รถบรรทุกทหารแล่นฝ่าเข้าไปในป่าทึบ ขับผ่านเส้นทางขรุขระที่แทบไม่อาจเรียกว่าถนน หลินเว่ยนั่งเงียบอยู่มุมหนึ่งของรถ มือกำแฟลชไดรฟ์แน่น ดวงตาจับจ้องออกไปนอกหน้าต่าง สายลมยามเช้าพัดผ่านเข้ามาในรถ นำมาซึ่งความเย็นชื่นที่ตัดกับความร้อนระอุจากฐานเทียนซื่อที่ะเิไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
"เรายังอีกไกลไหม?" เสวียนเหมย ถามเสียงแ่ นั่งพิงไหล่ ผิงเหวย ที่หลับไปแล้วด้วยความเหนื่อยล้า
"อีกสักสองชั่วโมงน่าจะถึง" ดร.หลี่เจียน ตอบขณะบังคับพวงมาลัย สายตายังจับจ้องไปที่เส้นทางเบื้องหน้า "ถ้าไม่มีอะไรขัดขวางนะ"
หลิวซิน ขยับเข้ามานั่งข้างหลินเว่ย วางมือบนไหล่เพื่อน "เป็อย่างไรบ้าง?"
หลินเว่ยส่ายหน้าเบาๆ "ผมยังไม่แน่ใจว่าต้องรู้สึกยังไงกับทุกเื่ที่เกิดขึ้น" เขาเปิดฝ่ามือมองแฟลชไดรฟ์ขนาดเล็ก "ทำไมเขาถึงให้สิ่งนี้กับผม? ทำไมเขาทำเหมือนห่วงใยผมในวินาทีสุดท้าย?"
"บางทีแม้แต่คนอย่างศาสตราจารย์เฉินเจิ้งก็ยังมีความรู้สึกอยู่บ้าง" หลิวซินตอบเสียงเรียบ "หรืออาจเพราะเขายังเชื่อว่าคุณจะเห็นด้วยกับวิสัยทัศน์บ้าๆ ของเขาสักวัน"
หลินเว่ยกำแฟลชไดรฟ์แน่นขึ้น "ไม่มีวัน ผมจะไม่มีวันเห็นด้วยกับการฆ่าผู้คนนับล้านเพื่อสร้างโลกใหม่ในฝันของเขา"
จ้าวหยาง ที่นั่งฝั่งตรงข้ามกวักมือเรียก "ให้ผมดูแฟลชไดรฟ์นั่นหน่อยได้ไหม? ผมอาจพอเข้าใจบางอย่างที่อยู่ในนั้น"
หลินเว่ยลังเลเล็กน้อย แต่แล้วก็ส่งแฟลชไดรฟ์ให้ จ้าวหยางพลิกดูมันอย่างพินิจพิเคราะห์
"ผมจะต้องดูข้อมูลในนี้ด้วยคอมพิวเตอร์ถึงจะรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน" จ้าวหยางกล่าว "แต่ถ้าศาสตราจารย์เฉินเจิ้งพูดความจริง นี่อาจเป็กุญแจสำคัญในการหยุดไวรัสที่ถูกปล่อยออกไปแล้ว"
"แต่เราไม่รู้ว่ามันถูกปล่อยไปที่ไหนบ้าง" ประมุขเจิ้งลี่หัว เอ่ยขึ้น "หรือมันกำลังแพร่กระจายเร็วแค่ไหน"
เสียงบรรยากาศในรถเงียบลงชั่วขณะ ทุกคนต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเอง
หลินเว่ยเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นทิวเขาลาดชันที่ค่อยๆ เคลื่อนผ่านไป ความทรงจำย้อนกลับไปถึง่เวลาที่เขาเพิ่งเริ่มต้นการเดินทางนี้ ตอนนั้นเขาเป็เพียงนักศึกษาแพทย์ธรรมดาคนหนึ่ง ไม่เคยรู้เลยว่าชีวิตจะพลิกผันมาถึงจุดนี้
"นายกำลังคิดอะไรอยู่?" หลิวซินถามเบาๆ
"คิดถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้น" หลินเว่ยตอบ "จากวันแรกที่โรงพยาบาล... จนถึงตอนนี้" เขาชูฝ่ามือขึ้นมา เมื่อรวมพลังความคิด มีแสงสีทองอ่อนๆ ปรากฏขึ้น "พลังชี่ ในตัวผมแข็งแกร่งขึ้นแล้ว ผมรู้สึกได้... แต่ยังไม่พอ ยังไม่มากพอที่จะปกป้องทุกคน"
หลิวซินพยักหน้า "อย่างที่อาจารย์เหลียงเจินเคยบอก การฝึกฝน วิชาัทะยานฟ้า ไม่ใช่เพียงเพื่อความแข็งแกร่งของตัวเอง แต่เพื่อปกป้องผู้อื่น ฉันเชื่อว่านายจะทำได้ หลินเว่ย"
หลินเว่ยยิ้มบางๆ "อาจารย์เหลียงเจินเคยสอนผมเื่ ท่าัทะยานฟ้า ท่าที่สิบเอ็ด... ัปกป้อง ที่เน้นการใช้พลังชี่เพื่อสร้างเกราะป้องกันรอบตัวและคนรอบข้าง" เขาหลับตาลง "ผมต้องฝึกฝนมันให้สมบูรณ์แบบ"
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน จู่ๆ รถก็สะดุดอย่างรุนแรง ทำให้ทุกคนเซไปมา
"มีอะไรหรือเปล่า?" หลินเว่ยถามเสียงดัง มองไปที่ดร.หลี่เจียนที่กำลังบังคับพวงมาลัยอย่างยากลำบาก
"มีอะไรบางอย่างขวางถนน!" ดร.หลี่เจียนะโตอบ พยายามชะลอรถ
หลินเว่ยและหลิวซินรีบลุกขึ้น มองผ่านกระจกหน้ารถ เห็นต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มขวางเส้นทางอยู่
"หยุดรถ!" หลินเว่ยสั่ง "อาจเป็กับดัก"
ดร.หลี่เจียนรีบเหยียบเบรกอย่างแรง ทำให้ทุกคนในรถเซไปข้างหน้า
"ทุกคนเตรียมพร้อม" ประมุขเจิ้งลี่หัวกระซิบเสียงเข้ม "อาจมีผู้ติดเชื้อหรือทหารเทียนซื่อที่เหลือรออยู่"
ทุกคนในรถเงียบกริบ ฟังเสียงรอบข้างอย่างระมัดระวัง แต่มีเพียงเสียงลมพัดผ่านใบไม้และเสียงนกร้องไกลๆ เท่านั้น
"ผมจะออกไปดู" หลินเว่ยตัดสินใจ "หลิวซิน นายคอยระวังทางซ้าย จ้าวหยาง นายดูทางขวา"
ทั้งสามค่อยๆ เปิดประตูรถ ก้าวออกไปอย่างระมัดระวัง หลินเว่ยสำรวจโดยรอบด้วยสายตา ก่อนจะเดินเข้าไปตรวจดูต้นไม้ที่ล้มขวางทาง
"ดูเหมือนเพิ่งล้มไม่นาน" หลินเว่ยรายงาน สำรวจรอยตัดบนโคนต้นไม้ "มีรอยตัดด้วยเลื่อย นี่ไม่ใช่เหตุบังเอิญ"
"ระวัง!" จ้าวหยางะโขึ้นทันใด พลางชี้ไปที่พุ่มไม้ด้านข้างทาง
จากในพุ่มไม้ มีร่างคนหลายคนเคลื่อนไหว ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ตั้งตัว ชายหลายคนถือไม้กระบองและมีดก็วิ่งออกมาจากที่ซ่อน
"ทุกคนระวัง!" หลินเว่ยะโ รวบรวมพลังชี่เตรียมต่อสู้
แต่แล้วชายคนหนึ่งในกลุ่มผู้บุกรุกก็ชะงัก "หลินเว่ย? นั่นนายหรือ?"
หลินเว่ยหรี่ตามอง เพ่งมองใบหน้าคนตรงหน้า "หลิน... หลินเหว่ยหมิน? นายรอดมาได้ยังไง?"
