แสงสลัวจากคบเพลิงส่องนำทางพวกเขาเข้าสู่โถงอุโมงค์ใตู้เา ทางเข้าที่ถูกปกปิดด้วยเถาวัลย์และก้อนหินไม่มีทางสังเกตเห็นได้หากไม่รู้ตำแหน่งที่แน่ชัด หลินเว่ยและกลุ่มของเขาถูกนำทางโดยผู้พิทักษ์แห่งดวงตะวันสองคนที่รออยู่ตามจุดนัดพบ
"ฐานของเราอยู่ลึกลงไปใตู้เา" ผู้พิทักษ์คนหนึ่งอธิบาย เขาสวมชุดเกราะสีทองแดงคล้ายกับที่หลินเว่ยเห็นในการต่อสู้ "เราซ่อนตัวอยู่ที่นี่มานานหลายปี ั้แ่ก่อนการระบาด"
ลี่ชิงยังคงาเ็ เดินได้อย่างยากลำบาก หลินเว่ยจึงช่วยพยุงเธอตลอดทาง ส่วนเมิ่งหลิงดูเหนื่อยล้า แต่ยังคงกอดกระเป๋าที่บรรจุวัคซีนแน่น ราวกับมันคือสมบัติล้ำค่า
พวกเขาเดินลงไปตามอุโมงค์ที่ลาดชันลงเรื่อยๆ อากาศเริ่มอุ่นขึ้นเล็กน้อย และมีเสียงน้ำไหลดังมาแต่ไกล
"ที่นี่เคยเป็เหมืองเก่า" ผู้พิทักษ์อีกคนอธิบาย "แต่เราได้ปรับปรุงให้เป็ที่อยู่อาศัย มีทั้งระบบไฟฟ้า น้ำ และอากาศบริสุทธิ์"
เมื่อเดินไปได้สักพัก อุโมงค์ก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็โถงขนาดมหึมา แสงสว่างจากหลอดไฟที่ติดตั้งอยู่ตามเพดานสูงทำให้มองเห็นฐานได้อย่างชัดเจน
"ไม่น่าเชื่อ..." หลิวซินอุทาน
เบื้องหน้าพวกเขาคือเมืองใต้ดินขนาดย่อม มีอาคารหลายหลังสร้างติดกับผนังถ้ำ มีสวนเล็กๆ ที่ปลูกผักและพืชที่เติบโตได้ด้วยแสงไฟพิเศษ มีผู้คนเดินไปมา บ้างสวมชุดเกราะคล้ายกับผู้พิทักษ์ที่นำทางพวกเขา บ้างอยู่ในชุดธรรมดา
"ยินดีต้อนรับสู่ฮวาเฉียน" ผู้พิทักษ์กล่าว "บ้านของผู้พิทักษ์แห่งดวงตะวัน"
"มีคนอาศัยอยู่ที่นี่มากแค่ไหน?" เมิ่งหลิงถาม ตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
"ประมาณสองร้อยคน" ผู้พิทักษ์ตอบ "ส่วนใหญ่เป็นักวิทยาศาสตร์ แพทย์ และทหารที่แปรพักตร์จากองค์กรเทียนซื่อ รวมถึงครอบครัวของพวกเขา"
"พวกคุณต่อต้านองค์กรเทียนซื่อมานานแค่ไหนแล้ว?" หลินเว่ยถาม
"นับั้แ่ก่อตั้งองค์กร" ชายร่างสูงในชุดเกราะสีทองเดินเข้ามาหาพวกเขา "เราเห็นแผนการชั่วร้ายของพวกเขาั้แ่แรกเริ่ม"
ชายผู้นั้นถอดหมวกเกราะออก เผยให้เห็นใบหน้าคมเข้มอายุราวห้าสิบปี ผมสีดำแซมเทา ดวงตาแข็งกร้าวแต่เปี่ยมด้วยความเมตตา
"ผมคือ หวังเจี้ยน ผู้นำของผู้พิทักษ์แห่งดวงตะวัน" เขาแนะนำตัว ก่อนจะค้อมศีรษะให้กับกลุ่มของหลินเว่ย "ผมเสียใจกับการสูญเสียปราชญ์หลินจู ท่านเป็ผู้มีปัญญาและคุณธรรม"
"คุณรู้จักปราชญ์หลินจูหรือ?" ฉือชินถาม
