“ใครบอกว่าฉันจะยกเลิกงานแต่งเหรอคะ?”
การตอบกลับของหลินลั่วหรานทำให้หญิงแก่ตระกูลหลี่ไม่ทันได้ตอบกลับ
เหล่าชาวบ้านต่างพากันชี้นิ้วมาที่หลินลั่วหรานและพูดกันว่าผู้หญิงคนนี้ทั้งคบชู้แถมยังจะเกาะนักศึกษาปริญญาโทไม่ปล่อยหน้าไม่อายเสียจริงพ่อของหลินลั่วหรานโมโหจนอยากจะหาไม้มาไล่ตีเหล่าพวกคนขี้นินทาเ่าั้ในขณะเดียวกันผู้เป็แม่ก็ได้แต่มองมาที่ลูกสาวด้วยสายตาช่วยไม่ได้
หลินลั่วหรานจัดผมที่ยาวมาถึงหน้าอกของเธอ โดยที่ยังคงยืนสงบนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ไปไหนแต่กลับทำให้เหล่าชายโสดในหมู่บ้านมองกันจนตาค้าง
สาวแก่ตระกูลหลี่ยังตอบสนองกลับมาได้ไม่มากนักทำไมยัยเด็กผู้หญิงคนนี้ถึงจะไม่ถอนหมั้น? ถึงจะเทียบไม่ได้กับลูกสาวคนรวยในเมืองแต่ก็ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ แถมยังได้ยินมาว่ายัยเด็กนี่ได้เงินก้อนโตมาก็ใช่ว่าจะพิจารณาเสียหน่อยไม่ได้
อย่างน้อยก็หลอกเอาเงินมาแล้วค่อยเขี่ยทิ้งทีหลังก็ยังได้ ทันใดนั้นสาวแก่ตระกูลหลี่ก็ตัดสินใจได้ทันทีอีกทั้งยังแสดงท่าทางหยิ่งยโสออกมาด้วยความภาคภูมิใจในเสน่ห์ของลูกชาย!
“สาวน้อยหลิน ถ้าเธอรู้สึกผิดแล้วฉันก็จะยกโทษให้เธอแทนหลี่อันผิงก็ได้นะ” เธอหรี่ตาของตัวเองลงแม้จะพูดให้อภัยแต่น้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความโอหังราวกับเธอได้มอบความกรุณาอันใหญ่หลวงให้กับหลินลั่วหราน
พ่อของหลินลั่วหรานวางไม้กวาดในมือลงอย่างช่วยไม่ได้หญิงที่ดีย่อมไม่แต่งงานซ้ำสอง หากสามารถคืนดีกับหลี่อันผิงได้เขาก็อยากจะให้เป็แบบนั้น
แม่ของหลินลั่วหรานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่ดูจากท่าทางของสาวแก่ตระกูลหลี่แล้ว ในหัวของเธอก็เหลือเพียงความคิดเดียวนั่นก็คือลูกสาวเธอจะต้องได้รับอะไรที่ผิดปกติไปเป็แน่!
ผู้เป็แม่โมโหจนตัวสั่นก่อนจะมองไปที่ลูกสาวด้วยความกังวล แม้จะอยากให้หลี่อันผิงและหลินลั่วหรานคืนดีกันแต่เมื่อเห็นคนในตระกูลหลี่ทำตัวก้าวร้าวใส่แบบนี้เธอก็กังวลว่าหลังจากนี้ก็อาจจะมีอารมณ์แบบนี้อีก
เหล่าชายโสดในหมู่บ้านเมื่อเห็นความงามของหลินลั่วหรานแล้วได้ยินสาวแก่ตระกูลหลี่พูดขึ้นมาแบบนั้นก็ได้แต่หัวเราะเยาะ “ป้าหลี่ไม่ใช่ว่าบอกว่าลูกสาวบ้านหลินไปมีความสัมพันธ์กับใครจนได้เงินก้อนใหญ่มากหรอกเหรอยังจะไปแนะนำให้พวกเขาคืนดีกันอีก แบบนั้นลูกชายป้าคงดูไม่ค่อยดีนะว่าไหม ฮ่าๆๆ”
หลินลั่วหรานเห็นว่าประกายในตาของสาวแก่ตระกูลหลี่ค่อยๆดับมืดลงเสียงหัวเราะขบขันของชาวบ้านและพวกคนที่คิดว่าตัวเองสูงส่งอย่างตระกูลหลี่พวกเขากำลังเล่นละครอะไรอยู่?
