่าา”
อวี้ฉู่จาวถอนหายใจเบาๆ อย่างช่วยไม่ได้
“อวิ๋นซี ข้าไม่เคยผิดหวังในตัวเ้าเลย และจะเป็เช่นนั้นตลอดไป เ้าเป็เช่นไรข้าก็รักเ้า ไม่มีวันทอดทิ้งเ้า ไม่ว่าเ้าจะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่คนที่อยู่ข้างกายข้าจะมีเพียงเ้าเท่านั้น” อวี้ฉู่จาวจับมือของหลินหร่านกลับพลางเอ่ยขึ้น
“ข้าแค่อยากให้เ้าเป็คนเห็นแก่ตัวบ้าง หัดใจร้ายกับผู้อื่นและทำดีกับตนเองบ้าง ข้าไม่ได้กำลังตำหนิเ้า แต่ข้าอยากให้เ้าเข้มแข็งเพื่อตัวเ้าเอง หรือเ้าจะทำเพื่อข้าก็ได้” ระหว่างทางไม่ใช่สิ่งสำคัญ ผลลัพธ์ต่างหากที่สำคัญ อวี้ฉู่จาวพยายามบอกถึงสิ่งที่ตนเองคาดหวัง
หลินหร่านเพิ่งตื่นขึ้นแล้วยังมาร้องไห้นานเช่นนี้อีก ทำให้รู้สึกมึนเวียนหัวขึ้นมา
เขาเข้าใจความหมายของฝ่าาน้อยไป เป็ความผิดของเขาที่คิดมากไปเอง
ฝ่าาเอ่ยเช่นนี้ ดูแลเขาดีเช่นนี้แล้ว เขาควรต้องลองเปลี่ยนแปลงตนเองดูบ้าง
ต่อไปเขาจะพยายาม พยายามเพื่อฝ่าา เขาจะเดินตามหัวใจของตนเอง ไม่ฝืนตนเอง หลินหร่านจะพยายามเพื่อตนเอง
หลังจากนั้น เขากะพริบตาก่อนเงยหน้าจูบที่ริมฝีปากของอวี้ฉู่จาว ต่อมาก็เป็ฝ่ายเริ่มคลอเคลียพิงไหล่
“อื้อ” เสียงที่ตอบกลับมาจากหลินหร่านที่ซุกอยู่ในอ้อมกอดของอวี้ฉู่จาว เสียงที่ได้ยินยังคงเป็เสียงที่ขึ้นจมูก ยังไม่หายจากการร้องไห้
อวี้ฉู่จาวรู้สึกโล่งใจ ยื่นมือออกมาโอบกอดหลินหร่านไว้
----------------------------------