หญิงสาวหลับตาลง…พยายามบอกตัวเองว่าทุกััของเขาเป็ไปตามหน้าที่ แต่มันก็แทรกซึมลึกเกินกว่าจะไม่รู้สึกอะไรเลย
พวกเขาไม่รู้เลยว่า นัทพงษ์ซึ่งแวะมาเอาอุปกรณ์โยคะที่ห้องข้างๆ กำลังยืนงุนงงอยู่นอกประตู เขาชะงักเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของพีชกับครูอาร์ตลอดออกมา เสียงที่ไม่เคยได้ยินจากพีชมาก่อน
หนุ่มน้อยชะเง้อมองผ่านกระจกข้างประตู เห็นพีชกำลังโน้มตัวลงในท่า downward dog และครูอาร์ตกำลังยื่นมือแตะหลังเธอเบาๆ รอยยิ้มของทั้งคู่ดูเหมือนคนที่ "รู้กัน" บางอย่าง
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหลบไปอย่างเงียบๆ โดยไม่ทันได้ยินคำพูดต่อมาของพีชที่หันไปถามครูอาร์ตหลังจบท่าสุดท้าย
“แล้ว…มีท่าไหนไหมคะ ที่ต้องจับนานกว่านี้?” น้ำเสียงเธอไม่ค่อยหวานนัก แต่ก็พอจะทำให้คนฟังต้องกลืนน้ำลาย
ครูอาร์ตยิ้ม “ถ้าเป็คุณพีช…ผมอาจจะต้องจับหลายรอบหน่อยครับ กว่าจะลงตัว”
หญิงสาวหัวเราะในลำคอ ไม่ใช่เพราะขำ แต่เพราะหัวใจเธอกำลังเต้นเหมือนท่าโยคะที่ยังจัดไม่ถูก เขาแตะต้องฉันด้วยมืออาชีพ…ใช่ไหม? หรือจริงๆ แล้ว…เขากำลังแตะใจฉันด้วยเจตนาอย่างอื่น
แสงแดดยามบ่ายจัดๆ ลอดผ่านหน้าต่างห้องโยคะสาดลงบนพื้นไม้ปูเสื่อที่เปียกชื้นจากเหงื่อ พีชนั่งพับขาในท่า hero pose หลับตาพริ้มฟังคำสอนของครูอาร์ต แต่ภายในใจกลับเดือดพล่านยิ่งกว่าน้ำในหม้อที่ตั้งอยู่เตาไฟ
“ลองเอื้อมมือไปจับข้อเท้าด้านนั้นดูครับ…” เสียงเขานุ่ม หวาน ราวกับน้ำผึ้งราดลงบนลิ้น พีชค่อยๆ แยกขาออกเล็กน้อย ให้สะโพกเปิดกว้างขึ้น จนสะโพกและโคนอวบอูมของต้นขาที่มีผ้ายืดรัดติ้วเผยโฉมต่อสายตา
ครูอาร์ตก้าวเข้ามาใกล้ ยื่นมือแตะปลายกระดูกเชิงกรานของเธอเบาๆ สอนท่า goddess pose แต่แรงกดและระยะห่างที่ลดลง ทำให้สาวสวยหน้าแดงก่ำสูดหายใจแทบไม่ทัน
“รู้สึกตึงไหมครับ?” กลิ่นอ่อนๆ ของเหงื่อและลาเวนเดอร์ลอยปะปนกัน เธอก้มหน้า และพยักหน้าอย่างช้าๆ แต่หัวใจกลับเต้นรัวราวกับจะะโออกมาจากอก
“ผ่อนลมหายใจยาวๆ แล้ว…ปล่อยทุกอย่างไว้กับเสื่อ” มืออุ่นเลื่อนไปที่เอว เผยให้เห็นความตั้งใจ “สอน” แต่ในแววตาชวนให้สงสัยว่า…เหนือกว่านั้น
อีกด้านหนึ่งนัทพงษ์ยืนอึดอัดอยู่ข้างๆ ประตูห้อง เขามองเห็นพีชกับครูอาร์ตเคลื่อนไหวใกล้ชิด ท่าทางเชี่ยวชาญแต่มีบางอย่างที่ดูเหมือนจะไม่ปกติ หนุ่มน้อยหัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“อะไรของพี่พีชเนี่ย…” ชายหนุ่มกระซิบกับตัวเอง เขารู้สึกกระอักกระอ่วนเหมือนถูกกีดกัน จึงไม่กล้าเดินเข้าไป
หลังคลาสจบ ครูอาร์ตเก็บเสื่ออย่างเงียบๆ ลมหายใจเขาหนักขึ้น เหมือนไม่แน่ใจว่า…การสอนนั้นควรเป็มืออาชีพ หรือเป็การ “สานสัมพันธ์” ที่ไหลลื่นเกินบทบาทคำว่า ‘ครู’
“เราแค่สอนโยคะ… แต่ทำไมใจเรากลับรู้สึกอยากสอนเธอให้รู้จักกันให้ลึกซึ้งขึ้น” เขาถามตัวเอง ขณะวางผ้าขนหนูลงบนชั้นวางของ มือเขาสั่นเล็กน้อย
