ในหุบเขาสยบฟ้ามีูเาที่สูงทะลุเมฆลูกหนึ่ง บนยอดของูเาสูงลูกนั้นมีศาลาที่ดูสวยสง่าและเงียบสงบตั้งอยู่
ภายในศาลาตอนนี้ ชายชราชุดขาวและชายชราชุดดำกำลังนั่งหันหน้าเข้าหากันโดยมีกระดานหมากวางคั่นกลาง
ทั้งสองกำลังเล่นหมากรุกกันอยู่
ในตอนนั้นเอง ดูเหมือนทั้งสองราวกับจะััถึงบางอย่างที่อยู่เบื้องล่างได้ ใบหน้าพวกเขาพลันกลายเป็ตื่นตระหนก
“ เฒ่าดำ เ้าเองก็ััได้เหมือนกันใช่หรือไม่ ”
ชายชราชุดสีขาวที่มีใบหน้าที่ดูเป็มิตร พูดอย่างอ่อนโยน
“ จินตภาพ ”
ส่วนชายชราชุดดำผู้เงียบขรึมพูดออกมาเพียงคำเดียว
“ อายุยังน้อยๆ ทว่ากลับบรรลุถึงจินตภาพได้แล้ว แม้จะแค่เสี้ยวเดียวแต่ก็นับว่าไม่ธรรมดา ”
ชายชราชุดขาวแย้มยิ้ม
ทั้งสองผลัดกันเดินหมากต่อไป ดูภายนอกเหมือนไม่สนใจเื่ราวที่เกิดขึ้นเบื้องล่างหุบเขา แต่ในเป็ความจริง พวกเขาได้พุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ตัวชายหนุ่มเบื้องล่างที่สามารถบรรลุเศษเสี้ยวของจินตภาพได้แล้วผู้นั้น
ชายหนุ่มที่ว่าก็คือหลงอวี้!
......
เมื่อหลงอวี้ลืมตาขึ้นก็รู้สึกราวกับว่าแรงกดทับจากฟ้าอ่อนแรงลงและหลอมรวมเป็หนึ่งเดียวกับเขา
“ น่าจะไม่มีปัญหาแล้ว ”
แววตาของหลงอวี้เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ เขาสามารถใช้พลังแค่ระดับวิถียุทธ์ขั้นสามในการพิชิตบันไดสามร้อยขั้นไปยังลัทธิสยบฟ้าได้แน่นอน!
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมั่นใจอีกว่าเศษเสี้ยวจินตภาพที่บรรลุได้เมื่อครู่ต้องเป็ตัวช่วยที่ดีในการฝึกฝนหลังจากนี้
สัญลักษณ์ัเขียวบริเวณหน้าอกค่อยๆ ร้อนผ่าว หลงอวี้รู้ว่าสัญลักษณ์ัต้องมีส่วนช่วยให้เขาบรรลุเศษเสี้ยวจินตภาพได้แน่นอน คิดไม่ถึงว่าเ้าสัญลักษณ์นี่จะเป็ประโยชน์กับเขาขนาดนี้
ความเร็วในทุกฝีก้าวของเขาตอนนี้เพิ่มขึ้นทุกขณะ พร้อมกับเศษเสี้ยวจินตภาพที่ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ถานเยว่ อู๋ชิงและหานเจี้ยนที่ยืนอยู่บนบันไดขั้นที่สามร้อยนั้นยังคงจ้องมองหลงอวี้ที่อยู่เบื้องล่างด้วยความเย้ยหยัน
“ พวกเ้าว่ามันจะขึ้นมาได้ถึงขั้นที่เท่าไร ”
ถานเยว่ถามด้วยความสนุกสนาน ราวกับกำลังเล่นเกม
“ จากที่ดูจากพลังวรยุทธ์ขั้นสามของมัน อย่างมากสุดก็แค่หนึ่งร้อยห้าสิบขั้นเท่านั้น นั่นคือขีดจำกัดของมัน ”
อู๋ชิงใช้น้ำเสียงดูแคลนพูดอย่างมั่นใจ
ทันทีที่เขาพูดออกไป ก็เห็นหลงอวี้ก้าวเท้าได้อย่างเบาหวิว เพียงครู่เดียวก็ข้ามบันไดขั้นที่ร้อยห้าสิบมาได้
อู๋ชิงหน้าเสียทันที ทำแบบนี้เหมือนเป็การตบหน้าเขาชัดๆ เลยไม่ใช่หรือ
“ ไม่เกินสองร้อยก้าว ”
หานเจี้ยนพูดโดยที่ไม่ได้ใส่ใจอะไร ผู้ฝึกวรยุทธ์ขั้นสามห่างชั้นกับเขาถึงสองขั้น เทียบกันแล้วนับว่ายังอ่อนแอมาก
หลังจากพูดจบได้ไม่ทันไร หลงอวี้ที่อยู่เบื้องล่างกลับสามารถก้าวเดินต่อไป จนผ่านขั้นที่สองร้อยอย่างง่ายดาย!
