หานอวิ๋นซีมองเห็นร่างสีแดงแวบหนึ่งแล้วหายไป ในขณะเดียวกันนักฆ่าหญิงในชุดเขียวก็คว้าตัวนางและบินไปทางูเาทางเหนือ
มียุงพิษอยู่ทั่วทั้งูเา อาจกล่าวได้ว่าในอากาศล้วนเต็มไปด้วยยุงพิษ ในเวลานี้แม้ว่าคนที่ค้นหาอยู่บนูเาจะมีความกล้าที่จะค้นหาต่อมากแค่ไหน ทว่าในไม่ช้าก็จะถูกพิษตายได้
โดยพื้นฐานแล้วนักฆ่ากลุ่มนี้ไม่ได้หยุดพวกเขา สามารถเดินอย่างราบรื่นตลอดทาง เพียงแต่ความเร็วช้าลงเล็กน้อย
หานอวิ๋นซีเองก็ไม่ได้ดิ้นรนเช่นกัน นางกำลังคิดถึงเื่หนึ่ง สรุปแล้วกู้ชีฉ่าวเป็คนอย่างไรกันแน่?
เขาไม่กลัวยุงพิษหรือ? เป็ไปได้หรือไม่ว่าเขามียาแก้พิษ?
ถ้าเขามียาแก้พิษ เขาก็ต้องเดาไว้แล้วว่าที่นี่มียุงพิษใช่หรือไม่? เพราะยาแก้พิษยุงพิษนั้นไม่ได้หากันง่ายๆ
เมื่อคิดเช่นนี้ หานอวิ๋นซีก็อดไม่ได้ที่จะมองไปรอบๆ แต่น่าเสียดายที่มีมวลสีดำมากมายอยู่ทุกหนทุกแห่ง แม้กระทั่งต้นไม้ก็แทบมองไม่เห็น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่ซ่อนอยู่เลย
ชายผู้นั้นแค่วนไปรอบๆ หรือ? เมื่อครู่ในถ้ำ ทั้งที่มีโอกาสขนาดนั้น ทว่าเขากลับไม่ลงมือ หากนักฆ่าสามารถหนีออกจากูเาลูกนี้ไปได้ การช่วยชีวิตผู้คนก็จะยิ่งยากขึ้นไปอีก
กู้ชีฉ่าว เขามาที่นี่เพื่อช่วยนางจริงๆ ใช่หรือไม่?
ความสงสัยที่มากมายเช่นนี้ ทำให้หานอวิ๋นซีไม่กล้าที่จะฝากความหวังไว้กับคนแปลกหน้าเลย นางต้องช่วยตัวเองให้รอด!
“สรุปแล้วจะเ้าจะพาข้าไปที่ใด?” นางถามเสียงดัง
นักฆ่าหญิงในชุดเขียวชำเลืองมองและไม่พูดอะไร
“เ้าบอกข้าหน่อยสิ ว่าเ้าจะพาข้าไปพบประมุขของเ้าใช่หรือไม่?” หานอวิ๋นซีพยายามอีกครั้ง
น่าเสียดายที่นักฆ่าหญิงในชุดเขียวคนนี้สงบอย่างมาก มีนิสัยแตกต่างจากเฮยซาคนก่อนหน้านั้นอย่างสิ้นเชิง หาก้าเบาะแสจากนาง เรียกได้ว่ายากพอๆ กับการปีนขึ้นไปบนท้องฟ้า
ไม่พูดใช่หรือไม่!
ไม่พูดแล้วเ้าจะเสียใจ!
