ทุกอย่างได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว การเปิดร้านก็ง่ายมาก นอกจากร้านขายผ้าที่ถูกไฟไหม้ไปก่อนหน้านี้ ร้านค้าที่เหลือก็ล้วนเปิดร้านได้อย่างราบรื่นทั้งหมด
เหล่าพ่อค้าก็รู้แค่ว่าหลังจากหวังซวินจากไปแล้วร้านค้าทั้งหมดของเขาก็ถูกคนอื่นซื้อไป จากนั้นก็ส่งคนมาบริหาร แต่เ้าของที่อยู่เื้ัที่ใหญ่ที่สุดเป็ใครพวกเขานั้นไม่รู้
หวังซวินมีพร์มากในด้านการทำธุรกิจ เพียงครู่เดียวก็จัดการร้านค้าเปิดใหม่ได้อย่างเป็สัดเป็ส่วน
ตอนนั้นจี๋โม่หานบอกแค่ว่าเขาจะลงหุ้นด้วยและไม่เข้ามายุ่งกับการบริหารร้านแน่นอน ซึ่งก็เป็อย่างนั้นจริงๆ เขาแค่ส่งหลิงชวนเอาสัญญามาให้แล้วก็ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวอื่นอีก
เช้าวันต่อมา ซูิเยว่ทานอาหารเช้าเสร็จก็ออกจากจวนไปรอคนของจี๋โม่หานที่โรงเตี๊ยมเยว่เจียงตามที่นัดกันไว้ นี่คือขั้นแรกที่นางจะรักษาให้จี๋โม่หาน จากนี้ก็ถือว่าพวกนางเริ่มร่วมมือกันอย่างเป็ทางการแล้ว
หลังจากซูิเยว่มาถึงที่นัดพบ รอไม่นานนักหลิงชวนก็มา จากนั้นเขาก็พานางออกจากทางหลังประตู รถม้าของจวนองค์ชายสามได้มารออยู่ตรงนั้นแล้ว
รถม้าเมื่อมองจากด้านนอกแล้วก็ดูราบเรียบไม่มีอะไรแปลก เป็เพียงรถม้าธรรมดาเท่านั้น คนขับรถที่นั่งอยู่ด้านหน้าก็เป็เด็กหนุ่มสวมเสื้อผ้าธรรมดาคนหนึ่ง พอเห็นพวกเขาก็แย้มยิ้ม “สวัสดีขอรับ คุณหนูซู”
ซูิเยว่พยักหน้าเล็กน้อยเป็การตอบกลับ นางจำเด็กหนุ่มคนนี้ได้ เขาคือลูกน้องที่ชอบสวมชุดสีชมพูผู้อยู่ข้างกายจี๋โม่หานคนนั้น เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างกายของจี๋โม่หานแล้ว เหมือนเขาจะไม่ค่อยมั่นคงเท่าไร
หลิงชวนแนะนำเขาให้นาง “เขามีนามว่าจิ่งฉือ วันนี้องค์ชายสามให้เขากับข้ามารับคุณหนูซูด้วยกันขอรับ”
ซูิเยว่ไม่ได้พูดอะไร นางเปิดม่านเข้าไปในรถม้า แต่พอเข้ามานางก็ชะงักไป
รถม้าคันนี้หากดูจากด้านนอกแล้วธรรมดามาก ทว่าการตกแต่งด้านในกลับต่างกันราวฟ้ากับเหว หรูหรา กว้างขวางและสว่างมาก ภายในตัวรถยังปูด้วยหนังตัวมิงค์อีก
ครู่เดียวอาการใบนใบหน้าของซูิเยว่ก็หายไปในชั่วพริบตา นางเดินขึ้นไปนั่งก่อนจะเอ่ยปากพูด “องค์ชายสามก็ใส่ใจรายละเอียดเหมือนกันนะ”
หลิงชวนนั่งลงอีกด้านหนึ่ง ตอนที่กำลังจะเอ่ย จิ่งฉือที่อยู่ด้านนอกรถม้าก็รับคำไปก่อน “แน่นอนขอรับ องค์ชายสามนั้นช่างเลือกขอรับ ความ้าจึงสูงมากเป็พิเศษ”
หลิงชวนหันหน้าไปพูดตักเตือนเสียงไม่ดังไม่เบา “ห้ามแอบนินทาเ้านาย ลืมไปแล้วหรือ”
จิ่งฉือที่อยู่ด้านนอกรถก็เงียบไปทันที