ขณะเดินออกจากห้อง หญิงสาวจับผมที่เปียกเหงื่อ พลางพึมพำเบาๆ “ฉันกำลังจะยอมรับ…ว่ามันมากกว่าโยคะแล้วใช่ไหมนี่” และภาพสายตาอาร์ตเมื่อตอนสอนวิ่งวนในหัว…ความร้อน ัั และเสียงกระซิบ… ล้วนสะกิดให้รู้ว่าหัวใจของเธอเริ่มไหวะเืแล้ว
อีกวันหนึ่ง...กลิ่นชาเขียวอุ่นๆ ลอยปะปนมากับกลิ่นเหงื่อจางๆ ในห้องโยคะขนาดกะทัดรัดที่มีเพียงเธอและเขา เบาะโยคะปูอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ เสียงพัดลมหมุนช้าๆ เหมือนจับจังหวะให้หัวใจที่กำลังเต้นถี่ๆ ของคนสองคน อาร์ตนั่งพับเพียบข้างพีช หลังคลาสที่มีเพียงเธอมาคนเดียววันนี้ เขารินชาจากกระบอกน้ำ ก่อนจะยื่นให้เธอโดยไม่พูดอะไร
พีชรับแก้วชา มือแตะหลังมือเขาแ่เบา จนเธอสะดุ้งในใจ แต่สิ่งที่ทำให้เธอแทบกลืนน้ำชาไม่ลง…
คือสายตาเขา สายตาที่ไม่ได้ละไปจากริมฝีปากของเธอเลยตลอดบทสนทนาเบาๆ นั้น
“รสชานี่...หอมมากเลยค่ะ”
“อืม…ครับ” เขาตอบเบาๆ แต่ไม่ละสายตาจากปากเธอแม้เสี้ยววินาที
พีชยกมือจับปอยผมตัวเอง พยายามหันไปทางอื่น แต่เธอรู้ดีว่าความร้อนที่แผ่ออกมานั้น ไม่ใช่เพราะอุณหภูมิห้อง มันคือแรงดึงดูดบางอย่าง ที่อาร์ตไม่พยายามปิดบังอีกต่อไปแล้ว
หญิงสาวพูดน้อยลง เพราะไม่แน่ใจว่า ทุกคำที่เธอพูด…เขาจะฟังหรือจะมอง และในความเงียบนั้น…เธอกลับเริ่มกล้าสบตาเขาตรงๆ ไม่หลบ ไม่ถอย
ในหัวใจอาร์ต เขาก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แค่ฟังเสียงเธอพูด…ปากเธอขยับอย่างนุ่มนวล กลิ่นลมหายใจอุ่นอ่อน จากชาที่เธอจิบไปเมื่อครู่ เขาควรจะหันไปทางอื่น แต่เขาทำไม่ได้ “เราควรเป็ครูที่ดี…หรือเป็คนที่อยากรู้จักเธอมากขึ้น?” คำถามลอยในหัวเขาไม่หยุด
ในหัวใจพีช เธอเคยมั่นใจในท่าทาง คำพูด และเสน่ห์ของตัวเองตลอดมา แต่ครั้งนี้เมื่อเขาแค่ “มอง” มันกลับเหมือนเธอถูกเปลือยออกจากเกราะทั้งหมด หัวใจเธอเต้นเร็ว…และแทนที่จะลุกหนี สาวสวยกลับเอนหลังพิงผนัง เบือนหน้ากลับไปสบตาเขา นิ้วมือััปากตัวเองเบาๆ อย่างเผลอไผล
ขณะที่พีชกับอาร์ตกำลังจมอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยเสียงหัวใจเต้น มารตียืนอยู่หน้าห้องกระจกใสอีกด้านหนึ่ง เธอแกล้งเดินผ่านโดยบังเอิญ เห็นภาพสองคนนั่งใกล้กันจนเบาะแทบแนบสนิท มารตีไม่รู้ว่าทั้งสองคนในห้องพูดอะไรกัน…แต่แววตาของอาร์ตที่มองพีชบอกเธอว่า…นี่ไม่ใช่แค่โยคะธรรมดา และไม่ใช่แค่ความบังเอิญแน่นอน
กลิ่นเทียนหอมแตะจมูกรวยริน แสงริบหรี่จากเทียนในถ้วยเล็กๆ บนโต๊ะไม้เตี้ยกลางห้องซ้อมโยคะทำให้บรรยากาศรอบตัวเผยความจริง…สู่บางสิ่งที่ชวนฝัน
ค่ำนี้ พีชอยู่ต่อหลังคลาสเลิก เธออ้างว่าอยากฝึกท่าหายใจต่อ แต่อาร์ตรู้ดี…เธอคงไม่ได้อยากฝึกแค่โยคะและเขาเองก็ไม่ได้ห้าม เพราะเขาเองก็รู้สึกอยากให้หญิงสาวอยู่ต่อเช่นกัน
พวกเขานั่งขัดสมาธิตรงข้ามกัน เสียงเพลงบรรเลงแ่ๆ จากลำโพงไม้ พีชหลุบตาลง แต่รู้สึกถึงแววตาคู่นั้นที่จับจ้องมาไม่ยอมหยุด ั้แ่่เย็น สายตาที่ไม่ใช่แค่ครู ไม่ใช่แค่ชายหนุ่ม แต่เป็ใครบางคน…ที่กล้าเปิดเผยความรู้สึกออกมาตรงๆ
พีชเงยหน้าขึ้นช้าๆ แล้วพูดออกมาแ่เบาราวกับเสียงยุง “คุณจ้องมองปากฉันเพราะอะไรเหรอคะ?”
