มันเป็ความสุขที่มาจากจิติญญาและร่างกาย!
จิติญญาัยอมแพ้ให้กับการต่อสู้ของิอวี่ มันแปรจิตสำนึกทั้งหมดเป็พลังจิต และถ่ายเททั้งหมดไปยังบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะกลายเป็พลังจิตที่แข็งแกร่งของิอวี่ ลมปราณตัวอ่อนสีขาวหล่อเลี้ยงไปตามอวัยวะภายในของิอวี่ทั้งหมด ทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งมากขึ้น และทำให้พลังชีวิตของเขาแข็งแกร่งอย่างมาก!
ิอวี่รู้สึกว่าิญญาของเขาล่องลอย ร่างกายเบาสบายขึ้นมาก มันเป็ความรู้สึกเหมือนความตายก่อนใกล้เป็เซียน อดไม่ได้เลยต้องส่งเสียงร้องขึ้นมา
พูดได้เลยว่า ตอนที่ิอวี่ดูดพลังงานอยู่นั้น เขาไม่ได้รู้สึกถึงความเ็ปอย่างมากเลย
สิ่งที่อันตรายที่สุดของลมปราณตัวอ่อนนั้นก็คือจิติญญาั เมื่อมันยอมแพ้ ลมปราณตัวอ่อนก็จะไม่ต่อต้านอีก
มันคือแหล่งพลังงานชีวิตที่ทั้งสะอาด บริสุทธิ์ และสำคัญที่สุดของไข่ั
มันเป็สารอาหารที่เป็ธรรมชาติที่สุด แทบจะไม่มีสิ่งแปลกปลอมอะไรอยู่เลย พลังงานนั้นทั้งแข็งแกร่งและหนาแน่นมากกว่ายาสมุนไพรตัวใด ผลลัพธ์เองก็ดีกว่ายาสมุนไพรหลายเท่า
ในเวลานี้ิอวี่อยู่ในห้องฝึก ลมปราณตัวอ่อนสีขาวหล่อเลี้ยงทั่วทั้งตัวของเขา มันเหมือนตัวอ่อนัที่อยู่ในไข่ ดูดซับสารอาหารเพื่อไปหล่อเลี้ยงลมปราณตัวอ่อน เพื่อรอให้ตัวอ่อน “ออกมากจากเปลือกไข่”!
ในโลกสมาธิ ร่างแปลงจากจิตสำนึกยืนอยู่ที่เดิม มีเงาของัหมุนรอบตัวของเขา และค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปในร่างของิอวี่
ขั้นตอนระหว่างนั้นช้ามาก แต่มันก็มีอยู่จริง มันค่อยๆ ซึมเข้าไปในหัวใจของจิตสำนึกร่างแปลงของิอวี่
เมื่อเวลาผ่านไป ร่างัก็ซึมเข้าไปประมาณครึ่งตัวได้ จนสุดท้ายไม่รู้ว่าผ่านไปแค่ไหน หางัก็มุดเข้าไปในหัวใจของิอวี่จนหมด
ในนาทีนี้ จิตสำนึกของิอวี่นั้นได้ดูดซับจิติญญาัเข้าไปจนพลังจิตของเขาจนหมดแล้ว
ิอวี่ััได้ว่าพลังจิตของเขานั้นแข็งแกร่งมากขึ้น อีกทั้ง เขายังััได้ว่าพลังจิตของเขาเหมือนมีความหยิ่งผยองไม่ยอมคนของัอยู่ด้วย ความดื้อรั้นโดยธรรมชาติแบบนั้น มันสอดคล้องกับความรู้สึกในใจของเขาเลย!
ในโลกสมาธิ ิอวี่ลืมตาขึ้นมา ดวงตาของเขาเหมือนมีเงาัวิ่งทะยานอยู่ ดูทรงพลังมาก
ิอวี่ยกหมัดขึ้นมาทั้งสองข้าง จากนั้นก็เดินก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วก็ซัดหมัดออกมาตรงๆ
ที่แท้ิอวี่นั้นก็มีความคิดและวางแผนเอาไว้แล้วว่าจะฝึกเพลงมวยในโลกสมาธิ!
เขาออกหมัดเร็วมาก แต่ละหมัดที่เขาซัดออกไปนั้นท่วงท่าพลิ้วไหว มันไม่ใช่เพลงหมัดที่ชกออกไปโดยผ่านการคิดทบทวน แต่เป็เพลงหมัดที่ถูกปล่อยออกมาจากจิตสำนึกด้วยความเข้าใจของตัวเอง
การเคลื่อนไหวเด็ดเดี่ยวและแฝงไปด้วยกำลังที่น่ากลัว กลายเป็เงาต่อเนื่อง ทำให้อากาศโดยรอบสั่นะเืไปหมด!
