บทที่ 114 หัวใจที่ตายจาก
“หึ! เ้ามีคนรักแล้วอย่างไร? คิดว่าข้าจะคำนึงถึงความรู้สึกของเ้าหรือ?”
ฉู่เจิ้นหนานไม่สนใจในสิ่งที่ฉู่ซินเหยาพูดและหัวเราะเบาๆ “เหยาเอ๋อร์ ทำไมเ้าถึงไร้เดียงสาขนาดนี้? ไม่รู้หรือว่าเกิดในตระกูลใหญ่และไม่มีวรยุทธ์นั้น ย่อมต้องจบลงด้วยการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์?”
ตระกูลฉู่เป็เช่นนี้มาตลอด ในอดีต เด็กผู้หญิงหลายคนของตระกูลที่หน้าตาดีแต่ปลุกิญญายุทธ์ไม่ได้ล้วนถูกนำมาใช้เป็เครื่องมือในการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับกองกำลังที่ทรงพลังอื่นๆ
แม้ว่าพวกนางจะมีคนธรรมดาที่พวกนางรักยิ่ง แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตามคำสั่งของตระกูล
ฉู่ซินเหยาไม่ใช่คนแรก และไม่ใช่คนสุดท้าย
ยิ่งไปกว่านั้น ความงามของนางที่ไม่มีใครเทียบได้ ทั้งประณีตหมดจด เมื่อนำนางมาเป็สินค้าเ้าสาว มูลค่าของนางก็ยิ่งสูงขึ้นไปอีก สามารถดึงดูดคนหนุ่มๆ ที่มีความสามารถให้มาแข่งขันกันมากขึ้น เทียบเท่ากับการเพิ่มกำไรของฉู่เจิ้นหนานไปโดยปริยาย
เพื่อที่จะได้สาวงาม ใครเล่าจะไม่ทุ่มทรัพย์มาสู้?
“ฉู่เจิ้นหนาน ข้าบอกเ้าไว้ที่นี่เลยนะ ไม่ว่าคนพวกนั้นจะขอพบอย่างไรข้าก็จะปฏิเสธ! ถ้าสามีของข้าไม่ใช่คนที่ข้ารัก ข้าจะไม่มีวันแต่งงานกับเขา!” ฉู่ซินเหยาะโด้วยความโกรธ แสบร้อนจมูก นางเสียใจยิ่งนัก
เพราะนางใช้แรงในการพูดเยอะไป จึงไอออกมา ริมฝีปากของนางก็ซีดลง
คำพูดที่ดังและตีโพยตีพายเหล่านี้เป็พลังสุดท้ายในการต่อต้านของนาง
“เ้าไม่อยากแต่งก็ต้องแต่ง!” ฉู่เจิ้นหนานหันกลับมาจับจ้องฉู่ซินเหยาด้วยความโกรธ จากนั้นเขาก็สะบัดแขนเสื้อแล้วตะคอก “หึ! สาวน้อย เ้าตอบแทนความเมตตาด้วยความเกลียดชังจริงๆ ตัวเลือกเ้าบ่าวในครั้งนี้ล้วนดีเยี่ยม ไม่วางท่าโอ้อวด ภูมิหลังครอบครัวก็ดี!”
“นอกจากนี้ พวกเขาแต่ละคนยังกล้าหาญและมีความสามารถ อนาคตที่สดใสไร้มลทิน ข้าฉุ่เจิ้นหนานรับประกันได้เลยว่าหากดึงพวกเขาคนใดคนหนึ่งเข้ามา จะต้องถูกกองกำลังต่างๆ ให้ความเคารพ จะยิ่งใหญ่เหนือใคร!”
“ดังเช่นคุณชายผู้อ่อนโยนแห่งเมืองชุยเสวี่ย หรือนักพรตหนุ่มจากตระกูลเก่าแก่ เหตุใดเ้าถึงยังไม่พอใจเล่า? พวกเขาคู่ควรกับเ้าทั้งสิ้น!”
