“นักเขียนบทเสิ่น” มีประสิทธิภาพในการทำงานอย่างมาก หลังจากการประชุมอ่านบทสิ้นสุดลง ก็สามารถแก้ไขส่วนที่มีปัญหาเสร็จเรียบร้อยในคืนถัดมา พร้อมส่งบทที่แก้แล้วให้กับนักแสดงหลัก เมื่อฉีลั่วอิ่งได้รับบทมาก็ตั้งใจศึกษาอย่างมาก แม้เหยาเข่อเล่อจะอยากเอาไก่ทอดมาฉลองที่เขาได้แสดงภาพยนตร์เื่ใหม่ แต่เขาก็ไม่มีเวลาสนใจ
สองวันผ่านไปก็มีการจัดงานแถลงข่าวเปิดกล้อง
งานแถลงข่าวนี้จัดขึ้นที่ศูนย์จัดแสดงศิลปะ ซึ่งลือกันว่าเป็หนึ่งในทรัพย์สินของนักลงทุน สถานที่จัดงานมีพื้นที่กว้างขวาง ตกแต่งด้วยสีขาวเป็หลัก ผนังทั้งสี่ด้านประดับด้วยภาพวาดสีน้ำมันและดอกไม้สด ดูหรูหรามีสไตล์
นักข่าวจากทุกสำนักมารวมตัวกันที่นี่ กล้องจำนวนมากเรียงรายถ่ายภาพฉากที่ยิ่งใหญ่ ภายนอกศูนย์จัดแสดงศิลปะก็มีแฟนคลับถือป้ายสนับสนุนฉีลั่วอิ่งและเมิ่งเชวี่ยไป๋อย่างแน่นขนัด
ภายใต้การนำทางของทีมงาน เซวียข่ายซินและฉีลั่วอิ่งเดินเข้าห้องพักทางประตูด้านหลัง พยายามไม่ให้เป็ที่สังเกต ศูนย์จัดแสดงศิลปะแห่งนี้ใช้เป็สถานที่ต้อนรับแขก VIP อยู่บ่อยครั้ง และในวันนี้ก็ถูกใช้เป็ห้องพักของนักแสดงทั้งสองท่านชั่วคราว ห้องดังกล่าวมีขนาดเป็ครึ่งหนึ่งของโถงจัดแสดงศิลปะ ตกแต่งด้วยโซฟา โต๊ะกาแฟ มีประติมากรรมและภาพวาดมากมายหลายแบบประดับอยู่โดยรอบ ผนังด้านข้างเป็หน้าต่างเต็มบานสูงจรดเพดาน รับแสงแดดที่อบอุ่นและมองเห็นพืชพรรณเขียวขจีจากข้างนอก
ทันทีที่ฉีลั่วอิ่งเดินเข้าประตู เขาก็ชื่นชมรสนิยมของเ้าของศูนย์จัดงานศิลปะเป็อย่างแรกก่อนจะเห็นเมิ่งเชวี่ยไป๋ นี่เป็การเจอกันหลังจบการประชุมอ่านบทของทั้งสองคน ด้านข้างของเมิ่งเชวี่ยไป๋มีผู้หญิงวัยกลางคนใส่ชุดสูทนั่งอยู่ ดูสุขุมและมีประสบการณ์ น่าจะเป็ผู้จัดการของเขาที่ชื่อ “เฉินเมิ่งผิง” เธออยู่ในวงการมาสามสิบปีแล้ว เคยติดตามาาและราชินีมาหลายคน ผู้คนในแวดวงบันเทิงต่างก็ให้ความเคารพและเรียกเธอว่า “ผิงเจี่ย”
“ผิงเจี่ย เสี่ยวเมิ่ง พวกเรามาแล้ว” เซวียข่ายซินที่อยู่ในวงการมานานไม่ได้โง่เง่า เมื่อเจอคนอื่นก็ต้องรู้จักทักทาย เขากับผู้จัดการของเมิ่งเชวี่ยไป๋ติดต่อเื่งานกันอยู่หลายครั้ง แม้จะพูดไม่ได้ว่าพวกเขาสนิทสนมกัน แต่นั่นก็ไม่ได้กระทบกับการทักทายอย่างเป็กันเอง “พวกคุณมาถึงเร็วจริงๆ กินอะไรหรือยัง? ผมรู้มาว่าใกล้ๆ นี้มีร้านอาหารเช้ารีวิวดี อีกนานกว่าจะถึงเวลาเริ่มงาน เดี๋ยวผมจะเรียกดิลิเวอรีมาให้”
เมื่อพูดจบเซวียข่ายซินก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมจะโทรออก ผิงเจี่ยหยุดเขาไว้แล้วยิ้ม “เสี่ยวเซวียไม่ต้องยุ่งยากหรอก พวกเรากินมาแล้ว”
