"มันคืออะไรงั้นเหรอ"หยางเฉินขมวดคิ้ว ทำท่าทางสับสน
ฮันเนียะกอดอกเผยให้เห็นรูปร่างอันงดงามและเย้ายวนเผยอปากพรูลมหายใจหอม
“เหอะ…”
"ไม่ต้องทำหน้าซื่อกับฉันหลายปีก่อนคุณปะทะกับซีโร่โดยลำพัง ตอนนั้นคุณไม่ได้แข็งแกร่งเช่นตอนนี้บางทีในอดีตคุณอาจยืมกำลังคนอื่น อย่างไรก็ตามศิลาเทพเ้าก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยระหว่างการปะทะครั้งนั้น ไม่ว่าคนของซีโร่จะทุ่มเทกำลังออกตามหามากแค่ไหนก็หาไม่พบจนใครๆ ต่างก็บอกว่าศิลาเทพเ้านั้นต้องอยู่ในมือนายแน่ๆ"
ฮันเนียะเห็นหยางเฉินไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆเธอกล่าวอย่างหงุดหงิด
"ถ้าคุณอยู่ในอาณาจักรของคุณก็ว่าไปอย่างแต่คุณตัดสินใจมาอยู่ที่จีน ทั้งยังละทิ้งพรรคพวกไป อย่าว่ากระนั้นเลยถึงพวกเราจะไม่เข้ามา แต่กองกำลังอื่นที่หวาดกลัวนาย แม้แต่พวกกองพลน้อยเหยียนหวง ไม่ช้าก็เร็วพวกนั้นต้องเข้าหาคุณแน่ๆ แต่พวกนี้ไม่มีวิสัยทัศน์เท่าหัวหน้าของพวกเราและคุณอย่าคิดว่าพวกเราจะไม่กล้าทำอะไร ในสายตาของพวกเราผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมีเพียงจักรพรรดิ แห่งจักรวรรดิญี่ปุ่นเท่านั้น”
"ใช่"หยางเฉินเบ้ปากกล่าวว่า"แต่บางทีเธออาจไม่รู้แต่ที่นี่ไม่มีระบบจักรพรรดิอะไรนั่น แต่ก็จะมีใครสักคนมาฆ่าเธอแทน"
"ใครสักคนงั้นเหรอ"ฮันเนียะเลิกคิ้วขึ้น ยิ้มกล่าวว่า"คุณคิดว่าจะมีคนมาช่วยงั้นหรือ"
ทันทีที่พูดจบหนึ่งในโจนินก็ร่วงลงกับพื้น
"ใครกัน"ฮันเนียะเข้าสู่ท่าพร้อมรบทันทีสายตากวาดมองไปรอบกายอย่างระมัดระวัง
โจนินอีกคนที่เหลือไม่ได้เข้าไปช่วยเพื่อนมันระมัดระวังตัวอย่างมาก
ทันใดนั้นเองภายในตรอกแคบอันมืดมิด ปรากฏเงาร่างสง่างามะโวูบไปมา
"ระวัง!"ฮันเนียะที่ระวังตัวอยู่ก่อนนั้นก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติเธอกำลังจะะโบอกแต่มันก็สายเกินไป
ฉัวะ!
สิ้นเสียงดังกล่าวหัวของโจนินที่เหลืออยู่ก็ปรากฏรูขนาดใหญ่ทะลุไปด้านหลังกะโหลกฮันเนียะมองวัตถุที่ตกลงสู่พื้น มันอาวุธลับเล็กๆคล้ายหมุดติดกระดาษ
"กองพลน้อยเหยียนหวง บุปผาพิรุณงั้นหรือ?"
ทันใดนั้นเองหญิงสาวคนหนึ่งก็ะโลงมาจาก้า เธอสวมเสื้อยืดรัดรูปสีดำ กางเกงยีน เผยให้เห็นส่วนโค้งเว้า ใบหน้าเ็ากลืนไปกับความมืดมิดคล้ายดอกกุหลาบดำในยามค่ำคืน
"นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เธอควรมา”น้ำเสียงราบเรียบทว่าทรงพลังแสดงให้เห็นความรำคาญในน้ำเสียง
ฮันเนียะได้ยินดังนั้นก็หัวเราะกล่าวว่า
"ไม่คิดว่าเฮดีสและกองพลน้อยเหยียนหวงจะร่วมมือกัน และถึงกับส่งบุปผาพิรุณหนึ่งในแปดบอดี้การ์ดออกมาหากข้อมูลนี้รั่วไหลออกไป ข้าอยากเห็นจริงๆว่า พวกตาแก่พวกนั้นจะคิดเห็นอย่างไรและเมื่อเป็เช่นนี้ ศิลาเทพเ้าคงถูกมอบให้กับจีนใช่ไหม?"