“คู่ควรกับข้า?” เมื่อได้ยินการดุอย่างโกรธเกรี้ยวของฉู่เจิ้นหนาน ฉู่ซินเหยาก็ยิ้มสมเพชพร้อมน้ำตาคลอเบ้า รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง
นางสะอื้น “ถ้าไม่ใช่คนที่ข้ารัก คู่ควรแล้วจะมีประโยชน์อันใด? เ้าก็แค่ทำเพื่อผลประโยชน์มหาศาลที่อยู่เื้ั แล้วเหตุใดต้องมาพูดจาใหญ่โตเช่นนี้ด้วย ละอายใจบ้างหรือไม่? ท่านผู้นำตระกูลฉู่!”
ฉู่เจิ้นหนานเป็คนผลักดันและเป็ผู้มีอำนาจตัดสินใจเื้ัการรับสมัครเ้าบ่าวในครั้งนี้ เื่นี้ฉู่ซินเหยาก็รู้เช่นกัน นางไม่ได้โง่ขนาดนั้น
แต่ไม่ว่าจะรู้หรือไม่กับสามารถต้านทานได้หรือไม่ มันแตกต่างกัน
“เ้ามันช่างดื้อรั้นจริงๆ! ถ้าข้า้า ข้าให้เ้าแต่งงานกับชายชราที่ทรงพลังก็ยังได้ หรือจะให้เ้าแต่งงานกับผู้ฝึกยุทธ์ที่มีรูปร่างแปลกๆ มีบุคลิกแปลกๆ ก็ได้ด้วย!”
“แต่ตอนนี้ ข้าจะให้เวลาเ้าคิดและให้โอกาสเ้าเลือก! เป้าหมายเ่าั้ล้วนเป็อัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่มีชื่อเสียงและโดดเด่น! เ้าควรจะพอใจและขอบคุณข้า แทนที่จะมาอาละวาดอยู่ที่นี่!”
ฉู่เจิ้นหนานชี้ไปที่ฉุ่ซินเหยาด้วยท่าทีที่เกลียดชัง เขาโกรธมากและโต้เถียงอย่างมีเหตุผลราวกับว่าเขาเป็คนที่ถูกกระทำไม่ดีใส่
เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมฉู่ซินเหยาถึงได้ดื้อรั้นและไม่อยากแต่งงาน ในความประทับใจของฉู่เจิ้นหนาน นางเป็เพียงเด็กผู้หญิงที่อ่อนโยน สง่างาม ประพฤติตนดี และอ่อนแอ
อะไรทำให้นางยืนหยัด รักษาความซื่อสัตย์ และยังมีความกล้าที่จะท้าทายผู้นำตระกูลเช่นเขา?
ยามนี้ ฉู่ซินเหยาไม่ได้จับจ้องที่ฉู่เจิ้นหนานอีกต่อไป แต่หันไปจ้องมองที่ทะเลสาบอันเงียบสงบและพูดอย่างเ็า “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ข้าจะไม่เลือก หากเ้ายืนกรานให้ข้าแต่งงาน วันสมรสมาถึง คือวันที่เ้าจะต้องเสียใจ!”
ความหมายของนางชัดเจนยิ่งนัก หากฉู่เจิ้นหนานยังคงกดดันกันทุกทาง นางก็จะจบชีวิตอันแสนสั้นของนางด้วยตัวเอง แทนที่จะยอมจำนนด้วยน้ำมือของคนอื่น นี่นับเป็ภัยคุกคามที่อ่อนแอ
ตอนนี้สิ่งต่างๆ ล้วนเกิดขึ้นแล้ว ฉู่ซินเหยาไม่มีหมากม้าใดๆ อีก นางเป็เพียงผู้หญิงที่อ่อนแอ
แต่ฉู่เจิ้นหนานหัวเราะเสียงดังและพูดว่า “ฮ่าๆ! อย่าไร้เดียงสาไปหน่อยเลย เหยาเอ๋อร์ เ้าคิดว่าคนที่มีอำนาจและเย่อหยิ่งพวกนั้นจะปล่อยให้เ้าทำทุกอย่างตามที่เ้า้าหรือ? คนเขาสามารถทำให้เ้าเป็เ้าสาวที่ดีได้เพียงดีดนิ้ว ทำใจให้สบายเถอะ!”
