อาเหวินและอาอู่ขยับแล้ว
เงาของพวกเขาเคลื่อนไหวรวดเร็วประดุจภูติผี เพียงครู่เดียวก็จับบ่าวหญิงสองคนที่เป็ผู้นำมาไว้ข้างกายเยี่ยนเจาเจา
บ่าวหญิงทั้งสองต่างก็เป็คนปรนนิบัติของเยี่ยนหลิวซื่อ เยี่ยนเจาเจามองแล้วอดรังเกียจไม่ได้
“คุณหนู โปรดหันกลับไปขอรับ”
เฆี่ยนคนตายมิใช่เื่ล้อเล่น หากลงมือจริงๆ เสียงตีจะดังพลั่กๆ อย่างต่อเนื่อง เมื่อลงไม้แต่ละยก ผิวจะเปิด หนังจะหลุด เืเนื้อจะผสมปนเปจนแยกไม่ออกแน่นอน คุณหนูสูงค่าอย่างเยี่ยนเจาเจาจะทนมองสิ่งเหล่านี้ไหวได้หรือไร?
เมื่ออาเหวินและอาอู่กำลังจะลงมือ บ่าวหญิงเหล่านี้จึงตระหนักว่าเยี่ยนเจาเจามิได้ล้อเล่น
“คุณหนู! ท่านจะตีผู้น้อย ผู้น้อยย่อมไม่คัดค้าน แต่ข้าน้อยขอเพียงฝากไว้สักประโยค หากท่านห่วงใยสุขภาพของฮูหยินเฒ่าเหมือนพวกเราบ่าวชรา ถึงจะตีผู้น้อยก็ไม่เป็ไร แต่ต้องหาปีศาจให้พบเ้าค่ะ”
คนผู้นี้คือหยางซื่อ บ่าวหญิงอีกคนที่ติดตามมาจากบ้านเดิมของเยี่ยนหลิวซื่อ ชาติก่อนเยี่ยนเจาเจาไม่ค่อยได้คลุกคลีกับนางเท่าไรนัก จึงไม่รู้ว่านางปากคอเราะรายขนาดนี้
ทว่าเยี่ยนเจาเจาจะปล่อยให้คนมาเหยียบหัวในเรือนตนเองไม่ได้เด็ดขาด
“จัดการเสีย แล้วมัดคนอื่นๆ ในเรือนไว้ทั้งหมด”
เยี่ยนเจาเจาโกรธจัด แต่น้ำเสียงกลับยิ่งเฉยชาลง
นางยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ทอดมองด้วยแววตาไร้ความรู้สึก
“คุณหนู! ท่านเป็เหลนสาวแท้ๆ คนหนึ่งของฮูหยินเฒ่า วันนี้ฮูหยินเฒ่าหลอนปีศาจนั่นจนหวาดผวา แต่ท่านกลับขัดขวาง ท่านมีเจตนาอะไรเ้าคะ!”
มีหญิงรับใช้อ่อนวัยกว่าคนหนึ่งะโใส่เยี่ยนเจาเจาอย่างไม่พอใจ แม้คำพูดคำจาฟังดูห่วงใยเยี่ยนหลิวซื่อมาก แต่เยี่ยนเจาเจาจำได้ว่าหญิงรับใช้คนนี้มาจากเรือนเยี่ยนฟางหวา
ในเมื่อเป็คนจากเรือนเยี่ยนฟางหวา ก็ย่อมเป็คนของหวังซื่อ พวกนางสร้างสถานการณ์อึกทึกขนาดนี้ เกรงว่าไม่เพียง้าให้เยี่ยนเจาเจาถูกชิงชัง และกระตุ้นความขัดแย้งระหว่างเยี่ยนเจาเจากับเยี่ยนหลิวซื่อเท่านั้น พวกนางยัง้ายัดบทคนอกตัญญูให้เยี่ยนเจาเจาอีกด้วย
สมกับเป็หวังซื่อจริงๆ ลงมือทีเดียวได้นกถึงสามตัว
แต่น่าเสียดายที่แผนการของนางวันนี้ถูกกำหนดมาแล้วว่าต้องล้มเหลว
เยี่ยนเจาเจาเมินคำพูดหญิงรับใช้คนนั้น หากไปโต้ตอบด้วยก็จะเป็การลดฐานะตนเองลงเปล่าๆ แต่เสี่ยวชุ่ยกลับทนไม่ไหวแทน นางเท้าเอวเพรียวบางของตน ก่อนจะด่าเปิงด้วยความโกรธ
“หากเ้าห่วงสุขภาพฮูหยินเฒ่าจริง ทำไมมิไปเชิญท่านหมอมาเล่า กลับเชิญหมาแมวพวกนี้มาเล่นปาหี่ในเรือนของพวกเราแทน เ้ามีเจตนาอะไรกันแน่?”