"ไม่น่าแปลกใจที่เธอติดอยู่ในระดับจินนินเห็นได้ชัดว่าความสามารถของเธอนั้นมีขีดจำกัด..."หยางเฉินพูดพลางลุกขึ้นยืนอย่างสบายๆ พร้อมเผยรอยยิ้มขี้เล่นปัดฝุ่นที่ติดกางเกงออก
“ถ้าผมให้เธอปกป้องจริงๆล่ะก็ ผมคงตายไปเมื่อั้แ่สิบปีก่อนแล้วล่ะ”
"นายไม่ได้..."ความไม่อยากจะเชื่อปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮันเนียะ
"นายยืนขึ้นได้ยังไง"
"ผมไม่ได้เป็อะไรมาั้แ่ต้นแค่อยากตามน้ำไปกับคุณเท่านั้นเอง" หยางเฉินพูดจบแล้วเหลือบมองบุปผาพิรุณไปยังคงสงบนิ่งพลางกล่าวว่า
"และถ้าไม่ทำอย่างนั้นผมคงไม่ได้เห็นผู้หญิงคนนี้แสดงตัวออกมา”
ฮันเนียะได้ยินดังนั้นก็โกรธจนตัวสั่น
"นายรู้ทุกอย่างมาั้แ่แรกแต่ก็ยังแกล้งทำเป็ไม่รู้!?"
"ตอนแรกมันก็เป็เพียงแค่ลางสังหรณ์เพราะเมื่อคุณเดินออกมาจากห้องน้ำสีเหลืองที่ติดลิ้นจากน้ำอัดลมรสส้มที่ดื่มกลับหายไป
"หลังจากนั้นคุณยังตัดสินใจเดินตามชายแปลกหน้าสองคนไปอีกนอกจากนี้แววตาของทั้งสองที่มองมายังคุณนั้น เต็มไปด้วยความเคารพยกย่อง”
"นายหลอกใช้ฉันมาโดยตลอด!"ฮันเนียะรู้สึกแย่อย่างมากเมื่อทักษะปลอมตัวที่เธอถนัดที่สุดกลับถูกมองออกอย่างทะลุปรุโปร่งโดยชายกลัดมันผู้นี้
"ผิดแล้ว นิกายยามาตะแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง ผมยังไม่ทันได้เชิญพวกคุณสักนิดรวมทั้งคุณบุปผาพิรุณด้วยใช่ไหมครับ” หยางเฉินขยิบตาข้างหนึ่งให้บุปผาพิรุณซึ่งเป็หนึ่งในสมาชิกกองพลน้อยเหยียนหวงที่ลึกลับมากกว่ากลุ่มัสงัดเสียอีกในขณะที่กำลังคิดถึงเื้ันั้นหยางเฉินก็รู้สึกว่ารูปร่างหน้าตาของเธอนั้นคุ้นเคยเป็อย่างมาก
บุปผาพิรุณไม่ได้ตอบเธอเพียงถามหยางเฉินกลับไปว่า "นายไม่ได้ถูกพิษงั้นหรือ?"
หยางเฉินส่ายหัว"พิษเช่นนี้อ่อนเกินไปเหมือนโดนมดกัดเท่านั้น"
ฮันเนียะมองหยางเฉินราวกับมองตัวประหลาด
"เป็ไปไม่ได้!พิษนี้สามารถล้มช้างได้ถึงยี่สิบแปดตัว...นายมันสัตว์ประหลาด...”
