ลู่เป๋าเหยียนลอบถอนหายใจยาวขณะพยายามอดกลั้นความพลุ่งพล่านในร่างกาย
ตอนนั้นเองวังหยางก็เดินเข้ามาเก็บของในห้อง
ูเี่อันนอนโรงพยาบาลมาแค่วันเดียวจึงไม่ได้มีของมากมายสิ่งที่เขาต้องจัดการเก็บให้เรียบร้อยจึงมีเพียงโน้ตบุ๊กของลู่เป๋าเหยียนกับเอกสารต่างๆ
“มีเื่อะไรที่ต้องจัดการอีกไหมครับ”วังหยางถาม
ลู่เป๋าเหยียนไม่อยากให้คนอื่นมาเห็นตอนูเี่อันเดินออกมาจากห้องน้ำเขาจึงบอกปัด
“ไม่มีแล้วออกไปได้”
“ครับ”
วังหยางหยิบของทุกอย่างออกจากห้องไปหลังผ่านไปประมาณห้านาที ประตูห้องน้ำก็ค่อยๆถูกเปิดออกูเี่อันก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองมาทางลู่เป๋าเหยียนทว่าลู่เป๋าเหยียนกลับเข้ามาอุ้มเธอโดยไม่บอกกล่าว
เื่เมื่อครู่ทำใหู้เี่อันมีปฏิกิริยาไวต่อการััทุกอย่างเธอหันไปมองลู่เป๋าเหยียนอย่างใ ‘คนโรคจิต’คำนี้เกือบจะหลุดออกจากปากเธออีกครั้ง แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าลู่เป๋าเหยียนทำตัวโรคจิตกับเธอแบบนี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเธอจึงกลืนคำพูดนั้นลงไป
ลู่เป๋าเหยียนไม่ได้เห็นภาพเธอตอนเขินอายแบบนี้มานานแล้วเขาจึงอยากจะแกล้งเธออีกสักหน่อย
“ฉันอุตส่าห์ช่วยเธอไม่คิดจะตอบแทนกันหน่อยเหรอ”
“ช่วยฉัน?” ูเี่อันพูดอย่างไม่ไว้หน้า “นายทำตัวโรคจิตใส่ฉันต่างหากเล่า”
ลู่เป๋าเหยียนโน้มตัวลงมาจนริมฝีปากของเขาอยู่ห่างจากใบหูเธอแค่คืบ
ูเี่อันรู้สึกจั๊กจี้ก่อนพวงแก้มจะร้อนรุ่มกว่าเดิมเธอไม่มีที่ให้หนีจึงได้แต่ขยับตัวหลบเข้าไปในอ้อมแขนของเขา
“นายจะทำอะไร?”
“เธอหายดีเมื่อไรฉันจะสอนเธอเองว่าการโรคจิตที่แท้จริงมันเป็ยังไง”
ลมหายใจอุ่นร้อนของลู่เป๋าเหยียนดูอันตรายพอๆกับน้ำเสียงความหมายที่เขา้าจะสื่อทั้งชัดเจนและคลุมเครือูเี่อันรู้สึกเหมือนหน้าของเธอร้อนจนปรอทจะแตกอยู่แล้ว เธอนิ่งงันไปสักพักก่อนจะดิ้นสุดแรง
“ปล่อยฉันลงนะ!”
