อีกด้านหนึ่ง
เ่ิูยังไม่รู้ตัว
“มาสิ เ้าเดรัจฉาน มาอีกเซ่...”
เ่ิูของขึ้น เขาโยนแขนัลิงั์ทิ้งแล้วกระโจนขึ้นหา
หมาหัวโตเห่ายินดี มันวิ่งเข้าหาอย่างกับฟ้าแลบ ะโใส่แขนที่โดนตัดขาดแล้วสวาปามอย่างรวดเร็ว
ปึง!
เ่ิูฉีกแขนอีกข้างของัวานรผืนหิมะไวทันใจ
“แฮ่กๆ บ๊อกๆๆๆ!”
เ้าหัวโตเห่าพลางะโโลดเต้นพลาง
แขนัวานรข้างก่อนเหลือแต่กระดูกขาวใหม่เอี่ยมเรียบร้อย เนื้อสักเส้นยังไม่เหลือให้เห็น กระดูกยังไม่วายโดนกัดจนพรุนเป็รูเล็กๆ เพื่อดูดไขกระดูกจนแห้ง
“ตัวอะไรเนี่ย?” ทหารรักษาการณ์คนแรกตะลึง
“ข้าตาฝาดใช่ไหม...” ทหารคนที่สองขยี้ตา จากนั้นก็ได้เห็นแสงสว่างสีขาวตรงเข้าพันรอบแขนลิงั์ข้างที่สองอยู่หลายรอบ และแขนข้างนั้นก็เหลือแต่กระดูกขาวๆ ที่โดนดูดยันไข
“เหมือนจะมีตัวอะไระโออกมาจากตัวใต้เท้านะ?” ทหารคนที่สามพยายามระลึกชาติ
“หรือจะเป็สัตว์เลี้ยงของใต้เท้าท่าน?” ทหารคนที่สี่ครุ่นคิด
“พูดเหลวไหลอะไรกัน” หัวหน้าผู้รักษาป้อมเยี่ยนฝานจ้องหมู่ชนทีหนึ่งแล้วว่า “ระแวดระวังให้ดี คุ้มครองใต้เท้า...”
เอ่ยถึงตรงนี้ หัวหน้าทหารผู้รักษาก็รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีสิทธิ์เข้าไปร่วมในการต่อสู้นั้นเลย เื่จะคุ้มครองเ่ิูคงไม่ต้องพูดถึง เขาอึดอัดใจบอกไม่ถูก สายตาเหลือบไปเห็นกระดูกขาวๆ กองอยู่กลายๆ มีอะไรบางอย่างส่องแสงสีทองแล่นมา “นั่นมันอะไร ไปดูซิ...”
ทั้งหมดหลบลูกหลงจากการต่อสู้และโขดน้ำแข็งคลื่นหิมะที่สาดทะลัก รุดเข้าไปใกล้เป้าหมาย
เป็เกราะหุ้มข้อมือของสัตว์อสูร
เยี่ยนฝานั์ตาเคร่งขรึม เขาหยิบเกราะหุ้มข้อมือนั้นขึ้นมา มันหนักร้อยจินได้ ทั้งอันสามารถกักขังคนสามสี่คนไว้ได้เลย เทอะทะหนักอึ้ง ้ามีริ้วลายผิดธรรมดา ไม่รู้ว่าหมายความว่าอะไร อักขระสลักเสลาอย่างประณีต ไม่มีทางเป็สิ่งที่ติดตัวสัตว์อสูรหรือมันหล่อหลอมขึ้นมาเองอย่างแน่นอน เป็ที่ชัดเจนว่าเกราะหุ้มข้อมือนี้ถูกห้อยไว้บนัวานร ทว่าเพราะก่อนหน้านี้ขนของมันยาวเกินไป จึงปิดไว้เสียมิด ตอนที่แขนทั้งแขนโดนกินจนเกลี้ยงนั่นแหละถึงได้เห็น...
“ัวานรตัวนี้มีคนเลี้ยงมันมา...” เยี่ยนฝานคิดแล้วคิดอีกก็ได้ข้อสรุปที่เป็ปัญหา
“แฮ่กๆ แฮ่กๆๆ!”