หยางเฉินยิ้มกล่าวว่า"บิงโก!คุณเดาได้ตรงเผง แต่น่าเสียดายที่ผมไม่มีรางวัลอะไรให้”
"นายควรจะห่วงเื่ของตัวเองจะดีกว่านะ”บุปผาพิรุณพูดพลางยกแขนขึ้น ในมือปรากฏปืนพกขนาดเล็กสีเงิน
ฮันเนียะรู้ว่าปืนชนิดนี้ไม่สามารถยิงะุออกมาได้แต่มันสามารถยิงอาวุธลับไม่ด้อยกว่าะุออกมาแทน อีกทั้งยังเงียบสนิทเหมาะกับการใช้ลอบสังหาร ว่ากันว่าบุปผาพิรุณมาจากตระกูลถังโบราณเธอยังได้เรียนรู้ทักษะลับ บุปผาพิรุณโปรยปรายและในเวลาต่อมาชื่อนั้นก็กลายเป็ตัวแทนของเธอ
นอกจากนี้เธอยังสามารถยิงอาวุธลับนั้นจากทุกส่วนของร่างกาย
ฮันเนียะเป็ถึงหนึ่งในสามจินนินเธอไม่เกรงกลัวบุปผาพิรุณอยู่แล้ว แต่เื้ัของเธอกลับเป็ คนอุบาทว์และเธอก็รู้ว่าไม่สามารถรับศึกสองด้านในครั้งนี้ได้
"ถ้าคุณอยากจะหนีก็จงหนีไปเถอะ" หยางเฉินรู้ว่าฮันเนียะคิดอะไรจึงกล่าวกระตุ้นเตือน
ฮันเนียะจ้องหน้าหยางเฉินอย่างโกรธแค้นและทันใดนั้นเองร่างกายของเธอก็เลือนรางกลายเป็กลุ่มควันและหายลับไปทันที
บุปผาพิรุณเห็นดังนั้นก็เลิกคิ้วงามขึ้น ประกายตาส่องสว่าง ยิงอาวุธลับออกไปทันทีด้วยความเร็วดุจสายฟ้า
ปึก!พรึ่บ!!! ฟ้าว!!!
อาวุธลับทั้งสองพุ่งผ่านอากาศผ่านกลุ่มควันปักเข้าไปยังผนังซีเมนต์
"หนีไปแล้ว..."บุปผาพิรุณเก็บปืนกลับอย่างไม่เต็มใจนัก
“นายสามารถจับเธอไว้ได้ทำไมยังเอาแต่นิ่งเฉยอยู่อีก!?"
หยางเฉินยักไหล่
"ถ้าผมทำอย่างนั้นก็หมายความว่าผมก็เป็ผู้สมรู้ร่วมคิดกับพวกคุณน่ะสิ?"
"นายเป็คนจีน"บุปผาพิรุณพูดขึ้นด้วยความเ็า"หล่อนเป็ศัตรูของประเทศเรา”
"จับเธอไว้รังแต่จะเพิ่มจำนวนศัตรู"
“ในอนาคตผมอาจจะทำแต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา"
"ขี้ขลาดตาขาว"ว่าจบบุปผาพิรุณมองหยางเฉินด้วยความรังเกียจพร้อมเตรียมตัวจากไป
หยางเฉินไม่ได้โกรธเขานึกถึงเื่หนึ่ง และเอ่ยถามอย่างรวดเร็ว
"อย่าเพิ่งไปคุณดูคล้ายกับตำรวจคนหนึ่งที่ผมรู้จัก เป็ไปได้ว่าเธออาจเป็ญาติของคุณ”
บุปผาพิรุณหยุดชะงักตอบด้วยเสียงอ่อนโยนไม่หันหลังกลับ
"เธอเป็น้องสาวของฉัน”
ได้ยินดังนั้นหยางเฉินก็พยักหน้าอย่างมีความเป็พี่น้องที่งดงามทั้งคู่ หยางเฉินถามต่อไปว่า
"แล้วถังถังล่ะ"
"เธอปลอดภัยแล้วแต่เสื้อผ้าของเธอถูกขโมยไป ดังนั้นฉันจึงเรียกบอดี้การ์ดเธอมารับตอนนี้เธอคงถูกส่งกลับบ้านไปแล้ว "
หยางเฉินพยักหน้าอย่างพอใจ
"ดูเหมือนการถูกคุณสะกดรอยก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียว
"ภารกิจของฉันความล้มเหลวและในอนาคตฉันคงไม่รับภารกิจนี้อีก อีกไม่นานจะมีผู้เชี่ยวชาญมาจัดการกับศพคุณรีบออกไปจากที่นี่โดยเร็วจะดีกว่า” พูดจบเธอก็หายลับไปจากสายตาในทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้