เด็กบำเพ็ญพรตกับผู้เกี่ยวข้องรอบๆ ได้ยินแล้วตัวแข็งทื่อ ใจลอบคิดว่าสาวใช้ข้างกายคนนี้ดูอายุยังน้อย นึกไม่ถึงว่าฝีปากจะเราะรายเพียงนี้
แต่อาเหวินกับอาอู่ไม่มีอารมณ์จะสนใจว่าพวกเขาคิดสิ่งใดอยู่ บ่าวหญิงคนนั้นโดนอาเหวินพลิกคว่ำลงไปร้อง “โอ๊ยๆ” บนพื้นในชั่วพริบตา
เยี่ยนเจาเจาหันหลังไม่มองอีก บ่าวหญิงยังร้องะโต่อไป ส่วนองครักษ์คนอื่นๆ ก็เข้ามามัดเหล่านักพรตทั้งหมดไว้ตรงลานบ้าน
แม้ว่าพวกเขาค่อนข้างกลัวฮูหยินเฒ่า ทว่าคนของสวนมวลบุปผาหอมเป็เ้านายตัวจริงของพวกเขา ณ เวลานี้เยี่ยนเจาเจาอยู่ที่นี่ คำพูดของนางย่อมเป็ประกาศิต
เสียงทุบตีสม่ำเสมอดังพลั่กๆ อย่างต่อเนื่อง จนบ่าวหญิงพูดไม่ออกอีกต่อไป ทำได้เพียงร้องห่มร้องไห้ะโว่าเจ็บ
บ่าวหญิงสองคนนั้น วันๆ เอาแต่เชิดหน้าชูตาอยู่ข้างกายเยี่ยนหลิวซื่อจนเคยตัว ไม่เคยถูกทรมานแบบนี้มาก่อน ยามนี้ถูกตีต่อหน้าคนเป็ฝูง จึงทั้งเจ็บทั้งโกรธจนสลบไปทันที
“คุณหนู ยังตีต่อหรือไม่ขอรับ?”
อาเหวินเห็นบ่าวหญิงชราสองคนสลบกันหมด จึงค่อยๆ รามือ หันมาขอคำสั่งจากเยี่ยนเจาเจาชั่วขณะ
เยี่ยนเจาเจายิ้มเยาะ “ตีไม่กี่ทีก็สลบแล้ว?”
เสี่ยวชุ่ยได้รับสายตาจากเยี่ยนเจาเจาแล้วตกตะลึง แต่เพียงครู่เดียวก็เข้าใจความหมายที่ส่งมา จึงเอ่ยปากอย่างไม่รู้ตัวว่า “ยายแก่พวกนี้กล้ามาแกล้งสลบใต้จมูกคุณหนูของพวกเรา ไม่เห็นคุณหนูอยู่ในสายตาชัดๆ! ตีต่อไป!”
ที่เยี่ยนเจาเจาเอ่ยว่าเฆี่ยนให้ตายเมื่อสักครู่ นางมิได้ล้อเล่น หากวันนี้ปราบคนกลุ่มนี้ไม่ลง ภายภาคหน้าคนบ้านใหญ่คงจะมาปีนกระเบื้องเลาะหลังคาสวนมวลบุปผาหอมเลยกระมัง!
แต่หวังซื่อจะต้องเคลื่อนไหวในอนาคตอีกแน่ วันนี้นางจึงไม่คิดจะฆ่าคนเหล่านี้จริงๆ
สายตาเยี่ยนเจาเจามืดครึ้มราวกับบึงไร้ก้นบึ้ง มุมปากแต้มรอยยิ้มบาง แต่ใบหน้าเล็กเท่ากอบมือกลับเ็าเฉยเมยเหมือนฉาบน้ำแข็ง
ที่นี่เพิ่งเกิดเื่วุ่นวายขึ้น บ่าวหญิงชราสองคนนั้นยังโดนตีไม่ถึงสามสิบไม้ด้วยซ้ำ คนบ้านใหญ่ก็โผล่มาบอกว่าอาการใจสั่นของฮูหยินเฒ่าเป็หนักขึ้น เกรงว่ามีปีศาจรุกราน ให้ทางนี้เร่งมือกำจัดปีศาจดังที่คาด
ในบรรดาผู้มาเยือนจากบ้านใหญ่ มีบุคคลที่เยี่ยนเจาเจาไม่คาดคิด นั่นก็คือเยี่ยนฟางหวา
เดิมทีนึกว่านางโดนเยี่ยนหลิวซื่อกักบริเวณแล้วจะสงบเสงี่ยมขึ้นมาบ้าง แต่ดูๆ แล้วก็ยังโง่งม ดั้นด้นมาตายภายใต้เงื้อมมือของเยี่ยนเจาเจาเช่นเดิม
เยี่ยนเจาเจาระงับความโกรธและความเยาะหยันที่มีจนล้นอกของตนเอง ก่อนจะเปลี่ยนเป็รอยยิ้มน่ารักไร้เดียงสาแทน “พี่หญิง ท่านมาได้อย่างไรเ้าคะ?”