ผิงเจี่ยพูดอย่างไม่เร่งรีบ น้ำเสียงนุ่มนวล ไพเราะ และสุภาพเป็อย่างยิ่ง เมิ่งเชวี่ยไป๋ที่อยู่ข้างผิงเจี่ยก็ลุกขึ้นมาทักทายอย่างมีมารยาท “สวัสดีครับเซวียเกอ”
หลายวันก่อนเซวียข่ายซินเจอเมิ่งเชวี่ยไป๋ในที่ประชุมอ่านบทแล้ว จึงแสร้งทำเป็สนิทสนมกัน “วันนี้เสี่ยวเมิ่งก็ยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะ มิน่าแฟนคลับถึงชอบนายขนาดนั้น”
เมิ่งเชวี่ยไป๋ดูเหมือนไม่รู้จะรับมืออย่างไรจึงเม้มปากไปมาอย่างขัดเขิน ผิงเจี่ยรับคำยิ้มๆ แล้วกล่าวว่า “เสี่ยวเซวีย วันนี้ลั่วอิ่งก็ดูดีมากเหมือนกัน หลายปีมานี้เขามีมาดของซูเปอร์สตาร์ชัดขึ้นเรื่อยๆ เลย”
สายตาของผิงเจี่ยมองไปยังฉีลั่วอิ่งที่อยู่ด้านข้างเซวียข่ายซิน วันนี้ฉีลั่วอิ่งสวมสูทขนสัตว์สไตล์อังกฤษสีกากี พร้อมสวมเสื้อโอเวอร์โค้ทคลาสสิกแบรนด์ดังทับไว้ด้านนอก ยิ่งย้อมผมเป็สีดำแล้วก็ยิ่งขับผิวของเขาให้ขาวขึ้น และหลังจากได้พักผ่อนไปหลายวัน เขาจึงมีออราเปล่งประกายมาก
“สวัสดีครับผิงเจี่ย ขอบคุณสำหรับคำชม แต่ผมยังห่างไกลจากคำว่าซูเปอร์สตาร์อยู่มาก ยังต้องพยายามต่อไปอีกครับ” ฉีลั่วอิ่งยิ้มอย่างสดใสให้ผิงเจี่ย แล้วทักทายอย่างมีมารยาทแบบมืออาชีพ จากนั้นสายตาของเขาก็เบนไปทางเมิ่งเชวี่ยไป๋ “สวัสดี คราวที่แล้วยังไม่ได้คุยกันดีๆ เลย ฉันเรียกนายว่าเชวี่ยไป๋ได้ไหม? หรืออยากให้ฉันเรียกว่าอะไรดี?”
“อะไรก็ได้” พอเมิ่งเชวี่ยไป๋ยืนขึ้นแล้วก็สูงกว่าฉีลั่วอิ่งเล็กน้อย เขาสวมสูทสีฟ้าอ่อนทั้งตัว ผูกโบหูกระต่าย และหวีผมหน้าม้าไปด้านหลัง เผยให้เห็นหน้าผากเรียบเนียนและเส้นกรอบที่สูงลึก สไตล์วันนี้ค่อนข้างเป็ผู้ใหญ่และเรียบร้อย
“ได้ งั้นนายอยากเรียกฉันว่าอะไรก็ได้เหมือนกัน” ฉีลั่วอิ่งยิ้มเล็กน้อย หวังจะใช้่เวลาก่อนถ่ายทำอย่างเป็ทางการเพิ่มความสนิทสนม เขาเชื่อว่าเมิ่งเชวี่ยไป๋จะไม่ตั้งชื่อเล่นที่แปลกประหลาดเกินไปให้เขา
เมิ่งเชวี่ยไป๋พยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า “ฉีฉี”
“หือ?” ฉีลั่วอิ่งตกตะลึงนึกว่าตัวเองหูแว่ว แต่เมื่อมองไปก็เห็นว่าเซวียเกอและผิงเจี่ยก็อึ้งอยู่เช่นกัน
ผ่านไปหลายวินาที เมิ่งเชวี่ยไป๋ก็อธิบายออกมาอย่างใจเย็น “ผมได้ยินแฟนคลับของคุณเรียกแบบนี้”
“ไม่มีปัญหา ถ้าอย่างนั้นฉันก็ควรเรียกนายว่า──” ฉีลั่วอิ่งนึกถึงชื่อเรียกที่แฟนคลับของเมิ่งเชวี่ยไป๋ใช้เรียกเขา ในดวงตาก็ปรากฏรอยยิ้มซุกซนออกมาทันที “เิเิเหรอ?”
----------
ความในใจของเมิ่งเชวี่ยไป๋ : “ฉีฉีรู้ได้ยังไงว่าฉันมีชื่อว่าเิเิ?” (ร้อนรนกระอักกระอ่วน.jpg)
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้