“หากเป็เช่นนั้นก็ช่างเถอะ” ถังเหล่ยแทบไม่อยากเชื่อว่าในเมืองจิ่วหั่วจะหาศิลาเพลิงิญญาไม่ได้
ในเมื่อโรงประมูลไม่มีขายถังเหล่ยก็จำเป็จะต้องไปยังตลาดมืดของเมืองจิ่วหั่ว แต่สิ่งที่น่ากลัวก็คือสมบัติชิ้นนี้เป็สมบัติหายาก ราคาในตลาดมืดจะต้องมีมูลค่าสูงอย่างแน่นอน
เหอจินอยากให้ถังเหล่ยซื้อของอย่างอื่น แต่ในใจของถังเหล่ย้าเพียงแค่ศิลาเพลิงิญญาเท่านั้นจึงปฏิเสธไป เหอจินจึงหยิบบัตรสีขาวออกมาใบหนึ่ง ในนั้นมีตัวเลขหนึ่งหมื่นห้าพันเขียนเอาไว้ ถังเหล่ยรู้จักบัตรใบนี้ดี
ในจักรวรรดิต่างๆ บัตรเช่นนี้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย ตัวเลขที่บันทึกเอาไว้หมายถึงจำนวนและสีขาวหมายถึงศิลาิญญาระดับต่ำ หลังจากถังเหล่ยรับบัตรไปแล้ว เหอจินก็หยิบบัตรสีม่วงออกมาอีกใบ
“คุณชาย นี่คือบัตรแขกผู้มีเกียรติของโรงประมูลพวกเรา ในอนาคตหากท่านเข้ามายังโรงประมูลก็หยิบบัตรนี้ออกมาพวกเขาจะนำท่านมายังห้องแห่งนี้ทันที ที่สำคัญตอนที่โรงประมูลจัดงานประมูลขึ้น ท่านสามารถนั่งในโซนแขกผู้มีเกียรติได้”
ถังเหล่ยเก็บบัตรสีม่วงทันที ถึงแม้ที่นี่ไม่มีศิลาเพลิงิญญา แต่ตอนเขาปรุงยาก็จำเป็ต้องใช้วัตถุดิบหลายชนิด ถึงตอนนั้นเขาต้องได้ใช้ประโยชน์จากบัตรที่อีกฝ่ายมอบให้อย่างแน่นอน
หลังจากนั้นเหอจินเตรียมตัวพาถังเหล่ยลงไป ตอนนี้อารมณ์ของเขาดีมาก เพราะถังเหล่ยไม่ต่อรองราคาแม้แต่น้อย และการค้าขายในครั้งนี้เขาสามารถทำกำไรได้ถึงหนึ่งพันก้อนศิลาิญญาระดับต่ำ!
“เอาออกไป! ข้าไม่สนของพวกนี้ ถ้าเ้ากล้าขวางทางข้า เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะเผาที่นี่!”
ในขณะที่ถังเหล่ยกับเหอจินกำลังจะเดินลงบันไดก็ได้ยินเสียงดังมาจาก้าและยังมีเสียงปาข้าวของอีกด้วย ถังเหล่ยรู้สึกว่าเสียงนี้ฟังคุ้นหูยิ่งนัก
“ขออภัยที่ทำให้คุณชายต้องพบเจอกับเื่น่าอาย คุณหนูใหญ่กำลังโมโหอยู่ คุณชายเชิญด้านล่างจะดีกว่า” เหอจินยิ้มอย่างอึดอัด เขา้าให้ถังเหล่ยจากไปโดยเร็วที่สุด เพราะสถานที่ที่เขาดูแลอยู่กำลังเกิดเื่น่าอับอาย
ในขณะที่ถังเหล่ยเงยหน้ามองไปยังต้นเสียงและกำลังเตรียมตัวเดินลงไปด้านล่าง ทันใดนั้นกระดานไม้้าก็ตกลงมาบริเวณถังเหล่ยกับเหอจินยืนอยู่พอดี ถึงแม้เหอจินจะเป็ผู้ฝึกตนระดับผู้ทรงยุทธ์ แต่เพราะทำการค้ามาหลายปี เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอันตรายร่างกายของเขาจึงแข็งทื่อไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร โชคดีที่มีถังเหล่ยอยู่ด้านข้าง อีกฝ่ายดึงตัวเขาหลบไปอย่างรวดเร็ว
ปัง!