ถึงตอนนี้ ในที่สุดทั้งสามคนเริ่มรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
“ หรือว่ามันยกระดับแล้ว ”
ถานเยว่รู้สึกประหลาดใจ
“ ผู้ใดจะยกระดับพลังในสถานการณ์เช่นนี้ได้ เ้าหมอนี่ต้องพบกลโกงบางอย่างได้แน่ หากมันขึ้นมาได้จริง ข้าจะสั่งสอนให้มันรู้ว่าลัทธิสยบฟ้าไม่ใช่ที่สำหรับคนโกง! ”
อู๋ชิงเผยสีหน้าอำมหิต
คำพูดนี้ทำให้ถานเยว่รู้สึกพอใจ
ดูท่าเ้าอู๋ชิงนี่จะฉลาดไม่เบา เพราะถ้าไม่มีข้ออ้างที่ดีพอ พวกเขาก็ไม่สามารถลงมือกับไอ้สวะนี่ได้เหมือนกัน
หากมีพวกเขาอยู่ ต่อให้ไอ้สวะนี่จะยกระดับขึ้นสู่ขั้นสี่ได้กะทันหันจริง ก็ไม่มีทางได้เข้าร่วมลัทธิสยบฟ้าแน่นอน!
เพียงครู่เดียวเท่านั้น หลงอวี้ได้ก้าวข้ามบันไดศิลาขั้นที่สองร้อยห้าสิบไป และยังมุ่งหน้าต่อไป
สองร้อยแปดสิบ
สองร้อยเก้าสิบ
สามร้อยขั้น!
หลงอวี้ก้าวขึ้นมาเหยียบบนบันไดศิลาขั้นที่สามร้อยและไม่รู้สึกถึงแรงกดทับอีกต่อไป เขาผ่านด่านหุบเขาสยบฟ้า และได้เป็ลูกศิษย์ระดับล่างตามกฎของลัทธิสยบฟ้าแล้ว!
ไม่เพียงเท่านั้น หลงอวี้ยังได้ผลประโยชน์ติดตัวมาด้วย นั่นคือการที่เขาสามารถบรรลุถึงจินตภาพบนหน้าผาของหุบเขาได้
หลังจากบรรลุจินตภาพได้ หลงอวี้รู้สึกว่าตัวเองเป็หนึ่งเดียวกับฟ้าดินผืนนี้มากขึ้น ถึงขั้นที่อาจสามารถปล่อยพลังออกไปได้มากกว่าเดิมประมาณหนึ่ง
ทว่ายังไม่ทันจะได้ทำความคุ้นชินกับจินตภาพที่บรรลุได้เมื่อครู่ เขาเห็นร่างคนทั้งสามกำลังเดินมาทางนี้
“ ถานเยว่หรือ ”
หลงอวี้เงยหน้า ขมวดคิ้วมองถานเยว่และลูกศิษย์ลัทธิสยบฟ้าสองคนที่เดินมาทางเขาด้วยท่าทางไม่เป็มิตร
ท่าทางของชายหนุ่มสองคนนั้นเห็นได้ชัดว่าประจบสอพลอถานเยว่สุดชีวิตไม่มีทางที่จะมาแสดงความยินดีกับเขาอย่างแน่นอน
คนที่มีดวงตาเล็กจิ๋ว ร่างกายผอมแห้งราวกับลิงพุ่งตัวมาอยู่ข้างหน้าหลงอวี้อย่างรวดเร็ว
เ้านี่คืออู๋ชิง
อู๋ชิงตะคอกถามอย่างดูแคลน “ สวะอย่างเ้าริอ่านจะเข้าร่วมลัทธิอย่างนั้นหรือ ”