หวังเจี้ยนพยักหน้า "เราเคยร่วมงานกันเมื่อหลายปีก่อน ก่อนที่ผมจะออกมาก่อตั้งกลุ่มนี้ ท่านเลือกที่จะอยู่กับเซียนซานเพื่อปกป้องความรู้โบราณ"
"ทำไมพวกคุณถึงมาช่วยเราตอนนี้?" หลินเว่ยถาม
"เราติดตามการเคลื่อนไหวขององค์กรเทียนซื่อมาตลอด" หวังเจี้ยนตอบ "เมื่อเราได้ยินว่าพวกเขาพบตำแหน่งของเซียนซานและกำลังจะบุกเข้าไป เราตัดสินใจว่าถึงเวลาที่ต้องช่วยเหลือ"
เขาหันไปมองเมิ่งหลิง หรือที่ถูกต้องคือกระเป๋าที่เธอถือไว้ "และมีข่าวลือว่าคุณมีวัคซีนที่อาจต่อต้านไวรัสฟีนิกซ์ได้"
เมิ่งหลิงมองไปที่หลินเว่ย เหมือนขออนุญาต หลินเว่ยพยักหน้า
"ใช่" เธอตอบ "เราสร้างมันจากบุปผาัและเืของหลินเว่ย มีทดสอบกับตัวอย่างไวรัสแล้ว แต่ยังไม่ได้ทดสอบในคนจริงๆ"
ดวงตาของหวังเจี้ยนเปล่งประกาย "นี่อาจเป็ส่วนสำคัญที่ขาดหายไปในการต่อสู้ของเรา เราสามารถใช้ห้องทดลองที่นี่ทดสอบและผลิตวัคซีนเพิ่มเติมได้"
"แต่ก่อนอื่น" หวังเจี้ยนเสริม "พวกคุณ้าการพักผ่อนและรักษาาแ ตามผมมา"
หวังเจี้ยนนำพวกเขาไปยังอาคารที่ใหญ่ที่สุดในฐาน ภายในแบ่งเป็ห้องพักหลายห้อง แต่ละห้องเรียบง่ายแต่สะอาดและพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน
ลี่ชิงถูกพาไปที่ห้องพยาบาลทันที แพทย์ของฐานตรวจาแและเริ่มการรักษา เมิ่งหลิงถูกนำไปที่ห้องทดลอง พร้อมกับกระเป๋าบรรจุวัคซีน ส่วนหลินเว่ย หลิวซิน และฉือชินได้รับห้องพักคนละห้อง
"พักผ่อนให้เต็มที่" หวังเจี้ยนกล่าว "พรุ่งนี้เราจะพูดคุยกันอย่างละเอียด"
หลินเว่ยนอนไม่หลับ แม้จะเหนื่อยล้าจากการต่อสู้และการเดินทาง เขารู้สึกถึงพลังชี่ที่ไหลเวียนในร่างกาย ไม่ใช่แค่พลังของเขาอีกต่อไป แต่เป็พลังของปราชญ์หลินจูที่ผสานรวมกับพลังของเขา
เขาลุกขึ้นนั่ง พยายามทำสมาธิ ทำใจให้ว่าง แต่ภาพของปราชญ์หลินจูที่นอนตายในอ้อมแขนของเขายังคงแจ่มชัด
"อาจารย์..." เขากระซิบ "ทำไมท่านถึงเสียสละตัวเองเพื่อผม?"
ราวกับเป็คำตอบ เขารู้สึกถึงพลังชี่ที่หมุนวนในร่างกาย รวมตัวกันที่บริเวณหน้าอกเป็แสงสีทองอ่อนๆ
หลินเว่ยปิดตาลง ปล่อยให้พลังนั้นนำทาง เขาเข้าสู่สภาวะสมาธิลึก จิตใจพาเขาไปยังที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน
เขาเห็นตัวเองยืนอยู่ในทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ท้องฟ้าเป็สีทองอร่าม ไม่มีตะวันหรือดวงจันทร์ เพียงแค่ความสว่างนั้น
"หลินเว่ย..."