เสียงแปลกๆ ดังแว่วมา
พวกเขาเงยหน้ามองเห็นหมาสีขาวตัวน้อยเท่าฝ่ามือ ขาหลังนั่งยองๆ แลบลิ้นเล็กนุ่มออกมา ฟันน้ำนมสีขาววาววับ ท่าทางน่าประหลาดราวกับว่าสังเกตพวกเขาอยู่
“หนูน้อยน่ารักจริงเชียว” ทหารรักษาป้อมคนแรกเกิดรักใคร่ขึ้นมา
“อย่าขยับ” เยี่ยนฝานะโแจ่มแจ้ง “เมื่อครู่ก็มันนี่แหละ” เอ่ยพลางชี้แขนั์ที่โดนกัดกินจนเหลือแต่กระดูก
“ไม่น่าใช่ ตัวเล็กแค่นี้เอง...” คนที่สี่ยังลังเล
พูดไม่ทันขาดคำ
ตอนที่เ้าหมาอ้าปากเหมือนมีอะไรมาง้างนั่นเอง เื่อันน่ากลัวก็ปรากฏ...
ปากที่เคยน่ารักนักทวีขนาดในชั่วพริบตา มันใหญ่ขึ้นๆ พริบตาเดียวก็ยาวประมาณสี่ห้าเมตร ลิ้นนุ่มกลายเป็ลิ้นเืพร้อมหนามทิ่มแทง ฟันเล็กๆ น่ารักกลับคมกริบเหมือนกระบี่เหมือนดาบ สำรอกเอากระดูกขาวขนาดั์ที่โดนเลียจนสะอาดออกมาจากลำคอ...
เป็กระดูกแขนหลักของัวานรแดนหิมะ
หลังเ้าหัวโตสำรอกกระดูกนี้ออกมา ปากมันก็กลับคืนเป็อย่างเก่า น่ารักจิ้มลิ้ม แถมยังแลบลิ้นนุ่มออกมาเลียริมฝีปากปิดท้าย
เห็นภาพตรงหน้าแล้ว เหล่าทหารรักษาป้อมก็เหงื่อเย็นๆ แตกซิก
ไม่มีใครกล้าคิดว่าเ้าหมานี่น่ารักอีกต่อไปแล้ว
“แฮ่กๆ...” หมาหัวโตเงยหน้ามอง ส่งเสียงประหลาดเหลือออกมา มันมองทั้งห้าคนอย่างแปลกใจ น้ำลายไหลย้อยจากมุมปาก
“มันคงไม่กินข้าหรอกใช่ไหม...” ทหารคนที่สองลอบถาม
“สรุปแล้วใช่สัตว์เลี้ยงของท่านใต้เท้าเย่หรือเปล่าน่ะ” ทหารคนที่สามชักใจสั่น พอเห็นน้ำลายเ้าเด็กนี่แล้ว อดรู้สึกว่าสายตาที่มันมองเขาไม่ต่างกับที่มองแขนของัวานรไม่ได้
“แฮ่กๆ!”
เ้าหัวโตะโซ้ายทีขวาที
มันเร็วเอามากๆ ขยับทีประหนึ่งฟ้าแลบแล่น อย่างกับใช้วิชาเคลื่อนย้ายย้ายตำแหน่งของตัวเอง เยี่ยนฝานมองตามความไวของเ้าหมามึนไม่ทัน ทหารคนแรกมองตามได้ไม่กี่อึดใจก็รู้สึกเหมือนั์ตาตัวเองไม่ใช่ของตัวเอง หมุนติ้วจนงงไปหมด
“บ๊อกๆๆ!”
มันน้ำลายไหลโกรกยามมองคนทั้งห้าตาไม่กะพริบ เข้ามาประชิดตัวขึ้นเรื่อยๆ
ฟิ้ว!
มันะโในพลัน พุ่งเข้าหาเยี่ยนฝาน
ปากซึ่งเคยจิ้มลิ้มบัดนี้เปลี่ยนสภาพกู่ไม่กลับ
เวรล่ะ!
มันจะกินข้าเรอะ?
เยี่ยนฝานใ
ทันใดนั้นเอง...
เพี้ยะ!
เ่ิูมาปรากฏกายอยู่หน้าเยี่ยนฝานในบัดดล เขายกมือขึ้นฟาดหมามึนที่เร็วจี๋จนลอยไปไกล
“บ๊อกๆๆ แฮ่กๆ!” เ้าหมาพุ่งเข้ามาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว มันนั่งยองๆ อยู่หน้าเ่ิู ท่าทางเหมือนน้อยใจเป็ที่สุด ั์ตาโตๆ ดำขลับน้ำตาคลอเบ้ามองเ่ิู แสดงออกว่าไม่เข้าใจเขาเด่นชัด
เ่ิูลูบหิมะสีเงินบนใบหน้าตัวเอง เขาไม่ทั้งยิ้มไม่ทั้งร้องไห้ แต่กลับว่าอย่างโกรธจัด “เ้าตะกละโง่เง่า ปกติกินล้างกินผลาญข้ายังพอทน ไม่นึกเลยว่าเ้าจะถึงขั้นกินคน ไม่ใช่ว่านานๆ เข้าเ้าจะนึกอยากกินข้าเข้าไปด้วยหรอกนะ?”