ที่เขาใช้คำว่า ‘ สวะ ’ ออกมาตรงๆ เช่นนี้ก็เพื่อยั่วยุให้หลงอวี้โมโห หากหลงอวี้เดือดดาลจนอาละวาด เขาจะสามารถสั่งสอนและขับไล่หลงอวี้ออกไปได้ และที่สำคัญยังได้แสดงผลงานต่อหน้าถานเยว่อีกด้วย
“ สวะหรือ? ”
หลงอวี้มีสีหน้าปกติ เหลือบมองอู๋ชิงเล็กน้อย
“ ใช่แล้ว แม้เ้าจะผ่านหุบเขามาได้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีสิทธิ์เข้าร่วมลัทธิสยบฟ้า ”
อู๋ชิงพูดเย้ยหยัน “ ตอนนี้ข้าอยู่ในวิถีวรยุทธ์ขั้นสี่ หากเ้าไม่สามารถล้มข้าได้เช่นนั้นจงรีบไสหัวกลับไปซะ อย่าอยู่ให้รกหูรกตาเลย! ”
หลงอวี้ที่ถูกสบประมาทตอบกลับไปอย่างเฉยชา “ ข้าจะเข้าร่วมลัทธิได้หรือไม่ คนอย่างเ้ามีสิทธิ์ตัดสินด้วยหรือ ”
“ เ้าว่าอะไรนะ?”
อู๋ชิงได้ยินเช่นนั้น พลันพิโรธเดือดดาล ไอ้เวรตรงหน้าบังอาจลบหลู่เขาถึงเพียงนี้ ถึงกับกล้าเรียกเขาว่า ‘คนอย่างเ้า’ อย่างนั้นหรือ
จริงอยู่ที่ระดับพลังของเขาในลัทธิสยบฟ้านับว่าต่ำต้อย แต่ถึงอย่างไรเขาก็ได้ฝึกวิทยายุทธ์ของลัทธิสยบฟ้าแล้ว ไอ้เวรที่เพิ่งผ่านหุบเขาสยบฟ้ามาได้มีสิทธิ์อะไรมาดูถูกเขา
“ ข้าว่า…เ้าน่าจะไม่มีสิทธิ์มากำหนดว่าข้าจะเข้าร่วมลัทธิได้หรอกนะ? ”
หลงอวี้เดินหน้าต่อ ไม่หวาดกลัวอู๋ชิงแม้แต่น้อย!
แม้อู๋ชิงจะเป็ลูกศิษย์ของลัทธิสยบฟ้ามานาน และน่าจะได้ฝึกวิทยายุทธ์ของลัทธิแล้ว แต่หลงอวี้หาได้หวาดกลัวอีกฝ่ายไม่ ใบหน้าของเขายังประดับไว้ด้วยรอยยิ้ม แต่เป็รอยยิ้มที่มีกลิ่นอายสังหารซุกซ่อน
หลงอวี้คุ้นชินกับการสำรวจผู้คนรอบตัวมาเป็เวลานาน ไม่ว่าจะเป็สีหน้าท่าทาง การเคลื่อนไหวและพลังของคนสามคนตรงหน้า เขาล้วนอ่านออกอย่างทะลุปรุโปร่งั้แ่แรก
ถานเยว่และอู๋ชิงน่าจะมีวิถีวรยุทธ์ขั้นสี่ ส่วนอีกคนมีระดับสูงกว่าหน่อย น่าจะขั้นที่ห้า
เ้าอู๋ชิงรีบเสนอหน้าก่อนใคร เลยถูกหลงอวี้ตอกกลับไปอย่างไม่เกรงใจ
วิถีวรยุทธ์ของหลงอวี้ตอนนี้คือขั้นสาม มีพละกำลังสี่พันชั่ง ถ้ากระตุ้นสัญลักษณ์ัขึ้นมาด้วย เขาจะมีพลังมากถึงห้าพันชั่ง ไหนจะยังมีเศษเสี้ยวจินตภาพที่เพิ่งบรรลุได้หมาดๆ ด้วย เขาอาจจะต่อกรกับอู๋ชิงที่มีพละกำลังแปดพันชั่งได้
