แสงสีส้มอ่อนของดวงอาทิตย์ยามเย็นทอผ่านหน้าต่างกระดาษของห้องพักในวัดม่านเมฆ หลินเว่ยนั่งสมาธิบนเสื่อทอมือ พยายามทำจิตใจให้สงบท่ามกลางความวุ่นวายของความคิด เขาหลับตา แต่ภาพใบหน้าของชาว "แซงเสวียน" ยังคงปรากฏในความคิด โดยเฉพาะดวงตาเรืองแสงของ หลิงเยว่ และรอยสักสีม่วงบนใบหน้าของ จ้าวหยาง
เสียงเคาะประตูเบาๆ ดึงหลินเว่ยออกจากภวังค์
"เข้ามา" เขาเอ่ย
หลิวซิน เปิดประตูเข้ามา สีหน้าเคร่งเครียด "นายโอเคไหม? ฉันเป็ห่วง"
หลินเว่ยลุกขึ้นยืน ยิ้มบางๆ "ฉันกำลังพยายามทำความเข้าใจทุกอย่าง มันมากเกินไปที่จะรับได้ในเวลาเดียว"
หลิวซินเดินมานั่งข้างหลินเว่ย "ฉันเข้าใจ การรู้ว่าตัวเองเป็ใครคือสิ่งสำคัญ แต่..." เธอลังเลเล็กน้อย "นายกำลังคิดจะอยู่ที่นี่จริงๆ หรือ?"
ก่อนที่หลินเว่ยจะตอบ เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง เมิ่งหลิง และ ลี่จง เดินเข้ามา
"พวกเราคุยกันได้ไหม?" เมิ่งหลิงถาม "เื่ของคุณ...และพวกเขา"
หลินเว่ยพยักหน้า ทุกคนนั่งล้อมวงบนพื้น เหมือนการประชุมสภาาขนาดเล็ก
"ฉันไม่ไว้ใจพวกนั้น" ลี่จงพูดตรงๆ "พวกเขาซ่อนตัวอยู่ที่นี่มานาน ไม่ได้ช่วยใครเลย ปล่อยให้โลกล่มสลาย"
"แต่พวกเขาก็เป็เหยื่อเหมือนกัน" เมิ่งหลิงแย้ง "องค์กรเทียนซื่อสร้างพวกเขา แล้วก็ทอดทิ้ง ถ้าพวกเขาออกไป ก็อาจถูกล่า"
หลิวซินจ้องมองหลินเว่ย "แต่ตอนนี้เื่สำคัญคือ...นายจะทำยังไงต่อไป?"
หลินเว่ยถอนหายใจยาว "ฉันอยากเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง เกี่ยวกับพลังของฉัน แต่..." เขามองหน้าเพื่อนทีละคน "พวกคุณเสี่ยงชีวิตเพื่อพาฉันมาที่นี่ ฉันไม่อาจทิ้งพวกคุณไปแบบนั้น"
"นายไม่จำเป็ต้องเลือกระหว่างพวกเรากับพวกเขา" หลิวซินกล่าว "ทำไมเราไม่ลองร่วมมือกับพวกเขา? ใช้ความรู้ของพวกเขาเพื่อช่วยผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ?"
"แล้วพวกเขาจะยอมไหม?" ลี่จงถาม เสียงเต็มไปด้วยความสงสัย "จ้าวหยางดูไม่ชอบมนุษย์ธรรมดาเท่าไร"
ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เป็ อาจารย์เหลียงซาน พร้อมกับหลิงเยว่
"รบกวนได้ไหม?" อาจารย์เหลียงซานถาม "เรามีเื่จะพูดคุย"
ทุกคนจัดที่นั่งใหม่ อาจารย์เหลียงซานและหลิงเยว่นั่งร่วมวง บรรยากาศตึงเครียดเล็กน้อย
"ข้าได้คุยกับสภาแซงเสวียนแล้ว" อาจารย์เหลียงซานเอ่ย "และเราได้ข้อสรุปที่น่าสนใจ"
หลิงเยว่พยักหน้า "เราเฝ้าดูโลกภายนอกมานาน และเราเห็นว่าการแยกตัวอยู่ในวัดไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืน"
อาจารย์เหลียงซานยิ้มบางๆ "วัดม่านเมฆมีประวัติศาสตร์ยาวนานในการปกป้องความลับของจักรวาล แต่บางครั้งการปกปิดมากเกินไปก็นำมาซึ่งหายนะ เช่นที่เกิดขึ้นกับองค์กรเทียนซื่อ"
"หมายความว่ายังไง?" หลินเว่ยถาม
"หมายความว่าเรา้าความช่วยเหลือ" หลิงเยว่ตอบ เสียงของเธอนุ่มนวลกว่าเมื่อวาน "และพวกเ้าก็้าความช่วยเหลือเช่นกัน เราเสนอพันธมิตร—ระหว่างแซงเสวียนและมนุษย์"
ลี่จงเลิกคิ้ว "เราควรไว้ใจพวกเธอหรือ?"
