ได้ยินเช่นนั้น โจวชิงหวาก็หรี่ตาลง “ในเมื่อจับคู่พวกเขามิได้ เราก็ร่วมมือกันเพื่อจัดการเื่นี้เถอะ!”
หนีเจียเอ๋อร์เลิกคิ้ว ก่อนพยักหน้าเห็นด้วย “ตกลง!”
...
วันต่อมา ทั้งสองก็มุ่งหน้าไปยังวังหลวงเพื่อนำของไปส่ง และขอให้หลี่กงกงเรียกหร่วนรั่วสุ่ยมาพบพวกเขา
จากนั้น หนีเจียเอ๋อร์ก็ไปรออยู่ที่อุทยานหลวง ไม่ช้า ก็เห็นหร่วนรั่วสุ่ยเดินตามขันทีร่างเล็กมาด้วยท่าทีหวาดระแวง แต่เมื่อเห็นอีกฝ่าย นางก็ผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด
พวกเขาเดินเข้ามาหาหนีเจียเอ๋อร์ แล้วขันทีผู้นั้นก็เอ่ยเสียงสุภาพว่า “นางกำนัลที่คุณหนู้าพบ มาแล้วขอรับ”
“ขอบคุณท่านมาก” หนีเจียเอ๋อร์หยิบเงินสิบตำลึงออกมาจากแขนเสื้อ ก่อนยื่นให้เขา พลางกำชับว่า “หลังเสร็จธุระ คงต้องรบกวนท่านให้กลับไปส่งรั่วสุ่ยด้วย”
ขันทีน้อยรับเงินมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม พอมองดูรอบๆ แล้ว เห็นว่าปลอดคน ก็เก็บมันไว้ในร่องเข็มขัดทันที “ข้าจะรออยู่ใกล้ๆ หากเสร็จธุระแล้วก็เรียกข้าได้เลย”
กล่าวจบ ขันทีร่างเล็กก็ถอยออกไปยืนรออยู่ไม่ไกล
หร่วนรั่วสุ่ยทิ้งตัวลงคุกเข่าทันที “หากคุณหนูมีเื่อันใดให้รั่วสุ่ยทำ โปรดบอกมาได้เลยเ้าค่ะ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต รั่วสุ่ยคนนี้ก็ยินดี!”
หนีเจียเอ๋อร์หัวเราะเบาๆ “รั่วสุ่ย ข้ามีบางอย่างจะให้เ้าช่วย แต่คงไม่ถึงตายหรอก”
หร่วนรั่วสุ่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย “มีอะไรให้บ่าวรับใช้หรือเ้าคะ?”
“มีแน่!” หนีเจียเอ๋อร์ยิ้มบางๆ “นี่คงมิได้คิดว่าข้าจะให้เ้าไปฆ่าคนหรอกกระมัง?”
เป็เช่นที่อีกฝ่ายพูด ในใจของรั่วสุ่ยตอนนี้ กำลังคิดไปได้ร้อยแปดอย่าง เกี่ยวกับสิ่งที่คนตรงหน้าอยากจะไหว้วานตน
แต่กระนั้น บุญคุณที่คุณหนูผู้นี้มีต่อตน ก็มากพอที่จะขอให้นางลงมือแล้ว
เมื่อเห็นหญิงสาวขมวดคิ้วแน่น หนีเจียเอ๋อร์ก็บอกว่า “หากไม่เต็มใจเ้าก็สามารถปฏิเสธได้ ข้าไม่ตำหนิหรอก”
หร่วนรั่วสุ่ยรีบแก้ต่างทันที “มิได้เ้าค่ะ ข้าน้อยยินดีที่จะทำ”
หนีเจียเอ๋อร์จึงโน้มตัวไปกระซิบคำพูดสั้นๆ ที่ข้างหูของนาง ก่อนจะยืดตัวขึ้น แล้วเอ่ยขอบคุณจากใจจริง “ขอบใจมากนะรั่วสุ่ย”
นี่เป็ครั้งแรกที่มีคนกล่าวขอบคุณหร่วนรั่วสุ่ยเช่นนี้ แก้มตอบพลันขึ้นสีแดงระเรื่อ นางก้มหน้างุดด้วยความขัดเขิน “นี่คือสิ่งที่รั่วสุ่ยพึงกระทำเ้าค่ะ”
ก่อนจากกัน หนีเจียเอ๋อร์ก็ไม่ลืมที่จะมอบเงินจำนวนหนึ่งให้รั่วสุ่ยไว้ติดตัว เผื่อใช้จ่ายยามขัดสน แววตาของนางกำนัลน้อยสั่นไหวอย่างซาบซึ้งใจ
นั่นทำให้ความภักดีของนางที่มีต่อหนีเจียเอ๋อร์ ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น
...