เขาหันไปตามเสียงเรียก และเห็นปราชญ์หลินจูยืนอยู่ไม่ไกล ไม่มีาแ ไม่มีร่องรอยของความเ็ป เพียงรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้า
"อาจารย์!" หลินเว่ยร้อง วิ่งเข้าไปหา
"เ้าเข้าสู่ภวังค์ได้ลึกมากแล้ว" ปราชญ์หลินจูกล่าว "นี่คือโลกแห่งจิติญญา"
"แต่... ท่านเสียชีวิตแล้ว" หลินเว่ยกล่าวอย่างสับสน
"ร่างกายของข้าตายไปแล้ว" ปราชญ์หลินจูพยักหน้า "แต่พลังชี่และิญญาของข้ายังคงอยู่ในตัวเ้า"
"ทำไมท่านถึงมอบพลังทั้งหมดให้ผม?" หลินเว่ยถาม
"เพราะเ้าคือความหวังของมนุษยชาติ หลินเว่ย" ปราชญ์หลินจูตอบ "ข้าไม่ได้เลือกเ้าโดยบังเอิญ เ้าถูกเลือกั้แ่ก่อนเกิดเสียอีก"
"หมายความว่าอย่างไร?"
"เ้ามียีนของบรรพบุรุษโบราณ ผู้ที่รู้จักการใช้พลังชี่ในระดับที่มนุษย์ธรรมดาไม่อาจเข้าถึงได้" ปราชญ์หลินจูอธิบาย "องค์กรเทียนซื่อพยายามสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาใหม่ด้วยวิทยาศาสตร์ แต่พวกเขาไม่เข้าใจว่าพลังชี่ไม่ใช่แค่เื่ของร่างกาย แต่เป็เื่ของจิติญญาด้วย"
ปราชญ์หลินจูชี้ไปที่อกของหลินเว่ย "ข้ามอบพลังชี่ทั้งหมดให้เ้า เพื่อให้เ้าสามารถฝึกฝนจนถึงระดับสูงสุดของวิชาัทะยานฟ้า"
"ผมรู้สึกไม่พร้อม" หลินเว่ยสารภาพ "ผมยังมีอะไรอีกมากที่ต้องเรียนรู้"
"เวลาของเ้ามีจำกัด" ปราชญ์หลินจูกล่าว "องค์กรเทียนซื่อได้พัฒนาไวรัสฟีนิกซ์เป็รุ่นที่ร้ายแรงกว่าเดิม ไวรัสที่ไม่เพียงควบคุมจิตใจ แต่ยังเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็อาวุธมีชีวิต"
"เหมือนที่เลน่าเป็..." หลินเว่ยนึกถึงการเปลี่ยนแปลงของเลน่าใน่สุดท้ายของการต่อสู้
"ใช่ แต่นั่นเป็เพียงต้นแบบ" ปราชญ์หลินจูพยักหน้า "พวกเขาวางแผนจะปล่อยมันออกมาทั่วโลก ควบคุมประชากรที่เหลือรอดจากหายนะครั้งแรก"
"ต้องหยุดพวกเขาให้ได้" หลินเว่ยกล่าวอย่างมุ่งมั่น
"เพื่อทำเช่นนั้น เ้าต้องฝึกฝนให้ควบคุมพลังชี่ที่ข้ามอบให้" ปราชญ์หลินจูอธิบาย "มันมีพลังมหาศาล ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี มันอาจทำลายร่างกายของเ้าได้"
"วิธีฝึกฝนคืออะไร?"