หานอวิ๋นซีคิดอยู่ในใจอย่างขมขื่น เมื่อเห็นว่าทุกสิ่งรอบตัวมืดลงเรื่อยๆ นางจึงหลับตาลง
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ผงยาที่ไม่มีสีและไม่มีกลิ่นจำนวนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของนาง
แม้ว่ามือทั้งสองจะถูกมัดและไม่สามารถขยับได้ แต่ระบบการล้างพิษนั้นเชื่อมโยงกับเส้นประสาทสมองของนาง และิญญาหรือจิตสำนึกของนางสามารถเข้าควบคุมระบบการล้างพิษได้อย่างสมบูรณ์
เพียงแค่คิดเท่านั้น ระบบล้างพิษก็จะถูกเปิดใช้งาน ผงยาที่นาง้าก็ปรากฏขึ้นในมือทันที
แน่นอนว่าการเอาผงยาเล็กๆ ออกมา ไม่จำเป็ต้องใช้ความแข็งแกร่งทางจิตใจมากมายนัก หากเอายาที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่หรือยาที่มีอยู่ไม่มากในระบบล้างพิษนั้น ก็จะใช้พลังงานบางส่วน หากแค่นึกถึงก็จะไม่สามารถเอามันออกมาได้
หากนักฆ่าหญิงในชุดเขียวรู้ว่านางเป็คนช่วยหลงเฟยเยี่ยฆ่าสตรีที่สามารถควบคุมฝูงยุงพิษได้ บางทีนักฆ่าหญิงในชุดเขียวอาจจะระวังตัวมากกว่านี้ แต่น่าเสียดายที่นางไม่รู้อะไรเลย
เมื่อเทียบกับเฮยซาแล้ว นางไม่ได้ดูถูกหานอวิ๋นซีหรอก เพียงแต่นางยังประเมินต่ำไปเท่านั้น
หานอวิ๋นซีสามารถไล่และฆ่ายุงพิษได้ ดังนั้นนางจึงมีวิธีที่จะดึงดูดยุงพิษได้เช่นกัน ยาในมือของนางเรียกว่ายาจุดกันยุง
ยาจุดกันยุงนี้ไม่ใช่ยาจุดกันยุงแบบสมัยใหม่ที่ใช้ไล่ยุง แต่เป็ยาจุดกันยุงที่ใช้ดึงดูดยุงที่มีพิษ เพียงแค่นางปล่อยไป ยุงพิษจะต้องถูกดึงดูดอย่างแน่นอน
หานอวิ๋นซีกำแป้งไว้แน่น แล้วค่อยๆ ลืมตาช้าๆ ในแววตาก็แฝงไปด้วยความเ้าเล่ห์ที่มีชีวิตชีวาอย่างชัดเจน
นางค่อยๆ คลายช่องว่างระหว่างนิ้วอย่างระมัดระวังโดยปล่อยให้ผงยาร่วงออกมาทีละน้อย ในไม่ช้ายุงพิษก็รุมล้อมนาง โชคดีที่นักฆ่าหญิงในชุดเขียวรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นมือของหานอวิ๋นซีคงได้ถูกกัดพรุนเป็รูอย่างแน่นอน!
ในระหว่างเหาะ หานอวิ๋นซีพยายามอย่างเต็มที่ที่จะมองไปด้านข้าง เมื่อเห็นฝูงยุงพิษรวมตัวกันอยู่ข้างหลังที่หนาแน่นมากจนน่ากลัว หากใครที่มีอาการหวาดกลัวอย่างรุนแรงคงได้เป็บ้าทันทีที่เห็นฉากนี้อย่างแน่นอน!
หานอวิ๋นซีรีบเอาผงยากลับเข้าสู่ระบบล้างพิษทันที มิฉะนั้นหากดึงดูดยุงพิษมา นางคงได้เป็บ้าแน่นอน!
นักฆ่าหญิงในชุดเขียวหลบหลีกกิ่งไม้อย่างระมัดระวังและผ่านป่าไป โดยไม่ได้สังเกตเห็นความแปลกประหลาดที่อยู่ข้างหลัง ในไม่ช้าพวกเขาก็อยู่ห่างจากฝูงยุงพิษที่หนาแน่น
หานอวิ๋นซีแอบหายใจเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มสดใสที่ปรากฏบนริมฝีปากนาง
พอได้ลองแล้ว ผลของผงยานี้ก็ไม่เลวเลยทีเดียว
เวลาและวิธีการดึงดูดยุงพิษก็มีความสำคัญเช่นกัน ในเวลานี้มียุงพิษอยู่ทั่วูเาและที่ราบ หากนางปล่อยยาอีกครั้ง มันไม่เพียงเป็การหาเื่ใส่ตัว แต่ยังกระตุ้นความระแวงของนักฆ่าหญิงในชุดเขียวด้วย
นางต้องรอ รอโอกาสที่ดีที่สุด