หลิงชวนมองซูิเยว่แล้วพูด “จิ่งฉืออายุยังไม่มาก ปกติแล้วในจวนค่อนข้างเงียบ พอเจอคนอื่นก็เลยพูดมากหน่อยขอรับ”
ซูิเยว่ไม่ได้พูดอะไร จิ่งฉือดูไปแล้วก็อายุไม่มากเท่าไรจริงๆ แต่นางก็ไม่ลืมว่าที่นอกจวนสกุลซูในคืนนั้น จิ่งฉือเด็กหนุ่มคนนี้ฆ่าคนราวกับหั่นผักโดยที่ตาไม่กะพริบ
เพียงครู่เดียวรถม้าก็มาหยุดที่หน้าประตูจวนหวัง
“ถึงแล้วขอรับ คุณหนูซู”
ซูิเยว่ก้มตัวลงจากรถม้ามองป้ายหน้าประตูจวนองค์ชายสาม นางอดที่จะสะท้อนใจไม่ได้ครู่หนึ่ง
นางมาที่จวนองค์ชายสามครั้งที่สามแล้วก็ถือว่าคุ้นเคยเส้นทางบ้างแล้ว
“คุณหนูซู เชิญทางนี้ขอรับ”
ซูิเยว่ตามหลังหลิงชวนเข้าไปในจวน คาดว่าหากครั้งหน้ามาอีกครั้ง ถึงแม้จะไม่มีคนนำทางให้ แต่นางก็รู้แล้วว่าจะเดินไปอย่างไร
“อีกเดี๋ยวองค์ชายสามจะต้องแช่น้ำโอสถ เตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้วหรือยัง?”
“เรียบร้อยแล้วขอรับ ทุกอย่างได้เตรียมเอาไว้ตามคำสั่งของคุณหนูซูแล้วขอรับ”
“อืม เช่นนั้นก็ดี”
ระหว่างที่พูดกันก็มาถึงด้านนอกห้องของจี๋โม่หานแล้ว จื๋อหลันเฝ้าอยู่หน้าประตูกับิจิ่วสองคน พอเห็นซูิเยว่ก็เข้ามาทำความเคารพ
“เอาล่ะ เช่นนั้นข้าจะเริ่มรักษาแล้ว อย่าให้ใครก็ตามมารบกวนข้า”
“ขอรับ”
“อ้อ แล้วก็น้ำโอสถที่แช่ ครึ่งชั่วยามเปลี่ยนครั้งหนึ่ง ดังนั้นน้ำโอสถจะขาดไม่ได้”
“ขอรับ”
ซูิเยว่พูดจบก็ผลักปะตูเข้าไปในห้องของจี๋โม่หาน เสียงประตูปิดดังขึ้นอยู่นาน
หัวใจของซูิเยว่เองก็กระตุกไปตามเสียงปิดประตูอย่างน่าประหลาด ถึงแม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่อยู่กับจี๋โม่หานตามลำพัง แต่ก็ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงต้องตื่นเต้นเล็กน้อยด้วย
ภายในห้องของจี๋โม่หานใหญ่มาก การออกแบบภายในห้องเรียบร้อยมาก แต่เพราะเรียบร้อยมากเกินไปกลับกันก็ทำให้รู้สึกถึงความเ็าแผ่ออกมาซึ่งเข้ากับตัวเขามาก
ด้านหลังที่กั้นลมภายในห้องมีไอร้อนแผ่ออกมา สามารถมองเห็นถังอาบน้ำที่อยู่ด้านหลังที่กั้นลมได้ ภายในห้องมีกลิ่นโอสถคละคลุ้งไปทั่ว จะบอกว่าไม่หอมก็ไม่เชิง แต่ก็มีกลิ่นหอมๆ อยู่เพียงเล็กน้อย
ซูิเยว่สาวเท้าเดินไปช้าๆ ภายในถังน้ำที่อยู่ด้านหลังที่กั้นบังลม จี๋โม่หานกำลังนอนอยู่ด้านในโดยที่ครึ่งตัวไม่ได้สวมชุดพร้อมหลับตาพิงขอบถัง เพราะว่าสมุนไพรข้นมากเกินไป ซูิเยว่จึงไม่รู้ว่าครึ่งตัวล่างของเขาได้สวมกางเกงไว้หรือไม่
เมื่อรู้ตัวว่ามีความคิดนี้ออกมา ซูิเยว่ก็รีบลบสิ่งรบกวนในหัวออกไป ในเวลาสำคัญเช่นนี้ สิ่งที่นางสนใจควรจะเป็การรักษาไม่ใช่หรือ