“ข้า... ไม่แต่ง! ข้าไม่แต่ง!” ฉู่ซินเหยาโต้กลับอย่างไม่เต็มใจ แท้จริงแล้วนางไม่สามารถต้านทานได้เลย
แต่นางยังคงดื้อรั้นและพูดอย่างหนักแน่นว่า “คนรักของข้าดีกว่าอัจฉริยะพวกนี้มาก! ไม่ต้องเปรียบเทียบกันสักนิด! เขา... จะมาหาข้าแน่นอน จะมาแน่นอน...”
ยามนี้ ฉู่ซินเหยาเหม่อมองทะเลสาบอันเงียบสงบ ราวกับกำลังรอความหวังสุดท้าย แม้ว่าความหวังนี้จะดูเบาบางและอ่อนแอ แต่นางก็กำลังรออยู่จริงๆ
นางกำลังรอใครบางคนอยู่
ชายหนุ่มผู้ไม่มีวันทิ้งนางไป
เมื่อเห็นว่าฉู่ซินเหยายังคงดื้อรั้นและไม่ยอมจำนน ฉู่เจิ้นหนานก็ขมวดคิ้ว แม้ว่าเขาจะเป็ผู้ตัดสินใจคนสุดท้าย ไม่ว่าในที่สุดเขาจะเลือกตระกูลไหน แต่เขาก็ไม่อยากส่งเ้าสาวที่ไม่เชื่อฟังออกไป
สำหรับฉู่เจิ้นหนาน สิ่งนี้จะทำลายชื่อเสียงของเขาและทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้สถานะของเขาในตระกูลฉู่ตกต่ำลง
“ฮึ่ม! ในเมื่อเ้าหัวแข็งเช่นนี้ ข้าอยากจะรู้นักว่าใครคือคนในใจของเ้า? ที่ทำให้เ้ามีความสุขได้!” ฉู่เจิ้นหนานถามอย่างฉุนเฉียว เขาอยากรู้จริงๆ ว่าคนคนนี้มีที่มาอย่างไร เหตุใดจึงทำให้ฉู่ซินเหยาหมกมุ่นได้ขนาดนี้?
ทำให้ฉู่ซินเหยาซึ่งเป็สาวงามที่ไม่มีใครเทียบนางนี้ ไม่ลืมเลือน คอยนึกถึงอยู่เสมอ ชายผู้นี้จะต้องเป็คนที่โดดเด่นมาก ดีกว่าคนที่มีความสามารถในเมืองชุยเสวี่ยในตอนนี้
หากเขามีโอกาสที่จะก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ได้ทำความรู้จักกับคนคนนี้เพื่อตระกูลของเขา ฉู่เจิ้นหนานย่อมเต็มใจอย่างแน่นอน
จิ้งจอกเฒ่าตัวนี้ไม่สนใจว่าสามีของนางจะเป็ใคร เขาสนใจเพียงว่าเขาจะได้รับประโยชน์มากน้อยเพียงใด
“เ้าถามข้าว่าคนรักของข้าคือใคร?” ฉู่ซินเหยาตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามของฉู่จิ้นหนาน ทันใดนั้นดวงตาของนางก็หรี่ลงและตกอยู่ในความเงียบ นางจ้องมองที่ทะเลสาบโดยไม่ส่งเสียงเป็เวลานาน ราวกับว่ากำลังอยู่ในอาการงุนงงแต่ก็ดูเหมือนจะล่องลอยอยู่ในความทรงจำ
ทะเลสาบเล็กๆ แห่งนี้ เรียบใสราวกระจก สะท้อนสีท้องฟ้า มองเห็นเมฆขาวลอยล่องอยู่กลางนภา ไร้รูปร่าง ไร้ร่องรอย ไม่เที่ยงแท้
แต่ในสายตาของฉู่ซินเหยา ดูเหมือนจะมีคนที่สามารถทำให้หัวใจของนางเต้นแรงได้อยู่ในนั้น
ผ่านไปนาน ดวงตาของนางก็อ่อนลง มุมปากปรากฏรอยยิ้มหวาน ดูเศร้าเล็กน้อย และกระซิบเบาๆ ว่า “คนคนนี้ ชายที่ข้าห่วงใยทั้งทิวาและราตรี ผู้ที่ครองใจข้า ท่านผู้นำ ท่านก็รู้จักเขา”
หลังจากพูดจบ หัวใจของฉู่ซินเหยาก็เต้นรัว
นี่เป็ครั้งแรกที่นางรู้ตัว และเป็ครั้งแรกที่นางต้องเผชิญกับคำตอบที่ซ่อนอยู่ในใจมายาวนาน
