ฉินเฟิงยื่นมือมาดึงไป๋ชิงเข้าอ้อมกอดไป๋ชิงไม่ได้ขัดขืนเธอนอนในอ้อมกอดอันอบอุ่นของฉินเฟิงและมองฉินเฟิงด้วยสีหน้าสับสน“ฉัน้าจะฆ่าคุณ และคุณก็ยังไม่เกลียดฉัน...คุณไม่ได้แก้แค้นหรือเหยียดหยามฉันแถมคุณยังปลอบและเอาใจใส่ฉัน นี่ไม่ใช่ท่าทีตามแบบฉบับของนายน้อยฉินนี่”
“ถ้าเธอเป็ศัตรูอย่างหัวิฉันคงจะทำให้เธอ้าที่จะตายแต่เธอไม่ใช่ศัตรูของฉัน”
“ไป๋ชิงเธอคือผู้หญิงของฉัน!” ฉินเฟิงมองไป๋ชิงอย่างตั้งใจและพูดทีละคำ
ร่างอันละเอียดอ่อนของไป๋ชิงสั่นเทาทันทีหัวของเธอว่างเปล่า เธอมองไปที่ฉินเฟิงด้วยความหวาดระแวงปนกับเศษเสี้ยวความสุขเธอให้ประโยค ‘ไป๋ชิง เธอคือผู้หญิงของฉัน!’ ก้องกังวานต่อเนื่องในหัวของเธอ
มันผ่านมาห้าปีแล้วไป๋ชิงรอประโยคนี้มาห้าปีเต็ม ในที่สุดเวลานั้นก็มาถึงและเธอก็กำลังจะลืมไป…เธอเป็ผู้หญิงของฉินเฟิงั้แ่เมื่อห้าปีก่อนแล้ว!
ความรู้สึกต่างๆพรั่งพรูเข้ามาในหัวใจของเธอทันทีและความรู้สึกที่เธออัดอั้นไว้ห้าปีก็ะเิออกมา ไป๋ชิงรู้สึกร่ำร้อนทั่วทั้งตัวเธอเปลี่ยนเป็สีแดงั้แ่หน้าถึงหน้าอกเธอลืมความเกลียดชังของเธอที่มีต่อฉินเฟิงและความทุกข์ทั้งหมดเธอแค่อยากจะเป็บ้าสักครั้งแล้วปล่อยให้เป็อิสระจากความอ่อนเยาว์ที่เธอทิ้งไว้
ครั้งนี้ไป๋ชิงเริ่มโผเข้าสู่ฉินเฟิงแทน
เธอฉีกกระชากชุดของตัวเองและชุดของฉินเฟิงเธอกดร่างกายที่ขาวผ่องเรียบเนียนเหมือนหยกเข้ากับร่างของฉินเฟิงแน่นและขบหูเขาเสียงเย้ายวนผ่านอากาศที่อบอุ่น “ฉินเฟิง ฉันอยาก!”
ฉินเฟิงมองรูปร่างทรวดทรงที่โค้งเว้าของไป๋ชิงใบหน้าที่งดงามและน่าดึงดูดพร้อมกับั์ตาที่ชุ่มชื้นของเธอ เขากอดไป๋ชิงแน่นและประกาศกร้าว
“ไป๋ชิงคืนนี้ทุกอย่างของเธอเป็ของฉัน จากนี้ไปทุกวันและทุกคืน เธอ ไป๋ชิง จะเป็ของฉันฉินเฟิง อย่างสมบูรณ์!”
