"ฉีฉี หลับตาลง" หลี่ชิงหยุนจับมือของนาหลันเสี่ยวฉีพร้อมส่งพลังฉีต้นกำเนิดเข้าสู่ร่างกายของนาง
นาหลันเสี่ยวฉีหลับตาอย่างเชื่อฟังแต่โดยดี
"เอาล่ะ ลืมตาได้" เมื่อหลี่ชิงหยุนพูดจบ นาหลันเสี่ยวฉีก็ลืมตาขึ้นมา ตอนนี้นางพบว่านางมาอยู่ในสถานที่แปลกๆ สิ่งปลูกสร้างรอบข้างที่นี่ทำจากหินและหยกระดับสูงจำนวนมาก ทิวทัศน์ที่นี่ให้ความรู้สึกแบบโบราณ เมื่อมองขึ้นไป้าเธอกลับพบว่าสิ่งนี้มีรูปร่างคล้ายกับเจดีย์ 9 ชั้นที่ดูแปลกตา
หลี่ชิงหยุนสามารถพานาหลันเสี่ยวฉีเข้ามาในเจดีย์ปฐมกาลได้อย่างแท้จริง
"อาหยุน ที่นี่ที่ไหน?" นาหลันเสี่ยวฉีเริ่มมองไปรอบๆ เมื่อครู่นางอยู่ในห้องนั่งเล่น แต่ตอนนี้นางรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ที่แห่งนี้เป็สถานที่ที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน
"ที่แห่งนี้ถูกเรียกว่าเจดีย์ปฐมกาล สิ่งนี้คือความลับของความแข็งแกร่งของข้า และยังเป็ความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกด้วย" หลี่ชิงหยุนไม่้าปิดบังอะไรจากนาหลันเสี่ยวฉี ตอนนี้นางเองก็เป็คนรักของเขาอยู่แล้ว
นาหลันเสี่ยวฉีตาสว่างทันที นางเริ่มเข้าใจในสิ่งที่หลี่ชิงหยุนพูด 'ดูเหมือนว่านี่คือความโชคดีของเขา'
"มาเถอะ ข้าจะพาเ้าไปที่ไหนสักแห่ง" หลี่ชิงหยุนกุมมือนาหลันเสี่ยวฉี และพานางไปยังแท่นหยกบ่มเพาะ ตอนนี้เขา้าให้นางกลั่นดอกบัวน้ำแข็งหมื่นปีก่อนสิ่งอื่นใด
"อาหยุน ที่นี่สวยมาก เราสามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้หรือไม่?" นาหลันเสี่ยวฉีสงสัย
"แน่นอนว่าเ้าสามารถอยู่ที่นี่ได้ เพียงแต่ที่แห่งนี้เป็สมบัติเชิงมิติ มีเพียงข้าเท่านั้นที่เปิดมันได้ อีกทั้งมันยังอยู่ในตันเถียนของข้าอีกด้วย หากเ้า้าเข้ามาเ้าต้องได้รับการอนุญาตจากข้าเท่านั้น" หลี่ชิงหยุนตอบข้อสงสัยของนาง
จากนั้นเขาหยิบหีบที่จัดเก็บดอกบัวน้ำแข็งหมื่นปีขึ้นมา พร้อมส่งมันให้กับนาหลันเสี่ยวฉีโดยตรง "ฉีฉี นี่คือสมุนไพรระดับ 6 ดอกบัวน้ำแข็งหมื่นปี ข้าได้สิ่งนี้มาจากศาลายาตระกูลข้า เ้าควรจะกลั่นมันทันทีสิ่งนี้เหมาะกับเส้นลมปราณหยินของเ้าอย่างมาก"
นาหลันเสี่ยวฉีตกตะลึงในคำพูดของเขา
"อาหยุน เ้าพูดว่าสมุนไพรระดับ 6! งั้นรึ!? ข้ารับไว้ไม่ได้ สิ่งนี้มีค่าเกินไป" นาหลันเสี่ยวฉีรู้ดีถึงคุณค่าของสมุนไพรระดับ 6 เป็อย่างดี หากสิ่งนี้รู้ไปถึงหูของนักสู้ระดับลมปราณฟ้า พวกเขาจะต่อสู้เพื่อแย่งชิงมันอย่างเอาเป็เอาตายอย่างแน่นอน
"ฉีฉี ไม่มีอะไรในโลกนี้มีค่าไปกว่าเ้าอีกแล้ว" หลี่ชิงหยุนเริ่มหยอดคำหวานใส่นาง แน่นอนว่าเพื่อไม่้าให้นางปฏิเสธ
"อาหยุน เ้าแกล้งข้าอีกแล้ว" นาหลันเสี่ยวฉีหน้าแดงอย่างเขินอาย