ยิ่งไปกว่านั้น หลงอวี้ยังมีประสบการณ์เสี่ยงตายนับครั้งไม่ถ้วนจากชาติที่แล้วไม่ว่าจะเป็เื่ของจิตใจหรือเื่ใดล้วนเหนือกว่าอู๋ชิงแน่นอน
“ ไอ้สวะ เ้ารนหาที่ตายเองนะ! ”
ในดวงตาเล็กจ้อยของอู๋ชิงเต็มไปด้วยโทสะ
“ วันนี้ข้าจะสั่งสอนเ้าเองว่าการทำตัวไร้สัมมาคารวะในลัทธิสยบฟ้าจะมีจุดจบเช่นไร! ”
พอพูดจบ อู๋ชิงก็เคลื่อนไหวทันที เขาก้าวเท้าออกไปพร้อมรวบรวมพลังลมปราณ
ลมปราณภายในตัวเขาไหลเวียนอย่างรุนแรง หมัดทั้งสองอัดแน่นไปด้วยพลังลมปราณ!
ผู้ฝึกวรยุทธ์ขั้นสี่ได้เท่านั้นที่จะสามารถรวบรวมลมปราณไว้ได้ในที่เดียว พลังโจมตีและป้องกันแข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าวะโ
วิถีวรยุทธ์ขั้นสี่ถือเป็จุดสูงสุดของผู้ฝึกวรยุทธ์่แรก
ใบหน้าของอู๋ชิงแฝงความดูถูกเย้ยหยัน เขาพุ่งทะยานออกไปราวกับพายุสายหนึ่ง พร้อมกับหมัดที่อัดแน่นไปด้วยลมปราณ
บัดนี้เขาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าหลงอวี้แล้ว!
“ รวดเร็วมาก! ”
หลงอวี้ตกตะลึงจนถอยหลังอย่างรวดเร็วพร้อมกับก้มหัวลงหลบหมัดของอู๋ชิงได้อย่างฉิวเฉียด
“ ไอ้สวะ เมื่อกี๊เ้าวางท่าว่าเก่งมากมิใช่หรือ เหตุใดตอนนี้จึงวิ่งหนีหางจุกตูดแบบนี้เล่า ”
อู๋ชิงพูดจาเสียดสีหลงอวี้
“ นี่คือวิชาของลัทธิสยบฟ้า เรียกว่าท่า ‘วายุก้าวพริบตา’ ครานี้ข้าจะออกแรงเต็มกำลัง ไหนดูซิว่าเ้าจะหลบอย่างไร! ”
พอพูดจบอู๋ชิงก็เร่งฝีเท้าเร็วขึ้น วินาทีต่อมาร่างผอมแห้งของมันก็มาอยู่หน้าหลงอวี้อีกครั้ง หมัดที่รวบรวมลมปราณทั้งหมดไว้ใกล้จะหวดใส่หลงอวี้ในไม่ช้า
ด้วยระดับของหลงอวี้ในตอนนี้ หมัดนี้ถ้าเขาไม่ตายก็ต้องพิการอย่างแน่นอน!
ในตอนนั้นเอง อู๋ชิงพลันััได้ถึงพลังจินตภาพอันแข็งแกร่งสายหนึ่ง มันถูกปล่อยออกมาจากเป้าหมายตรงหน้า ทำให้การโคจรลมปราณทั่วร่างของเขาชะงักไปทันที
อู๋ชิงตื่นตะลึงสุดขีด
‘นี่มันพลังบ้าอะไรกัน ไอ้สวะตรงหน้ามีบรรยากาศน่าเกรงขามขนาดนี้ได้อย่างไร ’
“ จริงอยู่ที่วายุก้าวพริบตามีความเร็วสูง แต่เมื่อต้องปะทะกับพลังอันเด็ดขาดแค่ความเร็วอย่างเดียวจะมีประโยชน์อะไร?”