อาร์ตนิ่ง ก่อนจะยิ้มน้อยๆ และตอบเสียงต่ำ เสียงของเขาไม่ดังนัก แต่ชัดเจน ชัดจนเธอได้ยินเสียงหัวใจตัวเองสะท้อนออกมาดังๆ “ก็อยากรู้ว่า…รสชาติจะหวานเหมือนเสียงของคุณหรือเปล่าครับ”
คำพูดนั้นไม่เร่าร้อน แต่ร้อนลึก เหมือนหยดน้ำมันหอมระเหยที่หยดลงบนถ่านร้อนๆ สาวสวยไม่พูดอะไร เธอเพียงแค่มองเขา และไม่ขยับตัวถอยออกมา
อาร์ตขยับเข้ามาใกล้…มือของเขาแตะที่ไหล่เธอเบาๆ เหมือนขออนุญาตโดยไม่ใช้คำพูด พีชหลับตาลงช้าๆ ริมฝีปากเขาแตะที่ปากเธอในจังหวะที่ทุกเสียงเงียบลงพอดี จูบแรกนั้นไม่เร่งเร้า แต่เต็มไปด้วยแรงสะกดที่ลมหายใจต้องหยุดชั่วครู่ กลิ่นไม้จากเทียน กลิ่นชาอุ่นจากแก้วเดิม และอุณหภูมิร่างกายของกันและกัน ละลายอยู่ในชั่ววินาทีนั้น
อีกฟากหนึ่งของห้อง มารตียืนอยู่หลังม่านลูกไม้ที่เปิดไว้เพียงครึ่ง เธอเพียงตั้งใจมาเก็บของ แต่ไม่ทันได้เอ่ยเสียงใด ภาพตรงหน้าก็ตรึงเธอไว้
จูบแ่เบาของอาร์ตและพีช…ในห้องฝึกโยคะที่เธอช่วยนัทพงษ์จัดไว้ มันไม่ได้เป็สิ่งที่ผิดอะไร แต่มัน…อันตรายเกินกว่าที่ใครจะพูดได้ ด้วยเหตุผล...
ในแววตาของพีช เธอเห็นตัวเองในอดีต และในความเงียบของอาร์ต เธอเห็นผู้ชายที่เริ่มไม่แน่ใจว่าตัวเองจะหยุดได้หรือไม่
ไฟสลัวในห้องฝึกโยคะฉายผ่านหลอดไฟสีอุ่นๆ พื้นไม้เกลี้ยงเงยรับแสงเทียนไขมุมห้อง เหงื่อจากการฝึกของ่เวลาก่อนหน้านี้เริ่มเหือดหายจนเกือบแห้ง แต่บรรยากาศคืนนี้กลับอบอวลไปด้วยความคาดหวัง พีชใส่ชุดโยคะสีดำรัดรูป ส่วนอาร์ตในเสื้อกล้ามสีขาวไร้รอยยับ ทั้งสองต่างยืนอยู่ตรงกลางห้อง…เพียงสองคน
“ที่นี้ ลองท่า partner plank ดูนะครับ” อาร์ตประคองแขนของพีชให้ตั้งฉากกับพื้น โพสที่ทั้งคู่ต้องประสานแขนกัน กล้ามเนื้อแผ่นหลังและหน้าท้องเกร็งเครียดเขม็ง