"จงฝึกสมาธิทุกวัน เข้าสู่ภวังค์เช่นนี้" ปราชญ์หลินจูตอบ "ข้าจะอยู่ที่นี่ สอนเ้าในทุกท่าที่เหลือของวิชาัทะยานฟ้า"
ภาพตรงหน้าเริ่มเลือนลาง ทุ่งหญ้าและท้องฟ้าสีทองเริ่มจางหาย
"เวลาของเราหมดแล้ว" ปราชญ์หลินจูกล่าว "พรุ่งนี้มาพบข้าอีกครั้ง"
"อาจารย์!" หลินเว่ยเอื้อมมือออกไป พยายามจับยึดภาพตรงหน้า
"จงจำไว้ หลินเว่ย" เสียงของปราชญ์หลินจูเริ่มจางลง "พลังที่แท้จริงไม่ได้มาจากความเกลียดชังศัตรู แต่มาจากความรักที่มีต่อสิ่งที่เ้า้าปกป้อง"
หลินเว่ยลืมตาขึ้น พบว่าตัวเองนั่งอยู่บนเตียงในห้องพักของฐานผู้พิทักษ์แห่งดวงตะวัน แสงสีทองบนหน้าอกของเขาค่อยๆ จางหายไป แต่ความอบอุ่นและพลังยังคงอยู่
เขานอนลงอีกครั้ง หลับตา ความเหนื่อยล้ายังคงอยู่ แต่จิตใจของเขาเบาสบายขึ้น รู้ว่าปราชญ์หลินจูยังคงอยู่กับเขา และเขายังมีโอกาสที่จะเรียนรู้จากอาจารย์
รุ่งเช้า หลินเว่ยตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่น ร่างกายฟื้นฟูได้มากกว่าที่คาดไว้ พลังชี่หมุนเวียนในตัวเขาอย่างสมดุล เขารู้สึกถึงพลังและความคล่องตัวที่ไม่เคยมีมาก่อน
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"หลินเว่ย? ตื่นแล้วหรือยัง?" เป็เสียงของหลิวซิน
"ตื่นแล้ว" หลินเว่ยตอบ ลุกขึ้นไปเปิดประตู
หลิวซินยืนอยู่พร้อมกับฉือชิน ทั้งสองดูสดชื่นกว่าเมื่อวานมาก
"อรุณสวัสดิ์" ฉือชินทักทาย "หวังเจี้ยน้าพบเรา มีข่าวเกี่ยวกับลี่ชิงและเมิ่งหลิงด้วย"
"พวกเขาเป็อย่างไรบ้าง?" หลินเว่ยถามอย่างกังวล
"ลี่ชิงดีขึ้นมาก การรักษาของที่นี่ก้าวหน้ามาก" หลิวซินตอบ "ส่วนเมิ่งหลิงอยู่ในห้องทดลองทั้งคืน ทำงานกับนักวิทยาศาสตร์ของที่นี่"
"เธอไม่เคยหยุดพักเลยหรือ?" หลินเว่ยถามพลางส่ายหัว
"เธอบอกว่ามีความก้าวหน้าบางอย่าง" ฉือชินกล่าว "เราจะได้รู้เมื่อพบหวังเจี้ยน"
หลินเว่ยเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ที่วางไว้ให้ในห้อง เป็ชุดสีเทาเรียบง่ายแต่ทนทาน ก่อนจะออกไปพร้อมกับหลิวซินและฉือชิน
พวกเขาเดินผ่านทางเดินของฐาน สังเกตเห็นชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัย บ้างฝึกฝนการต่อสู้ในลานกว้าง บ้างทำงานในห้องทดลอง บ้างดูแลสวนผักและระบบน้ำ
"ที่นี่เป็ระบบปิดที่ค่อนข้างสมบูรณ์" ฉือชินอธิบาย "พวกเขาสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องออกไปข้างนอกหลายเดือน"
พวกเขามาถึงห้องประชุมใหญ่ ที่นั่นหวังเจี้ยนนั่งอยู่ที่โต๊ะกลมใหญ่ พร้อมกับเมิ่งหลิง ลี่ชิง และคนอื่นๆ อีกหลายคนที่ดูเหมือนจะเป็ผู้นำของกลุ่มผู้พิทักษ์
ลี่ชิงยิ้มให้หลินเว่ยเมื่อเห็นเขา เธอดูดีขึ้นมาก ผ้าพันแผลยังคงพันอยู่ที่แขนและขา แต่สีหน้าไม่ซีดเซียวเหมือนเมื่อวาน