ชายที่ชื่อหลินเหว่ยหมินยิ้มกว้าง "พระเ้า! จริงๆ เป็นาย!" เขาหันไปบอกคนอื่นๆ "พวกนี้ไม่ใช่ศัตรู! นี่คือหลินเว่ย หมอจากเมืองที่ผมเคยเล่าให้ฟัง!"
บรรยากาศตึงเครียดผ่อนคลายลงในทันที คนกลุ่มนั้นลดอาวุธลง ในขณะที่ทุกคนจากรถบรรทุกค่อยๆ ผ่อนคลายท่าทางป้องกันตัว
"พวกเราจับตาดูเส้นทางนี้อยู่ตลอด" หลินเหว่ยหมินอธิบาย "มีพวกทหารและคนแปลกหน้าเดินทางผ่านไปมาบ่อยๆ เราต้องระวังตัว"
"พวกนายมาจากไหน?" หลินเว่ยถาม "คิดว่าทุกคนไม่รอดแล้ว หลังจากการระบาดครั้งใหญ่"
"เรามาจากหมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขาทางใต้" หลินเหว่ยหมินตอบ "หลังจากการระบาด เราปิดหมู่บ้าน ไม่ให้ใครเข้าออก จึงรอดมาได้" เขามองหลินเว่ยด้วยความตื่นเต้น "แต่นายล่ะ? ได้ยินว่านายกลายเป็ผู้นำกลุ่มต่อต้านใหญ่แล้ว เป็ความหวังของมนุษยชาติ"
หลินเว่ยประหลาดใจ "ใครบอกนาย?"
"มีคนเล่าลือกันไปทั่ว" หลินเหว่ยหมินตอบ "เื่ของหมอหนุ่มที่มีพลังพิเศษ สามารถต่อสู้กับองค์กรเทียนซื่อได้"
ประมุขเจิ้งลี่หัว ก้าวเข้ามา "พวกคุณมีที่พักปลอดภัยใกล้ๆ นี่ไหม? เรา้าพัก และซ่อมแซมรถ"
หลินเหว่ยหมินพยักหน้า "แน่นอน ตามเรามา พวกคุณจะปลอดภัยที่หมู่บ้านของเรา"
พวกเขาช่วยกันเคลื่อนย้ายต้นไม้ออกจากเส้นทาง ก่อนที่หลินเหว่ยหมินจะนำทางพวกเขาผ่านป่าลึกไปอีกราวสิบกิโลเมตร จนกระทั่งมาถึงหุบเขาเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ระหว่างเทือกเขาสูง
เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงปากทางเข้าหุบเขา หลินเว่ยก็สามารถเห็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ บ้านไม้เรียงรายอย่างเป็ระเบียบ มีแปลงผักและสวนผลไม้ล้อมรอบ ทุกอย่างดูสงบและเป็ระเบียบอย่างน่าประหลาด ราวกับไม่เคยมีหายนะใดๆ เกิดขึ้นในโลกภายนอก
"นี่คือบ้านของเรา" หลินเหว่ยหมินกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ "เราเรียกมันว่า 'ชุมชนไท่ผิง' - หมู่บ้านแห่งสันติภาพ"
ชาวบ้านหลายคนออกมาต้อนรับพวกเขา บางคนมองด้วยความกังวล แต่ส่วนใหญ่ส่งยิ้มและโบกมือทักทาย
"ขอต้อนรับสู่ไท่ผิง" หญิงชราคนหนึ่งก้าวออกมา "ข้าคือ นางชานซู ผู้ดูแลหมู่บ้านแห่งนี้"
หลินเว่ยค้อมตัวแสดงความเคารพ "ขอบคุณที่ให้การต้อนรับพวกเรา ท่านผู้าุโ"
"ไม่ต้องมีพิธีรีตองมากมาย" นางชานซูยิ้ม รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าลึกขึ้นเมื่อเธอยิ้ม "หลินเหว่ยหมินเล่าเื่ของเ้าให้ฟังแล้ว เ้าคือความหวัง"
"ผม..." หลินเว่ยลังเล "ผมแค่พยายามทำสิ่งที่ถูกต้อง"
"และนั่นคือสิ่งที่เรา้าในยามนี้" นางชานซูตอบ "คนที่พร้อมทำสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะยากลำบากเพียงใด" เธอหันไปทางคนอื่นๆ "มาเถิด พวกเ้าคงเหนื่อยจากการเดินทาง เรามีอาหารและที่พักให้"
