พลังยุทธ์ของหานหนานเทียนอยู่ในขั้นบรรพบุรุษระดับสูง ซึ่งต่ำกว่าเสิ่นล่างเพียงระดับเดียวเท่านั้น ยังคงเป็ผู้แข็งแกร่งอันดับต้นๆ ในเมืองอวี่ฮว่าเช่นกัน
แม้เสิ่นเสวียนไม่รู้ว่าทำกับพวกของเหลยต้งสามคนนั้นแล้วจะเป็อย่างไร แต่ในความเห็นของหานหนานเทียน เสิ่นเสวียนไม่กล้าแตะต้องเขา อย่างน้อยที่สุดตอนนี้ก็ยังไม่กล้า รวมกับคนผู้นั้นที่ออกไปตามหาคนมาช่วยด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เขามั่นใจมากขึ้น
“ไม่เลวเลยนี่ ปากแข็งยิ่งนัก แต่ข้าชอบคนอย่างเ้าที่สุด”
หลังจากเสิ่นเสวียนได้ยินคำของหานหนานเทียนเขาก็ยิ้มน้อยๆ สำหรับเขาแล้ว ขอเพียงสู้ชนะไม่มีคนที่เขาสังหารไม่ได้ ส่วนผลที่ตามมาค่อยว่ากันทีหลัง
เมื่อกล่าวจบ เสิ่นเสวียนดึงกระบี่เพลิงออกมาถือไว้อีกครั้ง และครั้งนี้เขาต้องสังหารอีกฝ่ายด้วยมือของเขาเอง
ก่อนหน้านี้ตอนที่สู้กับเหลยต้ง เขาเอากระบี่เพลิงเล่มนี้ออกมาแล้ว ทว่าเขาเพิ่มทักษะบางอย่างเข้าไป หากไม่ได้เข้าประชิดผู้ที่มีพลังยุทธ์สูงส่งคงยากที่จะดูออกว่านี่คือศาสตราวุธของเผ่าอนธการ ส่วนพวกของเหลยต้งทั้งสามคนนั้น พวกเขามิอาจปริปากบอกใครได้แล้ว
ภายในเมืองอวี่ฮว่า คนที่จำศาสตราวุธนี้ได้อย่างแม่นยำน่าจะมีเพียงเสิ่นล่างและหานหนานเทียนเท่านั้น
ชี่ๆๆๆ!
เสียงดังชี่ๆ ออกมาจากกระบี่เพลิง เสียดแทงเข้าไปยังเส้นประสาทของหานหนานเทียนอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดหานหนานเทียนก็จำกระบี่เล่มนี้ได้
“เ้าคือคนของเผ่าอนธการ!”
ในขณะที่หานหนานเทียนกล่าว แววตาของเขาฉายความหวาดกลัวออกมาอย่างปิดไม่มิด
ที่พึ่งยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือตระกูลซือหม่า แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ตระกูลซือหม่าด้อยกว่าเผ่าอนธการราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว หากต้องล่วงเกินเผ่าอนธการจริงๆ ตระกูลหานต้องล่มสลายอย่างแน่นอน
“นับว่าเ้ายังฉลาดอยู่”
เสิ่นเสวียนกล่าวจบก็ดีดร่างตนเองให้ลอยขึ้น ใช้สองมือจับด้ามกระบี่เพลิงฟันเข้าใส่หานหนานเทียน
หานหนานเทียนเป็ยอดฝีมือแห่งยุค เขามองเสิ่นเสวียนโจมตีเข้ามาแล้วโคจรไอพลังต่อสู้ทั่วทั้งร่างกาย ก่อให้เกิดไอพลังป้องกันตัวขึ้น ในขณะเดียวกันก็เรียกขวานคู่ทองคำออกมา
ขวานทองคำคู่นี้มีชื่อเสียงเลื่องลือในเมืองอวี่ฮว่า มันมีชื่อว่า ‘ขวานทะลวงภูผา’ ซึ่งเป็ศาสตราวิเศษระดับสูง จัดอยู่ในอันดับสองของเมืองอวี่ฮว่า เป็ของล้ำค่าที่หาได้ยาก แม้กระบี่เพลิงในมือเสิ่นเสวียนจะไม่เลว แต่ไม่มีการกำหนดระดับเอาไว้ มันต่างก็เป็ศาสตราวิเศษระดับสูง
เคร้งงง!!!