"มานั่งกันเถอะ" หวังเจี้ยนเชิญ "เรามีเื่สำคัญที่ต้องพูดคุยกัน"
หลินเว่ยและเพื่อนๆ นั่งลงที่เก้าอี้ว่าง ความรู้สึกตื่นเต้นและกังวลปนกัน ไม่รู้ว่ากำลังจะได้ฟังข่าวดีหรือข่าวร้าย
"ก่อนอื่น" หวังเจี้ยนเริ่มต้น "ดร.เมิ่งหลิงมีข่าวดีที่จะแจ้งให้ทราบ"
เมิ่งหลิงลุกขึ้นยืน ใบหน้าเธอแม้จะเหนื่อยล้า แต่ก็เปี่ยมด้วยความตื่นเต้น
"วัคซีนของเราใช้ได้ผล" เธอประกาศ "เราทดสอบกับตัวอย่างไวรัสฟีนิกซ์รุ่นล่าสุดที่ผู้พิทักษ์แห่งดวงตะวันมี และมันสามารถกำจัดไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
เสียงพูดคุยตื่นเต้นดังขึ้นทั่วห้อง
"ไม่เพียงเท่านั้น" เมิ่งหลิงเสริม "ด้วยความช่วยเหลือของทีมวิจัยที่นี่ เราพัฒนาวิธีการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้สามารถผลิตวัคซีนได้จำนวนมากโดยใช้บุปผาัน้อยลง"
"นั่นหมายความว่า..." หลินเว่ยเริ่มพูด
"ใช่" เมิ่งหลิงยิ้ม "เราสามารถผลิตวัคซีนได้มากพอที่จะปกป้องผู้คนเป็จำนวนมาก"
หวังเจี้ยนยิ้มด้วยความพอใจ "นี่เป็ข่าวดีมาก แต่เรายังมีเื่ที่น่ากังวล" เขาพยักหน้าให้ชายร่างสูงผอมที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
ชายคนนั้นลุกขึ้น สวมเสื้อคลุมห้องทดลองสีขาว "ผมชื่อ ดร.หยางหลิน หัวหน้าฝ่ายข่าวกรองของผู้พิทักษ์แห่งดวงตะวัน" เขาแนะนำตัว "จากรายงานของสายลับของเรา องค์กรเทียนซื่อกำลังเตรียมแผนการใหญ่"
เขากดรีโมตในมือ หน้าจอบนผนังสว่างขึ้น แสดงแผนที่ของประเทศจีน มีจุดแดงกระจายอยู่ทั่ว
"นี่คือศูนย์กักกันที่องค์กรเทียนซื่อสร้างขึ้น" ดร.หยางหลินอธิบาย "แต่ละศูนย์สามารถรองรับผู้คนได้หลายพันคน พวกเขาอ้างว่าเป็ศูนย์พักพิงสำหรับผู้รอดชีวิตจากไวรัส แต่ความจริงแล้ว..."
"พวกเขากำลังรวบรวมผู้คนไว้เพื่อทดลองไวรัสฟีนิกซ์" หวังเจี้ยนตอบแทน น้ำเสียงเคร่งเครียด
กล่อมวิทยุแสดงภาพที่น่าสะพรึงกลัว คนจำนวนมากถูกเรียงแถวเพื่อรับการฉีดสารบางอย่าง บางคนถูกล่ามโซ่ไว้กับเตียง กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างน่ากลัว เส้นเืสีม่วงปรากฏบนิั ดวงตาเริ่มเรืองแสง
"เหมือนที่เกิดกับหลิงเฟยและเลน่า..." หลินเว่ยกล่าวเบาๆ
"ใช่" ดร.หยางหลินพยักหน้า "แต่นี่เป็การทดลองในวงกว้าง พวกเขากำลังสร้างกองทัพมนุษย์กลายพันธุ์"
"แต่ทำไม?" ลี่ชิงถาม "พวกเขา้าอะไร?"
"อำนาจ" หวังเจี้ยนตอบ "องค์กรเทียนซื่อวางแผนที่จะควบคุมโลกหลังหายนะ โดยสร้างสังคมที่แบ่งเป็สองชนชั้น - ผู้ปกครองที่เหนือกว่า และทาสที่ถูกควบคุมด้วยไวรัส"
"และพวกเขามีทรัพยากรมากพอที่จะทำเช่นนั้น" ดร.หยางหลินเสริม "พวกเขายึดครองคลังอาวุธและเสบียงของรัฐบาลหลังจากการล่มสลาย"
หลินเว่ยนิ่งคิด ตระหนักว่าสถานการณ์ร้ายแรงกว่าที่คิด "พวกเขาวางแผนจะปล่อยไวรัสฟีนิกซ์เมื่อไหร่?"