…
ท้องน้ำและท้องฟ้าสีครามสายลมพัดโชยอ่อนๆ แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องทั่วทั้งหาดทรายไร้สิ้นสุด รสชาติแห่งความสุขเต็มไปทุกอณูอากาศ
มีแขกหลายคนที่มาถึงชายหาดมานานแล้วเพื่อชื่นชมดวงอาทิตย์ที่สาดส่องไปยังผืนทะเลอันสวยงาม
หนุ่มหล่อและสาวสวยขี่จักรยาน28 นิ้ว บนหาดไร้จุดสิ้นสุด ผู้ชายขี่จักรยานอย่างง่ายดายและความเร็วก็ยังเหมือนกับจรวดแขนของผู้หญิงร่ายรำท่ามกลางสายลม เธอถือผ้าพันคอสีแดงและปล่อยมันไปผ้าพันคอปลิวลอยไปตามสายลม มันเหมือนกับ่วัยรุ่นของพวกเขาที่ดื้อและหัวแข็งอิสระและไม่มีข้อจำกัด...และเมื่อมันผ่านไปแล้ว มันก็ไม่กลับมาอีก
“นายน้อยฉินเร็วอีกได้ไหม?” ไป๋ชิงยิ้ม ดวงตาของเธอโค้งเป็รูปจันทร์เสี้ยวเธอไม่ได้มีความสุขแบบนี้มานานแล้ว หลังจากที่เธอปล่อยวางความเกลียดชังแม้แต่อากาศก็ยังสดชื่น
รอยยิ้มบางๆเผยบนหน้าของฉินเฟิง เขาจับ่ล่างที่เด้งดึ๋งของไป๋ชิง “เรียกว่า ‘สามี’ อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนสามีคนนี้ยังเร็วไม่พอ?ตอนแรกฉันตั้งใจจะเร่งเครื่องให้เร็วขึ้น แต่เธอดันขอร้องอ้อนวอนเสียก่อนเธอบอกว่าจะตายอยู่แล้ว ทนไม่ไหวแล้วฉันเลยรู้สึกแย่และไม่ได้ใช้ความสามารถทั้งหมดออกมา”
ฉินเฟิงเชิดหัวอย่างอหังการตอนที่พูดทำให้ความเขินอายแผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าที่ขาวผ่องและน่าดึงดูดของไป๋ชิงทันทีเมื่อภาพความบ้าคลั่งของเมื่อคืนเข้ามาในหัวของเธอเธอก็อายมากจนอยากจะมุดรูแอบ
“นายน้อ...สามี ฉันบอกให้ขี่เร็วขึ้น”ไป๋ชิงพูดเสียงเบา
“งั้นก็เตรียมกรี๊ดให้ดีๆล่ะ!” หลังจากที่ฉินเฟิงพูดจบจักรยานก็เริ่มไวขึ้นต่อเนื่องเหมือนกับไม่มีลิมิตหรือจุดจบมันไวขึ้นและไวขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้ความเร็วของจักรยานเหนือกว่ารถสปอร์ตต่างๆแล้ว มันเป็ครั้งแรกของไป๋ชิงที่มีประสบการณ์กับจักรยานที่เร็วขนาดนี้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอและฉินเฟิงกำลังจะบินในไม่ช้าลมทะเลเริ่มปั่นป่วนยิ่งขึ้น มันพัดเข้าหาไป๋ชิงอย่างแรงจนเกือบจะหายใจไม่ออกอย่างไรก็ตามเธอมีความสุขกับความเร็วที่น่าตื่นเต้นแบบนี้และรู้สึกลืมทุกสิ่งทุกอย่างเสียงโลมาดังไปทั่วทั้งหาดตลอดทั้งเช้า
เมื่อทั้งสองกลับถึงโรงแรมไป๋ชิงรู้สึกอยากจะล้มตัวลงนอนด้วยความอ่อนเพลีย เมื่อคืนฉินเฟิงจัดเธอทั้งคืน และเช้านี้เธอก็ร้องด้วยความตื่นเต้นตลอดทั้งเช้าดังนั้นเธอจึงหมดแรง
ทั้งคู่นั่งในร้านอาหารและกำลังกินอาหารเช้าที่เลิศหรูเมื่อมองฉากนอกหน้าต่าง ความรู้สึกแปลกประหลาดก็ทำให้ไป๋ชิงรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังฝันอยู่
“นายน้อยฉินครับ”หลังจากกินข้าวเช้าไปครึ่งทาง จู่ๆ ลุงฝูก็มาหาฉินเฟิง
สีหน้าของฉินเฟิงเริ่มจริงจังขึ้นเล็กน้อยเขามองลุงฝูและกล่าว “ลุงฝู ตอนนี้ตระกูลฟางเป็อย่างไรบ้าง?”
