บทที่ 154 ระดับสุดท้าย
“แสงฝ่ามือรูปัที่เด็กคนนั้นปล่อยออกไปช่างน่ากลัว แต่ตอนนี้เขากับอีน่ากำลังทำอะไรกันอยู่…”
“เอ่อ...ถ้าอย่างนั้น... เ้าเด็กชาวป่านี่นับว่าชนะหรือยัง?”
“ไร้สาระ! นี่ไม่เรียกว่าชนะแล้วจะเรียกว่าอะไรอีก?!”
ทั้งลานเงียบสงบ จากนั้นก็เกิดความโกลาหลขึ้นในทันใด สถานการณ์บนลานประลองแพร่ไปอย่างรวดเร็ว
ทุกคนกรีดร้องเสียงดัง บ้างร้องไห้ บ้างคร่ำครวญ บ้างอุทาน
แล้วการประลองยุทธ์ที่ทั้งคู่ตกลงกันไว้ล่ะ? สุดท้ายก็กลายเป็แบบนี้เสียแล้ว!
“เด็กคนนี้โชคดีจริงๆ!” กลุ่มนักรบชายคร่ำครวญ ดึงดูดนักพรตหญิงจำนวนมากให้มองตาม
อาจกล่าวได้ว่า เหตุบังเอิญนี้ทำให้ทุกคนไม่สนใจในชัยชนะของฉู่อวิ๋นไปเสียแล้ว ช่างเป็เื่บังเอิญ! เื่ประหลาดเช่นนี้เกิดขึ้นใน่เวลาชี้ขาด
ในเวลาเดียวกัน ดวงตาอีกสามคู่ต่างก็จับจ้องไปยังฉู่อวิ๋นด้วยแววตาที่ต่างกัน
“คุณชายอวิ๋นชนะแล้ว ฮ่าๆ... แต่ทำไมเขาถึงต้องแนบกับผู้หญิงคนนั้นด้วย?! เขาเป็ของข้า เขาเป็ของข้า!” เสวี่ยหรูเยียนที่ตอนแรกดูมีความสุขค่อยๆ เผยแววตาเย็นเยียบ หัวใจของนางเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
“อ๊ะ! อวิ๋นเอ๋อร์... ช่างกล้าหาญจริงๆ! ในฐานะพี่สาวข้ากลับไม่เคยรู้มาก่อน แย่จริงๆ...” ดวงตาของฉู่ซินเหยาหรี่ลง นางได้แต่โทษตัวเอง
“คนที่มี ‘อวิ๋น’” อยู่ในชื่อนี่ไม่มีอะไรดีจริงด้วย! เอิ้ก~” ดวงตาฉ่ำน้ำของมู่หรงซินพร่ามัว เหม่อมองไปทางเวทีต่อสู้ แล้วพึมพำกับตัวเอง “ต่างก็ชอบผู้หญิงขี้เล่นพวกนั้น เชอะ!”
แน่นอนว่าฉู่อวิ๋นบนเวทีประลองไม่รู้ถึงความคิดในใจของหญิงสาวทั้งสามคน ยามนี้ เขาได้แต่เกาหัวซ้ำๆ ยืนขึ้น แล้วหัวเราะแห้งๆ อย่างเขินอายมาก
“เ้า... เ้า...” อีน่าที่นอนแผ่อยู่บนพื้นจดจ้องไปที่ฉู่อวิ๋นด้วยความอับอายและโมโหไม่หาย
“ไม่เคย...ไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้กับข้ามาก่อน! เ้า...เ้าคนน่ารังเกียจ!”
พูดจบ อีน่าก็กระดกตัวลุกขึ้น จากนั้นตีลังกากลับหลังแล้วค่อยๆ เดินมาจับจ้องฉู่อวิ๋นอย่างใกล้ชิด มุมปากของนางกระตุกเล็กน้อย
นี่เป็ภาพน่าตกตะลึงยิ่ง อีน่าที่มักจะมีท่าทีเย้ายวนเสน่ห์ กล้าหาญและหยิ่งผยองอย่างยิ่ง กลับมีสภาพพ่ายแพ้ให้พวกเขาได้เห็นเช่นนี้?