"เ้าไม่จำเป็ต้องไว้ใจเรา" หลิงเยว่ตอบอย่างตรงไปตรงมา "แต่เ้า้าความรู้ของเรา และเรา้าความกล้าของพวกเ้า"
"ความกล้า?" เมิ่งหลิงทวนคำ
"ใช่" อาจารย์เหลียงซานพยักหน้า "แซงเสวียนมีพลังมาก แต่พวกเขาถูกฝึกให้กลัวโลกภายนอก กลัวว่าจะถูกล่า ถูกจับเป็เครื่องทดลอง พวกเ้าแสดงให้เห็นว่ามนุษย์และแซงเสวียนสามารถร่วมมือกันได้"
หลินเว่ยเริ่มเข้าใจ "คุณ้าให้เราเป็สะพานเชื่อม"
"ถูกต้อง" หลิงเยว่ตอบ "และเ้า หลินเว่ย คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบ—ครึ่งมนุษย์ ครึ่งชิวเสวียน ผู้ที่เลือกช่วยเหลือผู้อื่นแทนที่จะใช้พลังเพื่อตัวเอง"
อาจารย์เหลียงซานวางถ้วยชาลงบนพื้น "เรามีข้อเสนอ หลินเว่ยจะได้รับการฝึกฝนจากเรา เรียนรู้ที่จะควบคุมพลังของเขา แต่เพื่อนของเขาสามารถอยู่ร่วมและเรียนรู้ได้เช่นกัน"
"และแลกเปลี่ยนกับอะไร?" ลี่จงถาม ยังคงระแวง
"แลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือของพวกเ้าในการต่อต้านองค์กรเทียนซื่อ" หลิงเยว่ตอบ "พวกเขาไม่ได้หยุดแค่การทดลองกับพวกเรา พวกเขา้าเปิดประตูมิติเพื่อปล่อยชิวเสวียนมากขึ้น—ไม่ใช่เพื่อสันติภาพ แต่เพื่อสร้างกองทัพ"
"นั่นเป็เหตุผลที่พวกเขา้าตัวนาย" อาจารย์เหลียงซานหันไปทางหลินเว่ย "เ้าไม่เพียงมีพลังของชิวเสวียน แต่เ้ายังเป็กุญแจที่สามารถเปิดประตูมิติได้"
เมิ่งหลิงขมวดคิ้ว "นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาตามล่าเราอย่างไม่ลดละ"
หลินเว่ยรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจ เขาไม่เพียงแต่เป็เป้าหมาย แต่ยังเป็อาวุธที่อาจนำมาซึ่งหายนะยิ่งใหญ่
"ถ้าองค์กรเทียนซื่อ้าเปิดประตูมิติ" หลิวซินถาม "ทำไมพวกเขาถึงปล่อยไวรัสออกมา? ทำไมต้องทำลายโลก?"
"ไม่ใช่แผนของพวกเขา" หลิงเยว่ตอบ "ไวรัสรั่วไหลโดยบังเอิญ แต่พวกเขาเห็นว่ามันเป็โอกาส"
"โอกาสยังไง?" เมิ่งหลิงถาม
"โอกาสในการรวบรวมชิวเสวียนด้วยวิธีอื่น" อาจารย์เหลียงซานตอบ "ในสภาวะโกลาหล ผู้ติดเชื้อที่ตายเป็เหมือนภาชนะว่างเปล่า ที่สามารถรองรับพลังงานจากอีกด้านของประตูมิติได้"
หลินเว่ยนึกถึงผู้ติดเชื้อที่เขาเคยเห็น "นั่นคือ... สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนพวกนั้น?"