แต่ละหมัดล้วนแต่เป็หมัดคชสารัน้อย แต่ละหมัดล้วนแต่มีจิตสำนึกแห่งความไม่ยอมแพ้!
ถึงแม้ิอวี่จะฝึกหมัดคชสารัน้อยจนชำนาญแล้ว แต่่หลังมานี้เขาก็ไม่ได้ฝึกเลย เขาจึงย้อนกลับไปทบทวนบทเริ่มแรก เพื่อค้นหาจุดบกพร่องที่อยู่ในกระบวนท่าให้เข้าใจ แล้วแก้ไขมันให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
เมื่อพื้นฐานแน่นแล้ว คิดอยากจะปล่อยความหมายเที่ยงแท้ของัคชสาร จะไม่ปูพื้นก่อนได้อย่างไร?
ิอวี่เองก็ไม่รู้ว่าปล่อยหมัดไปเท่าไร แล้วก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนด้วย เขารู้ดีว่าตนเองได้คิดทบทวนหลายรอบแล้ว เขาฝึกหมัดคชสารัน้อยจนชำนาญ และสามารถปล่อยพลังออกมาอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
ในเวลานี้ ิอวี่รู้สึกว่าเป็โอกาสที่เหมาะแล้ว
หมัดของเขามันเปลี่ยนไป
หมัดที่รวดเร็วดั่งลมพายุ จู่ๆ ก็เริ่มช้าลง ิอวี่ซัดหมัดออกไป ทำให้อากาศด้านหน้าะเิออก และยังมีเสียงคำรามของัตามมานิดๆ
หากตั้งใจมองก็จะพบว่ามันมีเงาอยู่สองเงา มีคชสารเชือกใหญ่หนึ่งตัว แล้วยังมีัอยู่อีกหนึ่งตัว ที่กำลังหมุนรอบตัวของคชสารอย่างช้าๆ
ักับคชสาร มันคือตัวแทนจิตสำนึกของิอวี่ แต่ละหมัดของเขานั้นก็ล้วนแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัว!
มันคือหมัดคชสารัใหญ่!
ตอนนั้นที่ต่อสู้กับเซินถูเจ๋อ ิอวี่ใช้หมัดคชสารัใหญ่เอาชนะเซินถูเจ๋อไปได้ในหมัดเดียว
จนถึงตอนนี้ ิอวี่มีขอบเขตอมฤตขั้นที่สองแล้ว การใช้หมัดคชสารัใหญ่นั้นก็ค่อนข้างสมบูรณ์ดี แต่หลังจากที่ทำความเข้าใจหมัดคชสารัน้อยได้สมบูรณ์แบบแล้ว ตอนที่เขาปล่อยหมัดคชสารัใหญ่ ถึงแม้จะไม่ได้มีความบ้าคลั่งในแบบเดิม แต่กลับดูหนักแน่นและเรียบง่าย ให้คนรู้สึกว่าน่าเกรงขาม รู้สึกใจเต้นแรงมาก!
หมัดที่หนึ่ง หมัดที่สอง ...
ขณะที่ิอวี่กำลังทำให้หมัดคชสารัใหญ่สมบูรณ์ ก็ได้ถ่ายเทจิตสำนึกความไม่ยอมแพ้ของัเข้าไปในเพลงหมัดด้วย
ดูเหมือนสมบูรณ์ แต่ในความเป็จริงมันเป็การทดลองที่ใจกล้ามาก เพื่อก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น!
เวลาผ่านไปแล้วนาทีแล้วนาทีเล่า ในโลกสมาธิไม่มีขอบเขต หรือหากว่ามีขอบเขต มันก็เหมือนดินแดนที่ถูกหลงลืมที่ไม่มีแิเื่ของเวลาแล้ว
ั้แ่หมัดแรกของหมัดคชสารัใหญ่จนถึงตอนนี้ ิอวี่ได้ซัดหมัดออกไปแล้วหนึ่งพันสี่ร้อยแปดสิบหมัด!
ตอนที่เขาเก็บหมัดกลับมา พื้นที่ทั้งหมดก็เหมือนจะเงียบสงบ
หากมองไปดีๆ ก็จะพบว่า ิอวี่นั้นยังคงออกหมัดอยู่ เพียงแต่ระดับความเร็วของหมัดนั้นช้าลงสามเท่า!
