"คุณหนู เมืองเฉียนเฟิงนี่ใหญ่โตจริงๆ เลยนะเ้าคะ ใหญ่กว่าชางตานตั้งเยอะแน่ะ"
อูหลันฮวาคล้องแขนเซวียเสี่ยวหรั่นพลางมองซ้ายมองขวา บนถนนใหญ่ผู้คนขวักไขว่เสียงดังจอแจ รถม้าเรียงเป็แถวยาวเหยียดดุจสายน้ำไหล พ่อค้าเร่ตั้งแผงริมทางร้องะโเรียกลูกค้าสุดแสนจะครึกครื้นมีชีวิตชีวา
"เสี่ยวเหล่ย คนเยอะ อย่าเดินหายไปไหนเล่า" เซวียเสี่ยวหรั่นเอื้อมมือไปจูงเด็กชาย
เซวียเสี่ยวเหล่ยหน้าแดงซ่าน เขาอายุเกือบสิบสองปีแล้ว แต่ยังถูกทำเหมือนเด็กเล็กๆ
ทั้งสามออกมาแต่เช้า มีฟางขุยตามอยู่ด้านหลัง
หงกูถูกเซวียเสี่ยวหรั่นใช้ให้ไปซื้อของ
"คุณหนู ท่านว่าหงกูจะซื้อผ้าที่ท่าน้าได้หรือไม่"
อูหลันฮวานึกถึงแบบผ้าที่เซวียเสี่ยวหรั่นมอบหมายให้หงกูไปซื้อ ก็นึกขันอยู่บ้าง ไม่ง่ายเลยที่จะได้เห็นสีหน้าเคร่งขรึมเ้าระเบียบของหงกูผุดแววปริร้าว
"เนื้อผ้าต้องหนาและทนทานกว่าผ้าฝ้ายเนื้อหยาบ แต่ให้ััเนียนละเอียดลูบแล้วไม่สากมือ ไม่แข็งจนขาดความยืดหยุ่น แต่ก็ไม่บางจนขาดทะลุง่าย สีสดใสได้แต่อย่าฉูดฉาดเกินไป เส้นไหมจะใช้วัสดุเป็ใยกัญชงหรือป่านก็ได้ ขอให้จับแล้วรู้สึกแข็งแรง เส้นมีความหนาหยาบ แต่เรียบสม่ำเสมอไม่เป็ปมขรุขระ และส่วนปลายไม่ม้วนงอเป็ดีที่สุด"
ยามนั้น พอหงกูได้ยินเงื่อนไขที่้า ดวงตาก็ผุดแววสับสนไม่อาจเข้าใจ
"ต้องได้สิ ร้านผ้าที่พวกเราเพิ่งผ่านมามีผ้าทุกชนิดลายตาไปหมด ข้าเห็นแบบเหมาะๆ เยอะเชียวล่ะ"
เซวียเสี่ยวหรั่นเม้มริมฝีปากหัวเราะเบาๆ เธอจงใจให้หงกูทำงานนี้โดยเฉพาะ จะได้ไม่คอยตามติดเธอแจจนหมดสนุก
"แล้วเหตุใดไม่ซื้อสักหน่อยเล่า" อูหลันฮวาเองก็เห็น
"ไม่ล่ะ เดี๋ยวหงกูเห็นเข้า มิทำตาขวางใส่ข้าพอดีหรือ"
เป็คนสั่งให้หงกูไปซื้อผ้าชัดๆ จะซื้อกลับมาเองให้โง่ทำไมกันล่ะ
อูหลันฮวาหัวเราะแหะๆ
ทั้งสามมองดูโน่นดูนี่ พบของอร่อยก็หยุดซื้อ
เดินไปกินไป แม้แต่ฟางขุยซึ่งอยู่ด้านหลังก็พลอยได้ลาภปากไปตลอดทาง
"นั่วหมี่ถวน [1] แบบนี้อร่อยมากเลย"
"ทั้งหวานและเหนียวนุ่ม อร่อยจริงๆ"
มือของพวกเขาต่างถือนั่วหมี่ถวนสีส้มเหนียวนุ่มกันคนละไม้ กินกันอย่างมีความสุข
เดิมทีฟางขุยก็ปฏิเสธ ชายชาตรีอย่างเขาจะกินของกินเล่นพรรค์นี้ได้อย่างไร
แต่พวกนางเดินสองสามก้าวก็ซื้ออย่างหนึ่ง ซื้อทีก็ถามเขาที ท้ายที่สุดก็เลยต้องร่วมวงกินไปตลอดทาง
เซวียเสี่ยวเหล่ยเคี้ยวนั่วหมี่ถ้วนนุ่มหนึบอย่างมีความสุข เดินตามอยู่หลังพวกนางสองสามเก้า
บนถนนผู้คนสัญจรไม่น้อย มีรถม้าคันใหญ่ตะบึงผ่านกลางถนนอยู่เป็พักๆ ผู้คนต้องเดินชิดริมทางสองฝั่งเพื่อหลบรถม้า
เซวียเสี่ยวเหล่ยเดินตามฝูงชนไปทางขวา ขณะมาถึงทางแยก คนผู้หนึ่งวิ่งมาจากอีกมุม ชนเขาเข้าอย่างจังจนเซไปด้านหลังสองสามก้าว
"บ้าเอ๊ย เ้าลูกเต่าไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือ"
เซวียเสี่ยวเหล่ยยังไม่ทันตั้งตัว ก็ถูกผู้อื่นกระชากคอเสื้อจนตัวลอยขึ้นมา
บุรุษรูปร่างสูงใหญ่ กำยำล่ำสัน หนวดเคราเฟิ้มเต็มหน้า กระชากคอเสื้อของเซวียเสี่ยวหรั่นด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด
ยังไม่ทันที่คำพูดประโยคที่สองจะได้หลุดจากปาก ข้างกายก็มีแรงลมสายหนึ่งซัดเข้ามาข้างกาย ชายผู้นั้นใปล่อยมือจากเด็กชายทันควัน พลิกตัวหลบกำปั้นที่เหวี่ยงเข้ามา
พอหันไปก็พบชายร่างสันทัดแต่งกายแบบองครักษ์ จ้องตนเองอยู่ด้วยแววตาคมกริบ
"เสี่ยวเหล่ย เ้าไม่เป็ไรนะ?"