“ฉันไม่ยกเลิกงานแต่งหรอก” หลินลั่วหรานตอบกลับไปด้วยความหนักแน่น โดยที่เธอยังเติมอีกประโยคขึ้นในใจ “ไม่ยกเลิกง่ายๆ หรอก” เพียงแต่ไม่ได้พูดมันออกมา
สาวแก่ตระกูลหลี่หันไปสบตากับลูกสาวคนโตโดยที่ในตาของทั้งสองต่างเต็มไปด้วยความยินดี
ที่จริงแล้วยัยเด็กตระกูลหลินก็ยังคงอ่อนแอเหมือนเคย ไม่รู้ทำไมหลี่อันผิงถึงบอกว่าเธอเปลี่ยนไปแล้วพี่สาวคนโตของตระกูลแลบลิ้นเลียริมฝีปาก “เอาสร้อยข้อมือนั่นมาก่อนเลยแล้วฉันจะไปคุยกับน้องชายให้ เป็ไง?”
สาวแก่ตระกูลหลี่ถลึงตาใส่ผู้คนที่ยืนอยู่โดยรอบ “ไม่มีเื่อะไรเกี่ยวกับพวกแกแล้วยังไม่กลับบ้านกลับช่องไปอีก!”
หลินลั่วหรานไม่ได้สนใจอะไรพวกเธอนักเธอกวาดสายตาไปในกลุ่มคนที่แท้ผู้ใหญ่บ้านก็แอบอยู่ในกลุ่มคนดูเหตุการณ์มาั้แ่แรกแล้วตระกูลหลินเป็คนนอกถิ่น หลินลั่วหรานไม่ได้หวังว่าผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านหลี่จะออกตัวมาช่วยหยุดการกระทำไร้เหตุผลของสาวแก่ั้แ่แรก เพียงแค่เขาไม่ช่วยบ้านหลี่กดดันบ้านของเธอก็ไม่ง่ายแล้ว อย่างไรหมู่บ้านนี้ต่างก็อยู่ในตระกูลหลี่ เป็ญาติกันหมดทั้งนั้น
อยู่ๆ หลินลั่วหรานก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้เธอหันไปพูดกับสาวแก่ตระกูลหลี่พร้อมด้วยรอยยิ้ม “ความจริงตอนนี้ฉันได้เงินมาด้วยนะคะอยากจะตอบแทนบุญคุณคุณป้าสักหน่อย”
สาวแก่ตระกูลหลี่ไม่คิดว่าเื่จะสามารถแก้ไขได้โดยง่ายดายแต่เพียงนี้แม้ในใจลึกๆ จะแอบสงสัยอยู่บ้าง แต่เมื่อลาภก้อนโตอยู่เพียงปลายนิ้วมือเธอก็รีบคว้าเอาไว้ทันที จะเอาอะไรไปแคลงใจ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยของเธอค่อยๆปรากฏรอยยิ้มออกมา ตอนนี้เธอกำลังคาดเดาว่าหลินลั่วหรานจะมีเงินอยู่สักเท่าไรต้องเอาเท่าไรถึงจะพอเหมาะแต่ในขณะนั้นหลินลั่วหรานกลับหันไปยิ้มให้กับผู้ใหญ่บ้าน แล้วพูดขึ้น
“ผู้ใหญ่บ้านคะฉันมีเื่จะคุยด้วยค่ะ จะเข้ามาคุยกันใกล้ๆ หน่อยได้ไหมคะ?”