แต่หมัดนั้นก็ทำให้ท้องฟ้าเกิดการเปลี่ยนแปลง ด้านหลังของิอวี่ เงาของัคชสารเริ่มเหมือนจริงมากขึ้นเหมือนกับว่ามีชีวิตจริงๆ หมัดที่ดูช้าอย่างชัดเจน เหมือนมีูเาลูกใหญ่ที่ขวางอยู่ด้านหน้า
กล้ามเนื้อของเขาปูดโปน ดวงตาเป็สีแดงก่ำ เขาก้าวเท้าซ้ายออกมาแล้วก็ออกหมัดออกมาอีก!
“ลุย”
“อือ!!!”
ด้านหลังของิอวี่ ัคชสารกลายเป็สีแดงเืทั่วทั้งตัว มันคำรามเสียงออกมาอย่างดุเดือดและพุ่งไปด้านหน้า ก่อนจะะเิพื้นที่ด้านหน้าออก!
ิอวี่ยิ้มมุมปาก ในเวลานี้เขาเข้าถึงจิตสำนึกของัคชสารอย่างสูงแล้ว
หมัดนี้ มันคือโลหิตัคชสาร!
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า พร์ของิอวี่นั้นเกินคนไปมาก หากเป็คนปกติ คิดจะเรียนรู้หมัดคชสารัใหญ่ อย่างน้อยก็จะต้องปล่อยหมัดคชสารัใหญ่กว่าหมื่นครั้งถึงจะคลำเจอทางโลหิตัคชสาร
แต่ตอนที่ิอวี่ปล่อยหมัดไปหนึ่งพันสี่ร้อยแปดสิบเจ็ด เขาก็สามารถปล่อยโลหิตัคชสารที่มีอานุภาพน่ากลัวออกมาได้แล้ว
ิอวี่อาศัยจิติญญาแห่งัเพิ่มการเรียนรู้จิตสำนึกของัคชสาร แต่สิ่งนี้ก็ไม่สามารถลบล้างความเฉลียวฉลาดที่โดดเด่นของเขาได้เลย!
ตอนที่ิอวี่ดูดจิติญญา ก็คิดหาวิธีการฝึกวิชาในโลกสมาธิไปด้วยเลย มันเป็แิใหม่อย่างหนึ่งของเขา
เพราะมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ิอวี่ไม่ได้แค่ฝึกทักษะการต่อสู้ในโลกความเป็จริงได้ แต่ยังสามารถฝึกทักษะการต่อสู้ได้ในทุกที่ทุกเวลา และยังสามารถเพิ่มพลังจิตให้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดได้
อีกอย่างหนึ่ง วินาทีในโลกสมาธิมันมีความคิดที่มากกว่านอกโลกหลายเท่าตัว ดังนั้น ในสถานการณ์แบบนี้ สามารถฝึกทักษะการต่อสู้ในโลกสมาธิได้มากและครอบคลุมได้มากกว่า ก็เท่ากับได้ลดเวลาในการฝึกลงด้วย!
ดังนั้น ั้แ่ิอวี่ดูดลมปราณตัวอ่อนจนถึงตอนนี้ ก็ผ่านไปแค่สองวันเท่านั้น
แต่ก็แน่นอนว่า ถึงแม้จะเรียนรู้อะไรในโลกสมาธิได้มากมายแต่ก็ไม่สามารถเพิ่มประสบการณ์การต่อสู้ในชีวิตจริงได้ มีแค่ฝึกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเท่านั้น ถึงจะสามารถปล่อยพลังอานุภาพที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาได้!
เมื่อิอวี่ซัดโลหิตัคชสารออกมาได้แล้ว ิญญาของเขาก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้ามาก จิตสำนึกได้กลายเป็น้ำสีดำในบ่อศักดิ์สิทธิ์ แล้วก็หลอมรวมเข้าไปที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในอีกโลกหนึ่ง
เพราะเสียกำลังสมาธิไปมาก น้ำในบ่อศักดิ์สิทธิ์ถึงได้น้อยลงไปอีกหน่อย
หลังจากดูดจิติญญาัมาแล้ว น้ำในบ่อยังเป็สีดำ แต่มันเริ่มละเอียดและหนาแน่นมากขึ้น
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ภายนอกดูไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก ไม่ได้ใหญ่ขึ้น ไม่ได้ลึกขึ้น เมื่อพัฒนามาถึงจุดนี้ก็เหมือนจะนิ่งแล้ว ปริมาณความจุก็ไม่ได้เพิ่มมากขึ้น
แต่เมื่อสำรวจดีๆ แล้ว ลายเส้นแปลกๆ ที่อยู่รอบๆ นั้นกลับลึกขึ้น มันเหมือนเสือที่กำลังเดินขึ้นเขาและขยายตัวไปรอบๆ ผนังหินที่อยู่ด้านล่าง ...
