บทที่ 6:อำนาจและการควมคุมเขตกรค้าในต้าิ
แสงอาทิตย์ยามเช้าต้นฤดูหนาวในเมืองหลวงแห่งต้าิยังคงถูกบดบังด้วยม่านหมอกจางๆ ทว่าสมรภูมิการค้ากลับร้อนระอุขึ้นทุกขณะ ชื่อของ เสนาบดีหลี่เฉินกง แห่งตระกูลหลี่ คือขุนเขาที่ทอดเงาทะมึนปกคลุมวงการค้าเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็เกลือ เครื่องเทศ ผ้าไหม หรือแม้กระทั่ง "สุรา" ธุรกิจหลักที่สามารถเก็บภาษีทำเงินมหาศาลและเป็เส้นเืหลักของราชสำนัก
อำนาจในมือของเขาแข็งแกร่งดุจกำแพงเมืองจีน แต่กำแพงที่สูงเกินไปย่อมบดบังสายพระเนตรขององค์จักรพรรดิ ราชสำนักจึง้า "ถ่วงดุล" อำนาจ การประกาศจัด "การแข่งขันสุดยอดสุราแห่งต้าิ" จึงเปรียบเสมือนการโยนก้อนหินลงไปในน้ำนิ่ง เพื่อท้าทายราชสีห์ผู้ครองป่าอย่างตระกูลหลี่
ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงราวกับไฟลามทุ่ง แต่ข่าวที่น่าจับตาที่สุดคือการกลับมาของ "พยัคฆ์หลับ" อย่าง ตระกูลจ้าว ที่เคยรุ่งโรจน์ในอดีต พวกเขาประกาศจะส่ง "เหมาไถพันลี้" สูตรเด็ดประจำตระกูลเข้าท้าชิงบัลลังก์อีกครั้ง นี่คือาที่ทุกคนต่างรู้ดีว่าเดิมพันนั้นสูงกว่าแค่เกียรติยศและเงินทอง แต่มันคืออนาคตของวงการสุราทั้งหมดในต้าิ
ในจวนเสนาบดีหลี่เฉินกง
เสียงฝีเท้าหนักแน่นก้องไปทั่วโถงใหญ่ที่ประดับประดาอย่างหรูหรา เสนาบดีหลี่เฉินกงเดินกลับเข้ามาในจวนด้วยสีหน้าบึ้งตึง คิ้วของเขาขมวดเป็ปมแน่น บ่งบอกถึงอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ภายใน
“ข่าวลือเื่ตระกูลจ้าวหนาหูขึ้นทุกวัน!” เขาเค้นเสียงต่ำลอดไรฟัน ขณะที่ จางเซี๊ยะเหนี๋ยง ภรรยาผู้เลอโฉมรีบเข้ามาปรนนิบัติ “พวกมันคิดจะใช้การแข่งขันครั้งนี้เป็บันไดเหยียบหัวข้าขึ้นไปรึ!”
“ท่านพี่อย่าได้ร้อนใจไปเลยเ้าคะ” จางเซี๊ยะเหนี๋ยงเอ่ยปลอบ “ตระกูลจ้าวในยามนี้ก็เหมือนตะเกียงใกล้สิ้นน้ำมัน หลังสิ้นผู้นำคนเก่าไป พวกเขาก็แทบไม่เหลืออะไรแล้ว จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนมาสู้กับเรา”
“เ้าไม่เข้าใจ!” หลี่เฉินกงตวาด “ต่อให้ตกอับ แต่ชื่อของพวกมันยังขายได้! ราชสำนักพร้อมจะหนุนหลังพวกมันเพื่อลดทอนอำนาจข้า ข้าจะไม่มีวันยอมให้ใครมาชิงธุรกิจที่ข้าสร้างมากับมือไปเด็ดขาด!”
เขาขบกรามแน่น ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความอำมหิต ก่อนจะะโเรียกคนรับใช้ “ไปตาม หวังเฟิง และ หวังหยู๋ มาพบข้าบัดเดี๋ยวนี้!”
ไม่นานนัก สองมือสังหารในเงาผู้ทำหน้าที่เก็บกวาดศัตรูทางการค้าให้ตระกูลหลี่ก็มาคุกเข่าอยู่เบื้องหน้า
“ตระกูลจ้าวกำลังจะลงแข่ง” หลี่เฉินกงกล่าวเสียงเ็า “ข้า้าให้พวกเ้าส่งคนแทรกซึมเข้าไปในโรงกลั่นของมัน สืบให้รู้ว่าพวกมันมีแผนการอะไร โดยเฉพาะสูตรสุราที่จะใช้แข่ง แล้วจัดการ...ทำลายมันซะ ก่อนที่พวกมันจะมีโอกาสได้ผงาดขึ้นมาอีกครั้ง!”
“น้อมรับคำสั่ง!” สองพี่น้องรับคำอย่างแข็งขัน ก่อนจะหายไปในเงามืดราวกับภูตผี
ณ โรงกลั่นสุราตระกูลจ้าว
บรรยากาศภายในโรงกลั่นเต็มไปด้วยความคึกคักและความหวัง หลังจากค่ำคืนแห่งการค้นพบ "เหม่าไถพันลี้รำพันจันทรา" จ้าวลู่ซื่อได้เรียกประชุมทีมงานหลักทันที
“ทุกคนคงรู้แล้วว่าตระกูลหลี่คงไม่ปล่อยให้เราลงแข่งขันอย่างสงบสุขแน่” นางประกาศกร้าวต่อหน้า หยางเฟิง ชายหนุ่มร่างกำยำผู้ดูแลความปลอดภัย และ โจหลิว ผู้มีไหวพริบด้านการตลาด “ข้า้าให้เพิ่มเวรยามตรวจตราทุกจุด โดยเฉพาะห้องเก็บสุราและห้องทดลองที่เราเพิ่งจัดตั้งขึ้น! เราจะพลาดไม่ได้อีกแล้ว!”