วันรุ่งขึ้น หร่วนรั่วสุ่ยก็มารายงานเื่ของกู่อวี่เสวียน ที่ตนถูกไหว้วานให้ไปสืบ
เมื่อรู้ว่าองค์หญิงใหญ่เกลียดบุรุษขี้ขลาดตาขาวเป็ที่สุด หนีเจียเอ๋อร์จึงคิดแผนการขึ้นมาทันที
ด้วยการให้โจวชิงหวาชักชวนกู่อวี่เสวียนไปเที่ยวที่เขาสือเหลียน จากนั้นก็ให้คนของตระกูลหนีปลอมเป็โจรูเาไปดักปล้น แล้วให้ชายหนุ่มทำทีเป็ตื่นใ วิ่งหนีเอาตัวรอด เพียงเท่านี้ ก็น่าจะทำให้อีกฝ่ายชิงชังโจวชิงหวา เหมือนกับที่รังเกียจมู่หรงจิ่งหลีได้แล้ว
…
อากาศในวันนี้ นับว่าท้องฟ้าปลอดโปร่งดี
บนยอดเขาสือเหลียนอันเขียวขจี ที่เต็มไปด้วยต้นไม้เรียงรายอย่างหนาแน่น
กู่อวี่เสวียนก้าวเดินด้วยท่าทีเริงร่า พลางหันมายิ้มให้โจวชิงหวาเป็ครั้งคราว โดยไม่ใส่ใจเลยว่าตอนนี้ อีกฝ่ายจะมีสีหน้าเบื่อหน่ายมากเพียงใด
หลังจากเดินไปครู่หนึ่ง หญิงสาวก็หยุดพักที่ใต้ต้นสน “ชิงหวา ข้าเหนื่อยแล้ว เ้าช่วยอุ้มข้าไปหน่อยสิ”
ทว่าชายหนุ่มไม่สนใจ เพียงเดินผ่านนางไปอย่างไร้เยื่อใย
กู่อวี่เสวียนจึงเอ่ยเสียงต่ำ “เ้ากล้าเมินคำพูดของข้าเช่นนี้ หากอยู่ในวัง หัวคงได้หลุดจากบ่าไปแล้ว!”
แต่โจวชิงหวาก็ยังคงเมินเฉยไม่ใส่ใจ
องค์หญิงใหญ่กระทืบเท้าด้วยความโมโห ทำแก้มพอง แสดงท่าทีกระเง้ากระงอด
ตอนนั้นเอง จู่ๆ ก็มีกลุ่มชายชุดดำะโออกมาจากสองข้างทาง พร้อมดาบขนาดใหญ่ในมือ เข้ามารุมล้อมพวกเขาเอาไว้ทุกด้าน
โจวชิงหวาลอบมองคนเ่าั้ พลางคิดว่าคนของตระกูลหนี ช่างแต่งกายได้สมจริงนัก
ทันใดนั้น หนึ่งในกลุ่มโจรก็ะโขึ้น “ูเานี้คือถิ่นของพวกเรา หาก้าเดินผ่าน ก็จ่ายเงินมาเสีย!”