"บางส่วน ใช่" หลิงเยว่ตอบ "แต่มันไม่สมบูรณ์ ชิวเสวียนไม่สามารถควบคุมร่างผู้ติดเชื้อได้เต็มที่ นั่นเป็แค่การทดลองเท่านั้น"
"องค์กรเทียนซื่อ้าให้หลินเว่ยช่วยเปิดประตูมิติที่ใหญ่กว่า" อาจารย์เหลียงซานสรุป "เพื่อนำชิวเสวียนจำนวนมากเข้ามาในโลกของเรา และสร้างกองทัพที่มีพลังเหนืุ์"
"และเราจะหยุดพวกเขาได้ยังไง?" หลินเว่ยถาม
"เริ่มจากการฝึกฝนของเ้า" หลิงเยว่ตอบ "เ้าต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมพลังให้ได้อย่างสมบูรณ์"
"และพวกเราล่ะ?" หลิวซินถาม "เราจะทำอะไรได้บ้าง?"
อาจารย์เหลียงซานยิ้ม "มนุษย์มีพลังในแบบของตัวเอง เมิ่งหลิงเป็นักวิทยาศาสตร์ที่เข้าใจไวรัส เธอสามารถช่วยเราค้นหาวิธีรักษาผู้ติดเชื้อได้ หลิวซินมีทักษะการต่อสู้ที่น่าทึ่ง เธอสามารถฝึกสอนนักพรตของเราได้ และลี่จง..." เขาหันไปทางชายหนุ่ม "ข้าได้ยินว่าเ้ามีความสามารถในการติดต่อกับกลุ่มผู้รอดชีวิตอื่นๆ?"
ลี่จงพยักหน้า "ฉันมีเครือข่าย"
"ดี" อาจารย์เหลียงซานพยักหน้า "เรา้าพันธมิตรมากขึ้น"
หลินเว่ยมองไปรอบๆ วง แต่ละคนมีความคิดเห็นต่างกัน แต่เขาเห็นความเป็ไปได้ในความร่วมมือครั้งนี้
"ผมพร้อมที่จะฝึก" หลินเว่ยเอ่ยในที่สุด "แต่มีเงื่อนไข"
หลิงเยว่เลิกคิ้ว "เงื่อนไขอะไร?"
"เพื่อนของผมต้องมีส่วนร่วมในทุกการตัดสินใจ" หลินเว่ยกล่าวอย่างหนักแน่น "และความรู้ทั้งหมดที่พวกเราได้รับต้องถูกนำไปช่วยเหลือผู้รอดชีวิตภายนอก ไม่ใช่แค่เพื่อปกป้องวัดม่านเมฆเท่านั้น"
อาจารย์เหลียงซานพิจารณาข้อเสนอเป็ครู่ ก่อนพยักหน้า "ตกลง นี่คือพันธมิตรใหม่ของเรา มนุษย์และแซงเสวียน ร่วมกันต่อสู้เพื่อโลกที่ดีกว่า"
วันรุ่งขึ้น การฝึกฝนเริ่มต้นขึ้นอย่างเข้มข้น หลินเว่ยตื่นแต่เช้าตรู่ พบกับหลิงเยว่ที่ลานฝึกซ้อมของวัด
"พร้อมหรือยัง?" หลิงเยว่ถาม
หลินเว่ยพยักหน้า "พร้อมแล้ว บทเรียนแรกคืออะไร?"
"การควบคุมพลังชิวเสวียนในตัวเ้า" หลิงเยว่ตอบ "ก่อนอื่น เ้าต้องเข้าใจว่ามันไม่ใช่ศัตรู แต่เป็ส่วนหนึ่งของเ้า"
หลิงเยว่นำหลินเว่ยนั่งลงบนลานหิน ท่ามกลางสายหมอกเย็นยามเช้า
"หลับตา และรู้สึกถึงพลังในตัวเ้า" เธอแนะนำ
หลินเว่ยทำตาม เขารู้สึกถึงพลังสีม่วงที่ไหลเวียนในร่างกาย มันเหมือนกระแสน้ำที่พร้อมจะะเิออกมาตลอดเวลา
"พยายามทำความรู้จักกับมัน" หลิงเยว่กล่าวต่อ "พูดคุยกับมันในใจ"
หลินเว่ยไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไร แต่เขาพยายามส่งความคิดไปหาพลังในตัว ฉันคือใคร? เธอคือใคร? เราเป็หนึ่งเดียวกันหรือไม่?