หลังจากนี้ น้ำในบ่อศักดิ์สิทธิ์มันบริสุทธิ์มากขึ้นกว่าเดิม ลายเส้นแผ่กระจายลึกลงเรื่อยๆ จนไปถึงก้นบ่อ มันถึงเกิดการเปลี่ยนแปลง
......
ในห้องฝึก ิอวี่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา
ถึงแม้เขาจะรู้สึกเหนื่อยล้ามาก แต่หลังจากััได้ว่าร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง เขาก็รู้สึกดีใจมาก
ิอวี่ััได้ว่า พละกำลังและพลังชีวิตของเขานั้นมีเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก หายใจได้ยาวขึ้น ผิวพรรณของเขาก็ดีมากขึ้น มีเืฝาดเล็กน้อย ดวงตาของเขาแหลมคมขึ้น ทำให้รู้สึกถึงความดุดัน!
ในเวลานี้เทวะในตับของิอวี่นั้นมันเริ่มกลมมากขึ้นแล้ว
ิอวี่มั่นใจมากว่า หากตอนนี้เขาอยากจะไปให้ถึงขอบเขตอมฤตขั้นที่สองระดับสูงสุดก็สามารถทำได้ แต่ว่า ิอวี่กลับพยายามควบคุมการเคลื่อนไหวของตับเทวะ เขาไม่อยากรีบทะลวงระดับขนาดนั้น
เพราะิอวี่ไม่อยากรีบเผยระดับความเร็วในการฝึกของเขาออกมา หากซ่งหยวนหยวนหรือคนอื่นรู้เข้าอาจจะเกิดความสงสัยได้ หากถูกจับได้ว่าดูดลมปราณตัวอ่อนัเข้าไป เื่ยุ่งยากจะตามมาแน่นอน
ดังนั้นิอวี่จึงคิดว่าจะทะลวงระดับตอนไปทำภารกิจที่เมืองสุขาวดี
พอคิดได้แบบนี้ เขาก็เปิดประตูห้องฝึกออกมาพบว่าตอนนี้ดึกแล้ว เขากับเ้าวิหคัใจสื่อถึงกัน เลยรู้ว่ามันผ่านมาแล้วสองวันสองคืน
ยังมีเวลาเหลืออีกหนึ่งวันเต็ม กว่าจะถึงวันที่ต้องไปทำภารกิจ
สติของเขานั้นเหนื่อยล้าจนเกินไปจึงหาวออกมา จากนั้นเขาก็กลับไปนอนที่ห้องนอน
เพราะการต่อสู้แย่งชิงในสนามรบร้างโบราณนั้น แต่ละวันมีแต่ความตึงเครียดตลอดเวลา หลังจากที่กลับมาถึงหอจิ้งโม่ก็ฝึกโลหิตัคชสารอีก พูดตามตรง จิตสมาธิของิอวี่นั้นเหนื่อยล้าอย่างมาก สิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้ไม่ใช่ฝึกอย่างบ้าคลั่ง แต่ต้องพักฟื้นสติของตัวเองให้ดี
จนกระทั่งเช้าวันต่อมา ิอวี่ถึงได้นอนเต็มอิ่ม ก่อนจะตื่นขึ้นมาแล้วก็บิดี้เี
หลังจากล้างหน้าล้างตาแล้ว ิอวี่ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดแล้วออกจากห้อง เตรียมที่จะขี่เ้าวิหคัปีกมืดไปยังตำหนักเมฆาเพลิงเพื่อเข้าร่วมภารกิจ
ในเวลานี้เอง ก็มีนกกระเรียนขาวตัวหนึ่งกำลังบินเข้ามาใกล้แล้วมายืนตรงหน้าของเขา
บนหลังกระเรียนขาวมีผู้หญิงนางหนึ่งสวมชุดสีแดงสดราวกับภาพวาดเดินออกมา ร่างกายของนางดูบอบบาง ค่อยๆ เดินมาหาิอวี่
นางคือเิหยูเยียน
สายตาของเิหยูเยียนที่มองมาที่ิอวี่ดูเศร้ามาก เมื่อสามวันก่อนหลังจากที่นางถูกิอวี่ปฏิเสธ ก็เฝ้ามองเขาจากที่พักของนางตลอด แต่กลับไม่เห็นิอวี่ออกจากหอจิ้งโม่เลยแม้แต่ก้าวเดียว
“พลังฝีมือของเ้า เหมือนจะก้าวหน้าไปอีกแล้วนะ” เิหยูเยียนยิ้มให้กับิอวี่
นางเริ่มชินกับระดับความเร็วและความสามารถที่เหนือคนของิอวี่แล้ว เลยไม่ได้ใอะไรเท่าไร แค่รู้สึกว่านางไม่ได้มองผู้ชายคนนี้ผิดไปเลย
“อือ อีกเดี๋ยวข้าจะไปตำหนักเมฆาเพลิงแล้ว ในเมื่อเ้าก็ตื่นแล้วเหมือนกัน ก็ไปเป็เพื่อนกันเถอะนะ” ิอวี่ตอบ
“เ้า ... ”
เิหยูเยียนอดรู้สึกโกรธนิดหน่อย “เดิมทีวันนี้ข้าอยากจะไปส่งเ้าที่ตำหนักเมฆาเพลิง หรือว่าถ้าข้าไม่มา เ้าก็ไม่คิดจะไปเรียกข้าแล้วไปด้วยกันอย่างนั้นใช่ไหม?”
