หลี่เซวียนนั่งลงด้านข้างของเสิ่นเยว่ เขาจับตัวนางหันเข้าหาตนเอง เพื่อให้นางเผชิญหน้ากับเขาเพื่อไม่ให้นางหลีกเลี่ยงได้เหมือนดั่งเช่นที่ผ่านมา
“เ้า....อยากจะเริ่มต้นใหม่กับข้าหรือไม่”
เสิ่นเยว่ไม่เข้าใจที่เขาพูด
“เริ่มต้นใหม่อะไร”
“ก็เื่ที่เราเคยตกลงกันเอาไว้ก่อนที่จะแต่งงาน”
หลี่เซวียนมีท่าทางอึดอัดเล็กน้อย เพราะเื่นี้เขาเป็คนเสนอให้กับนางก่อน เขายังไม่มั่นใจนักว่าเสิ่นเยว่จะเห็นด้วยกับเื่นี้หรือไม่เพราะตอนแรกดูเหมือนนางก็ต่อต้านการแต่งงานของทั้งสองตระกูลเหมือนกัน
“ท่านแน่ใจหรือ เหตุใดตอนนี้ถึงได้อยากจะจริงจังเื่แต่งงานเล่า มิใช่ว่าท่านก็ไม่ชอบที่ต้องแต่งงานกับสตรีที่ท่านไม่รู้จักหรือ ท่านเคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้นี่นา”
เสิ่นเยว่ไม่ค่อยเข้าใจในความคิดของเขาเท่าไหร่
“นั่นมันเป็เื่เมื่อเดือนก่อน ตอนนี้ข้าคิดว่าข้ารู้จักเ้าดีแล้วเเละข้าก็อยากจะสร้างครอบครัวกับเ้า ข้าหมายถึงแค่เ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น คือ....ข้าอยากให้เ้าคิดดูเื่ของเราอีกสักครั้งได้หรือไม่ แล้วลืมเื่ที่ข้าเคยพูดกับเ้าว่าข้าไม่อยากแต่งงานก่อนหน้านี้ทิ้งไป”
หลี่เซวียนมีท่าทางเขินอายเมื่อต้องพูดกับเสิ่นเยว่ตรงๆ ถ้าเป็ไปได้เขาอยากจะเขียนความในใจลงในกระดาษแล้วส่งให้นางอ่านมากกว่า แต่ถ้าทำเช่นนั้นมันจะดูไม่จริงใจเขากลัวว่านางจะปฏิเสธ
“ข้า....จะยังไงก็ได้ ถึงอย่างไรข้าก็แต่งเข้ามาแล้วมิใช่หรือ”
เสิ่นเยว่ตัดใจเื่สหายที่ส่งจดหมายคุยกับนางแล้ว อีกอย่างหลี่เซวียนเป็คนที่นางสามารถจับต้องได้หาใช่คนที่อยู่ในเพียงมายาเช่นเขาคนนั้นและดูเหมือนว่าเขากับนางเหมือนจะมีความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันบ้างแล้ว
หลี่เซวียนดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่เขาดึงร่างเล็กเข้าสู่อ้อมแขนของตน เขากอดนางเอาไว้แน่นเหมือนกลัวว่านางจะหายไป
“ท่านกอดข้าแน่นเกินไปแล้ว ข้าหายใจไม่ออก”
หลี่เซวียนคลายอ้อมกอดออกเล็กน้อยแต่ก็ยังคงกอดนางเอาไว้อยู่เช่นนั้น เื่ที่ทั้งเสิ่นเยว่และหลี่เซวียนตกลงใช้ชีวิตร่วมกันถูกรายงานให้ทั้งสองตระกูลได้รับรู้ทันทีที่เสิ่นเยว่ยอมตอบตกลง
ความจริงเื่ที่ทั้งสองคนแยกกันนอน บิดามารดาของเสิ่นเยว่และ หลี่เซวียนล้วนแต่รับรู้พวกเขาจับตามองความสัมพันธ์ของสองหนุ่มสาวอยู่ห่างๆ เสิ่นเยว่และหลี่เซวียนคิดว่าได้ปิดเื่นี้เอาไว้เป็ความลับแล้ว แต่ความจริงนั้นไม่ใช่อย่างที่ทั้งสองคิดเลย
เสิ่นฮูหยินรู้ั้แ่ที่หลี่เซวียนมาที่ห้องของเสิ่นเยว่ในวันก่อนที่ทั้งสองจะแต่งงานกันแล้วแต่นางไม่คิดว่าบุตรสาวของตนจะยอมรับเงื่อนไขของหลี่เซวียน นางปล่อยให้เื่นี้ผ่านไปเพราะ้าให้ทั้งสองได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน และพวกเขาจำเป็ต้องฝ่าฟันอุปสรรค์ไปด้วยกันนั่นถึงจะเรียกว่าคู่ชีวิต
หลังจากอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน เสิ่นเยว่มีท่าทางเก้ๆ กังๆ เพราะหลี่เซวียนนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้อง โดยปกติเขาจะกลับมาหลังจากที่นางหลับไปแล้วแต่วันนี้เขาอยู่ที่นี่ในห้องเดียวกับนาง หลี่เซวียนกระแอมไอเบาๆ
“เ้า....คิดว่าข้าควรจะนอนที่นี่หรือว่าย้ายไปนอนตรงนั้น”
หลี่เซวียนซี้ไปที่เตียงที่เสิ่นเยว่ยืนขวางอยู่ นางหันไปมองตามการชี้นิ้วของเขาด้วยหัวใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ
“ตะ....ตามใจท่านสิที่นี่เป็ห้องนอนของท่านนี่นา”
เสิ่นเยว่พูดจบก็รีบปีนขึ้นเตียงเอาผ้าห่มคลุมร่างตนเองั้แ่หัวจรดเท้าด้วยความเขินอาย หลี่เซวียนหัวเราะเสียงทุ้มเพราะท่าทางที่น่าเอ็นดูของนาง เขาเดินไปที่เตียงช้าๆ เสียงย่ำเท้าของเขายิ่งทำให้เสิ่นเยว่ตื่นเต้นหนักกว่าเดิม หลี่เซวียนมองร่างเล็กที่ห่อตนเองเป็ก้อนกลมเหมือนก้อนบ๊ะจ่าง เขาดึงผ้าห่มของนางเบาๆ
“เ้าจะห่อตนเองเช่นนั้นไม่ได้นะ แล้วข้าจะใช้ผ้าห่มที่ไหนเล่า”
เสิ่นเยว่โผล่หัวน้อยๆ ของนางออกมาจากผ้าห่ม
“ท่านก็ใช้ผ้าห่มของท่านสิที่วางอยู่ตรงนั้น”
เสิ่นเยว่พยักพเยิดใช้ปากชี้ไปที่ตั่งที่เขาใช้นอนทุกวัน
“ไม่ได้หรอก ตอนนี้ข้ากลับมานอนที่เตียงนี้กับเ้าแล้ว ผ้าห่มผืนนั้นเอาไว้ห่มที่นั่น ข้ามานอนที่นี่แล้วก็ต้องใช้ผ้าห่มผืนนี้สิ อีกอย่าง....”
หลี่เซวียนก้มลงไปกระซิบที่ข้างใบหูเล็กของเสิ่นเยว่
“ผ้าห่มผืนนั้นไม่มีกลิ่นหอมของเ้าเหมือนผ้าห่มผืนนี้”
เสิ่นเยว่ที่ได้ยินวาจาเกี้ยวพาของเขานางเขินอายจนม้วนตัวเองเข้ากับผ้าห่มยิ่งกว่าเดิม คนบ้านี่กะล่อนยิ่งนัก
หลี่เซวียนหัวเราะจนตัวโยนกับท่าทางที่น่ารักของนาง เขานอนลงข้างๆ เสิ่นเยว่ดึงนางเข้ามากอดอย่างทะนุถนอม ในตอนแรกเสิ่นเยว่ยังคงนอนเกร็งตัวอยู่สักพัก ผ่านไปไม่นานเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอก็ดังขึ้นแ่เบาเป็สัญญาณว่านางได้หลับไปแล้ว หลี่เซวียนแกะผ้าห่มที่นางใช้พันตัวเองออกอย่างเบามือเพราะกลัวว่านางจะหายใจไม่ออก จากนั้นหลี่ เซวียนก็ดึงนางเข้ามากอดและหลับไปอย่างมีความสุข
หลายวันมานี้ชีวิตคู่ที่เสิ่นเยว่และหลี่เซวียนตัดสินใจที่จะเริ่มศึกษาเรียนรู้ซึ่งกันและกันผ่านไปอย่างราบรื่น หลี่เซวียนกลับไปทำงานที่ค่ายทหารเหมือนเดิม เสิ่นเยว่ก็ทำอาหารไปส่งเขาที่ค่ายทหารทุกวัน สร้างความอิจฉาตาร้อนแก่นายทหารที่ยังมิได้แต่งงานยิ่งนัก เื่นั้นหลี่เซวียนหาได้สนใจ เพราะตอนนี้เขากำลังมีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อนนี่ เขารู้สึกว่าชีวิตของตนเองได้รับการเติมเต็มจากนางแล้ว
หลี่เซวียนเดินออกจากห้องทำงานแหงนหน้ามองตะวันเล็กน้อย วันนี้นางยังไม่มา
“นี่ก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วยามแล้วทำไมนางยังไม่มาอีกเกิดอะไรขึ้นกับนางกันนะ”