ทันใดนั้น เขารู้สึกถึงการตอบสนอง ไม่ใช่ด้วยคำพูด แต่เป็ความรู้สึก—ความอบอุ่น การยอมรับ และความเข้าใจลึกซึ้ง
ดวงตาของหลินเว่ยเบิกกว้าง "มันตอบฉัน!"
หลิงเยว่ยิ้ม "แน่นอน ชิวเสวียนมีจิตสำนึก แต่ไม่ใช่อย่างที่มนุษย์เข้าใจ พวกมันคิดและรู้สึกในรูปแบบที่แตกต่าง"
"ฉันควรเรียกมันว่าอะไร?"
"บางคนตั้งชื่อ บางคนเรียกมันว่าอีกตัวตนหนึ่ง แต่ความจริงแล้ว มันคือส่วนหนึ่งของเ้า" หลิงเยว่อธิบาย "ชิวเสวียนในตัวเ้าไม่ใช่ผู้บุกรุก แต่เป็พันธมิตร"
หลินเว่ยรู้สึกถึงเส้นทางพลังที่ชัดเจนขึ้นในร่างกาย จากจุดศูนย์กลางที่ท้องน้อยไปยังแขนขา
"ทีนี้ลองควบคุมมัน" หลิงเยว่แนะนำ "นึกถึงการดึงพลังออกมาที่ฝ่ามือ แต่อย่างมีสติ ไม่ใช่ด้วยความกลัวหรือโกรธ"
หลินเว่ยนึกถึงพลังไหลไปที่ฝ่ามือขวา เส้นสีม่วงปรากฏชัดเจนบนิั และลูกแก้วพลังงานสีม่วงเล็กๆ ก่อตัวขึ้นเหนือฝ่ามือของเขา
"เยี่ยมมาก!" หลิงเยว่ชมเชย "สำหรับผู้ฝึกใหม่ นี่คือความก้าวหน้าที่น่าทึ่ง"
ขณะที่หลินเว่ยกำลังฝึกฝน หลิวซินกำลังแลกเปลี่ยนเทคนิคการต่อสู้กับนักบวชในชุดเทาของวัด เสวียนจื้อ นักรบนางฟ้า ผู้ปกป้องวัดม่านเมฆและดูแลการฝึกซ้อม
"เทคนิคของเธอยอดเยี่ยมมาก" เสวียนจื้อกล่าวหลังจากการประลองจบลง "เธอได้รับการฝึกสอนมาอย่างดี"
"อาจารย์ของฉันเป็นักรบที่เก่งที่สุดในชุมชนของเรา" หลิวซินตอบด้วยความภาคภูมิใจ
"ฉันสังเกตเห็นว่าเธอใช้ลมหายใจควบคู่กับการเคลื่อนไหว เหมือนวิธีการของเรา" เสวียนจื้อกล่าว "นั่นคือพื้นฐานของการใช้พลัง ชี่"
"ชี่?" หลิวซินทวนคำ "พลังงานชีวิตใช่ไหม? อาจารย์ของฉันเรียกมันว่า 'จิงซง'"
"ใช่ มันคือสิ่งเดียวกัน" เสวียนจื้อพยักหน้า "ทุกคนมีพลัง ชี่ แต่เพียงไม่กี่คนที่เรียนรู้ที่จะใช้มันอย่างมีประสิทธิภาพ"
หลิวซินมองไปที่หลินเว่ยซึ่งกำลังฝึกฝนกับหลิงเยว่ "แล้วพลังของหลินเว่ย...?"