ผู้ใหญ่บ้านที่ถูกกล่าวถึงกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ท่ากลางกลุ่มคนเขารู้เื่ระหว่างทั้งสองบ้านดีที่เขาไม่ได้ออกตัวช่วยฝั่งตระกูลหลี่ก็ถือว่าใจดีด้วยแล้วแต่ในเวลานี้หญิงสาวจากตระกูลหลินกลับเรียกเขาออกมาท่ามกลางผู้คนช่างไม่รู้อะไรเอาเสียเลย
ผู้ใหญ่บ้านหลี่ขยับตัวออกมาโดยไม่ได้พอใจนักผู้คนรอบข้างต่างพากันหลบทางให้กับเขาแค่นี้ก็สามารถมองเห็นได้ถึงตำแหน่งของเขาในหมู่บ้านแห่งนี้แล้วหลินลั่วหรานรู้สึกพอใจเป็อย่างมากเมื่อได้เห็นดังนั้น
“ผู้ใหญ่หลี่คะตระกูลหลินเป็คนนอกถิ่น หลายปีที่ผ่านมาคนในหมู่บ้านก็ดูแลพวกเราดีมาโดยตลอดลั่วหรานเป็เด็กผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่ง ไม่ได้มีกำลังอะไรมากแต่ได้รับเงินมาเล็กน้อย ก็เลยอยากจะแสดงความขอบคุณน่ะค่ะ”
หลินลั่วหรานกล่าวทั้งรอยยิ้มผู้คนต่างพากันกระเดาะลิ้นสาวน้อยบ้านหลินคนนี้เข้าเมืองไปพบโลกใหม่แล้วอย่างนั้นเหรอทำไมถึงได้หาญกล้าเพียงนี้? เพียงแค่ได้ยินก็รู้แล้วว่าเธอตั้งใจจะติดสินบนผู้ใหญ่บ้านน่าขำที่บ้านของหลี่อันผิงได้แต่ทำหน้าตาอิจฉาอยู่ข้างๆ ดูว่าจะจ่ายไม่ไหวล่ะสิ
ผู้คนต่างพากันฟังออกแล้วผู้ใหญ่บ้านหลี่จะไม่รู้ความหมายที่แฝงมาในคำพูดของหลินลั่วหรานได้อย่างไร? ช่างไม่รู้อะไรเอาเสียเลยไม่ว่าใครก็รู้กันทั้งนั้นว่าไม่ควรจะติดสินบนต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้สาวน้อยบ้านหลินคนนี้ ไม่ได้รู้เื่อะไรเอาเสียเลย อยากจะให้สินบนอะไรไม่รู้จักทำให้เป็การส่วนตัวหน่อยหรือไง?
ผู้ใหญ่บ้านหลี่พ่นควันบุหรี่ออกมาก่อนจะเหยียบเอาดินใต้เท้าเกือบจะราบเรียบ “สาวน้อยเธอมองว่าหลี่เวยกั๋วคนนี้เป็คนยังไงกัน? คิดว่าฉันจะรับสินบนของเธอเหรอ?” สาวน้อย สุดท้ายแล้วก็ยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจเื่พวกนี้สินะน่าเสียดายเงินเ่าั้นะ แต่ก็สมที่จะโดนตระกูลหลี่หลอกเอาแล้วล่ะ
ผู้ใหญ่รู้สึกเสียดายเงินก้อนใหญ่ขึ้นมาหลินลั่วหรานที่ฉลาดหลักแหลมความคิดเหล่านี้ของผู้ใหญ่บ้านเธอต่างเดาออกจนเกือบหมดก่อนจะตั้งใจแสร้งทำเป็ใแน่นิ่งไป “ผู้ใหญ่หลี่ฉันแค่เห็นว่าศาลาประชุมในหมู่บ้านเริ่มเก่าแล้ว ก็เลยอยากจะออกเงินค่าซ่อมแซมให้แบบนี้ก็ถือเป็สินบนเหรอคะ?”
ทันทีที่หลินลั่วหรานพูดจบดวงตาของผู้ใหญ่หลี่ก็เป็ประกายขึ้นมาเขารู้สึกตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าตอนที่คิดว่าหลินลั่วหรานจะติดสินบนให้เขาเสียอีก!