ิซัวหลงที่ยืนอยู่ในวงประชุมด้วยในฐานะ "หยวนลู่" เอ่ยเสริมขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบแต่หนักแน่น “เราไม่อาจประมาทได้ ตระกูลหลี่คุมตลาดส่วนใหญ่ พวกเขามีทั้งคนและอำนาจ การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ในสนามแข่ง แต่เกิดขึ้นทุกย่างก้าวที่เราเดิน”
จ้าวลู่ซื่อพยักหน้ารับ นางเหลือบมองเขาด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป "หยวนลู่" คนนี้ดูสุขุมและมองการณ์ไกลกว่าที่นางเคยรู้จัก (ซึ่งนางไม่รู้เลยว่าเขากำลังใช้ประสบการณ์ของหน่วยรบพิเศษจากโลกอนาคตในการประเมินสถานการณ์)
“ข้าเห็นด้วย” นางกล่าว “โจหลิว ท่านช่วยไปสำรวจตลาดและร้านค้าในเครือของเรา จับตาดูความเคลื่อนไหวของตระกูลหลี่ หากมีข่าวลือหรือการกดดันใดๆ ให้รีบรายงาน ส่วนหยางเฟิง ท่านรับผิดชอบความปลอดภัยภายในทั้งหมด”
“ขอรับคุณหนู!” ทั้งสองรับคำอย่างแข็งขัน
ขณะที่ทุกคนกำลังวางแผนรับมือกับศึกรอบด้าน ิซัวหลงกำลังวิเคราะห์สถานการณ์ในใจ เขารู้ดีว่าาธุรกิจในยุคนี้โหดร้ายไม่ต่างจากาในสนามรบ การลอบวางเพลิง การข่มขู่ หรือแม้กระทั่งการลอบสังหารล้วนเป็เื่ที่เกิดขึ้นได้
“การตลาดไม่ใช่แค่การขายของ” เขาเปรยขึ้นมาลอยๆ แต่จงใจให้ทุกคนได้ยิน “แต่มันคือการสร้างเื่ราวและควบคุมการรับรู้ของผู้คน”
ทุกคนหันมามองเขาเป็ตาเดียว
ิซัวหลงจึงอธิบายต่อ “ตระกูลหลี่มีอำนาจ แต่สุราของพวกเขาขาด ‘เื่ราว’ มันเป็เพียงสินค้าที่ผลิตออกมาจำนวนมาก แต่ ‘เหม่าไถพันลี้รำพันจันทรา’ ของเราไม่ใช่... มันมีทั้งตำนานของตระกูลจ้าว และมีนวัตกรรมที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน”
โจหลิวผู้มีหัวการค้าตาวาวขึ้นมาทันที “ท่านหยวนลู่หมายความว่า...เราควรจะปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับสุราสูตรใหม่ของเราออกไปงั้นหรือ?”
“ถูกต้อง” ิซัวหลงยิ้มมุมปาก “แต่ไม่ใช่การเปิดเผยทั้งหมด เราจะสร้าง ‘ปริศนา’ ให้ผู้คนสงสัยและอยากติดตาม เราจะปล่อยข่าวลือไปว่าตระกูลจ้าวได้ค้นพบวิธีการกลั่นสุราแบบใหม่ที่สืบทอดจากเทพสุราในตำนาน ทำให้สุรามีรสชาติราวกับดื่มแสงจันทร์... ให้ผู้คนพูดกันปากต่อปาก สร้างความคาดหวังให้สูงที่สุดก่อนวันแข่งขัน เมื่อตระกูลหลี่ได้ยิน พวกมันจะยิ่งร้อนรนและอาจเผยจุดอ่อนออกมาเอง”
นี่คือกลยุทธ์การตลาดแบบ "Hype Marketing" จากศตวรรษที่ 21 ที่ไม่มีใครในยุคนี้เคยได้ยินมาก่อน
จ้าวลู่ซื่อมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความทึ่งและชื่นชมอย่างปิดไม่มิด นางไม่เพียงได้นักรบกลับมา แต่ดูเหมือนว่านางจะได้ยอดนักกลยุทธ์ผู้มองทะลุเกมการค้ามาเป็พวกด้วย
“ยอดเยี่ยมมาก” นางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “โจหลิว จัดการตามที่คุณชายหยวนลู่แนะนำได้เลย เราจะเปลี่ยนจากฝ่ายตั้งรับ...มาเป็ฝ่ายรุก!”
ประกายไฟแห่งการต่อสู้ได้ถูกจุดขึ้นแล้ว าครั้งนี้ไม่ได้วัดกันที่รสชาติของสุราในจอกเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่มันได้ขยายขอบเขตไปสู่าแห่งข่าวลือ กลยุทธ์ และการชิงไหวชิงพริบในทุกตารางนิ้วของเมืองหลวงแห่งนี้ โดยมี "เหม่าไถพันลี้รำพันจันทรา" เป็อาวุธลับที่จะตัดสินชะตากรรมของทุกสิ่ง..!