“แฮ่กๆ...แฮ่กๆ!”
เ้าหมาพยายามรวบรวมทุกสีหน้าที่มีแสดงออกมาว่าที่มันเห็นเยี่ยนฝานและอีกสี่คนเป็ศัตรูนั้น มันเป็เื่เข้าใจผิด ตามมาด้วยการประจบ มันกระโจนเข้ามาถูไถหน้ากับขากางเกงเ่ิู สื่อว่ามันจะไม่มีทางกินเ่ิูเป็อันขาด และจะเชื่องอย่างดีด้วย
หนุ่มน้อยแม้จะเป็เพียงหมา แต่อารมณ์บนสีหน้าและแววตากลับครบครันเหลือเกิน
และไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เ่ิูถึงได้มองออกว่ามัน้าจะบอกอะไร
“ในเมื่อเ้ากินล้างกินผลาญถึงเพียงนี้ ทำไมไม่ช่วยข้ากินเ้าลิงั์นั่นเสียล่ะ?” เ่ิูหายใจหอบสั้นๆ เขาชี้ไปยังัวานรแดนหิมะไกลออกไปยี่สิบกว่าเมตร มันกำลังหอบเหมือนกันกับเขา
ตะลุมบอนกันมาจนถึงตอนนี้ สภาพของัวานรแดนหิมะอเนจอนาถยิ่งนัก
สี่แขนของมันเหลือแค่สาม ถูกเ่ิูฉีกจนขาดออกมาทั้งเป็ หน้าอกยุบ กระดูกซี่โครงแทงออกมาด้านนอก ตาข้างเดียวนั้นเหมือนถูกทำร้ายจนบอด ยืนก็แทบจะยืนไม่ไหว ต้องอาศัยพิงโขดน้ำแข็งั์ไว้เป็ที่มั่น เืสีเงินหลั่งออกมาจากปากแผลไม่ได้ขาด พอหยดลงถึงพื้นก็กลายเป็น้ำแข็งไป...
เดรัจฉานชนิดนี้โหดร้าย ได้แผลมาขนาดนี้กลับยังดุร้ายเ้าอารมณ์ไม่เปลี่ยน
“กรร กรร กรร!”
มันยึดโขดน้ำแข็งไว้ ตามมาด้วยเสียงคำรามซ้ำแล้วซ้ำอีก ความดุร้ายโเี้สาดซัดอย่างล้นหลาม กลายเป็สายลมแรงกล้าฟุ้งกลิ่นคาวเืมุ่งตรงมาบดขยี้เ่ิู
เยี่ยนฝานปิดหูอย่างทนไม่ได้ เขาหวาดผวาจนแทบจะชาดิกไปทั้งตัวแล้ว
เ่ิูเองก็ขมวดคิ้ว
เ้าหมาตะกละช่างมึนและโง่ที่ประจบเ่ิูเพราะทำผิดไป ก็ไม่วายะเืจนขนลุกทั้งตัว พริบตาเดียวก็เหมือนราชสีห์คลั่งที่โดนแย่งคู่ไป มันโมโหขึ้นมาฉับพลัน มันหันหน้าไปตามทิศทางนั้น ปากขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว กลายเป็ปากั์โลหิตคำรามัวานรคืน!
“แฮ่กๆ...บ๊อกๆ!”
เสียงอย่างกับเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
เทียบกับเสียงอันน่ากลัวจนม้วนหิมะได้เยี่ยงัวานรแล้ว เสียงของเ้าหมามึนเหมือนยุงกำลังบินหวี่ๆ
เ่ิูปิดหน้าอย่างห้ามไม่ได้
อับอายขายขี้หน้า
ต่อจากนี้เขาจะไม่มีทางให้หมาโง่มึนๆ ตัวนี้ออกมาทำให้ขายหน้าอีกเลย ภาพตรงหน้านี้ทำให้เ่ิูนึกอยากทิ้งเ้าตัวตะกละนี่ไปซะ กากเดนเหลือเกิน นอกจากกินแล้วก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นดีเลย
เยี่ยนฝานและคนที่เหลือก็อดยิ้มไม่ได้เช่นกัน
หมาน้อยตัวนี้โง่นัก จะน่ารักเกินไปแล้ว
“โฮ่งๆ...แฮ่กๆ บ๊อกๆ!” หัวโตยังเห่าอย่างสุดความสามารถ
เ่ิูทนมองต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาหิ้วคอมันขึ้นมา กำลังจะเอ่ยอะไรบางอย่าง พลันนึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เขาหันกลับไปมอง แล้วดันเห็นเ้าัวานรแดนหิมะหยุดคำราม มันหลบอยู่หลังโขดน้ำแข็งราวกับเด็กเล็กๆ ที่กลัวจนทำอะไรไม่ถูก มันตัวสั่นงันงก ส่งเสียงฮือๆๆ ออกมาไม่หยุด...