“ข้า... ข้าไม่สู้แล้ว! ยอมแพ้! ยอมแพ้แล้ว!”
อีน่ากัดฟัน หันหลังแล้วะโออกไปจากเวทีประลองและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ราวกับกำลังวิ่งหนี
“เอ่อ...” เมื่อมองไปยังร่างที่กำลังะโหายไปของอีน่า ฉู่อวิ๋นก็ยกยิ้มขมขื่น
ใส่ร้าย! เขาไม่ใช่คนแบบนั้นเสียหน่อย
เช่นนี้แล้ว ผู้ตัดสินที่อยู่ข้างๆ ก็อึ้งไปชั่วครู่ ส่ายหัวแล้วประกาศว่า “การประลองรอบที่สี่ของการประชันห้าั นักล่าอวิ๋นชูชนะ!”
กระทั่งมีคำตัดสินจึงเรียกสติของทุกคนกลับคืนมา ต่างคนต่างส่งสายตาประหลาดใจ ใ และส่ายหน้าโดยไม่รู้ตัวอย่างไม่อยากเชื่อ
“เด็กคนนี้... เอาชนะนักรบระดับสี่ขั้นมหาสมุทรได้จริงๆ หรือ?”
“เขาสามารถต่อสู้ข้ามเกินสี่ระดับได้?! นี่คือย่างก้าวสี่ระดับที่ยิ่งใหญ่มาก!”
ทุกคนค่อยๆ พุ่งความสนใจไปที่ฉู่อวิ๋น แล้วเริ่มคิดถึงข้อเท็จจริงที่น่าอัศจรรย์ ก่อนจะใและอุทานออกมา
ที่แห่งนี้เคารพความแข็งแกร่งเป็ใหญ่ ผู้ชนะคือาา ผู้แพ้เป็โจร ผู้คนนับถือเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้น!
ต่อให้เมื่อครู่จะถูกนินทา แต่เมื่อชนะขึ้นมา สถานการณ์ก็จะพลิกกลับด้าน ได้รับความชื่นชมจากผู้คนนับพัน!
ความจริงก็เป็เช่นนี้
“อวิ๋นชู!”
“อวิ๋นชู!”
เมื่อเสียงะโโห่ดังขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนก็รู้สึกคึกคักมากขึ้น เพราะพวกเขารู้ว่าวันนี้ในลานประลองยุทธ์ของเมืองชุยเสวี่ย นักรบระดับเก้าของขอบเขตควบแน่นพลังปราณที่สามารถข้ามสี่ระดับของพลังยุทธ์ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว!
นี่คือประวัติศาสตร์หน้าใหม่! ประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในทางตอนเหนือของราชวงศ์เซี่ยตะวันออก!
“ซิวหลัวผนึกมืด... นี่คือซิวหลัวผนึกมืด!” มีเสียงคนกรีดร้องและเริ่มตั้งชื่อให้ฉู่อวิ๋น
“เขาจะ...ชนะอีกหรือเปล่า?”
หลายคนเริ่มมีความคิดไปในทางเดียวกัน ฉู่อวิ๋นผ่านมาได้สี่ระดับแล้ว แม้ว่าการปะทะกับของัและอสรพิษจะน่าตื่นเต้นไม่น้อย แต่ดูเหมือนฉู่อวิ๋นยังหวังที่จะฝ่าฟันต่อไปให้ได้!
ตราบใดที่เขาผ่านอีกหนึ่งระดับ ฉู่อวิ๋นก็จะชนะการประชันห้าั ได้รับรางวัลมากมายมหาศาล!
ยิ่งไปกว่านั้น รางวัลที่เขาได้รับจะอยู่ในระดับสูงสุด เพราะฉู่อวิ๋นเริ่มท้าทายจากระดับเก้าของขอบเขตควบแน่นพลังปราณ ย่อมจินตนาการได้ว่ามันยากเย็นแสนเข็ญเพียงไร!