กลุ่มนักฆ่าที่สวมหน้ากากสีดำกลุ่มหนึ่งกำลังเปิดทาง นักฆ่าหญิงในชุดเขียวเองก็ลากหานอวิ๋นซีให้เดินตาม แม้ว่าจะมียาแก้พิษ แต่เมื่อท้องฟ้ายิ่งมืดขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังเดินอยู่ในกลุ่มยุงพิษ พวกเขาก็ต้องชะลอความเร็วลง
เวลาค่อยๆ ไหลผ่านไป ท้องฟ้าก็ใกล้มืดแล้ว
เวลานี้ กองกำลังที่ค้นหาูเาทั้งหมดได้ถอนกำลังออกไปแล้ว ดังนั้นการป้องกันทั้งหมดบนเส้นทางูเาก็ถูกถอนออกเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าหลงเฟยเยี่ยยอมแพ้
อย่างไรก็ตาม เขายังคงยืนอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแห่งนี้ เมื่อมองลงไปจากที่สูงเช่นนี้ ก็เห็นเพียงชั้นหมอกสีดำจางๆ ปกคลุมูเา
เมื่อท้องฟ้ามืดลง ก็ยิ่งมองไม่ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ
“ท่านอ๋อง ยุงพิษได้กระจายไปทุกทางขึ้นสูู่เา บางแห่งก็กระจายไปไกลหลายเส้นทาง” ซ่างกวนรีบรายงาน
เดิมทีเขาคิดที่จะขยายวงล้อมโดยหวังว่าเขาจะสามารถล้อมกลุ่มนักฆ่าได้ แต่ตอนนี้พิษได้แพร่กระจายลงมาจากูเาแล้ว วิธีการล้อมก็ไม่สามารถทำได้อีกต่อไป
นี่ดูเหมือนเป็สิ่งที่หลงเฟยเยี่ยคาดการณ์ไว้แล้ว เขาไม่ได้พูดอะไรใดๆ ดวงตาที่ลึกล้ำราวกับทะเลลึกกับเงาดำของูเา ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
เมื่อเห็นว่าฉินอ๋องไม่ตอบกลับมา ซ่างกวนก็เหลือบมองไปที่มู่ชิงอู่อย่างน่าสงสาร
มู่ชิงอู่ขมวดคิ้วและเริ่มเกลี้ยกล่อม “ท่านอ๋อง พิษร้ายจะไม่หายไปจนกว่าจะถึงเที่ยงวันพรุ่งนี้ เรากลับกันก่อนจะดีกว่า”
เขาคิดว่าการถอนกำลังที่ท่านอ๋องหมายถึงคือการเลิกติดตาม และรอให้นักฆ่ามาขอค่าไถ่และเจรจาเงื่อนไข
คิดไม่ถึงว่าการถอนกำลังที่ท่านอ๋องพูดถึง แค่สั่งให้พวกเขาถอนตัวออกมาเท่านั้น ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว ท่านอ๋องไม่ได้มีความคิดที่จะยอมแพ้เลยแม้แต่น้อย
แต่ถ้าไม่ยอมแพ้ละก็ จะยังหาหานอวิ๋นซีเจอได้หรือไม่?
ต้องรู้ว่า พื้นที่ล้อมรอบด้วยูเาที่แห้งแล้งเป็ระยะทางหลายลี้ มีสัตว์ร้าย แมลงมีพิษ และหนองน้ำมากมายในูเา ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้เทียนฮุยคำนึงถึงความปลอดภัยของเมืองหลวงเทียนหนิง และ้าส่งกองกำลังไปพัฒนาูเาที่แห้งแล้งแห่งนี้ในเขตชานเมือง แต่น่าเสียดายที่หลังจากนำกองทหารเข้าไปบนูเาหลายครั้งก็เผชิญกับความยากลำบากและถอยทัพออกมา และทำได้เพียงให้กองทหารรักษาการณ์ที่อยู่รอบนอกเท่านั้น
เมื่อมีคนหนีเข้าไปในูเาลึก มันจะยากมากที่จะหาพวกเขาเจอ
“พวกเ้าทุกคนออกไปก่อน” ในที่สุดหลงเฟยเยี่ยก็พูดขึ้นมา เสียงของเขาเย็นยิ่งกว่าลมบนยอดเขา
ความเ็าของการปฏิเสธผู้อื่นอย่างห่างเหิน ทำให้มู่ชิงอู่ก็ไม่กล้าที่จะอ้าปากพูด
เขาขยิบตาให้ซ่างกวน จากนั้นทั้งสองก็เดินออกไปอย่างเศร้าสร้อย
หลังจากตกกลางคืน ูเาก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้น และที่แห่งนี้จะมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น! จะรออยู่ที่นี่เพื่ออะไรกัน?