นี่มันเื่บ้าอะไรกันเนี่ย?
เ่ิูหันมองเยี่ยนฝานและอีกสี่คน
ห้าคนชะงักค้างเหมือนก้อนหิน
เ่ิูมองทิศทางรอบด้าน ไม่เห็นมีตัวอะไรโผล่มา
อย่าบอกนะว่า...
เ่ิูก้มมองเ้าหมามึนหัวโตที่เขาหิ้วไว้ในมือ หมาที่แลบลิ้นออกมาประจบประแจงเขาตัวนี้ ในใจเกิดความคิดที่เรียกได้ว่าน่าขำออกมา หรือกลายเป็ว่าเสียงเห่าของเ้านี่จะทำให้ัวานรกลัวหัวหด?
ไม่ใช่เื่จริงมั้ง?
หรือเ้าตะกละกับัวานรจะดวงชะตาไม่ถูกกัน?
เ่ิูคิดแล้วก็ตัดสินใจจะพิสูจน์จริงอย่างหาญกล้า
เด็กหนุ่มก้มหน้ายิ้มให้หมา จากนั้นก็โยนจะกละทิ้งไปยังทิศที่ัวานรแดนหิมะอยู่
“อืม ถึงเ้าตะกละจะไม่ได้ดวงไม่ถูกกันกับัวานรแดนหิมะ แต่ความเร็วมันก็ใช่เล่น หนีออกมาได้อยู่แล้ว อย่างมากก็เจ็บหนัก ไม่มีทางตายง่ายๆ หรอกน่า...” าามารเย่ปลอบใจตัวเอง
ทว่าภาพต่อมา กลับทำให้เ่ิูตัวแข็งทื่อเหมือนหิน
เ้าหมาที่โดนโยนไปจนถึงตัวัวานรแดนหิมะ ไม่ได้มีท่าทางหวาดกลัวอะไรเลย กลับกันัวานรเสียเองที่ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว เนื้อตัวสั่นระริก ปากส่งเสียงต่ำจนเหมือนร้องขอชีวิต...
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีประโยชน์
เ้าหมาหัวโตกลายเป็ลำแสงโอบพันัวานรไว้ เร็วเหมือนสายฟ้า
สิบอึดใจต่อมา ัวานรก็หายไป สิ่งที่มาแทนที่คือโครงกระดูกทั้งตัวกองเท่าูเา กระดูกขาวสะอาดไม่มีเศษเนื้อติดแม้แต่ชิ้นเดียว มองผ่านๆ เหมือนศพของสัตว์ใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวนานนับล้านปีจนกลายเป็ฟอสซิล...
หมาหัวโตยืนเลียปากอย่างพอใจอยู่ตรงหน้าซาก
“ฉิบหาย...”
เ่ิูหมดคำพูด
นี่มันเื่บ้าอะไรกันวะเนี่ย
ตัวเล็กแค่นี้เคี้ยวัวานรเหมือนเคี้ยวข้าวโพดจนเหลือแค่กระดูก?
อย่าเพิ่งพูดเื่ที่มันได้ความสามารถนี้มาจากไหนเลย ถ้ารู้ว่าเป็อย่างนี้ั้แ่แรก พ่อแค่ปิดประตูวางหมา ไม่ต้องมาลำบากสู้นานนม เหนื่อยจนคอแห้งหน้าร้อนอย่างนี้
เ่ิูกวักมือเรียกเ้าหมา
ฟิ้ว!
เ้าตัวน้อยมาปรากฏตัวอยู่หน้าเ่ิูในพริบตา มันนั่งยองๆ ส่งเสียงแฮ่กๆ แลบลิ้นทำท่าน่ารัก
รักชีวิต จงอย่าคิดสู้หมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้