หลี่เซวียนพึมพำเบาๆ กับตนเอง แล้วเขาก็ส่ายหัวให้กับความคิดของตน จะเป็ไปได้อย่างไรนางคือบุตรสาวของมหาเสนาบดีเสิ่นทั้งยังเป็ฮูหยินน้อยของจวนแม่ทัพใครหน้าไหนจะกล้ามาหาเื่นาง แต่ถึงกระนั้นหลี่เซวียนก็ยังคงรู้สึกเป็ห่วงนางอยู่ดี
หลี่เซวียนเดินวนไปวนมาชะเง้อคอมองออกไปทางด้านหน้าค่ายทหารเผื่อว่าตอนที่นางเดินเข้ามาเขาจะได้มองเห็นนางชัดๆ แต่เขาก็รู้สึกสังหรใจอย่างบอกไม่ถูก
เขาไม่อยากรอแล้วหลี่เซวียนทนรอไม่ไหวรีบควบม้าออกไปทันที จงหลางเมื่อเห็นนายน้อยของตนรีบร้อนออกไปเขาก็รีบขี่ม้าตามออกไปเช่นกัน หลี่เซวียนขี่ม้ามาได้ครึ่งทางก่อนถึงประตูเมืองเขาก็พบกับรถม้าตระกูลหลี่พลิกคว่ำอยู่กลางถนน เขารีบลงจากม้าเพื่อไปตรวจดูอย่างรีบร้อนเพราะกลัวว่าเสิ่นเยว่จะได้รับาเ็ ในรถม้าว่างเปล่าห่างออกไปไม่ไกลมีร่างคนขับรถม้าของจวนสกุลหลี่นอนหายใจรวยรินอยู่ ทั่วร่างของเขาถูกฟันหลายแผลเืท่วมตัวหลี่เซวียนรีบวิ่งไปที่เขา
“ฮูหยินน้อยอยู่ที่ไหน”
หลี่เซวียนเขย่าร่างของคนขับรถม้าอย่างแรง ตอนนี้เขาทั้งว้าวุ่นและร้อนใจเป็อย่างมากกลัวว่านางจะมีอันตราย จงหลางที่ขี่ม้าตามมารีบห้ามหลี่เซวียนเพราะกลัวว่านายน้อยของเขาจะฆ่าคนขับรถม้าตายเพราะแรงเขย่าไปเสียก่อน
“คุณชายท่านใจเย็นก่อนเขาสลบไปแล้วนะขอรับ”
หลี่เซวียนได้สติกลับมาเพราะเสียงของจงหลาง เขาจึงปล่อยมือออกจากคนขับรถม้า
“จงหลางไปตามคนมารักษาเขา พาคนของเราออกตามหาฮูหยินน้อย ที่ร่างของเขามีรอยาแจากการถูกฟันของดาบหลายแห่งข้าคิดว่าต้องมีคนคิดปองร้ายเสิ่นเยว่แน่ รีบไปตามคนมาข้าจะล่วงหน้าไปก่อนเกรงว่าตอนนี้นางกำลังตกอยู่ในอันตราย”
หลี่เซวียนพูดจบก็รีบวิ่งตรงไปตามทางที่มีรอยเืห่างออกไปทันที จงหลางอยากจะห้ามนายน้อยของเขามากเพราะเกรงว่านี่จะเป็กับดักที่ใช้ฮูหยินน้อยล่อเขาออกไป แต่จงหลางรู้ว่าถึงยังไงนายน้อยก็คงจะไม่ฟังเขาเป็แน่ จงหลางหยิบพลุสัญญาณออกมาจากกระเป๋าหนังที่อยู่หลังม้ายิงออกไปเพื่อส่งสัญญาณรวมพลของคนตระกูลหลี่
หลี่เซวียนตามรอยเืมาจนถึงหน้าผา หัวใจของเขารู้สึกบีบรัดเป็อย่างมาก ระหว่างทางมีการต่อสู้และมีร่างไร้ลมหายใจของนักฆ่าอยู่ประปรายตลอดทาง ที่นี่เป็ทางที่จะต้องตรงไปที่ค่ายทหาร และเป็ทางที่เสิ่นเยว่จะต้องผ่านทุกวัน พวกมันจะต้องสืบเื่ของนางอย่างละเอียดถึงได้มารอดักซุ่มอยู่ที่นี่เพื่อรอเวลานางผ่านทางมา
หลี่เซวียนได้แต่ภาวนาอย่าให้นางได้รับาเ็ แต่สิ่งที่เขาภาวนานั้นกลับไม่เป็ผล มีร่างของนักฆ่าสี่คนที่นอนตายอยู่ใกล้กับหน้าผา แต่เขาไม่เห็นเสิ่นเยว่กับสาวใช้ของนาง หลี่เซวียนมองหารอบๆ เผื่อว่านางจะแอบซ่อนอยู่เพื่อรอให้คนมาช่วย
“เสิ่นเยว่ เ้าอยู่ที่ไหนข้ามาช่วยเ้าแล้วออกมาเถอะ”
หลี่เซวียนะโออกไปเพื่อให้นางได้ยิน แต่กลับไร้เสียงตอบรับมีเพียงเสียงลมที่พัดยอดไม้เบาๆ เหมือนกำลังพัดเอาหัวใจเขาให้หลุดลอยไปด้วยเช่นกัน