กู่อวี่เสวียนกรีดร้อง ทำท่าจะรีบไปหลบอยู่ด้านหลังของโจวชิงหวา แต่กลับถูกหนึ่งในบรรดาโจรกระชากผมเปียอย่างแรง พร้อมตวัดดาบใหญ่อันแหลมคมเข้ามาประชิดลำคอระหง
“แม่นางน้อย เ้ามานี่ ให้พวกข้าได้คลายเหงาสักหน่อย” ชายผู้นั้นไล้แก้มนวลอย่างถือวิสาสะ
หญิงสาวตื่นตระหนก “กรี๊ด... โจวชิงหวา ช่วยข้าด้วย!”
แต่ก็ไร้ผล เพราะนอกจากจะไม่ช่วยแล้ว เขายังทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้บนพื้น ก่อนทะยานหนีโดยไม่เหลียวหลัง
“คนรักของเ้า ช่างขี้ขลาดจริงๆ” เหล่าโจรูเาหัวเราะเยาะ
ขณะมองตามร่างที่หายเข้าไปในป่า กู่อวี่เสวียนก็ลอบยิ้มอย่างสมเพชตัวเอง ที่เคยคิดว่าโจวชิงหวานั้นแตกต่างจากมู่หรงจิ่งหลี
มาบัดนี้ นางได้พิสูจน์แล้ว ว่าพวกเขามิได้ดีไปกว่ากันเลย
...
ด้านโจวชิงหวาที่เพิ่งจากมา พลันรู้สึกลังเล จนต้องย้อนกลับไปดูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ หากโจรเ่าั้เป็คนของหนีเจียเอ๋อร์จริงๆ ละก็ ค่อยหนีออกมาอีกครั้งก็ยังไม่สาย
แต่เมื่อเดินกลับไปก็ได้ยินเสียงกู่อวี่เสวียน ที่กำลังร้องขอความเมตตา ก่อนเสียงเสื้อผ้าถูกฉีกขาดจะดังขึ้น
ชายหนุ่มจึงไม่รอช้า รีบพุ่งกลับไปทันที พบว่าตอนนี้มีโจรสองคนกำลังกดองค์หญิงใหญ่ลงกับพื้น และพยายามฉีกทึ้งกระโปรงของนาง
โจวชิงหวารีบเตะก้อนหินเข้าใส่เ้าโจรชั่ว จนฝ่ามืออีกฝ่ายถูกเจาะเป็รูโบ๋
“อ๊าก....!” เสียงร้องโหยหวนด้วยความเ็ปดังลั่น
โจวชิงหวาใช้วิชาตัวเบา เหินทะยานไปอยู่ข้างๆ กู่อวี่เสวียน แล้วถอดเสื้อคลุมออกมาปกปิดเรือนร่างของนางไว้
เมื่อเห็นว่าศัตรูตรงหน้าเหนือกว่า เหล่าโจรป่าจึงพากันเข้ามากลุ้มรุม แม้โจรเหล่านี้จะมากไปด้วยฝีมือ แต่ก็ไม่อาจเทียบชายหนุ่มได้อยู่ดี
ไม่นานนัก กลุ่มโจรก็แตกพ่าย พากันวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง
ซึ่งโจวชิงหวาก็มิได้ไล่ตาม แต่รีบวิ่งเข้าไปดูกู่อวี่เสวียน และช่วยพยุงอีกฝ่ายขึ้นมา “องค์หญิง กลับกันเถอะพ่ะย่ะค่ะ”
หญิงสาวดึงเสื้อคลุมเข้ามากระชับร่าง... หัวใจที่บอบช้ำ คล้ายจะได้รับการเยียวยาแล้ว “ขอบคุณมาก”
ไม่เหมือนกันจริงๆ ด้วย โจวชิงหวาผู้นี้ ไม่เหมือนกับมู่หรงจิ่งหลีแม้แต่น้อย!
พอเห็นแววตาที่หญิงสาวมองตน ชายหนุ่มก็ตระหนักได้ทันใด ว่าจากนี้ไป เขาต้องเจอเื่น่าปวดหัวอีกมากมายเป็แน่!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้