“ฮึ่ม! อัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่ข้ารู้จักทั้งหมดอยู่ในเมืองนี้! ใครจะดีไปกว่าพวกเขาอีก!? เว้นแต่ว่าคนรักของเ้าจะย่ำแย่กว่าพวกเขา!” ฉู่เจินหนานพูดอย่างเ็าและไม่เห็นด้วย
“เป็ไปได้อย่างไร?” ฉู่ซินเหยาเงยหน้าขึ้นมองก้อนเมฆบนท้องฟ้า ดวงตาของนางขยับ และพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ “อวิ๋นเอ๋อร์ปฏิบัติต่อข้าอย่างจริงใจ ในอนาคตเขาจะต้องเป็คนที่พิเศษมากแน่ๆ เขาจะกลายเป็วีรบุรุษที่ไม่มีใครเทียบได้ เช่นเดียวกับผู้ที่อยู่บนท้องฟ้า ฉู่อวิ๋นจะมาที่นี่เพื่อตามหาข้าและพาข้าไป ข้ารู้สึกได้ วันนั้นอยู่ไม่ไกลแล้ว”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ในตอนแรกฉู่เจิ้นหนานก็ใและจากนั้นก็เป็ความรู้สึกเหลือเชื่อ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไป คิ้วของเขากระตุก
อะไรนะ? คนงามที่ไม่มีใครเทียบได้ที่ทำให้ชายหนุ่มทั้งแคว้นหลงใหล ตกหลุมรักกับนักรบหนุ่มที่เกิดมาพร้อมกับิญญายุทธ์พิการและตระกูลอันตกต่ำ?!
ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองยังเป็พี่น้องกัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเื แต่ก็เป็เื่ที่ไม่คาดคิดและน่าใจริงๆ!
ต้องรู้ว่า อัจฉริยะรุ่นเยาว์ในเมืองชุยเสวี่ยต่างก็เป็นักรบเหนือขั้นมหาสมุทร ภูมิหลังของพวกเขาก็ลึกซึ้งอย่างยิ่ง พวกเขาดีกว่าดาวหายนะของเมืองไป๋หยางเป็พันเท่า หมื่นเท่า แค่ยกมาเปรียบเทียบก็เห็นความแตกต่าง!
ฉู่เจิ้นหนานไม่เคยคิดเลยว่าคนรักของฉู่ซินเหยาจะเป็เพียงคนไร้ประโยชน์ของตระกูลย่อย! ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเห็นท่าทีของฉู่ซินเหยา มันเต็มไปด้วยความเสน่หา ไม่มีทางเสแสร้งเป็แน่!
แต่ฉู่เจิ้นหนานก็สงบลงอย่างรวดเร็ว เขาหายใจเข้าลึกๆ อย่างโล่งใจพร้อมรอยยิ้มอันภาคภูมิใจบนริมฝีปาก
“เ้าคิดว่าเด็กสารเลวนั้นจะมาหาเ้าหรือ?” ฉู่เจิ้นหนานหัวเราะเยาะ คิดว่ามันไร้สาระ
“แน่นอน!” ฉู่ซินเหยาพูดอย่างแน่วแน่โดยไม่กระพริบตา เพียงจ้องมองเมฆสีขาวบนท้องฟ้า
“ฮ่าๆๆ! ถ้าเช่นนั้น ข้าจะเล่าให้ฟัง!” ฉู่เจิ้นหนานหัวเราะเต็มคำ พยายามทำให้ฉู่ซินเหยายอมแพ้ และพูดเสียงดัง “ข้าได้ข่าวมาว่าก่อนหน้านี้ว่าอวิ๋นเอ๋อร์ผู้แสนดีของเ้ากำลังตามหาเ้าอยู่ และโชคร้ายถูกฝังอยู่ในท้องของสัตว์ปีศาจเรียบร้อยแล้ว”
“เกรงว่าเขาคงมาที่นี่ไม่ได้แล้ว เพราะตอนนี้ฉู่อวิ๋นกลายเป็กองเนื้อสับไปแล้ว... ไม่สิ มันนานมากแล้ว บางทีมันอาจจะถูกย่อยและขับออกจากร่างสัตว์ปีศาจไปแล้ว!”