ลู่เป๋าเหยียนวางเธอลงบนรถเข็นอย่างว่าง่ายและเข็นเธอออกจากห้อง
มีรถมาเตรียมรอรับพวกเธออยู่ด้านล่างคนขับรถเป็ชายวัยกลางคนที่พูดภาษากลางติดสำเนียงท้องถิ่นของเมือง Z
“สวัสดีครับคุณลู่คุณนายลู่ วังหยางเดินทางไปที่สนามบินเพื่อเตรียมนำเครื่องขึ้นจึงให้ผมมารับพวกคุณแทนครับ”
ลู่เป๋าเหยียนพยักหน้าตอบรับก่อนจะอุ้มูเี่อันให้ขึ้นไปนั่งบนรถ
เพราะอาการาเ็ที่เอวทำให้เธอนั่งนานๆไม่ค่อยได้แม้ลู่เป๋าเหยียนจะเอาหมอนอิงมาให้เธอพิงแล้วก็ตาม แต่ผ่านไปได้แค่ครึ่งชั่วโมงเธอก็เริ่มปวดแผลที่เอวขึ้นมาอีกครั้ง
ลู่เป๋าเหยียนจึงออกคำสั่งกับคนขับรถ
“ขับให้เร็วขึ้นหน่อย”
“ครับ!”คนขับเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็ว แต่มันไม่อาจช่วยบรรเทาความเ็ปของูเี่อันไปได้
ลู่เป๋าเหยียนโอบตัวเธอเอาไว้พลางเอ่ย
“นอนลงมาไหม”
ูเี่อันส่ายหน้าเพราะรถไม่ได้ใหญ่มาก ต่อให้เอนตัวลงนอนก็คงไม่สบายตัวนักเธอปวดแผลมากจนแทบทนไม่ไหวจึงหยิกแขนลู่เป๋าเหยียนไปหนึ่งที
“เพราะนายคนเดียวเลย!”
ลู่เป๋าเหยียนสงสารเธอจับใจเขายกมือขึ้นมาจัดไรผมด้านหน้าของเธอเล็กน้อย
“ทนอีกนิดนะเดี๋ยวก็จะถึงสนามบินแล้ว”
ครึ่งชั่วโมงกว่าให้หลังในที่สุดทั้งสองคนก็มาถึงจุดหมาย เมื่อผ่านด่านตรวจ VIP เข้ามาแล้ว ลู่เป๋าเหยียนก็รีบพาูเี่อันขึ้นเครื่องทันที
เครื่องบินส่วนตัวของเขาไม่ได้ใหญ่มากแต่ก็มีห้องโดยสารที่พักผ่อนได้อย่างสบายลู่เป๋าเหยียนอุ้มเธอเข้าไปก่อนจะให้เธอเอนตัวนอน ความเ็ปที่เอวของูเี่อันจึงค่อยๆดีขึ้น
“แอร์โฮสเตสจะอยู่เป็เพื่อนเธอ”ลู่เป๋าเหยียนลูบผมเธอเบาๆ “ฉันออกไปทำงานก่อนนะ”
“ไม่ต้องหรอกฉันอยากนอนสักหน่อย “ูเี่อันไม่ชินเวลามีคนมาคอยมองเธออยู่ข้างๆ “นายไปทำงานเถอะถ้ามีอะไรเดี๋ยวฉันจะเรียกนาย ไม่ต้องให้แอร์โฮสเตสมาดูแลฉันก็ได้”
“อืม”ลู่เป๋าเหยียนตอบรับและช่วยจัดผ้าห่มของเธอให้เข้าที่ จากนั้นจึงประทับจุมพิตบนหน้าผากของเธอก่อนจะเดินออกไป
เดิมทีูเี่อันตั้งใจว่าจะนอนพักแต่จูบของเขาทำให้เธอตาสว่างเสียแล้ว
เธอยกมือขึ้นแตะหน้าผากที่ยังคงรู้สึกได้ถึงััอันอบอุ่นของลู่เป๋าเหยียน
เมื่อก่อนลู่เป๋าเหยียนก็เคยทำแบบนี้กับเธอแต่ตอนนั้นเธอมัวแต่เขินอาย จึงไม่เคยรับรู้ถึงความรักใคร่ที่เขามอบให้ อีกหน่อย ความสัมพันธ์ของพวกเธอจะเป็ยังไงนะ?
ในเมื่อเธอชอบเขาและเขาเองก็รักเธองั้นพวกเธอก็ควรจะมีชีวิตดั่งในนิทานที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขใช่หรือเปล่า?
ไม่สิเธอต้องมีลูกให้เขาสักคนหนึ่ง ถ้าเขาชอบเด็กๆล่ะก็ สักสองเลยดีไหมนะเอาเป็ชายคนหญิงคน ลูกของพวกเธอจะช่วยกันสืบทอดตระกูล ในขณะที่ลูกๆโตขึ้นเธอกับลู่เป๋าเหยียนก็ค่อยๆแก่ตัวลง...