"จากข้อมูลของเรา ภายในสิบวัน" หวังเจี้ยนตอบ "พวกเขาจะปล่อยไวรัสผ่านระบบน้ำของศูนย์พักพิงทุกแห่งพร้อมกัน สร้างกองทัพมนุษย์กลายพันธุ์ในชั่วข้ามคืน"
ห้องประชุมเงียบลงด้วยความใ นี่ไม่ใช่แค่การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดอีกต่อไป แต่เป็การต่อสู้เพื่อชะตากรรมของมนุษยชาติ
"เราต้องหยุดพวกเขา" หลินเว่ยกล่าวอย่างมุ่งมั่น "ด้วยวัคซีนของเรา"
"แต่เราจะกระจายวัคซีนไปทั่วศูนย์พักพิงทั้งหมดได้อย่างไร?" หลิวซินถาม "มีหลายสิบแห่งทั่วประเทศ"
"เราไม่จำเป็ต้องทำเช่นนั้น" เมิ่งหลิงกล่าว ดวงตาเธอเป็ประกาย "เราแค่ต้องโจมตีศูนย์กลางของพวกเขา ที่ซึ่งพวกเขาผลิตไวรัสฟีนิกซ์"
"ดูเหมือนคุณจะรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน" หวังเจี้ยนเอ่ย
เมิ่งหลิงพยักหน้า "จากข้อมูลที่เราพบในถ้ำเซียนซาน และสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากนักวิทยาศาสตร์ที่นี่ ศูนย์กลางอยู่ที่เมืองฉางชา"
ดร.หยางหลินกดรีโมตอีกครั้ง ภาพอาคารขนาดใหญ่ปรากฏบนหน้าจอ "สถาบันวิจัยฉางชา หรือที่เรารู้จักกันในนาม 'รังฟีนิกซ์' ศูนย์บัญชาการใหญ่ขององค์กรเทียนซื่อ"
"ถ้าเราสามารถแทรกซึมเข้าไปและปล่อยวัคซีนเข้าสู่ระบบผลิตไวรัสของพวกเขา..." หวังเจี้ยนเริ่มต้น
"เราจะเปลี่ยนไวรัสฟีนิกซ์ให้เป็เซรุ่มต้านไวรัส" เมิ่งหลิงต่อประโยค "แทนที่จะควบคุมผู้คน มันจะปกป้องพวกเขา"
"แผนที่บ้าบิ่น..." ฉือชินกล่าว "แต่อาจเป็โอกาสเดียวของเรา"
"สถาบันนั้นมีการป้องกันเข้มงวดที่สุดในประเทศ" ดร.หยางหลินเตือน "กองกำลังทหาร ระบบความปลอดภัยขั้นสูง และที่แย่ที่สุด มนุษย์กลายพันธุ์ที่ผ่านการทดลองไวรัสฟีนิกซ์"
"เรา้าทีมเล็กๆ ที่แข็งแกร่ง" หวังเจี้ยนกล่าว มองไปที่หลินเว่ย "คนที่มีพลังพิเศษและความกล้าหาญ"
หลินเว่ยสบตากับหวังเจี้ยน เข้าใจความหมายทันที "ผมจะไป"
"ผมด้วย" หลิวซินประกาศ
"ฉันต้องไปด้วย" เมิ่งหลิงกล่าว "ฉันรู้วิธีผสมวัคซีนเข้ากับระบบผลิตไวรัส"
"ฉันจะไปดูแลพวกคุณ" ลี่ชิงเสริม แม้ร่างกายจะยังไม่ฟื้นดีนัก
ฉือชินพยักหน้า "ผมจะนำทางพวกคุณ ผมเคยทำงานในฉางชามาก่อน"