เซวียเสี่ยวหรั่นกับอูหลันฮวาได้ยินเสียงก็หมุนตัววิ่งกลับมาประคองเซวียเสี่ยวเหล่ยซึ่งล้มอยู่ที่พื้นขึ้นมา
"เ้า รังแกเด็กทำไม?" อูหลันฮวาชี้หน้าชายร่างใหญ่ พลางถลึงตาใส่อย่างกราดเกรี้ยว
"ผู้กล้าท่านนี้ น้องชายข้าทำอาภรณ์ของท่านสกปรก พวกเราขอขมาก็ได้ แต่เหตุใดต้องปฏิบัติต่อเด็กคนหนึ่งถึงเพียงนี้"
เซวียเสี่ยวหรั่นเห็นคราบเหนียวบนตัวเขา
"พี่สาว ข้าเดินมาดีๆ เขาต่างหากที่พุ่งเข้ามาชน" แม้เซวียเสี่ยวหรั่นจะหน้าซีด แต่ยังมีสติชัดเจนมาก
"ใต้เท้า การรังแกเด็กหาใช่วิสัยของชายชาตรี"
ฟางขุยเข้ามายืนขวางด้านหน้าของเซวียเสี่ยวเหล่ย ปรามบุรุษร่างกำยำตรงหน้าด้วยสายตา
ชายผู้นั้นขมวดคิ้ว ไม่นึกว่าเด็กผู้ชายสวมเสื้อผ้าธรรมดาจะถึงกับมีองครักษ์หน่วยก้านดีติดตามตัว
มองพลาดไปจริงๆ
"เคอตา เ้าก่อเื่อะไรอีกแล้วล่ะ"
น้ำเสียงใสกังวานปานน้ำพุลอยมาจากด้านหลังของบุรุษร่างกำยำ
สายตาของทุกคนมองไปทางต้นเสียง
ดวงตะวันเดือนห้าเปล่งแสงสว่างเจิดจ้า แสงสีทองทาบไล้ลงมาบนตัวของคนผู้นั้นราวกับแพรโปร่งสีทอง
ชายหนุ่มสวมอาภรณ์แพรเนื้อนุ่มสีขาวนวลดุจแสงจันทร์ ดวงหน้าสลักเสลาราวกับยอดมงกุฎหยก รูปร่างสูงโปร่ง ทันทีที่เขาปรากฏตัวบนหัวถนนก็ดึงดูดสายตาจำนวนไม่น้อย
ด้านหลังมีหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มแต่งกายแบบสาวใช้ติดตามมาด้วยสองคน
"นายท่าน เ้าเด็กป่าเถื่อนคนนี้ทำเสื้อของข้าน้อยสกปรก" เคอตารีบชี้ไปที่คราบเหนียวที่สาบเสื้อด้านหน้า
"เ้าเป็คนชนเข้ามาเองชัดๆ" เซวียเสี่ยวเหล่ยโมโห ทำนั่วหมี่ถวนของเขาตกพื้นแท้ๆ ยังมาหาเื่กลับได้อย่างไร
เคอตาถลึงตาใส่เขาอย่างแรง
เซวียเสี่ยวเหล่ยก็ขึงตากลับอย่างไม่ยอมแพ้
"คุณชายผู้นี้ น้องชายข้าอายุยังน้อย มือถือนั่วหมี่ถวนเดินมาดีๆ เขาเป็บุรุษสูงใหญ่กำยำ แต่เดินไม่มองทางมาชนน้องชายของข้า ยังพูดจาหยาบคายและคิดทำร้ายผู้อื่นอีก"
เซวียเสี่ยวหรั่นยืนอยู่ข้างเซวียเสี่ยวเหล่ย มองบุรุษหน้าตาหล่อเหลาผู้นั้นพลางร้องเรียนอย่างตรงไปตรงมา
บุรุษผู้นั้นมองนางอย่างประหลาดใจ ก่อนจะหันไปมองคนของตนเอง "เคอตา ขอขมาเสีย"
"นายท่าน..." เคอตารู้สึกไม่ยินยอม เด็กเหลือขอคนหนึ่ง ไหนเลยจะคู่ควรให้เขาเอ่ยปากขอขมา
"ขอขมา" บุรุษผู้นั้นพูดซ้ำอีกรอบ แววตาเปลี่ยนเป็เคร่งขรึม