ฉินเฟิงเรียกลุงฝูมาเพื่อพาไป๋ชิงกลับเขาอยากจะไปูเาสัตว์อสูรสักหน่อยเพื่อไปดูต้นตอของปราณจิตแต่ด้วยความอันตรายที่อยู่รอบด้านและฉินเฟิงเองก็ไม่อยากจะให้ไป๋ชิงพบกับอันตรายส่วนเื่ของฟางจื้อิและหัวิ ฉินเฟิงส่งเื่นี้ไปหาลุงฝูเมื่อคืน
“นายน้อยฉินครับเมื่อคืนท่านประธานฉินประกาศว่าเขาจะกดดันการพัฒนาธุรกิจของตระกูลฟางในเมืองเว่ยเฉิงลูกค้ารายใหญ่หลายเ้าและบริษัทที่ร่วมงานกับตระกูลฟางเริ่มปฏิเสธพวกเขาแล้วธนาคารสองสามแห่งก็เริ่มหยุดร่วมมือกับพวกเขาและเร่งเร้าให้ตระกูลฟางจ่ายหนี้ก้อนโตที่เหลืออยู่”
สีหน้าของลุงฝูสงบเสงี่ยมราวกับว่าเขากำลังพูดเื่ขี้ปะติ๋ว“ตอนนี้บริษัทฟางอยู่ในความโกลาหลวุ่นวาย พวกนั้นเริ่มปลดพนักงานจำนวนมากพนักงานที่มีพร์ถูกหวงเจียกรุ๊ปดึงตัวไปแล้ว ตระกูลฟางใช้จ่ายไปจนหมดและจะไม่ฟื้นคืนกลับมาอีก”
หลังจากได้ยินคำอธิบายของลุงฝูสีหน้าของฉินเฟิงก็ไม่ได้เปลี่ยนเขาดูเหมือนกับกำลังฟังเื่ที่ไม่ได้เกี่ยวกับเขาอยู่ไป๋ชิงดูใและได้ัักับพลังที่แท้จริงของตระกูลฉินอย่างลึกซึ้งอีกครั้ง
“แล้วหัวิล่ะ?”ตระกูลฟางล่มไปแล้ว ฉินเฟิงจึงไม่ได้สนใจพวกมันต่อไปอีกเขาเปลี่ยนหัวข้อไปเื่หัวิ
“หัวิกลับตำหนักตระกูลหัวไปแล้วเมื่อคืนตามข่าวจากเมืองเทียนเฉิง ตระกูลหัวเสริมสร้างพลังป้องกันและจัดการขุมกำลังทั้งหมดเพื่อปกป้องการโจมตีจากตระกูลฉินในฐานะที่เป็หนึ่งในห้าตระกูลมีชื่อเสียงของเมืองเทียนเฉิงความแข็งแกร่งของพวกเขาค่อนข้างดีบวกกับตำแหน่งของพวกเขาในเมืองเทียนเฉิงก็ไม่เอื้ออำนวยต่อเรา ถ้าเราสู้กับตระกูลหัวมันอาจจะเป็การต่อสู้ที่ยากและอาจจะเสียเปรียบกับสถานการณ์ของตระกูลฉินในปัจจุบัน”
ลุงฝูมักจะพูดจากมุมมองที่เป็รูปธรรมมากที่สุดเขาไม่ตั้งใจจะมองผิดจากความเป็จริงเพื่อประจบฉินเฟิง ฉินเฟิงพยักหน้าหลังได้ยินเขาเงียบไปสักพักและกล่าว“ลุงฝู ลุงกับพ่อไม่ต้องห่วงเื่ตระกูลหัว ผมจะจัดการมันเองตอนนี้พาชิงชิงกลับบ้านไปก่อน”
หลังพูดจบฉินเฟิงมองไป๋ชิงด้วยเสน่หา “ชิงชิง กลับไปกับลุงฝูก่อนนะฉันยังมีเื่สำคัญที่ต้องทำ หลังเสร็จแล้ว เมื่อฉันกลับมาแล้วฉันจะไปหาเธอ”
ลุงฝูพาไป๋ชิงออกจากบ้านพักตากอากาศฉินเฟิงนั่งอยู่ตรงหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศสและมองรถเบนซ์หายไปจากสายตาก่อนที่เขาจะเดินออกจากโรงแรมบ้านพัก
มันเป็เวลาสิบเอ็ดโมงกว่าแล้วมีคนมาเล่นบนชายหาดมากขึ้นและมีหลายคนที่อยู่ในน้ำเพื่อนั่งเรือและโต้คลื่น ฉินเฟิงยืมเรือและเตรียมน้ำมัน3 ถังโดยเฉพาะมุ่งหน้าไปยังูเาสัตว์อสูร
เพราะมีคนมากมายกำลังเล่นกันอยู่ในเรือบนทะเลการที่เรือของฉินเฟิงโผล่มากะทันหันจึงไม่ได้ดึงดูดความสนใจใดๆ จากคนอื่นเขาวนในน้ำรอบแรกก่อนอย่างไร้จุดหมายและเมื่อไม่มีใครมอง เขาก็รีบมุ่งหน้าไปยังส่วนน้ำลึก