เสียงโลหะกระทบกันดังก้องไปทั่วบริเวณ ทำให้คนที่อยู่ในรัศมีหกลี้แก้วหูสั่นะเื หลายคนต้องยกมือปิดหูเอาไว้
กระบี่และขวานคู่ปะทะกันอย่างจัง พลังสั่นะเืรุนแรงทำให้เสิ่นเสวียนกระเด็นถอยหลังไปเกือบจั้ง ส่วนหานหนานเทียนที่อยู่บนยอดหอคอยโดนฟันจนกระเด็นกลับเข้าไปในหอคอย
แล้วเขาก็ทะลุแต่ละชั้นของหอคอยลงไปถึงด้านล่าง
ตัดสินแพ้ชนะได้ในพลังโจมตีเดียว
“เ้ามีพลังแค่นี้เองหรือ”
เสิ่นเสวียนยืนอยู่กลางอากาศเหนือตระกูลหาน กล่าวเสียงเรียบ
คนตระกูลหานที่อยู่เบื้องล่าง ั้แ่ผู้าุโไปจนถึงลูกหลานวัยเยาว์ต่างมีสีหน้าหวาดกลัว หานหนานเทียนคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งในตระกูลหาน แต่กลับสู้เสิ่นเสวียนไม่ได้เลย
เมื่อครู่พวกเขามองไม่ชัดว่าเกิดเื่อะไรขึ้นที่ตระกูลเสิ่น รู้เพียงเสิ่นเสวียนไม่เป็ที่รู้จัก เพิ่งปรากฏตัวขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน ทำร้ายนายน้อยอัจฉริยะในตระกูลของพวกเขาจนาเ็หนัก
แม้นายน้อยจะมีพลังแข็งแกร่ง แต่ยังด้อยกว่าผู้นำตระกูลมาก ตอนนี้แม้แต่ท่านผู้นำยังสู้อีกฝ่ายไม่ได้เลยหรือ
หอคอยทั้งหลังกลายเป็เศษซากไปแล้ว ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เลย เสิ่นเสวียนยืนอยู่กลางอากาศ สังเกตคลื่นพลังมิติรอบตัว
เป็อย่างที่คิดจริงๆ เขาััได้ถึงไอพลังมิติที่รุนแรงจากมิติเบื้องล่าง จากนั้นเสิ่นเสวียนก็โคจรพลังหลิงชี่ของตนส่งเข้าไปในกระบี่ เขาจับกระบี่ไว้แน่น ทว่ายังแสดงสีหน้าเหมือนไม่รู้เื่ออกมา
ขณะที่คลื่นพลังมิติแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เสิ่นเสวียนพลันแทงกระบี่ลงไปยังมิติเบื้องล่างด้วยพลังทั้งหมด
ฉึก!
เืสดๆ ไหลทะลักออกมาจากมิติที่ว่างเปล่า จากนั้นร่างของหานหนานเทียนก็ปรากฏขึ้น ทว่าเขาในตอนนี้ไอพลังอ่อนแรงลงไปมาก เพราะกระบี่เพลิงแทงเข้าที่หน้าอกของเขาอย่างแม่นยำ
“พลังของเ้าอ่อนแอมากเกินไปแล้ว!”
เสิ่นเสวียนส่ายหัว มองหานหนานเทียนตรงหน้า
หานหนานเทียนมีพลังขั้นบรรพบุรุษระดับสูง ก่อนหน้านี้เขาสู้ไม่ได้จริงๆ แต่หลังจากที่เขาบำเพ็ญเพียรถึงขั้นแก่นทองคำแล้ว เขาสามารถกล่าวได้อย่างไม่เกินจริงเลยว่า เขาเป็ผู้ไร้ศัตรูในขั้นต่ำกว่าหยวนก่อกำเนิด
“ปล่อยเขาไป”
ทันใดนั้นเอง มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากภายในตระกูลหาน ตามมาด้วยร่างเงาของคนสองคน
ไอพลังของสองคนนี้ค่อนข้างเด่นชัดและมีอานุภาพรุนแรง ทว่าในสายตาของเสิ่นเสวียนกลับเลื่อนลอยเป็อย่างมาก
ในความทรงจำของเขา นี่คือผู้าุโที่มีพลังยุทธ์ขั้นบรรพบุรุษอีกสองคนในตระกูลหาน
ขั้นบรรพบุรุษสองคนนี้มีพลังอยู่ในระดับต้นเท่านั้น ด้อยกว่าขั้นบรรพบุรุษระดับสูงอย่างหานหนานเทียนเป็อย่างมาก แต่พวกเขามีความสามารถที่คนอื่นไม่มี นั่นคือ ‘การร่วมประสาน’
ทั้งสองคนเป็ฝาแฝดกัน มีไอพลังเดียวกันมาั้แ่เกิด ไอพลังต่อสู้แต่กำเนิดประสานเข้าด้วยกัน หลังจากนั้นก็สร้างเคล็ดวิชาร่วมประสานขึ้นมาและฝึกฝนอยู่ด้วยกันจนถึงขั้นบรรพบุรุษ ที่พวกเขาไม่ปรากฏตัวออกมาก่อนหน้านี้เพราะกำลังแสดงทักษะร่วมประสานกันอยู่ด้านล่าง
ทว่าตอนนี้ พลังยุทธ์ของทั้งสองคนต่างถึงขั้นบรรพบุรุษระดับสูงแล้ว เมื่อทั้งสองคนรวมพลังกันต่อสู้และแสดงเคล็ดวิชาร่วมประสาน จะสามารถเทียบเคียงยอดฝีมือขั้นบรรพบุรุษระดับสูงสุดได้ใน่เวลาสั้นๆ และนี่คือสาเหตุที่ตระกูลหานเหนือกว่าตระกูลเสิ่นมาตลอด
เมื่อใดที่สองคนนี้รวมพลังกัน เสิ่นเสวียนรู้ตัวดีว่ามิอาจเอาชนะอีกฝ่ายได้เลย
“น่าสนใจ!”