"ขออภัย เป็ความผิดของข้าเอง" เคอตาก้มหน้าขอขมาอย่างเสียไม่ได้
นี่คือการขอขมาแบบไหน? อูหลันฮวาย่นคิ้ว ขณะคิดจะต่อว่าต่อขาน เซวียเสี่ยวหรั่นกลับยื่นมือมากระตุกแขนเสื้อของนาง
"เมื่อผู้กล้าท่านนี้ยอมรับผิดแล้ว เื่ก็ให้แล้วกันไปเถอะ" เซวียเสี่ยวหรั่นหันไปหาชายหนุ่มผู้นั้นแล้วยอบกายเล็กน้อย "ขอบคุณคุณชายที่ช่วยจัดการอย่างเป็ธรรม"
"คุณหนูผู้นี้เกรงใจไปแล้ว ล้วนแต่เป็ผู้น้อยบกพร่องในการอบรมบริวาร จึงเสียมารยาทไปบ้าง หวังว่าท่านจะใจกว้างให้อภัย" ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ ประสานมือคำนับกลับมาอย่างสุภาพและสง่างาม
ผู้คนที่มาชอบความครึกครื้นอยู่รอบด้านเห็นแล้วต่างชื่นชมเขาว่าเป็วิญญูชนผู้อ่อนน้อม
มุมปากของเซวียเสี่ยวหรั่นเบะออกเล็กน้อยหากไม่สังเกตให้ดีจะมองไม่เห็น
หลังเอ่ยถ้อยคำตามมารยาทสองสามประโยคแล้ว ก็จูงเซวียเสี่ยวเหล่ยจากไป
"คุณหนู คำขอขมาของคนที่ชื่อเคอตาผู้นั้นไม่มีความจริงใจเสียเลย"
หลังเดินมาไกลแล้ว อูหลันฮวาก็หันไปมองคนกลุ่มนั้น น้ำเสียงฉายแววกระฟัดกระเฟียด
"อืม ข้ารู้"
นอกจากคนชื่อเคอตาที่ไร้ความจริงใจ บุรุษหนุ่มรูปงามผู้นั้นก็จัดการแบบขอไปที ไม่แม้แต่จะถามไถ่ ก็บังคับให้ผู้อื่นขอขมาเพื่อให้สิ้นเื่
รอยยิ้มบนใบหน้าไปไม่ถึงดวงตา จอมปลอมมาก คนแบบนี้ควรอยู่ให้ไกลจะดีกว่า ภายนอกแสร้งเจียมเนื้อเจียมตัวดุจวิญญูชน แต่ภายในอาจเป็คนถ่อยโดยแท้ก็ได้
"ออกมาเที่ยวเล่น อย่าไปเสียอารมณ์เพราะคนเหล่านี้ เสี่ยวเหล่ย เ้าเป็อะไรหรือเปล่า หกล้มเจ็บหรือไม่"
"ข้าไม่เป็ไรขอรับพี่สาว แต่นั่วหมี่ถวนหล่นพื้นหมดเลย" เซวียเสี่ยวเหล่ยเอ่ยปากอย่างรู้สึกเสียดาย
"ไม่เป็อะไรก็ดีแล้ว ของกินเดี๋ยวก็ซื้อใหม่ได้" เซวียเสี่ยวหรั่นหัวเราะ
"ไม่ต้องแล้วขอรับ ข้าอิ่มมากแล้ว" เซวียเสี่ยวหรั่นหน้าแดงเล็กน้อย
เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มพลางลูบศีรษะเขา
เดิมทีนึกว่าเื่ราวเล็กน้อยแล้วก็แล้วกันไป แต่พอพวกเขากลับมาถึงหน้าประตูคฤหาสน์ที่มาพักชั่วคราว ก็พบกับคนเ่าั้อีกครั้ง
...
[1] นั่วหมี่ถวน คือขนมโมจิข้าวเหนียว ทำมาจากแป้งข้าวเหนียวอาจมีไส้เช่นไส้ผลไม้ ไส้ถั่ว เนื้อเหนียวนุ่มเป็ทรงกลมพอดีคำ