พวกเขาถูกนำไปยังศาลากลางหมู่บ้าน ที่ซึ่งชาวบ้านเตรียมอาหารไว้ต้อนรับ หลังจากการเดินทางอันยาวนานและการต่อสู้อันหนักหน่วง อาหารธรรมดาๆ เช่น ข้าวต้ม ผักลวก และเนื้อปิ้งก็ช่างแสนอร่อยเหลือเกิน
ระหว่างทานอาหาร หลินเว่ยสังเกตเห็นว่าหมู่บ้านแห่งนี้มีระบบการจัดการที่ดีมาก ทุกคนมีหน้าที่ชัดเจน อาหารถูกแบ่งปันอย่างเท่าเทียม และมีเวรยามคอยเฝ้าระวังโดยรอบ
"หมู่บ้านของพวกคุณน่าประทับใจมาก" หลินเว่ยกล่าวกับนางชานซู "ท่ามกลางความโกลาหลของโลกภายนอก ที่นี่กลับสงบสุขมาก"
"เราใช้ภูมิปัญญาโบราณผสมผสานกับความรู้สมัยใหม่" นางชานซูตอบ "ทุกคนต้องพึ่งพากัน หมู่บ้านของเราใช้วิธีรักษาโรคแบบจีนโบราณผสมกับยาสมัยใหม่ที่เรามี เราปลูกพืชผักสวนครัวและสมุนไพร เลี้ยงสัตว์ และล่าสัตว์บ้างเมื่อจำเป็"
เสวียนเหมยดูสนใจเป็พิเศษ "ท่านมีความรู้ด้านการแพทย์แผนจีนหรือ?"
"ข้าเคยเป็แพทย์แผนจีนก่อนเกษียณ" นางชานซูตอบ "ความรู้เ่าั้ช่วยให้เรารอดมาได้ในยามที่ยารักษาสมัยใหม่ขาดแคลน"
"เรา้าความช่วยเหลือ" หลินเว่ยเอ่ยขึ้น "เราเพิ่งกลับมาจากการโจมตีฐานขององค์กรเทียนซื่อ พวกเขากำลังจะปล่อยไวรัสร้ายแรงรุ่นใหม่ เราหยุดแผนหลักของพวกเขาได้ แต่บางส่วนของไวรัสถูกปล่อยออกไปแล้ว"
นางชานซูขมวดคิ้ว "ไวรัสใหม่? แย่กว่าเดิมหรือ?"
"ผมยังไม่แน่ใจ แต่เราอาจมีความหวัง" หลินเว่ยหยิบแฟลชไดรฟ์ออกมา "ในนี้อาจมีข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับไวรัสและวิธีสร้างวัคซีน เรา้าคอมพิวเตอร์เพื่อเข้าถึงข้อมูล"
"เรามีคอมพิวเตอร์เก่าๆ สองสามเครื่องในห้องสมุดของหมู่บ้าน" หลินเหว่ยหมินรีบบอก "พร้อมกับเครื่องปั่นไฟที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์"
"ดีมาก" หลินเว่ยพยักหน้า "พวกเราจำเป็ต้องดูข้อมูลในนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะสายเกินไป"
หลังจากทานอาหารเสร็จ หลินเหว่ยหมินนำหลินเว่ย จ้าวหยาง และเสวียนเหมยไปยังอาคารไม้หลังใหญ่ที่เป็ห้องสมุดของหมู่บ้าน ภายในมีชั้นหนังสือเรียงรายและโต๊ะทำงานหลายตัว มุมหนึ่งมีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นเก่าสองเครื่อง
"เราใช้มันเพื่อบันทึกข้อมูลสำคัญและเก็บความรู้ต่างๆ" หลินเหว่ยหมินอธิบาย พลางเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ "มันอาจไม่ทันสมัย แต่น่าจะพอใช้งานได้"
หลินเว่ยส่งแฟลชไดรฟ์ให้จ้าวหยาง "คุณมีความเชี่ยวชาญด้านนี้มากกว่า"
จ้าวหยางพยักหน้า เสียบแฟลชไดรฟ์เข้ากับคอมพิวเตอร์ ไม่นานหน้าจอก็แสดงโฟลเดอร์หลายอันที่มีชื่อเป็รหัสตัวเลข