กระดานไม้สีดำตกลงมาจาก้า ทำให้บนเพดานมีรูขนาดใหญ่ จากนั้นร่างหนึ่งก็ะโลงมาจากรูนั้น ถังเหล่ยขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เขาอยากจะรู้ว่าใครกันที่ก่อเื่ในสถานที่แห่งนี้ โรงเตี๊ยมแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของตี้เหยียน หรือว่าคนที่ก่อเื่ผู้นี้จะไม่เกรงกลัวตี้เหยียน?
ร่างที่ตกลงมาสำลักฝุ่นควันออกมาเล็กน้อย จากนั้นลุกขึ้นพร้อมใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเศษฝุ่นและดิน
ทันทีที่ถังเหล่ยเห็นใบหน้าของผู้ก่อเื่ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร เพราะคนที่อยู่เบื้องหน้าของเขาไม่ใช่ใครอื่น นางก็คือตี้เชียนเสวี่ยที่เจอกันในูเาซวงเฟิงเมื่อไม่กี่วันก่อน เพียงแต่ใบหน้าของตี้เชียนเสวี่ยในเวลานี้เปรอะเปื้อนอยู่เล็กน้อย เขาจึงอุทานออกมาทันที
“เ้า!”
ตี้เชียนเสวี่ยลุกขึ้นจากพื้น เมื่อเงยหน้าขึ้นนางก็เห็นถังเหล่ยยืนอยู่จึงกล่าวออกมาด้วยความตกตะลึง
“ทำไมเ้าอยู่ที่นี่!” ตี้เชียนเสวี่ยถามออกไปทันที
“ข้าจะอยู่ที่ไหนก็เื่ของข้า ที่นี่คือบ้านของเ้าอย่างนั้นหรือ?” ถังเหล่ยด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน
“ฮ่าๆ ที่นี่ก็คือบ้านของข้า!” ตี้เชียนเสวี่ยมองถังเหล่ยและหัวเราะออกมา ขณะเดินออกมาจากกองเศษกระดานไม้ใต้เท้า นางก็หันไปมองเหอจินและกล่าวว่า
“เ้าบอกเขาไปสิว่าข้าเป็ใคร!”
“นางคือคุณหนูใหญ่ของตี้เหยียน ที่นี่คือบ้านของนาง!” เหอจินรู้สึกงุนงง เขาไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้รู้จักคุณหนูใหญ่ได้อย่างไร อีกทั้งฟังจากน้ำเสียงของทั้งสองที่สนทนาราวกับว่าเคยผ่านเื่ราวมาด้วยกัน
สีหน้าถังเหล่ยเปลี่ยนไปทันทีที่รู้ว่าตระกูลตี้คือเชื้อพระวงศ์ของจักรวรรดิซือฉีและตี้เชียนเสวี่ยกับตี้ชิงที่เจอในูเาซวงเฟิงล้วนเป็เชื้อพระวงศ์ สิ่งที่เกินความคาดหมายของเขาก็คือตี้เชียนเสวี่ยเป็ถึงธิดาของตี้เหยียน หากเื่ราวเป็เช่นนี้ตี้ชิงก็คงเป็บุตรชายของตี้เหยียนอย่างแน่นอน
“ฮ่าๆ”
ตี้เชียนเสวี่ยยังคงหัวเราะอยู่ด้านข้าง ่นี้นางถูกบิดาสั่งให้อยู่แต่ในโรงประมูลห้ามออกไปไหนทั้งนั้น
ที่ด้านข้างถังเหล่ยยังคงสงบนิ่ง ทันใดนั้นชายชรากลุ่มหนึ่งก็วิ่งลงมาจากชั้นบน มุ่งหน้าไปหาตี้เชียนเสวี่ยด้วยความร้อนใจ
“คุณหนูใหญ่ ได้โปรดอย่าหนีออกไปเลย บิดาของท่านสั่งว่าหากท่านออกจากโรงประมูลไปแม้แต่ก้าวเดียว ตาเฒ่าอย่างพวกเราล้วนต้องตาย!”
ชายชราที่กล่าวเป็หนึ่งในผู้ที่มีอำนาจในโรงประมูล แต่ต่อหน้าตี้เชียนเสวี่ยพวกเขาทำได้เพียงก้มหัวเท่านั้น
“ใช่แล้วคุณหนูใหญ่ เหลืออีกแค่สองวันโทษของท่านก็สิ้นสุดแล้ว ได้โปรดอดทนอีกสักนิด!” ชายชราเ่าั้ต่างพากันอ้อนวอนด้วยความหวาดกลัว พวกเขาแทบจะคุกเข่าให้ตี้เชียนเสวี่ย
ถังเหล่ยมองกลุ่มชายชราและหันกลับมามองตี้เชียนเสวี่ยอีกครั้งด้วยสายตาที่แฝงด้วยอารมณ์
“อะแฮ่ม!”