ไม่ใช่ว่าหลี่เวยกั๋วจะมีความซื่อตรงอะไรหรอกเพียงแต่ศาลาประชุมของหมู่บ้านนั้น พูดกันตามตรงแล้วมันก็คือศาลาของบ้านหลี่เวยกั๋วนั่นและเพราะเขาคือคนที่มีสายเืโดยตรงจากต้นตระกูล
“ตั้งใจจะช่วยเท่าไรล่ะ?” ผู้ใหญ่หลี่พยายามควบคุมความตื่นเต้นของตัวเองเอาไว้แม้แต่บุหรี่ก็ไม่คิดจะสูบต่อแล้ว
อย่าว่าแต่ผู้ใหญ่หลี่เลยเหล่ากลุ่มคนที่กำลังมุงดูอยู่ต่างก็เริ่มส่งเสียงออกความเห็นขึ้นมาที่หมู่บ้านแห่งนี้ยังคงสืบทอดประเพณีต่อกันมาไม่มีขาดแิด้านการอนุรักษ์เคารพตระกูลยังคงฝังลึกอยู่และทุกคนต่างก็รู้กันว่าบ้านหลี่อันผิงนั้นมีปัญหา แต่ก็ยังคงไม่พูดอะไรออกมา
เมื่อได้ยินว่าหลินลั่วหรานจะออกเงินซ่อมศาลาประชุมให้คนยุคหลังของตระกูลก็รู้สึกราวกับจะได้ลาภก้อนโต จึงพากันงุนงงไปหมด
หลินลั่วหรานยิ้มขึ้น เมื่อเห็นสีหน้าที่ต่างกันออกไปของคนในหมู่บ้านแต่พ่อและแม่ของเธอต่างก็กำลังสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น หรือแม้แต่สาวแก่ตระกูลหลี่สาวแก่ที่ฉลาดหลักแหลมช่างจิกกัดชาวบ้านอย่างเธอยังต้องมองมาที่หลินลั่วหรานด้วยความสงสัยราวกับเธอจะััได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติเข้าแล้ว
“ผู้ใหญ่หลี่ หนึ่งแสนจะพอไหม?”
แค่เปิดปากก็พูดว่าหนึ่งแสนสาวน้อยตระกูลหลินคงจะได้เงินก้อนใหญ่มาจริงๆ สินะ! ผู้ใหญ่หลี่จัดการนำบุหรี่กดลงที่หินก้อนใหญ่ในบ้านของหลินลั่วหรานจนหักออกเป็สองท่อนเขาอยากจะได้เงินหนึ่งแสนนี้เหลือเกิน แต่ว่าเงินที่ได้มาง่ายๆ มักจะตามมาด้วยปัญหาเสมออีกอย่างเขาไม่รู้ว่าอีกฝ่าย้าอะไรกันแน่
เมื่อเห็นว่าผู้ใหญ่บ้านกำลังใช้ความคิดอย่างหนักหลินลั่วหรานจึงหันไปเหยียดยิ้มให้กับสาวแก่ตระกูลหลี่อีกครั้ง “คุณป้าหลี่พูดไม่ออกเหรอคะ? เื่ที่หลี่อันผิงไปมีความสัมพันธ์กับลูกสาวคนรวยจนไม่สนใจไยดีคำสัญญาระหว่างสองตระกูล ฉันจะไม่คิดอะไรก็ได้ค่ะเงินที่ใช้ส่งเขาเรียนมาตลอดหลายปีนี้ ก็จะถือว่าใช้เลี้ยงหมาไปก็แล้วกัน ทำตัวหน้าไม่อายกันทั้งบ้านแถมยังกล้ามาหลอกเอาเงินถึงในบ้าน คิดว่าตระกูลหลินกดขี่ง่ายนักเหรอคะ?!”
เธอมองไปยังสาวแก่ตระกูลหลี่ที่กำลังโมโหสุดขีดและหลานๆตระกูลหลี่ที่จะพุ่งตัวเข้ามาด้วยสายตานิ่งเรียบ สีหน้าของหญิงแก่อึมครึมอยากจะด่าผู้หญิงขายตัวหน้าไม่อายตรงหน้า หลินลั่วหรานลากสายตาลงบนร่างของสาวแก่ก่อนจะพูดออกมา
“ยกเลิกงานแต่ง? ไม่ชดใช้เงินคืน คุณยังอยากให้ฉันยกเลิกไหมคะ?”