"นี่มันข้อมูลมากมาย..." จ้าวหยางพึมพำ กดเปิดไฟล์หลายอัน "มีทั้งรายละเอียดโครงสร้างทางพันธุกรรมของไวรัส แผนที่การแพร่กระจาย และข้อมูลการพัฒนาวัคซีน"
เสวียนเหมยชะโงกมองหน้าจอ "ข้อมูลพวกนี้ล้ำค่ามาก มันไม่ใช่แค่ข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสใหม่เท่านั้น แต่ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับการทดลองทั้งหมดของเทียนซื่อด้วย รวมถึง..." เธอชะงักเมื่อเห็นโฟลเดอร์หนึ่ง "ข้อมูลเกี่ยวกับหลินเว่ย"
หลินเว่ยชะงัก มองหน้าจอด้วยความประหลาดใจ "เปิดมันออกสิ"
จ้าวหยางกดเปิดโฟลเดอร์ พบไฟล์มากมายเกี่ยวกับประวัติการทดลอง รายละเอียดการดัดแปลงพันธุกรรม และการพัฒนาของหลินเว่ยั้แ่อยู่ในห้องทดลอง
"นี่คือ... ความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับตัวผม" หลินเว่ยพูดเสียงสั่น "ทุกอย่างที่ศาสตราจารย์เฉินเจิ้งทำกับผม..."
"อย่าดูมันตอนนี้" เสวียนเหมยจับมือหลินเว่ย "เราต้องโฟกัสกับข้อมูลไวรัสก่อน ชีวิตผู้คนกำลังตกอยู่ในอันตราย"
หลินเว่ยพยักหน้า สูดหายใจลึก "คุณพูดถูก เรามีงานสำคัญกว่าที่ต้องทำ"
จ้าวหยางเปิดไฟล์แผนที่ที่แสดงจุดปล่อยไวรัสที่องค์กรเทียนซื่อวางแผนไว้ "ตามนี้ ไวรัสถูกปล่อยแล้วในสามพื้นที่ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้ และพื้นที่ชายฝั่งตะวันออก แต่ยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศตามแผนเดิม"
"เราต้องส่งคำเตือนไปยังชุมชนในพื้นที่เสี่ยงทันที" หลินเว่ยกล่าวอย่างเร่งด่วน "มีใครติดต่อภายนอกได้บ้างไหม?"
"เรามีวิทยุสื่อสารเก่าๆ" หลินเหว่ยหมินตอบ "แต่สัญญาณไม่ค่อยดี เราใช้มันติดต่อกับชุมชนที่อยู่ไม่ไกลเท่านั้น"
"ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย" หลินเว่ยตอบ "ส่งคำเตือนให้ได้มากที่สุด บอกให้พวกเขาปิดชุมชน ห้ามใครเข้าออก"
ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน เสวียนเหมยกำลังตรวจดูข้อมูลในแฟลชไดรฟ์ "นี่... นี่มันน่าทึ่งมาก" เธอเอ่ยขึ้น "ไวรัสรุ่นใหม่ถูกออกแบบให้ตอบสนองต่อรหัสพันธุกรรมเฉพาะ มันจะทำร้ายเฉพาะคนที่มีรหัสพันธุกรรมอ่อนแอตามเกณฑ์ที่พวกเขากำหนด"
"และมันแพร่กระจายยังไง?" หลินเว่ยถาม
"ทางอากาศ เหมือนไวรัสก่อนหน้า แต่มีอัตราการแพร่เชื้อสูงกว่ามาก" เสวียนเหมยตอบ ยังคงอ่านข้อมูลบนหน้าจอ "ที่น่ากังวลคือ มันมีระยะฟักตัวยาวนาน อาจนานถึงสองสัปดาห์โดยไม่มีอาการ แต่ยังสามารถแพร่เชื้อได้"
"ข่าวดีคือ" จ้าวหยางเสริม "มีวิธีการสร้างวัคซีนที่ละเอียดอยู่ในนี้ รวมถึงสูตรยาต้านไวรัสสำหรับผู้ติดเชื้อ"
หลินเว่ยรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย "เราสามารถสร้างวัคซีนได้ไหม?"