ซูิเยว่พ่นลมหายใจยาวออกมา ั้แ่เจอจี๋โม่หาน ในหัวของนางก็มักจะมีความคิดที่ไม่ควรมีออกมาอยู่บ่อยๆ น่ารำคาญจริงๆ เลย
นางสูดหายใจเข้าลึกๆ เดินไปยืนข้างอ่างน้ำแล้วพูดเสียงเบา “หม่อมฉันขอถวายบังคมเพคะ องค์ชายสาม”
จี๋โม่หานที่อยู่ในถังอาบน้ำไม่มีปฏิกิริยาอะไรอยู่สักพักหนึ่ง ในตอนที่ซูิเยว่คิดว่าเขาหลับไปแล้วหรือไม่นั้น จี๋โม่หานก็เอ่ยรับคำเสียงเรียบ “อืม ไม่ต้องมากพิธีก็ได้”
ซูิเยว่มองพิจารณาไปรอบๆ ห้อง โต๊ะข้างถังน้ำได้เตรียมเข็มเงินที่อีกเดี๋ยวนางต้องใช้เอาไว้แล้ว
“เช่นนั้นหม่อมฉันจะเริ่มรักษาให้องค์ชายสามแล้วนะเพคะ”
สองมือของจี๋โม่หานวางอยู่ริมขอบอ่าง ริมฝีปากบางยกขึ้นเล็กน้อย “อืม เช่นนั้นก็รบกวนคุณหนูซูแล้ว”
ซูิเยว่อ้อมไปด้านหลังจี๋โม่หาน หยิบเข็มเงินบนโต๊ะขึ้นมา จากนั้นก็จับหัวของจี๋โม่หานเงยขึ้นเล็กน้อย
สายตาของนางกวาดมองไปยังหน้าอกของจี๋โม่หานโดยไม่ได้ตั้งใจ ผิวขาวราวกับกระเบื้องมีหยดน้ำโอสถสีดำเกาะอยู่หลายหยด แต่ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อความงามเลยสักนิด
ซูิเยว่อดที่จะมองนานกว่านี้ไม่ได้อีกนิด ถึงแม้จี๋โม่หานจะนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นมาหลายปี แต่รูปร่างก็ยังดูดีไม่เลวเลย ผอมแต่กลับมีเรี่ยวแรง น่ามองมาก อีกทั้งยังมีความมันวาว หากลูบไปแล้วััมือคงจะไม่เลวเลย
เมื่อเห็นว่าซูิเยว่ไม่ขยับมือเสียที จี๋โม่หานก็เอ่ยปากถามขึ้น “เหตุใดถึงไม่ขยับหรือ?”
“อ่า ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรเพคะ หม่อมฉันจะตรวจสอบสักครู่เพคะ” ซูิเยว่รีบเก็บความคิดที่ไถลไปไกลกลับมาแล้วเข้าเื่จริงจัง “องค์ชายสามอย่ารีบร้อนเพคะ หม่อมฉันจะเริ่มลงมือแล้ว”
นางพูดจบก็ลอบว่าตัวเองว่าไม่ได้เื่เลย
จี๋โม่หานยกยิ้มที่มีเส้นโค้งที่มองเห็นไม่ชัดเพียงครู่เดียวก็ซ่อนมันลงไป
ซูิเยว่ดึงความคิดที่วิ่งไปไกลของตัวเองกลับมาแล้วเริ่มแทงเข็มเงินลงไปตามจุดฝังเข็มรอบๆ ดวงตาของจี๋โม่หาน
หลังจากฝังเสร็จแล้ว ซูิเยว่ก็อ้อมไปด้านข้าง “องค์ชายสามเพคะ บนร่างกายของท่านยังมีอีกหลายจุดที่หม่อมฉันต้องใช้เข็มเงินฝังเพคะ”
“อืม” จี๋โม่หานไม่ได้พูดมาก ทั้งยันตัวขึ้นนั่งเผยให้เห็นเอวผอม
ซูิเยว่ที่ถือเข็มเงินกำลังจะลงมือก็ชะงักไป ถึงจะแทงเข็มเงินเข้าไปตรงตำแหน่งบนอกของจี๋โม่หาน แต่ตอนที่กำลังฝังลงไปนั้น นางก็มีความคิดขึ้นมาเล็กน้อย มือลูบผ่านหน้าอกของจี๋โม่หานเพียงเล็กน้อย
ซูิเยว่เลิกคิ้วขึ้น ััดีมากจริงๆ ด้วย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้