“ท่านอ๋องเป็อะไรไป?” ซ่างกวนรู้สึกงงงวย
การชนะหรือความพ่ายแพ้เป็เื่ธรรมดาสำหรับนักรบ พวกนักฆ่าแค่ลักพาตัวคนไป และยังไม่ได้แจ้งเงื่อนไขต่อรอง ทั้งยังไม่รู้ว่าผู้ใดจะแพ้หรือชนะ ด้วยนิสัยของฉินอ๋องแล้ว ไม่ควรที่จะมีปฏิกิริยาแบบนี้ไม่ใช่หรือ?
นอกจากนี้ คนที่ถูกลักพาตัวก็ไม่ใช่บุคคลสำคัญอะไร ก็แค่ฉินหวังเฟยไม่ใช่หรือ? สตรีผู้ไม่ได้รับการยอมรับจากฉินอ๋อง
“บางที...บางทีคงจะเป็ห่วงฉินหวังเฟยก็ได้”
เอาเถอะ มู่ชิงอู่ที่พูดแบบนี้ออกมา แม้กระทั่งตัวเองเขาก็ไม่อยากจะเชื่อ
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ซ่างกวนมองด้วยดวงตาที่เบิกกว้างพร้อมกับสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เขามองว่าที่ฉินอ๋องโกรธเกรี้ยวขนาดนั้น เป็เพราะความอวดดีของนักฆ่า ไม่ได้คาดคิดว่าเป็เพราะห่วงหวังเฟย
“ท่านแม่ทัพ นี่...”
เมื่อซ่างกวนกำลังจะถาม มู่ชิงอู่ก็ยกมือขึ้นและไม่ได้พูดถึงเื่นี้อีก ความจริงแล้ว เขาเองก็ไม่รู้แน่ชัดเหมือนกัน
คืนนั้นทั้งคืน ซ่างกวนและมู่ชิงอู่ไม่กล้าที่จะหลับ เพราะรอให้ฉินอ๋องกลับมา แต่รอไปจนถึงรุ่งสางแล้วเขาก็ยังไม่กลับมา
การระบาดของยุงพิษนี้กินเวลาตลอดทั้งคืนและไม่มีทีท่าว่าจะสลายไปจนกระทั่งรุ่งสาง ดูเหมือนว่าต้องรอจนถึงเที่ยงวันพวกมันจึงจะสลายไป
แสงสีทองของดวงอาทิตย์ขึ้นสาดส่องบนใบหน้าเย็นะเืของหลงเฟยเยี่ย เขาหรี่ตาเล็กน้อยและยกมือขึ้นบังแสงอาทิตย์อย่างสง่างาม
ไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ดวงอาทิตย์ก็ขึ้น แสงแดดจ้าก็ส่องไปทั่วป่าบนูเา
ทิวทัศน์ูเาในเวลานี้กับทิวทัศน์ูเาเมื่อเย็นวานนี้เป็ฉากที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เวลานี้เห็นได้ชัดว่าที่ใดมีฝูงยุงพิษหนาแน่นและที่ใดมีฝูงยุงพิษเบาบาง
ดวงตาที่เ็าของหลงเฟยเยี่ยกวาดมองไปทั่วป่าทุกแห่ง ราวกับว่าเขากำลังค้นหาอะไรบางอย่าง ซ่างกวนและมู่ชิงอู่ที่มาั้แ่เช้าก็นั่งเฝ้าดูอยู่ห่างๆ ไม่กล้ารบกวน
ในที่สุดเมื่อใกล้เที่ยง แดดก็แรงขึ้น กลุ่มยุงพิษสีดำในป่าก็เริ่มจางลง ฝูงยุงพิษต่างบินออกไป
นักฆ่าหญิงในชุดเขียวและคนอื่นๆ ลักพาตัวหานอวิ๋นซีออกจากูเาไปในชั่วข้ามคืน มุ่งไปทางเหนือสูู่เาที่รกร้างมากขึ้นและไม่มียุงพิษอยู่รอบตัวพวกเขา
ในเวลานี้ นักฆ่าหญิงในชุดเขียวมอบหานอวิ๋นซีให้กับนักฆ่าที่สวมหน้ากากสีดำ ส่วนตัวเองก็จัดการล้างหน้าและดื่มน้ำข้างลำธาร
หานอวิ๋นซีมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ริมฝีปากก็ยกยิ้มอย่างเ้าเล่ห์ นางรู้ว่าสภาพอากาศแบบนี้สามารถทำให้ยุงพิษรวมตัวกันได้ มาถึงจุดนี้แล้ว ยุงพิษก็เริ่มกระจายออกไปแล้ว
ถึงเวลาแล้ว!