“ไม่เลวเลย เป็เด็กที่คาดไม่ถึงจริงๆ!” ซิวหลัวหน้าผีหัวเราะร่า ดูตื่นเต้นมาก ก่อนจะนั่งลงอีกครั้ง
“เหอะๆ ไม่ผิดจากที่ข้าคาดไว้ มาถึงรอบที่ห้าแล้วจริงๆ แต่ก็หยุดไว้เพียงแค่นี้เถิด จอมยุทธ์อวิ๋น...”
เสวี่ยหานเฟยเผยรอยยิ้มอ่อนโยน โบกพัดขนนกในมือเบาๆ แต่ก็ได้ข้อสรุปเช่นนี้ในใจ
ครู่ต่อมา ภายใต้ความสนใจของผู้ชม การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของการประชันห้าั การต่อสู้ที่กำหนดอำนาจและชื่อเสียง ในที่สุดก็เริ่มต้นขึ้น!
ทุกคนกำลังรอให้คู่ต่อสู้ในรอบที่ห้าของฉู่อวิ๋นปรากฎตัว!
แต่สถานการณ์มักพลิกผันอลวนจนผู้คนรู้สึกหดหู่ละอายใจ
"ติงิเต๋อ! เชิญขึ้นลานประลอง!”
“ไม่อยู่”
“ซินอวี้! เชิญขึ้นลานประลอง!”
“ไม่อยู่อีกแล้วหรือ?”
“กวนอ่าง! อยู่หรือไม่?”
“มีอะไรผิดพลาดกัน?! เขาก็ไม่อยู่หรือ?!”
กรรมการผู้ตัดสินเหงื่อแตก ขมวดคิ้วแน่น รู้สึกว่าวันนี้ช่างแปลกจริงๆ เกิดเหตุบังเอิญหลายครั้งนัก
เพราะเมื่อครู่ที่เขาอ่านรายชื่อผู้เข้าแข่งขันหลายคนที่สมัครเข้าร่วมการประชันห้าั กลับไม่มีใครปรากฏตัว
ในความเป็จริง พวกเขาไม่อยู่จริงๆ ไม่ว่าจะจากไปเพราะรู้สึกว่าฉู่อวิ๋นอ่อนแอ หรือจะจากไปเพราะเื่อื่น ต่างก็ช่างบังเอิญจริงๆ
ท้ายที่สุด ชายชราที่ขานชื่อก็ขมวดคิ้ว เป่าเคราด้วยความโมโห เพราะจำนวนนักรบที่ลงชื่อเข้าร่วมการประชันห้าันั้นมีจำกัด หากเป็เช่นนี้ต่อไป ฉู่อวิ๋นก็จะชนะการประชันไปโดยปริยาย
“ขอ์เห็นใจด้วยเถิด! เหลือไว้สักคนก็ยังดี!”
ชายชราเหงื่อตก ขานรายชื่อนักรบในระดับห้าขั้นมหาสมุทรอีกสองสามคน แต่ต่อให้โกรธจนเวียนหัวตาลายอย่างไร ก็ไม่มีใครปรากฏตัว!
ยามนี้ ผู้ชมทั้งหมดต่างมองหน้ากันด้วยความงุนงง พากันซุบซิบอย่างตื่นตระหนก หรือว่าเ้าเด็กชาวป่าคนนี้จะโชคดีจริงๆ เขาจะชนะโดยไม่ต้องต่อสู้จริงๆ หรือ?