"เรา้าอุปกรณ์ห้องปฏิบัติการที่ซับซ้อน" เสวียนเหมยตอบ "ซึ่งที่นี่ไม่มี แต่..." เธอชี้ไปที่ภาพถ่ายในไฟล์หนึ่ง "มีข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์วิจัยลับอีกแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากนี่ น่าจะมีอุปกรณ์ที่เรา้า"
"ถ้าศูนย์วิจัยนั้นเป็ของเทียนซื่อ จะไม่ปลอดภัย" หลิวซินที่เพิ่งเดินเข้ามากล่าว
"แต่เราไม่มีทางเลือก" หลินเว่ยตอบ "เราต้องลองดู"
ประมุขเจิ้งลี่หัวเดินเข้ามาในห้อง "ตัวอย่างไวรัสบางส่วนถูกปล่อยออกไปแล้ว แต่ถ้าเราสามารถสร้างวัคซีนได้ทันเวลา เราอาจหยุดการแพร่ระบาดได้"
"รถของเรายังต้องซ่อมแซม" ดร.หลี่เจียนที่เพิ่งเข้ามาแจ้ง "คงต้องใช้เวลาสักวันสองวัน"
"เราจะใช้เวลานี้เตรียมตัว" หลินเว่ยตัดสินใจ "เสวียนเหมย จ้าวหยาง ศึกษาข้อมูลให้มากที่สุด ผิงเหวย ขอให้คุณดูแลคนที่าเ็ ประมุขเจิ้ง ช่วยฝึกทักษะการต่อสู้ให้ชาวบ้าน ในกรณีที่มีการโจมตี ส่วนผมจะไปทำความรู้จักกับชุมชนนี้มากขึ้น"
ทุกคนแยกย้ายไปทำภารกิจของตนเอง หลินเว่ยออกเดินสำรวจหมู่บ้านพร้อมกับหลินเหว่ยหมิน ที่เล่าประวัติของชุมชนไท่ผิงให้ฟัง
"หมู่บ้านนี้มีมานานแล้ว" หลินเหว่ยหมินเล่า "ดั้งเดิมเป็หมู่บ้านเกษตรกรรมเล็กๆ แต่เมื่อการระบาดเริ่มต้น ผู้าุโนางชานซูตัดสินใจปิดหมู่บ้าน ไม่ให้ใครเข้าออก"
"แล้วทุกคนอยู่รอดได้ยังไง?" หลินเว่ยถาม ขณะที่พวกเขาเดินผ่านแปลงผักและสวนสมุนไพร
"ด้วยภูมิปัญญาโบราณ" หลินเหว่ยหมินยิ้ม "นางชานซูใช้ความรู้ด้านการแพทย์แผนจีนผสมกับยาสมัยใหม่ที่เรามี เราปลูกพืชผักสวนครัว สมุนไพร และล่าสัตว์ เราเป็ชุมชนที่พึ่งพาตนเองได้"
พวกเขาเดินมาถึงกระท่อมไม้หลังเล็กที่อยู่แยกออกไปจากหมู่บ้านเล็กน้อย
"นี่คือที่พักของนางชานซู" หลินเหว่ยหมินบอก "เธออยากพบนาย"
นางชานซูกำลังนั่งชงชาบนระเบียงไม้หน้ากระท่อม เมื่อเห็นพวกเขา เธอยิ้มและโบกมือเรียก
"มานั่งกับข้า หลินเว่ย" นางชานซูเชิญ "ข้ามีเื่อยากคุยด้วย"
หลินเว่ยนั่งลงตรงข้ามนางชานซู ขณะที่หลินเหว่ยหมินขอตัวไปทำภารกิจอื่น
"ข้าได้ยินเื่ราวของเ้ามามากมาย" นางชานซูกล่าว ขณะรินชาให้หลินเว่ย "หมอหนุ่มที่มีพลังพิเศษ ผู้ที่สามารถต่อกรกับองค์กรเทียนซื่อได้"
"ผมแค่พยายามช่วยคนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้" หลินเว่ยตอบ จิบชาที่มีกลิ่นหอมของสมุนไพร
"เ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมเ้าถึงมีพลังชี่ที่แข็งแกร่ง?" นางชานซูถามตรงๆ
หลินเว่ยชะงัก วางถ้วยชาลง "ผมเพิ่งรู้ว่าผมเป็ผลผลิตจากการทดลองขององค์กรเทียนซื่อ พวกเขาดัดแปลงพันธุกรรมของผม ทำให้ผมสามารถควบคุมพลังชี่ได้"
นางชานซูพยักหน้า "แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เ้ารู้จัก วิชาัทะยานฟ้า ใช่ไหม?"