หวังเจี้ยนมองดูกลุ่มหลินเว่ยด้วยความประทับใจ "ความกล้าหาญของพวกคุณน่าชื่นชม แต่พวกคุณต้องได้รับการฝึกฝนก่อน นี่ไม่ใช่ภารกิจที่คนเพิ่งหายจากการาเ็จะทำได้"
"เรามีเวลาเท่าไร?" หลินเว่ยถาม
"สามวัน" หวังเจี้ยนตอบ "เราจะใช้เวลานี้เตรียมตัวให้พวกคุณ ฝึกฝน และวางแผนในรายละเอียด"
"และเราจะส่งทีมผู้พิทักษ์แห่งดวงตะวันไปกับพวกคุณด้วย" ชายหนุ่มร่างสูงในชุดเกราะทองแดงกล่าว "ผมคือ เจิ้งหวัง หัวหน้าหน่วยรบพิเศษ จะนำทีมของผมไปสนับสนุนพวกคุณ"
หลินเว่ยนึกถึงคำพูดของปราชญ์หลินจูในความฝัน "ผม้าฝึกฝนพลังชี่ของผมด้วย" เขาประกาศ "ผมได้รับพลังใหม่จากปราชญ์หลินจู ต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมมัน"
หวังเจี้ยนมองหลินเว่ยอย่างพิจารณา "เรามีอาจารย์ฝึกพลังชี่ที่ดีที่สุดที่นี่ เขาจะช่วยคุณได้"
"ขอบคุณครับ" หลินเว่ยกล่าว "แต่ผม้าเวลาฝึกสมาธิด้วยตัวเองด้วย"
หวังเจี้ยนพยักหน้า เข้าใจว่าหลินเว่ยอาจมีเหตุผลพิเศษที่ไม่อาจเปิดเผย
"ดีมาก" หวังเจี้ยนประกาศ "ั้แ่วันนี้ ทุกคนเริ่มฝึกฝนอย่างเข้มข้น เราต้องพร้อมภายในสามวัน"
การประชุมสิ้นสุดลง ทุกคนแยกย้ายไปเตรียมตัวสำหรับภารกิจใหญ่ที่รออยู่เบื้องหน้า
ห้องฝึกซ้อมของผู้พิทักษ์แห่งดวงตะวันเป็พื้นที่กว้างขวาง ผนังด้านหนึ่งเป็กระจกเงาตลอดแนว อีกด้านมีอุปกรณ์ฝึกต่างๆ หลินเว่ยได้รับอนุญาตให้ใช้ห้องนี้ฝึกฝนพลังชี่ส่วนตัว
เขานั่งลงกลางห้อง ขัดสมาธิ หลับตา ทำใจให้ว่าง ลดความคิดฟุ้งซ่านลง เขารู้สึกถึงพลังชี่หมุนวนในร่างกาย รวมตัวที่จุดตันเถียนใต้สะดือ ก่อนแผ่ซ่านไปทั่วร่าง
ไม่นาน เขาก็เข้าสู่ภวังค์ และพบตัวเองยืนอยู่ในทุ่งหญ้าสีทองเช่นเดียวกับเมื่อคืน ปราชญ์หลินจูยืนรออยู่ไม่ไกล
"อาจารย์" หลินเว่ยค้อมศีรษะด้วยความเคารพ
"เ้ามาเร็วกว่าที่คาดไว้" ปราชญ์หลินจูกล่าว "เ้าคงมีเื่เร่งด่วน"
"ใช่ครับ" หลินเว่ยพยักหน้า "เราค้นพบแผนการขององค์กรเทียนซื่อ พวกเขาจะปล่อยไวรัสฟีนิกซ์ในอีกสิบวัน เราวางแผนจะบุกเข้าไปที่ศูนย์บัญชาการของพวกเขาในอีกสามวัน"
"เวลาน้อยนัก" ปราชญ์หลินจูขมวดคิ้ว "แต่ก็ไม่มีทางเลือก เ้าต้องเรียนรู้อย่างรวดเร็ว"
"ท่านคิดว่าผมจะทำได้ไหม?"