ถ้าเธออยากจะมีลูกล่ะก็...เอ่อ...
ูเี่อันหน้าแดงขึ้นมาทันทีเธอยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมหน้าพลางเตือนตัวเองให้หยุดคิดต่อได้แล้ว!
เธอยังไม่ได้สารภาพความรู้สึกกับเขาเลยจะมีลูกอะไรกัน ตอนนี้เื่สารภาพสำคัญกว่านะ!
ส่วนที่ว่าเธอจะสารภาพกับเขาเมื่อไหร่งั้นเหรอ...แน่นอนว่าจะต้องเป็ตอนที่ลู่เป๋าเหยียนคาดไม่ถึง!
ูเี่อันเอาแต่คิดจินตนาการถึงภาพในอนาคตอาจเพราะอนาคตที่เธอวาดไว้สวยงามเกินไป คิดไปคิดมาเธอก็เริ่มเหนื่อยจนผลอยหลับไป
ลู่เป๋าเหยียนเดินเข้ามาปลุกเธอเมื่อลืมตาขึ้นมาเขาก็พูดว่า
“เจี่ยนอันพวกเราถึงแล้ว”
ลู่เป๋าเหยียนมองออกไปนอกหน้าต่างเครื่องบินลงจอดแล้วเรียบร้อย แต่ที่นี่ดูไม่เห็นเหมือนสนามบินตรงไหน
“พวกเราอยู่ที่ไหน?” เธอถามอย่างข้องใจ
“โรงพยาบาล”ลู่เป๋าเหยียนประคองเธอให้ลุกขึ้น “ฉันให้คนทำเื่ไว้แล้ว เธอคงต้องพักอยู่ที่นี่อีกครึ่งเดือน”
ูเี่อันไม่ชอบโรงพยาบาลเป็ทุนเดิมอยู่แล้วพอได้ยินว่าต้องอยู่ที่นี่อีกครึ่งเดือนก็ยิ่งเซ็ง ลู่เป๋าเหยียนจึงพูดเสริม
“ฉันจะอยู่เป็เพื่อนเธอเอง”
เธอคงไม่อาจอยู่บนเครื่องบินไปได้ตลอดจึงยอมให้ลู่เป๋าเหยียนอุ้มลงไปแล้วก็พบว่าที่แท้ลานจอดเครื่องบินอยู่บนชั้นดาดฟ้าของโรงพยาบาล
เปิดโรงพยาบาลเป็ของตัวเองยังไม่เท่าไรแต่สร้างลานจอดจอดบินไว้บนตึกแบบนี้ด้วยนี่สิ...
ที่ลั่วเสี่ยวซีพูดเอาไว้ไม่ผิดสักนิดลู่เป๋าเหยียน เขานี่มัน... บ่อเงินบ่อทองชัดๆ...
เมื่อลงจากเครื่องบินมาูเี่อันก็เห็นถังอวี้หลันกับลั่วเสี่ยวซียืนรออยู่เมื่อทั้งสองคนเห็นลู่เป๋าเหยียนอุ้มเธอลงจากเครื่องบินก็รีบวิ่งเข้ามาหา ถังอวี้หลันพูดด้วยความสงสารจับใจ
“เจี่ยนอันเป็ยังไงบ้างลูก ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า”
ูเี่อันฝืนยิ้มออกไปทั้งที่ความเ็ปกำลังจู่โจมเธอไม่ยั้งเธอจับมือของถังอวี้หลันพลางเอ่ย
“หนูไม่เป็ไรแล้วค่ะแม่แค่าเ็นิดหน่อย ไม่นานก็หายดีค่ะ”
“าเ็นิดหน่อยอะไรกันแม่อ่านผลการตรวจร่างกายของหนูแล้วนะ” ถังอวี้หลันมองสำรวจูเี่อันั้แ่หัวจรดเท้า“แม่ให้คนเตรียมห้องพักไว้แล้ว เป๋าเหยียน รีบพาน้องไปเร็วเข้า”
ูเี่อันลงไปนั่งบนรถเข็นอีกครั้งลั่วเสี่ยวซีมองเธออย่างพิจารณาอยู่สักพักก่อนเอ่ย
“ดีนะที่หน้าไม่เป็แผลน่ะ”