เยี่ยนฟางหวาเพิ่งเห็นสีหน้ายิ่งกว่าน้ำค้างแข็งของเยี่ยนเจาเจาอย่างชัดเจน พอเห็นนางแปรเปลี่ยนมาเป็รอยยิ้มสนิทสนมก็ตั้งตัวไม่ทัน คำตำหนิที่เตรียมมาจึงติดอยู่ในลำคอ เงียบกริบไปครึ่งค่อนวัน
“...น้องหญิง! ยามนี้ฮูหยินเฒ่าอาการหนักขึ้น ปกติเ้าไม่สนิทกับเยว่เอ๋อร์ก็ไม่เป็ไรหรอก แต่ฮูหยินเฒ่าเป็ถึงผู้าุโอายุยืนในจวนของพวกเรา ปีศาจนั่นรุกรานขนาดนี้ เหตุใดน้องหญิงต้องขัดขวาง!”
หลังจากเยี่ยนฟางหวาเงียบงันอยู่สักพัก ในที่สุดก็จำเป้าหมายการมาของตนเองได้ นางพูดไปก็น้ำตาก็ร่วงไป คนไม่รู้คงนึกว่านางเป็ห่วงและเอาใจใส่เยี่ยนหลิวซื่อจริงๆ!
ริมฝีปากเยี่ยนเจาเจายิ้มเยาะ ทว่าใบหน้ากลับไร้เดียงสา ท่าทางเ็ปเล็กน้อย “ที่ข้าไม่สนิทกับพี่หญิงเยว่ เดิมเป็พี่หญิงที่บอกว่าเยว่เอ๋อร์หยิ่งผยอง มิให้ข้าไปเถียงกับพี่หญิงเยว่นี่เ้าคะ”
ประโยคเบี่ยงประเด็นเช่นนี้ทำให้เยี่ยนฟางหวาแอบดีใจ คิดว่าเยี่ยนเจาเจายังคงกลั่นแกล้งง่ายเหมือนเมื่อก่อน ทว่าต่อมากลับกลายเป็เยี่ยนเจาเจาที่เอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าเปิดเผยแน่วแน่
“ยามนี้ฮูหยินเฒ่าไม่สบาย แต่พี่หญิงก็ไม่อยู่ปรนนิบัติข้างกายฮูหยินเฒ่า กลับมาหาข้าที่นี่ทำไมหรือเ้าคะ? ข้าได้ยินว่าฮูหยินเฒ่ามีอาการใจสั่น จึงรีบนำเทียบของท่านแม่ไปเชิญท่านหมอหลวงจาง แล้วพี่หญิงช่วยเชิญท่านหมอให้พี่หญิงเยว่หรือยังเ้าคะ?”
เมื่อเยี่ยนเจาเจาพูดเช่นนี้ บทไม่สนิทและอกตัญญูจึงตกคืนใส่หัวเยี่ยนฟางหวาแทน เป็การยุติข่าวลือว่านางไม่ห่วงใยฮูหยินเฒ่าโดยไม่ต้องชี้แจง
ต้องรู้ก่อนว่าปกติท่านหมอหลวงจางเชิญยากอย่างยิ่ง นอกจากฮองเฮาที่อยู่ในวัง ก็มีเพียงสวนมวลบุปผาหอมขององค์หญิงฉงหยางเท่านั้นที่มีอภิสิทธิ์ในการเรียกมาตรวจได้ทุกเวลา ท่านหมอหลวงจางมาตรวจให้ฮูหยินเฒ่าเช่นนี้ ก็ถือเป็โชคใหญ่ของจวนเยี่ยนแล้ว
เยี่ยนฟางหวาโดนเยี่ยนเจาเจาอุดปากในประโยคเดียว ข้อกล่าวหาที่คิดมาอย่างดีระหว่างทางจึงถูกย้อนจนพูดไม่ออก ได้แต่ยืนคุมเชิงอยู่เงียบๆ
ส่วนบ่าวหญิงชราที่ถูกตีสองคนนั้นต่างก็โดนกันไปคนละร้อยไม้ คราวนี้เืเนื้อผสมปนเปจนสลบเหมือดไปจริงๆ
เยี่ยนเจาเจาขยับตัวไปด้านข้างเหมือนไม่ตั้งใจ แต่กลับทำให้ภาพนองเืพุ่งมาเข้าตาเยี่ยนฟางหวาอย่างกะทันหัน จนนางสะดุ้งเฮือกถอยหลังไปหลายก้าว
ในเวลานั้นเอง ท่ามกลางเสียงอื้ออึงที่ดังขึ้นนอกหอเซียวเซียง ทุกคนได้ยินเพียงน้ำเสียงเหลือทนเสียงหนึ่งกล่าวขึ้นมาว่า “บ่าวของสวนมวลบุปผาหอมได้นำเทียบขององค์หญิงมารายงานเ้ากรมเมือง บอกว่ามีคนบุกรุกสวนมวลบุปผาหอม มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้