"ฮิฮิฮิ แค่รับมัน แม้ว่าเ้าจะอยู่แค่ระดับลมปราณทอง แต่ด้วยสิ่งนี้เ้าอาจจะเข้าสู่ระดับลมปราณหยกได้อย่างรวดเร็ว" เขา้าให้นางแข็งแกร่งขึ้นให้เร็วที่สุด ในอนาคตพวกเขาจะสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้
"ข้าเข้าใจ" นาหลันเสี่ยวฉีรู้ว่าหลี่ชิงหยุนต้องแบกรับอะไรหลายๆอย่าง หากนางสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ นางสามารถช่วยแบ่งเบาภาระของหลี่ชิงหยุนได้ นางไม่้าจะเป็ตัวถ่วงของเขาแบบนี้ต่อไป
"ดีที่เ้าเข้าใจ" หลี่ชิงหยุนลูบหัวของนางอย่างอ่อนโยน
"ตอนนี้เ้าควรกลั่นมันแค่ 1 ใน 50 ส่วนเท่านั้น หากเ้าเผลอกลั่นในปริมาณมากกว่านั้น ร่างกายเ้าอาจจะโดนแช่แข็งไปตลอดกาล แม้แต่ข้าก็ช่วยเ้าไม่ได้" หลี่ชิงหยุนริ่มสอนวิธีการใช้ดอกบัวน้ำแข็งหมื่นปีพร้อมกับคำเตือนต่างๆ
"เ้าควรอยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะไปที่ตระกูลเสิ่น เสิ่นชิงคงรอข้านานแล้ว" เมื่อหลี่ชิงหยุนกำลังบอกลาและกำลังจะออกไป จู่ๆเขารู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลราวกับมีบางสิ่งบางอย่างกำลังดันที่กลางหลังของเขา
ในตอนนี้นาหลันเสี่ยวฉีกำลังกอดเขาจากด้านหลัง...
"ฉีฉี..." เมื่อเขาหันหลังกับไป เขาพบว่านาหลันเสี่ยวฉีเริ่มยื่นใบหน้าของนางเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ ริมฝีปากสีแดงของนางเริ่มเข้ามาใกล้มากขึ้น
หลี่ชิงหยุนยื่นหน้าเข้าไปใกล้นางเพื่อตอบสนอง ริมฝีปากของทั้งสองประกบเข้าหากัน ทั้งสองคนจูบกันอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน
ขณะนี้ทั้งคู่กำลังรับรู้ถึงความรู้สึกที่อ่อนหวานในหัวใจของกันและกัน
"อืม..." หลังจากนั้นไม่นาน นาหลันเสี่ยวฉีก็ถอยออกมาช้าๆ ใบหน้าของนางแดงเหมือนลูกพีชสด แม้ว่านางจะเขินอาย แต่นางกลับชอบความรู้สึกเช่นนี้อย่างมาก
"อาหยุน ระวังตัวด้วย" นาหลันเสี่ยวฉีพูดอย่างเป็กังวล
"ไม่ต้องห่วง หากข้าตกอยู่ในอันตราย ข้าสามารถหลบหนีเข้ามาในเจดีย์แห่งนี้ได้ตลอดเวลา" หลี่ชิงหยุนลูบไล้ใบหน้าของนางอย่างอ่อนโยน
หลังจากบอกลากันเรียบร้อย หลี่ชิงหยุนออกมาจากเจดีย์ปฐมกาลโดยทิ้งให้นาหลันเสี่ยวฉีฝึกฝนต่อไป
.
.
.
เมื่อเขากลับมาเขาพบว่ามีเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากหน้าบ้านของเขา
"หลี่ชิงหยุน เ้าอยู่ที่นี่หรือไม่?" เสียงของหญิงสาวดังขึ้นจากด้านนอกอย่างเป็กังวล เ้าของเสียงคือโม่หยุนซีอย่างแม่นยำ
เมื่อรับรู้ว่าคนที่เคาะประตูคือองค์หญิง หลี่ชิงหยุนเดินไปที่ทางเข้าและเปิดประตูออกช้าๆ "องค์หญิง มีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่?"