ชั้นบนสุดของอาคารผู้ป่วยในมีห้องชุดส่วนตัวที่ไม่เปิดให้คนนอกเข้ามาพักขนาด2ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น การตกแต่งไม่ต่างอะไรกับอพาร์ทเมนท์ทั่วไปทั้งห้องครัวและห้องรับแขกมีเฟอร์นิเจอร์พร้อมสรรพ ที่นี่คือห้องพักที่ถังอวี้หลันให้คนเตรียมเอาไว้ให้กับูเี่อัน
ลั่วเสี่ยวซีเห็นแล้วถึงกับอุทาน“นี่ไม่ต่างกับการนอนพักที่บ้านเลยนะ”
“เจี่ยนอันหมออ่านประวัติการรักษาตอนหนูอยู่เมือง Z เรียบร้อยแล้วนะเห็นว่าต้องพักรักษาตัวอีกครึ่งเดือนถึงจะหายเป็ปกติ ่นี้หนูพักอยู่ที่นี่ไปก่อนไม่ต้องกังวลเื่งานแล้วนะจ๊ะ”
ูเี่อันพยักหน้าอย่างว่าง่าย
ลู่เป๋าเหยียนมองเวลาเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า“ผมขอตัวไปที่บริษัทก่อนนะครับ” พูดจบเขาก็หันกลับมาบอกูเี่อัน“แม่กับเสี่ยวซีจะอยู่เป็เพื่อนเธอที่นี่ เดี๋ยวตอนค่ำฉันจะกลับมา”
ูเี่อันพยายามไม่แสดงออกทางสีหน้าเธอ “อืม” ตอบเขาก่อนจะมองเขาออกไปพลางถอนหายใจ
ถังอวี้หลันนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง“นี่ถ้าไม่ใช่เพราะแม่โทรหาหนูไม่ติดเลยต้องไปแค้นจากเสิ่นเยว่ชวนแม่คงไม่รู้ว่าหนูเกิดเื่ ทำไมเป๋าเหยียนถึงยอมปล่อยให้หนูไปทำงานเสียไกลขนาดนั้น?”
“หนู...”ูเี่อันลูบปลายจมูกอย่างไม่รู้จะตอบอย่างไรดี “แม่คะ ไม่ใช่ความผิดเขาหรอกค่ะคือหนู...”
“ทะเลาะกันล่ะสิใช่ไหม?” ถังอวี้หลันพูดขัดูเี่อันที่กำลังอ้ำๆอึ้งๆ เธอถอนหายใจพลางส่ายหน้า
“ดีนะที่หนูไม่เป็อะไรมากนี่ถ้าเป็อะไรขึ้นมา แม่จะมีหน้าไปเจอแม่ของหนูได้ยังไง”
“แม่คะอย่าพูดแบบนั้นสิคะ” ูเี่อันให้คำสัญญาสีหน้าจริงจัง“ไม่มีครั้งต่อไปแล้วล่ะค่ะ จากนี้เป็ต้นไปพวกเราจะไม่ทะเลาะกันอีก จะช่วยกันแก้ไขปัญหาโดยไม่ใช่อารมณ์อีกแล้ว”
“แล้วครั้งนี้พวกลูกทะเลาะกันเื่อะไร?” ถังอวี้หลันถาม
“ก็...เพราะเื่เล็กน้อยน่ะค่ะ แม่วางใจเถอะนะคะ พวกเราจัดการได้ค่ะ”ูเี่อันยิ้มอย่างเอาใจ เธอจับมือของถังอวี้หลันไว้พลางออดอ้อน “แม่คะหนูอยากกินซุปฝีมือแม่จัง”
ถังอวี้หลันยิ้ม“ที่นี่อุปกรณ์ไม่ครบ เดี๋ยวแม่กลับบ้านไปทำมาให้นะจ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
เมื่อถังอวี้หลันออกไปแล้วลั่วเสี่ยวซีก็เดินเข้ามาหาูเี่อัน
“เพราะเื่เล็กๆ? ฉันว่า... คงไม่ใช่แน่ๆ”
ูเี่อันเอนตัวนอนบนเตียงพลางมองฝ้าเพดาน
“เธอพูดถูกฉันขอหย่ากับเขาไปแล้ว...”