หลงอวี้พูดอย่างเ็า จากนั้นก้าวเท้าออกไปโดยให้จินตภาพอันทรงพลังปกคลุมร่างกายผอมบางของอู๋ชิงไว้
หลงอวี้ปลดปล่อยเศษเสี้ยวจินตภาพที่บรรลุได้ในหุบเขาเมื่อครู่ออกมา มันสร้างผลลัพธ์อันน่าประหลาด เขาสามารถสะกดอู๋ชิงที่เป็ผู้ฝึกวรยุทธ์ขั้นสี่ไว้ได้
จากนั้นหลงอวี้ก็ได้ปลุกสัญลักษณ์ัขึ้นมา รวบรวมพละกำลังได้ทั้งหมดห้าพันชั่ง ก่อนจะชกออกไปหนึ่งหมัด ต่อด้วยหนึ่งเท้าเตะใส่อู๋ชิงในมุมพิสดาร
แม้อู๋ชิงจะถูกพลังจินตภาพปกคลุมร่าง ทำให้การเคลื่อนไหวช้าลงเล็กน้อย ทว่าพละกำลังกว่าแปดพันชั่งของขั้นที่สี่ยังคงอยู่
เมื่อเผชิญกับการโจมตีของหลงอวี้ อู๋ชิงยังตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว เขาปล่อยหมัดที่รวบรวมลมปราณไว้ออกไป พริบตานั้นก็ซัดหมัดของหลงอวี้จนต้องถอยกลับจากนั้นเสียงกระดูกแตกก็ดังตามมา
ในด้านของพลัง หมัดนี้หลงอวี้พ่ายให้กับอู๋ชิงในด้านของพลังจนกระดูกมือแตกร้าว!
แต่นั่นไม่ใช่เื่ใหญ่สำหรับหลงอวี้ การเผด็จศึกมันต่อจากนี้ต่างหากที่สำคัญ
ลูกเตะที่ตามหลังหมัดไปในมุมอันพิสดารนั่น หวดเข้าใส่่เอวของอู๋ชิงในเวลาต่อมา พละกำลังมหาศาลซัดอู๋ชิงจนกระเด็นไปไกลนับสิบเมตรก่อนจะร่วงลงกระแทกพื้นแล้วกลิ้งไปอีกสองตลบ เปรอะฝุ่นเลอะโคลนไปทั้งตัว
ลูกเตะนี้ทำให้อู๋ชิงได้รับาเ็สาหัสจนลุกไม่ไหว ได้แต่นอนร้องโอดโอยอยู่บนพื้น
“ อู๋ชิง! ”
หานเจี้ยนที่เดิมทีแค่อยากยืนดูเื่สนุกๆ ก็ตื่นตะลึงขึ้นมาทันที คิดไม่ถึงว่าหลงอวี้จะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ สามารถเตะอู๋ชิงจนกระเด็นได้ในครั้งเดียว
“ สวะจริงๆ ”
ถานเยว่ในชุดสีแดงเผยสีหน้าอำมหิต นางสบถด่าออกมาหนึ่งประโยค
แต่เดิมนางคิดว่าอู๋ชิงจะสั่งสอนไอ้คนชุดดำจอมโอหังนั่นได้สักหน่อย ไม่คิดว่าจะกลับตาลปัตรเป็ถูกสั่งสอนไปเสียเอง ทำให้นางขายหน้าอย่างรุนแรง!
“ ตอนนี้ข้ามีสิทธิ์เข้าร่วมลัทธิสยบฟ้าแล้วหรือยัง ”
หลงอวี้ข่มความเ็ปของกระดูกมือที่หักเอาไว้ เหลือบมองที่ถานเยว่และหานเจี้ยนอย่างเ็า
“ ฝันไปเถิด! หานเจี้ยน เ้าจงไปสั่งสอนมันซะ ทำให้มันต้องเสียใจที่บังอาจมาหาเื่คุณหนูอย่างข้า! ”
ถานเยว่กระแทกเสียงออกคำสั่งกับหานเจี้ยนที่มีวรยุทธ์ขั้นห้าด้านหลัง