ทันใดนั้น ฉู่เจิ้นหนานก็หันกลับมามองทะเลสาบ ชี้ไปที่เงาสะท้อนของเมฆสีขาว แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เมฆสีขาวบนท้องฟ้าอยู่ไกลจากเ้ามากเกินไป และสิ่งที่อยู่บนทะเลสาบคือดอกไม้และพระจันทร์ที่สะท้อนดุจกระจก เ้ายอมแพ้เสียเถอะ ฉู่อวิ๋นตายแล้ว!”
“วิ้ง——”
ฉู่อวิ๋นตายแล้วหรือ?! ทันใดนั้น หัวใจของฉู่ซินเหยาก็รู้สึกเหมือนกำลังถูกโจมตีอย่างหนัก ยิ่งนางฟัง ใบหน้าของนางก็ยิ่งซีดลง
“อวิ๋น... อวิ๋นเอ๋อร์ ตาย...ตายแล้ว?”
“เขาตายแล้ว……”
“เขาตายแล้ว?!?”
“วิ้ง--”
จู่ๆ ฉู่ซินเหยาก็หายใจถี่ขึ้น หัวใจของนางเต้นแรง เ็ปแสนสาหัส นี่เป็ความเ็ปที่แทรกซึมลึกเข้าไปในจิติญญาของนาง!
หัวใจดุจมีดเฉือน หัวใจดุจมีดคว้าน!
นางทั้งใและตกตะลึง ใบหน้าของนางซีดลงอย่างรวดเร็ว
ด้วยเสียง “พรึ่บ” นางก็ล้มลงกับพื้น ศีรษะวิงเวียน นางไม่อยากจะเชื่อและไม่คิดจะเชื่อ แขนขาของนางกระตุก และดูเหมือนจะสิ้นหวัง
ความหวังสุดท้ายนั้นพังทลายลงแล้ว
“ไม่... อวิ๋นเอ๋อร์ เขาจะไม่ตาย... ไม่... ไม่ตาย!” ฉู่ซินเหยาล้มลงกับพื้นและร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง
นางส่ายศีรษะ รู้สึกเศร้าหมอง น้ำเสียงแหบแห้ง
นางร้องไห้อย่างขมขื่น ร้องไห้เสียงดัง ร้องไห้อย่างคนที่หัวใจได้ตายจากไป เจ็บจนแทบทนไม่ไหว
“ข้าไม่ได้โกหกเ้า! เ้าไปถามยืนยันจากคนจวนมู่หรงก็ได้ พวกเขาเองก็มาที่เมืองชุยเสวี่ยด้วย! ควรเตรียมตัวสำหรับงานแต่งเสีย ในเมื่อเ้าไม่คิดจะเลือกสามี ข้าจะช่วยเลือกให้เอง!” ฉู่เจิ้นหนานสะบัดแขนเสื้อ พูดสองสามคำแล้วหันหลังจากไป
เขาไม่เชื่อว่าหลังจากได้ยินเช่นนั้น ฉุ่ซินเหยาจะยังคงดื้อรั้น ตราบใดที่ฉู่อวิ๋นตาย นางก็จะหยุดสร้างปัญหาและเชื่อฟังเขาอย่างแน่นอน
แต่ในยามนี้ ฉู่ซินเหยากลับเงยหน้าขึ้นด้วยความสิ้นหวัง ดวงตาของนางมืดมัวและไร้ชีวิตชีวา ไม่ต่างจากคนตาย
นางจ้องมองมีดคมๆ บนโต๊ะหิน ที่สาวใช้ใช้ปอกผลไม้แล้วลืมเอากลับไป
“ฉู่อวิ๋น... พี่หญิง... พี่หญิงจะตามเ้าไปเดี๋ยวนี้!!!”
ทันใดนั้น ฉู่ซินเหยาก็มุ่งมั่น นางลุกขึ้นยืนทันที เอื้อมมือไปคว้ามีด และกำลังจะแทงหัวใจของตนเอง!