ที่จริงเิหยูเยียนตื่นมาพอดีที่ไหนกัน วันนี้นางตื่นมาตั้งนานแล้ว คอยเฝ้ามองและรอคอยิอวี่เหมือนมองดาวออกมาจากที่พักของนาง
“คราวหน้าเรียกแน่นอน ... ”
พูดตามตรง ิอวี่ลืมไปจริงๆ
แต่พอเห็นหน้าหญิงสาวแสนสวยราวกับภาพวาดตรงหน้ามีสีหน้าน้อยอกน้อยใจ ... เขาก็เหมือนรู้สึกไม่ดีเหมือนกัน
“ข้าไม่เชื่อ” เิหยูเยียนเบะปาก แต่ว่านางมาที่นี่นั้นเพราะยังมีเื่สำคัญต้องทำ ถึงแม้จะหน้าอายนิดหน่อย แต่นางก็กำหมัดแล้วรวบรวมความกล้าแล้วพูดว่า “อือ ... จะว่าไปแล้ว ข้ามีเื่อยากจะพูดกับเ้าหน่อย ... ”
บนนิ้วของเิหยูเยียนสวมแหวนเก็บของอยู่วงหนึ่ง ภายในมีของที่นางตั้งใจทำมาตลอดสามวัน ในเวลานี้นางคิดอยู่ว่าจะเอาของขวัญมอบให้กับิอวี่อย่างไรดี
ครั้งนี้ ถึงแม้ิอวี่จะโง่จะทึ่มอย่างไรก็น่าจะเข้าใจว่านางรู้สึกอย่างไร
ระหว่างที่คิด เิหยูเยียนก็เอาผมทัดหู กำลังจะเอ่ยปากพูด แต่ในเวลานี้กลับ ...
มีเสียงดังขึ้นจากอากาศ มีคนกำลังขี่อสูรสัตว์ปีกบินมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
ิอวี่กับเิหยูเยียนรีบหันไปมองก็เห็นเงาที่ไม่ค่อยคุ้นเคย แต่ิอวี่กลับรู้สึกว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ...
เห็นิอวี่เปลี่ยนความสนใจ เิหยูเยียนก็เลิกความตั้งใจไปชั่วคราว นางเก็บของกลับไปก่อน คิดว่าเดี๋ยวค่อยหาจังหวะเวลาดีๆ ค่อยมอบให้ิอวี่อีกที
ในเวลานี้เอง อสูรสัตว์ปีกตัวนั้นบินลงมาที่หอจิ้งโม่ คนรูปร่างผอมสูงที่อยู่้ามองมาที่ิอวี่อย่างดูถูกแล้วพูดว่า “อาจารย์สั่งเลื่อนเวลารวมพลให้เร็วขึ้น ให้ข้ามาตามเ้าไปตอนนี้เลย นางบอกว่ามีเื่สำคัญอยากจะบอกศิษย์ทุกคน”
ิอวี่ค่อยๆ เงยหน้าไปมอง ในที่สุดเขาก็จำได้ว่าคนคนนั้นเป็ใคร หากเขาจำไม่ผิดแล้วล่ะก็ เขาก็คือคนที่มีชื่อว่าหลิวฉี่หลิง