"จะไม่ง่าย แต่เ้ามีสิ่งที่คนอื่นไม่มี" ปราชญ์หลินจูตอบ "เืของบรรพบุรุษโบราณไหลเวียนในตัวเ้า"
ปราชญ์หลินจูยกมือขึ้น ภาพรอบตัวเปลี่ยนไป พวกเขายืนอยู่ในห้องกว้างคล้ายวิหารโบราณ บนผนังมีภาพจิตรกรรมสีทองแสดงท่าทางการเคลื่อนไหวต่างๆ
"นี่คือวิหารัเซียน" ปราชญ์หลินจูอธิบาย "ที่ซึ่งวิชาัทะยานฟ้าถูกสร้างขึ้น"
"มันสวยงามมาก" หลินเว่ยกล่าว มองไปรอบๆ ด้วยความทึ่ง
"วันนี้เราจะฝึกท่าที่สิบเอ็ด" ปราชญ์หลินจูกล่าว "ัปกป้อง เป็ท่าป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของวิชาัทะยานฟ้า"
เขาแสดงท่าทางให้หลินเว่ยดู เริ่มจากยืนมั่นคง สองเท้าห่างกันเท่า่ไหล่ แขนกางออก ก่อนจะหมุนฝ่ามือเข้าหาร่างกาย และวาดวงกลมรอบตัว
"ทุกการเคลื่อนไหวต้องต่อเนื่อง" ปราชญ์หลินจูสอน "เหมือนกระแสน้ำที่ไหลไม่ขาดสาย สร้างโล่พลังชี่ล้อมรอบร่างกาย"
หลินเว่ยเริ่มฝึกตาม ในโลกแห่งจิติญญานี้ การเรียนรู้เร็วกว่าในโลกจริงหลายเท่า เขารู้สึกถึงพลังชี่ที่ถูกควบคุมง่ายขึ้น เหมือนเป็ส่วนหนึ่งของร่างกาย
"ใช่แล้ว" ปราชญ์หลินจูกล่าวชม "ัปกป้อง ไม่เพียงป้องกันการโจมตีทางกายภาพ แต่ยังสามารถต้านพลังงานจากภายนอกได้ด้วย"
หลินเว่ยรู้สึกถึงโล่พลังชี่ที่แข็งแกร่งรอบร่าง มั่นใจว่าเมื่อกลับไปในโลกจริง เขาจะสามารถใช้ท่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"เราไม่มีเวลามากพอจะฝึกทุกท่าให้สมบูรณ์" ปราชญ์หลินจูกล่าว "แต่ข้าจะสอนเ้าอีกหนึ่งท่าวันนี้ ท่าที่จำเป็ต่อภารกิจของเ้า"
หลินเว่ยพยักหน้า พร้อมเรียนรู้
"ท่า ัหยั่งรู้" ปราชญ์หลินจูเริ่มอธิบาย "ท่าที่สิบสี่ ไม่ใช่ท่าโจมตีหรือป้องกัน แต่เป็ท่าเพื่อรับรู้ถึงอันตราย..."
เขาสอนให้หลินเว่ยนั่งสมาธิในท่าพิเศษ มือวางซ้อนกันที่หน้าตัก ฝ่ามือเปิดขึ้น
"ส่งพลังชี่ออกจากร่างกายเหมือนคลื่นน้ำ" ปราชญ์หลินจูอธิบาย "เมื่อคลื่นัักับสิ่งใด มันจะสะท้อนกลับมา บอกเ้าถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่"
หลินเว่ยลองทำตาม ส่งพลังชี่ออกไปรอบตัว เขารู้สึกได้ถึงโต๊ะไม้ที่อยู่ด้านหลัง แจกันบนชั้นวางของ แม้แต่แมลงเล็กๆ ที่คลานอยู่ที่มุมห้อง ทั้งที่เขาไม่ได้หันไปมอง
"เยี่ยมมาก" ปราชญ์หลินจูยิ้ม "เ้าเรียนรู้ได้เร็ว"
"ท่านี้จะช่วยให้ผมตรวจจับกับดักและผู้โจมตีที่ซ่อนตัวได้" หลินเว่ยเข้าใจ
"ใช่ และไม่เพียงเท่านั้น" ปราชญ์หลินจูเสริม "มันยังช่วยให้เ้ารู้ว่าใครพูดความจริงหรือโกหก ใครมีเจตนาดีหรือร้าย"
"นั่นจะช่วยได้มากในการแทรกซึมเข้าไปในฐานของศัตรู" หลินเว่ยกล่าว
ปราชญ์หลินจูพยักหน้า "เรายังมีเวลาอีกสองวัน จงฝึกฝนท่าเหล่านี้ให้ชำนาญ ท่า ัปกป้อง และ ัหยั่งรู้ จะเป็กุญแจสำคัญในภารกิจของเ้า"
ภาพรอบตัวเริ่มจางลง ทั้งวิหารและปราชญ์หลินจูค่อยๆ เลือนหาย
"จงจำไว้ หลินเว่ย" เสียงของปราชญ์หลินจูแว่วมา "พลังที่แท้จริงมาจากการปกป้อง ไม่ใช่การทำลาย"
หลินเว่ยลืมตาขึ้น พบว่าตัวเองนั่งอยู่ในห้องฝึกซ้อม เหงื่อไหลโซมกาย แต่ในใจเต็มไปด้วยความมั่นใจ เขารู้ว่าต้องทำอย่างไรแล้ว