เสิ่นเสวียนมองสองคนที่เหาะขึ้นมาแล้วพยักหน้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น เคล็ดวิชาร่วมประสานเช่นนี้ใช่ว่าไม่มีในโลกแห่งการบำเพ็ญเพียร เพียงแต่มันหายากมาก แน่นอนว่ายังเกี่ยวข้องกับเคล็ดวิชาบำเพ็ญเพียรอีกหลากหลายอย่าง ไอพลังไม่เหมือนกันไม่มีทางทำสำเร็จได้ ในโลกนี้ที่มีเพียงการฝึกฝนพลังต่อสู้ทำให้ลดความยุ่งยากเ่าั้ไป
“ไม่ตายไม่หยุดพักอย่างนั้นหรือ” เสิ่นเสวียนถามสองคนนั้น ให้พวกเขาได้เลือกเป็ครั้งสุดท้าย
เดิมทีเขาคิดว่าสังหารหานหนานเทียนคนเดียวก็เพียงพอแล้ว ทว่าหากอีกฝ่ายยังคงยืนกรานจะสู้ให้ได้ เขาก็สามารถกำจัดทิ้งได้โดยไม่สนใจอะไรเลย เพราะสำหรับเขาแล้ว การเก็บตัวปัญหาเช่นนี้เอาไว้สุดท้ายก็ต้องเป็ปัญหาขึ้นมาอยู่ดี นอกเสียจากคนที่เขาไม่แยแส อย่างเช่นคนในตระกูลหานที่อยู่ด้านล่างเ่าั้ เมื่อไม่ได้เป็ภัยคุกคามต่อเขา เขาจึงี้เีที่จะใส่ใจ
“ปล่อยผู้นำตระกูลไป มีอะไรค่อยคุยกันได้”
หนึ่งในนั้นกล่าวกับเสิ่นเสวียน
“ปล่อยเขาไปแล้ว หากพวกเ้าโจมตีข้าอีกจะทำอย่างไร”
“ข้าขอรับรองกับเ้าว่าพวกข้าไม่มีทางทำเื่เลวทรามเช่นนั้นอย่างเด็ดขาด”
“ได้ ข้าให้เ้า”
เสิ่นเสวียนยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วเขาก็กระชากกระบี่ออกมาทำให้เืทะลักกระจายเต็มพื้น ขณะเดียวกันหนึ่งในสองคนนั้นก็เข้ามารับตัวหานหนานเทียนที่าเ็ไป ส่วนเสิ่นเสวียนยังคงยืนอยู่กลางอากาศ มองอีกฝ่ายว่าคิดจะทำอะไรต่อไปอยู่เงียบๆ
แต่แล้วก็ไม่เป็อย่างที่คิดไว้ หลังจากที่สองคนนั้นรับตัวหานหนานเทียนไปแล้ว พลังของพวกเขาทั้งสามพลันประสานเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็วจนกลายเป็ร่างเดียวกัน และไอพลังยังเพิ่มขึ้นด้วย
ขั้นบรรพบุรุษระดับสูง!
ขั้นบรรพบุรุษระดับสูงสุด!
ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
ขั้นราชัน!
ในพริบตาเดียว ไอพลังของทั้งสามคนเพิ่มขึ้นจนถึงขั้นราชันแล้ว มีอานุภาพเหนือกว่าเสิ่นเสวียนมาก อยู่ในขั้นราชันที่เรียกว่าตำนานได้แล้ว
“ขอบคุณทั้งสองมาก”
หานหนานเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ าแที่หน้าอกสมานเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว
“เมื่อครู่นี้ข้าสู้กับเขาแล้ว ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดไว้ ลงมือสังหารเขาตอนนี้เลย เพื่อไม่ให้เป็ภัยในภายหน้า”
หานหนานเทียนกล่าวกับอีกสองคน
“ได้!”
ทั้งสองคนพยักหน้ารับคำโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
สำหรับพวกเขาแล้ว เหลยต้งตายไปก่อนหน้านี้ไม่ใช่ผลงานของเสิ่นเสวียน แต่เป็สัตว์วิเศษตัวนั้น สัตว์วิเศษตัวนั้นยังมีพลังป้องกันไฟอีกด้วย ทำให้เหลยต้งมิอาจแสดงพลังออกมาได้เลย
ทว่าต่างจากพวกเขาอย่างสิ้นเชิง เมื่อพวกเขาร่วมมือกันแล้วไม่ได้ด้อยไปกว่าเหลยต้ง และที่สำคัญที่สุดคือพลังธาตุของอีกฝ่ายไม่ใช่ขั้วตรงข้ามกับพวกเขา
“พล่ามจบหรือยัง”
เสิ่นเสวียนยืนบิดี้เีอยู่ข้างๆ พลางกล่าว เหมือนว่าทุกอย่างนี้เป็ไปตามที่เขาคาดไว้