“อะไรนะ!”ลั่วเสี่ยวซีแทบสำลัก “ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ? แล้วไงต่อ?”
“ก็...หลังจากนั้นก็เหมือนฝันเลย”
ูเี่อันเล่าเื่ทุกอย่างให้ลั่วเสี่ยวซีฟังเมื่อฟังจบคนที่ไม่เคยสะทกสะท้านกับสิ่งใดอย่างลั่วเสี่ยวซียังถึงกับช็อกไปเธอมองูเี่อันนิ่งงันราวกับคนโง่
ผ่านไปสักพักลั่วเสี่ยวซีจึงเรียกสติตัวเองกลับคืนมาได้ก่อนจะสรุปสั้นๆ
“นี่จะบอกว่าเธอกับลู่เป๋าเหยียนชอบกันมาตั้งหลายปีแต่ไม่ยอมมาเจอหน้ากันต่างคนต่างไม่ยอมปริปาก แถมยังเชื่อว่าอีกฝ่ายชอบกับคนอื่น?”
“......”ูเี่อันพยักหน้า
“ให้ตายเถอะ!”ลั่วเสี่ยวซีแทบจะตบเตียงดังป๊าบ “พวกเธอออกจะดูเป็คนฉลาดไอคิวสูงปี๊ดกว่าคนธรรมดาอย่างพวกฉันแต่ทำไมตอนนี้ฉันกลับรู้สึกว่า... พวกเธอนี่โง่ชะมัดยาก”
“.......”ยังเป็เพื่อนกันอยู่ไหมเนี่ย? ูเี่อันคิด
ลั่วเสี่ยวซีรู้สึกสนใจจึงถามอย่างตื่นเต้น“ว่าแต่เธอจะทำไงต่อ?คนเ็าอย่างบอสลู่ยอมสารภาพกับเธอขนาดนี้ แล้วเธอล่ะ?”
“ฉันก็ต้องสารภาพกับเขาเหมือนกันน่ะสิ”ูเี่อันนิ่งไปชั่วครู่ก่อนเอ่ย “แต่คงต้องหาเวลาเหมาะๆก่อน”
“ฉลาดมาก!”ลั่วเสี่ยวซีดีดนิ้วอย่างถูกใจ “กั๊กไว้ก่อน ยั่วยวนบ้างถ้ามีโอกาสเอาให้เขาแทบบ้าไปเลย พอวินาทีสุดท้ายค่อยสารภาพออกมาแล้วก็จัดการรวบหัวรวบหางซะ! คราวนี้แหละเขาต้องหลงเธอจนโงหัวไม่ขึ้นแน่ๆ!”
ูเี่อันยิ้มมุมปาก“เดิมทีเขาก็หลงฉันอยู่แล้ว ไม่งั้นหลายปีมานี้คงไปหาสาวอื่นแล้วล่ะ”
“เฮ้อ!”ลั่วเสี่ยวซีนึกอะไรขึ้นมาได้จึงเอ่ยเตือน “เธออย่าพูดไป ถึงจะไม่เคยมีข่าวออกมาแต่เธอมั่นใจได้ยังไงว่าผู้ชายแบบลู่เป๋าเหยียนจะไม่เคยมีแฟนมาสัก3-4 คน? มันเป็ไปไม่ได้! อีกอย่างตอนที่เขาก่อตั้งบริษัทใหม่ๆเขาอยู่อเมริกานะ เธอก็รู้ดีว่าที่นั่น...เปิดเผยขนาดไหน...”
“ฉันไม่เคยถาม...”ูเี่อันลังเลเล็กน้อย “แต่ลู่เป๋าเหยียนไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย”
“ฉันว่าเธอลองสืบหน่อยก็ดี”ลั่วเสี่ยวซีกล่าว “ถ้าไม่มีก็ดี แต่ถ้ามีเธอก็ต้องป้องกันไว้ก่อนผู้หญิงสมัยนี้ไว้ใจได้ที่ไหน แถมบอสใหญ่บ้านเธอยังน่าจับขนาดนี้”
“……”