สีหน้าของตี้เชียนเสวี่ยแสดงความอึดอัดขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นสายตาของถังเหล่ย แม้ว่านางจะป่าเถื่อนไร้เหตุผลจริงๆ แต่ก็ไม่อยากแสดงออกมาต่อหน้าถังเหล่ย
“พอแล้ว วันนี้สหายของข้าอยู่ที่นี่ ข้าจะไม่เอาเื่พวกเ้าแล้ว แต่เื่รูบนเพดานห้ามเอาไปบอกท่านพ่อเด็ดขาด หากขัดคำสั่งของข้าพวกเ้าคงจะรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น?!”
ตี้เชียนเสวี่ยยังข่มขู่กลุ่มชายชราซ้ำอีกครั้ง จากนั้นนางก็เดินผ่านพวกเขาไปยืนด้านข้างถังเหล่ยและกล่าวกับเขาว่า
“ที่นี่ไม่เหมาะจะพูดคุย ตามข้าขึ้นมา”
ถังเหล่ยมองตี้เชียนเสวี่ย จากนั้นก็เดินตามนางขึ้นไป ในเมื่อสถานะของตี้เชียนเสวี่ยคือคุณหนูใหญ่ของตี้เหยียน ความหวังที่จะได้ศิลาเพลิงิญญาก็กลับมาอีกครั้ง นี่เป็เื่น่ายินดีที่เกินความคาดหมายของเขาไปมาก ทันทีที่เดินมาถึงบันได ตี้เชียนเสวี่ยก็หันหน้ากลับมากะทันหัน
“พวกเ้าห้ามขึ้นไป”
ชายชราเ่าั้รีบพยักหน้าพร้อมกับเผยรอยยิ้ม ขอแค่ตี้เชียนเสวี่ยไม่ออกจากโรงประมูล ไม่ต้องกล่าวถึงเื่ไม่ให้พวกเขาขึ้นไป ต่อให้พวกเขาไม่ได้รับประทานอะไรเลยก็ไม่เป็ไร ขอแค่คุณหนูใหญ่ของพวกเขาไม่ออกไปจากพื้นที่ก็เพียงพอแล้ว
ตี้เชียนเสวี่ยมองถังเหล่ยอีกครั้ง หลังจากนั้นก็เดินขึ้นไปชั้นสามทันที หลังจากที่ทั้งสองหายไปจากสายตาของกลุ่มชายชรา ใบหน้าของพวกเขาก็กลับมาเป็ปกติ
ในเวลาเดียวกันชายชราเคราขาวคนหนึ่งขมวดคิ้ว มองมาที่เหอจินที่ยืนอยู่ด้านข้าง
“ผู้ดูแลเหอ ชายหนุ่มผู้นี้เป็ใครกัน เหตุใดจึงรู้จักกับคุณหนูใหญ่?”
แม้แต่เหอจินเองเมื่ออยู่ต่อหน้าชายชราเหล่านี้เขาก็รู้สึกเกรงเล็กน้อย คนเหล่านี้ล้วนเป็ผู้าุโ
“ข้าก็ไม่รู้ ชายหนุ่มผู้นี้มาขายของ ไม่สามารถระบุตัวตนที่ชัดเจนได้”
“ไปตรวจสอบ! คุณหนูใหญ่กับชายหนุ่มผู้นี้ดูแล้วมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาเลย ระวังจะเป็ไส้ศึกที่ตี้เลี่ยส่งมา เื่นี้จะปล่อยปละละเลยไม่ได้ ความปลอดภัยของคุณหนูใหญ่คือสิ่งสำคัญที่สุด!”
พ่อบ้านใหญ่กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง จู่ๆ ก็มีชายหนุ่มผู้หนึ่งปรากฏตัว อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับคุณหนูใหญ่ สถานการณ์เช่นนี้พวกเขาไม่สามารถปล่อยผ่านได้ พวกเขาจึงต้องสืบหาภูมิหลังของอีกฝ่ายให้ได้โดยเร็วที่สุด
“ทราบแล้ว ข้าน้อยจะไปจัดการทันที!” เหอจินรีบถอยไประดมกำลังและเส้นสายของโรงประมูลและเริ่มตรวจสอบถังเหล่ยในทันที
……