สิ่งที่เกิดขึ้นในการประชันห้าัในวันนี้ ทำให้หลายคนประหลาดใจ
“มีไม่มีเล่า?...” ฉู่อวิ๋นร้อนใจ ทรุดตัวนั่งลงตรงลานประลอง ตอนนี้เขาคล้ายเป็ลิงจ๋อที่ถูกทุกคนจับตามอง เขาก็แค่อยากชนะเร็วๆ แล้วไปคุยกับซิวหลัวหน้าผีคนนั้น
ในที่สุด ชายชราที่จับฉลากก็มือสั่น เหงื่อเย็นเยียบหลั่งริน เพราะในรายชื่อผู้สมัครเหลือเพียงคนสุดท้ายแล้ว
หากคนสุดท้ายก็ไม่อยู่ ฉู่อวิ๋นก็จะเป็ผู้ชนะไปโดยปริยาย ทั้งยังจะได้รับรางวัลสูงสุดด้วย
“คนสุดท้าย...” ชายชราเสียงสั่น
“อืม ฮะๆ... ฮ่าๆๆ!!!”
ก่อนที่ชายชราจะพูดอะไร จู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะดังก้องไปทั่วทั้งลานประลอง ทั้งน้ำเสียงก็ค่อนข้างเย่อหยิ่ง
ทุกคนสับสน แม้แต่ชายชรายังตกตะลึงและหันมองไปรอบ ๆ
จากนั้น ก่อนที่ทุกคนจะรู้สึกตัว เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ตาเฒ่า! เ้าไม่ต้องอ่านชื่อข้าหรอก ข้านี่แหละคนต่อไป!"
“์ช่วยข้า! ์ช่วยข้าแล้ว! ข้ามีโอกาสหนึ่งในล้านนี้แล้วจริงๆ! น่าตื่นเต้นมาก น่าตื่นเต้นยิ่งนัก! ฮ่าๆๆๆ!”
น้ำเสียงนี้ช่างหยิ่งยโส พาหลายคนตื่นตระหนกและอยากรู้ถึงที่มาของเสียง
“ผู้ใดกำลังหัวเราะ? เสียงนี้... คุ้นๆ นะ เหมือนว่าจะเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน?” ฉู่อวิ๋นลุกขึ้นยืน ไพล่มือไปด้านหลัง เตรียมพร้อมกับการเผชิญหน้า
“ควับ!”
ทันใดนั้น ท้องฟ้าก็ปั่นป่วน มวลอากาศสีน้ำเงินเข้มพุ่งเข้ามา มันเคลื่อนตัวไปมาด้วยความเร็วสูง วิถีโคจรไม่ชัดเจนจนเวียนหัว
“พั่บ พั่บ พั่บ——”
พร้อมกับเสียงะเิอากาศ มวลอากาศสีน้ำเงินเข้มก็กลายเป็กระสวยแสงเงามืดพุ่งมาเร็วขึ้นเรื่อยๆ!
ในที่สุด มวลอากาศก็หายไป ก่อนจะค่อยๆ ควบแน่นเป็รูปร่าง ปรากฏอยู่ที่อีกด้านหนึ่งของเวทีประลอง
“อะฮ่าๆๆ! ไม่คิดเลยว่าข้าจะเป็คนสุดท้าย! ทั้งยังได้มาเจอกับเ้า!!! ์มีตา!!!”
เห็นได้ชัดว่าเ้าของเสียงคือผู้นี้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น เขาหันหลังให้ฉู่อวิ๋นและยืนเอามือไพล่หลัง ดูสง่าผ่าเผย ลำตัวตรงดิ่งราวกับหอก
เมื่อเห็นบุคคลนี้ปรากฏตัว ผู้ชมจำนวนมากก็จำเขาได้ทันที ก่อนจะอุทานอย่างประหลาดใจ
“เขานั่นเอง เขาคนนั้นเอง!”
“คู่ต่อสู้คนสุดท้ายคือเขาหรือ?! ชายที่รู้จักกันในนามคนเหล็กแห่งห้าั!”
ทันใดนั้น ทั่วทั้งลานก็อื้ออึง ฝูงชนโห่ร้อง ทุกคนยืนตัวตรงะโลั่น แลดูตื่นเต้นมาก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคุ้นเคยกับชายคนนี้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาไม่น้อย
“อ้อ... เ้านี่เอง” เมื่อมองดูด้านหลังของชายตรงหน้า ฉู่อวิ๋นก็สะดุ้งเล็กน้อย แล้วจึงหัวเราะเบาๆ