"พลังของเขาคือชิวเสวียน ซึ่งเป็รูปแบบบริสุทธิ์ของ ชี่" เสวียนจื้ออธิบาย "แต่การควบคุมมันต้องใช้หลักการเดียวกัน—การหายใจ สมาธิ และการไหลเวียนของพลังงาน"
หลิวซินพิจารณาสิ่งที่ได้ฟัง "คุณคิดว่าฉันสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ชี่ ได้ไหม? เพื่อช่วยหลินเว่ย?"
เสวียนจื้อยิ้ม "แน่นอน แม้ว่าเธอจะไม่สามารถควบคุมพลังได้เหมือนแซงเสวียน แต่การเข้าใจหลักการจะช่วยให้เธอเป็คู่หูที่ดีของเขา"
ในห้องสมุดของวัด เมิ่งหลิงกำลังศึกษาตำราโบราณกับอาจารย์เหลียงซาน หนังสือเล่มหนาเปิดอยู่ตรงหน้า มีภาพวาดของร่างกายมนุษย์ที่มีเส้นพลังงานลากผ่าน
"ตำราเล่มนี้อธิบายความเชื่อมโยงระหว่างชิวเสวียนและร่างกายมนุษย์" อาจารย์เหลียงซานอธิบาย "บทเรียนเก่าแก่ที่บรรพบุรุษของเราเรียนรู้หลายศตวรรษที่แล้ว"
"น่าทึ่งมาก" เมิ่งหลิงกล่าว นิ้วลูบไปตามแผนภาพ "เส้นเหล่านี้เหมือนกับเส้นเืที่ปรากฏบนตัวหลินเว่ยเวลาที่เขาใช้พลัง"
"ถูกต้อง" อาจารย์เหลียงซานพยักหน้า "ในทางโบราณเราเรียกมันว่าเส้นลมปราณ ในทางวิทยาศาสตร์อาจเรียกว่าท่อนำพลังงาน ไม่ว่าจะเรียกอย่างไร มันคือเส้นทางที่พลังงานในร่างกายไหลผ่าน"
"คุณคิดว่าความรู้นี้จะช่วยให้ฉันพัฒนาการรักษาไวรัสได้ไหม?"
"ข้าเชื่อว่าเป็ไปได้" อาจารย์เหลียงซานตอบ "ไวรัสนั้นเกิดจากพลังของชิวเสวียนที่ถูกบิดเบือน อาจมีวิธีใช้พลังเดียวกันนี้เพื่อต่อต้านมัน"
ลี่จงอยู่บนหอสังเกตการณ์ของวัด กำลังส่งข้อความทางวิทยุสื่อสารไปยังเครือข่ายของเขา
"ใช่ เราปลอดภัยดี" เขาพูดผ่านเครื่องส่ง "และเราพบพันธมิตรใหม่ที่อาจช่วยเราต่อสู้กับองค์กรเทียนซื่อได้"
ลี่จงรับฟังการตอบกลับ ก่อนจะพูดต่อ "ฉันเข้าใจความกังวลของคุณ แต่ตอนนี้เราไม่มีทางเลือกมากนัก เราต้องใช้ทุกความช่วยเหลือที่หาได้"
เขาเหลือบมองไปที่ลานฝึกซ้อม ซึ่งหลินเว่ยกำลังควบคุมพลังงานสีม่วงในมือ "พวกเขาอาจเป็ความหวังเดียวที่เรามี"
เย็นวันนั้น ทุกคนมารวมตัวกันในห้องโถงกลาง รับประทานอาหารเย็นร่วมกัน บรรยากาศผ่อนคลายกว่าวันก่อน แม้จะยังมีความระแวดระวังอยู่บ้าง
"วันนี้ทุกคนทำได้ดีมาก" อาจารย์เหลียงซานกล่าว "เราเริ่มเห็นความเป็ไปได้ของพันธมิตรนี้แล้ว"
จ้าวหยาง ซึ่งเพิ่งมาถึง ยังคงมีท่าทีระมัดระวัง "มันเร็วเกินไปที่จะบอกว่าความร่วมมือนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่"