หลินเว่ยใ "ท่านรู้จักวิชานี้ด้วยหรือ?"
"วิชานี้ไม่ใช่แค่การต่อสู้ธรรมดา" นางชานซูตอบ "มันคือศาสตร์โบราณในการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ การเข้าถึงพลังที่มีอยู่ในทุกสรรพสิ่ง"
นางชานซูลุกขึ้นช้าๆ ยกมือขึ้นระดับอก ก่อนจะเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวลในท่าที่หลินเว่ยคุ้นเคย
"นั่น... ท่าัหลับใหล!" หลินเว่ยอุทานอย่างใ
"ถูกต้อง" นางชานซูยิ้ม "ข้าก็รู้จักวิชานี้ แต่ไม่สามารถเข้าถึงพลังได้เท่าเ้า"
"แต่... ท่านรู้จักมันได้อย่างไร?"
นางชานซูนั่งลง จิบชาของเธอช้าๆ "มีหลายอย่างเกี่ยวกับโลกนี้ที่เ้ายังไม่รู้ หลินเว่ย ความจริงที่ยิ่งใหญ่กว่าที่องค์กรเทียนซื่อเคยบอกเ้า"
"ผมไม่เข้าใจ..."
"ก่อนที่ไวรัสจะระบาด ก่อนที่องค์กรเทียนซื่อจะมีอำนาจ มีกลุ่มคนที่สืบทอดภูมิปัญญาโบราณมาหลายชั่วอายุคน" นางชานซูอธิบาย "พวกเขาเรียกตัวเองว่า 'ผู้พิทักษ์แห่งสมดุล' มีหน้าที่รักษาความสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ"
"และท่านเป็หนึ่งในนั้น?" หลินเว่ยถาม
นางชานซูพยักหน้า "ข้าเป็หนึ่งในผู้พิทักษ์คนสุดท้าย ส่วนใหญ่ถูกองค์กรเทียนซื่อล่าสังหารไปแล้ว พวกเขา้ายึดครองความรู้ของเรา เพื่อดัดแปลงให้เป็อาวุธ"
นางชานซูมองตรงไปที่หลินเว่ย "และเ้า หลินเว่ย คือหนึ่งในความหวังสุดท้ายของเรา"
คำพูดของนางชานซูทำให้หลินเว่ยนิ่งงัน เขามองออกไปยังหมู่บ้านที่ผู้คนกำลังใช้ชีวิตอย่างสงบ ความรู้สึกหนักอึ้งของภาระและความรับผิดชอบทวีขึ้นในใจ
"ท่านพูดว่าผมเป็หนึ่งในความหวัง?" หลินเว่ยถาม "หมายความว่ายังมีคนอื่นอีก?"
"มี" นางชานซูตอบ "ข้าไม่ใช่คนเดียวที่รอดมาได้ ยังมีผู้พิทักษ์คนอื่นที่ซ่อนตัวอยู่ทั่วประเทศ และยังมีผู้อื่นที่มีพลังคล้ายกับเ้า แม้ไม่แข็งแกร่งเท่า"
"ผมต้องพบพวกเขา" หลินเว่ยกล่าวอย่างมุ่งมั่น "เราต้องรวมพลังกันหยุดการระบาดครั้งใหม่นี้"
นางชานซูวางถ้วยชาลง มองหลินเว่ยด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความเมตตา "ข้าจะช่วยเ้า แต่ก่อนอื่น เ้าต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมพลังของตัวเองให้สมบูรณ์ก่อน"
"ท่านจะสอนผมเพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิชาัทะยานฟ้า หรือ?" หลินเว่ยถามอย่างตื่นเต้น
"ใช่" นางชานซูตอบ "ข้าจะสอนท่า ัปกป้อง ให้สมบูรณ์ ซึ่งจะช่วยให้เ้าสามารถปกป้องตัวเองและคนรอบข้างจากอันตราย" เธอลุกขึ้นยืน "เริ่มตอนนี้เลยได้ไหม?"