นางเงยหน้าขึ้นเผชิญลม หาทิศทางลมแล้วปล่อยผงยาที่กำแน่นในมือออก ไม่นานผงยาก็ลอยไปทางใต้ตามทิศทางลม ไร้เสียง ไร้สี และไร้กลิ่น
นักฆ่าหญิงในชุดเขียวที่ล้างหน้าเสร็จแล้วก็เดินเข้ามา ใช้ใบบัวป้อนน้ำให้หานอวิ๋นซี หานอวิ๋นก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด ทั้งยังพูดขอบคุณนาง
นักฆ่าหญิงในชุดเขียวไม่ได้ตอบกลับ เมื่อนางดื่มเสร็จ ก็คว้าแขนของนางเพื่อที่จะเดินต่อ
“เ้าให้ข้าดื่มน้ำอีกสักสองสามอึกได้หรือไม่?” หานอวิ๋นซีถามอย่างน่าสงสาร
“ที่แห่งนี้ไม่เหมาะที่จะอยู่เป็เวลานาน” นักฆ่าหญิงในชุดเขียวตอบอย่างเ็า นางยังคงระแวดระวังอย่างมากอยู่เสมอ เพราะคู่ต่อสู้ที่กำลังเผชิญหน้าคือฉินอ๋องแห่งเทียนหนิงผู้น่าสะพรึงกลัว
ผู้ซึ่งไม่กลัวแม้กระทั่งฮ่องเต้ แน่นอนว่านางไม่กล้าที่จะประมาทเลินเล่อได้
“แค่กินน้ำเอง ใช้เวลาไม่นานหรอก ข้าหิวน้ำจะตายอยู่แล้ว พวกเ้าจะ...”
ก่อนที่หานอวิ๋นซีจะพูดจบ นักฆ่าหญิงในชุดเขียวก็ลากนางออกไปอย่างโเี้โดยไม่พูดอะไรสักคำ
ใบหน้าของหานอวิ๋นซีมืดมนทันที ไม่ให้เวลานางใช่หรือไม่? ฮึ่ย ถ้าอย่างนั้นนางคงทำได้ปล่อยมันเลยตามเลยแล้วล่ะ!
นักฆ่าหญิงในชุดเขียวลากหานอวิ๋นซี บางครั้งก็ทุ่นแรงจากบนก้อนหินบ้าง บนต้นไม้บ้าง แล่นผ่านป่าด้วยความเร็วสูง ยาในมือของหานอวิ๋นซีก็ไหลออกมาอย่างต่อเนื่องและพัดไปข้างหลังูเาด้วยสายลม
ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความเงียบ
เมื่อผงยาถูกพัดพาไปในูเาและป่ามากขึ้นเรื่อยๆ ฝูงยุงพิษที่กำลังกระจายตัวออกไปก็ได้กลิ่นหอมอย่างรวดเร็ว ตอนแรกก็มีไม่มาก แต่ไม่นานก็กลายเป็กลุ่มและค่อยๆ มีจำนวนเยอะมากเต็มไปทั่วป่า
พวกมันรวมตัวกัน เพื่อแย่งชิงผงยาในอากาศ ผงยานั้นดึงดูดยุงพิษอย่างมาก และยังทำให้เกิดการแก่งแย่งและการฆ่า
หลงเฟยเยี่ยยืนอยู่บนยอดเขาสูงมองดูเงาดำที่ค่อยๆ สลายไป และป่าบนูเาที่ค่อยๆ ชัดเจนมากขึ้น ไม่นานนักเขาก็สังเกตเห็นเงาดำรวมตัวกันอีกครั้งทางตอนเหนือ!
มุมริมฝีปากยกยิ้มขึ้นมา ในที่สุดรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เ็ามาตลอดทั้งคืน ดีจริงๆ หานอวิ๋นซี เ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ!
หลงเฟยเยี่ยเอามือไพล่หลังแตะปลายเท้าเบาๆ แล้วเหาะลงจากหน้าผาโดยไม่พูดอะไร ร่างที่สง่างามของเขามุ่งหน้าไปยังเงามืดทางทิศเหนือ
“ท่านอ๋อง!” มู่ชิงอู่ร้องอุทานออกมา และลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหัน
“พิษร้ายยังไม่สลายไป!” ซ่างกวนเองก็ตื่นตระหนกใเช่นกัน