"แต่เป็ก้าวแรกที่ดี" หลิงเยว่เสริม "หลินเว่ยมีพร์มาก วันนี้เขาสามารถรวบรวมพลังได้เร็วกว่าที่ฉันคาดไว้มาก"
หลินเว่ยยิ้มเขินๆ "ผมแค่มีครูที่ดี"
"พรุ่งนี้เราจะเริ่มฝึกท่ายาก" หลิงเยว่กล่าว "การใช้พลังชิวเสวียนในการป้องกันและโจมตี"
"และเราจะเริ่มฝึกพวกคุณด้วย" เสวียนจื้อหันไปทางหลิวซิน เมิ่งหลิง และลี่จง "มนุษย์อาจไม่มีพลังชิวเสวียน แต่ทุกคนมีพลัง ชี่ ภายในตัว การเรียนรู้ที่จะใช้มันจะช่วยให้คุณแข็งแกร่งขึ้น"
"จริงหรือ?" หลิวซินถาม เสียงตื่นเต้น
"จริง" อาจารย์เหลียงซานพยักหน้า "วิธีการควบคุมพลัง ชี่ ในตัวคุณก็ไม่ต่างจากวิธีที่หลินเว่ยใช้ควบคุมชิวเสวียน—การควบคุมลมหายใจ สมาธิ และการนำทางพลังงาน"
"วิธีนี้จะช่วยให้ฉันรักษาคนได้ไหม?" เมิ่งหลิงถาม
"เมื่อเธอเรียนรู้วิธีควบคุมพลัง ชี่ ของตัวเอง เธอจะสามารถใช้มันเพื่อกระตุ้นการรักษาในผู้อื่นได้" อาจารย์เหลียงซานตอบ "บรรพบุรุษของเราใช้วิธีนี้รักษาโรคมานับพันปี"
"ฉันอยากเรียนรู้ทุกอย่างที่ทำได้" หลินเว่ยกล่าวด้วยความมุ่งมั่น "เพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ"
หลิงเยว่มองหลินเว่ยด้วยความประทับใจ "ความมุ่งมั่นของเ้าน่าชื่นชม แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่เ้าต้องเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองและพลังของเ้า"
"มีอะไรอีกหรือ?" หลินเว่ยถาม
หลิงเยว่และจ้าวหยางสบตากัน ก่อนที่หลิงเยว่จะพูด "พลังชิวเสวียนไม่ได้มีแค่การควบคุมพลังงาน แต่รวมถึงการเชื่อมต่อกับมิติอื่นๆ ด้วย"
"มิติอื่น?" หลินเว่ยทวนคำ
"โลกของชิวเสวียน" จ้าวหยางอธิบาย "แดนที่พวกมันมาจาก เ้าอาจเห็นภาพมันในความฝัน"
หลินเว่ยนิ่งไปครู่หนึ่ง "จริงด้วย ฉันเคยฝันเห็นสถานที่แปลกๆ ที่มีแสงสีม่วงและสิ่งมีชีวิตที่ทำจากพลังงาน"
"นั่นคือมิติของชิวเสวียน" หลิงเยว่พยักหน้า "ส่วนหนึ่งของจิตใจเ้าเชื่อมต่อกับมันตลอดเวลา"
"และนั่นคือสิ่งที่องค์กรเทียนซื่อ้า" อาจารย์เหลียงซานเสริม "พวกเขา้าใช้เ้าเป็ประตูเชื่อมโลกทั้งสอง"
"แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาทำสำเร็จ?" ลี่จงถาม
"หายนะ" จ้าวหยางตอบเรียบๆ "ชิวเสวียนจำนวนมากไม่ได้มาอย่างสันติ พวกมันเหมือนพลังงานดิบที่ไม่มีการควบคุม พวกมันจะทำลายทุกอย่างในเส้นทาง"
"แล้วพวกคุณล่ะ?" ลี่จงถาม น้ำเสียงสงสัย "พวกคุณก็มีชิวเสวียนในตัว ทำไมพวกคุณถึงไม่อันตราย?"