หลินเว่ยพยักหน้า ลุกขึ้นตาม "ผมพร้อมแล้ว"
ขณะที่ดวงอาทิตย์ค่อยๆ คล้อยต่ำลง หลินเว่ยเริ่มฝึกฝนท่า ัปกป้อง ภายใต้การดูแลของนางชานซู เขาค่อยๆ เรียนรู้การหมุนเวียนพลังชี่ให้ล้อมรอบตัวเองและคนรอบข้าง สร้างเกราะป้องกันที่มองไม่เห็นแต่แข็งแกร่ง
"หายใจเข้าลึกๆ" นางชานซูแนะนำ "จินตนาการว่าเ้ากำลังดึงพลังจากแผ่นดิน ผ่านเท้า ขึ้นมาตามแขนขา และหมุนเวียนรอบตัว"
หลินเว่ยทำตาม รู้สึกถึงพลังที่ไหลเวียนอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน มันอบอุ่นและเข้มข้น แผ่ซ่านออกจากร่างกายของเขาเป็รัศมีโดยรอบ
"ดีมาก" นางชานซูพยักหน้าด้วยความพอใจ "เ้ามีพร์ อาจารย์เหลียงเจินสอนเ้าได้ดี"
หลินเว่ยลืมตาขึ้น รู้สึกถึงพลังใหม่ที่เขาควบคุมได้ "ผมรู้สึก... แตกต่าง"
"นั่นเป็เพราะเ้าเริ่มเข้าใจพลังที่แท้จริงแล้ว" นางชานซูตอบ "วิชาัทะยานฟ้าไม่ใช่แค่ชุดท่าทางในการต่อสู้ แต่เป็วิธีในการเชื่อมต่อกับสรรพสิ่ง เมื่อเ้าเข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง เ้าจะสามารถทำสิ่งที่คนอื่นคิดว่าเป็ไปไม่ได้"
หลินเว่ยยังคงฝึกฝนต่อไปจนกระทั่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า แสงสุดท้ายของวันส่องกระทบใบหน้าที่เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นของเขา ในใจลึกๆ เขารู้ว่า การต่อสู้ที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มต้น และเขาต้องพร้อมสำหรับสิ่งที่รออยู่เบื้องหน้า
ในขณะเดียวกัน ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์ของหมู่บ้าน เสวียนเหมยและจ้าวหยางยังคงศึกษาข้อมูลในแฟลชไดรฟ์อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
"ฉันพบบางอย่างแล้ว" เสวียนเหมยกล่าวขึ้น ขณะที่จ้าวหยางเข้ามาดูหน้าจอ "ดูนี่สิ มันไม่ใช่แค่ข้อมูลเกี่ยวกับไวรัส แต่เป็รายงานเกี่ยวกับการทดลองทั้งหมดของเทียนซื่อ"
"และนั่นรวมถึง..." จ้าวหยางชะงักเมื่อเห็นภาพบนหน้าจอ "เด็กคนอื่นๆ ที่เหมือนหลินเว่ย? พวกเขาสร้างมากกว่าหนึ่งคน?"
"เหมือนจะเป็อย่างนั้น" เสวียนเหมยตอบ สีหน้าเคร่งเครียด "และยังมีชีวิตอยู่ แต่พวกเขาอยู่ที่ไหน?"
คำถามนั้นลอยค้างในอากาศ ขณะที่ความมืดค่อยๆ ปกคลุมหมู่บ้านไท่ผิง ชุมชนเล็กๆ ที่กลายเป็ความหวังใหม่ของมนุษยชาติ โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า ในความมืดของป่าที่อยู่ไม่ไกล มีดวงตาหลายคู่กำลังจับจ้องหมู่บ้านแห่งนี้อยู่...