ด้านนอกโม่หยุนซีแต่งกายด้วยชุดสีเหลืองอ่อนที่ดูพริ้วไหว ผ้าคาดเอวของนางเป็สีขาว พร้อมกับมีหยกสีเขียวห้อยอยู่ที่เอว ปิ่นปักผมสีทองกวาดรวบผมของนางไว้้า องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้นางแลดูสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อเห็นว่าหลี่ชิงหยุนกำลังจ้องมาที่นางโดยไม่ได้พูดอะไร ในใจของนางรู้สึกเขินอายเล็กน้อยก่อนที่จะพูดกับหลี่ชิงหยุน "หลี่ชิงหยุน เ้าหายไปไหนมา?"
[ดูเหมือนว่าองค์หญิงผู้นี้รอเขาอยู่ที่หน้าประตูเป็เวลานาน]
"ขออภัยที่ให้รอนาน ข้ากำลังฝึกฝนกับฉีฉีในลานด้านใน... องค์หญิงมาที่นี่ มีธุระอะไรกับข้าหรือไม่?" หลี่ชิงหยุนถามจุดประสงค์ของนางในทันที
"บิดาของข้า้าพบเ้า" โม่หยุนซีไม่ตีรอบพุ่มไม้พร้อมบอกจุดประสงค์ของนางทันที
"อะไร!?" หลี่ชิงหยุนประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าฝ่าา้าพบเขา
ตำแหน่งพระาาแห่งราชวงศ์โม่ผู้นี้ เมื่อเทียบกับเขาแล้ว ทั้งสองคนอยู่คนละระดับกันโดยสิ้นเชิง แต่ตอนนี้าาแห่งประเทศริเริ่มที่จะเชิญเขาที่เป็คนตัวเล็กที่ต่ำต้อยให้ไปเข้าเฝ้าเป็การส่วนตัว
"ฝ่าา้าอะไรจากข้าหรือไม่?" หลี่ชิงหยุนสงสัยว่าทำไมฝ่าาต้องเรียกเขาไปในเวลาเช่นนี้
"ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน เ้าควรไปพบท่านด้วยตัวเอง" โม่หยุนซีแค่ได้รับคำสั่งจากบิดาของนางเท่านั้น
"เข้าใจแล้ว รอสักครู่ ข้าขอเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน" เสื้อผ้าของหลี่ชิงหยุนในขณะนี้ดูจืดชืดเกินไป หากต้องไปเข้าเฝ้าพระาา แน่นอนว่าการแต่งกายของเขาต้องสำรวมดูดีและเรียบร้อย
โม่หยุนซีแค่รออยู่ด้านนอกกับองครักษ์ทั้งสองของนางในระหว่างที่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้า
จากนั้นไม่นานเสียงฝีเท้าดังขึ้นเบาๆ หลี่ชิงหยุนก้าวออกมาจากห้องของเขาอย่างสง่างาม
ตอนนี้เขาสวมเสื้อผ้าที่เป็ทางการ นี่คือเครื่องแบบของข้าราชการทั่วไป เสื้อปักด้านในเป็สีขาวล้วน ส่วนเสื้อชั้นนอกมีสีทองอ่อนๆเป็ประกายงดงาม แม้ว่าจะดูเรียบง่าย แต่เมื่อสิ่งนี้รวมเข้ากับองค์ประกอบของหลี่ชิงหยุนแล้ว มันให้ความรู้สึกที่สง่างามและยิ่งใหญ่ ตรงกันข้ามกับบุคลิกของเขาก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง
หากก่อนหน้านี้เขาเป็ชายหนุ่มที่หล่อเหลาและไร้เดียงสา แต่ตอนนี้เขาเปรียบเสมือนขุนนางที่มาจากชนชั้นสูงอย่างแท้จริง
แม้แต่โม่หยุนซีก็อ้าปากค้างอย่างตกตะลึงในความดูดีของเขา นางไม่เคยคาดคิดเลยว่าแค่เปลี่ยนชุดแค่นั้น บุคลิกและความหล่อเหลาของเขาก็ยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีกขั้นราวกับว่าเป็คนละคน
"องค์หญิง เราไปกันเถอะ หลังจากนี้ข้ามีบางสิ่งที่ต้องจัดการ" เขาไม่สามารถปฏิเสธพระาาได้ ดังนั้นก่อนจะมุ่งหน้าไปยังตระกูลเสิ่น เขาจำเป็ต้องจัดการเื่ตรงหน้าของเขาเสียก่อน
"ฮึ่ม!" โม่หยุนซีทำหน้ามุ่ยอย่างไม่พอใจ นางรู้ดีว่าหากไม่ใช่พระาาเชิญเขาไป หลี่ชิงหยุนคงปฏิเสธไปเสียแล้ว