"เราไม่ได้รับชิวเสวียนทั้งตัว" หลิงเยว่อธิบาย "แต่เป็เพียงส่วนเล็กๆ ที่ผสมกับพันธุกรรมมนุษย์ของเรา ชิวเสวียนในตัวเราถูกกลืนกลายเป็ส่วนหนึ่งของเรา ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม"
"แต่ถ้าประตูมิติเปิด" จ้าวหยางเสริม "ชิวเสวียนทั้งตัวจะเข้ามาในโลกของเรา และพวกมันไม่เข้าใจธรรมชาติของความเป็มนุษย์ พวกมันอาจทำลายทุกอย่างโดยไม่รู้ตัว"
บรรยากาศในห้องเงียบลงอย่างรวดเร็ว ทุกคนตระหนักถึงอันตรายที่กำลังเผชิญหน้า
"เราต้องหยุดองค์กรเทียนซื่อ" หลินเว่ยกล่าวในที่สุด "ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม"
"และเราจะช่วยเ้า" หลิงเยว่สัญญา "แต่ก่อนอื่น เ้าต้องแข็งแกร่งพอที่จะเผชิญหน้ากับพวกเขา"
คืนนั้น หลังจากทุกคนแยกย้ายไปพักผ่อน หลินเว่ยนั่งอยู่บนระเบียงห้องพัก มองดูดวงจันทร์เต็มดวงเหนือยอดเขา
หลิวซิน เดินมานั่งข้างเขา "คืนนี้เธอดูเหม่อลอย"
"ฉันกำลังคิดถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้น" หลินเว่ยตอบ "เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ฉันเป็แค่นักศึกษาแพทย์ธรรมดา ตอนนี้ฉันกลายเป็...อะไรก็ตามที่ฉันเป็อยู่ตอนนี้"
"เธอยังเป็หลินเว่ยคนเดิม" หลิวซินกล่าว "คนที่พยายามช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ไม่ว่าจะเสี่ยงอันตรายแค่ไหน"
หลินเว่ยยิ้มบางๆ "ขอบคุณ...สำหรับทุกอย่าง ถ้าไม่มีเธอ ฉันคงไม่มาถึงจุดนี้ได้"
"เราเดินทางมาด้วยกัน" หลิวซินตอบ "และเราจะไปต่อด้วยกัน"
พวกเขานั่งมองดวงจันทร์ด้วยกันในความเงียบ รู้สึกถึงพลังใหม่ที่ก่อตัวขึ้นระหว่างพวกเขา ไม่ใช่แค่มิตรภาพ แต่เป็ความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งกว่า เหมือนชะตาชีวิตที่ถักทอเข้าด้วยกัน
"พรุ่งนี้ฉันจะเริ่มเรียนรู้วิธีควบคุมพลัง ชี่" หลิวซินบอก "เสวียนจื้อเชื่อว่าฉันมีพื้นฐานที่ดีจากการฝึกศิลปะการต่อสู้มาั้แ่เด็ก"
"ฉันดีใจที่ได้ยินแบบนั้น" หลินเว่ยตอบ "ทุกคนควรมีวิธีป้องกันตัวเอง โดยเฉพาะในโลกที่อันตรายแบบนี้"
ความเงียบสบายๆ ครอบคลุมพวกเขาอีกครั้ง จนกระทั่งหลินเว่ยสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติ—เส้นเืสีม่วงบนแขนของเขาเริ่มเรืองแสงโดยที่เขาไม่ได้ควบคุม
"มีบางอย่างไม่ถูกต้อง" เขาพึมพำ
ทันใดนั้น ความเ็ปแล่นผ่านศีรษะของเขา ภาพแฟลชปรากฏในความคิด—โลกอีกใบที่เต็มไปด้วยแสงสีม่วง และสิ่งมีชีวิตที่ทำจากพลังงาน กำลังกรีดร้องขอความช่วยเหลือ
"หลินเว่ย!" หลิวซินะโ จับไหล่ของเขาเขย่า "เกิดอะไรขึ้น?"
หลินเว่ยกะพริบตาถี่ๆ ภาพนั้นหายไป เหลือเพียงความรู้สึกหนักๆ ในหัว "ฉัน...ฉันเห็นอะไรบางอย่าง มิติอื่น...ชิวเสวียน...พวกเขากำลังเรียกหาฉัน"
"เราต้องบอกอาจารย์เหลียงซาน" หลิวซินกล่าว "นี่อาจเป็สัญญาณอันตราย"
ขณะที่พวกเขากำลังจะลุกขึ้น เสียงสัญญาณเตือนภัยดังกระหึ่มทั่ววัด เสียงระฆังทองเหลืองดังต่อเนื่อง
จ้าวหยาง วิ่งผ่านระเบียงมา "องค์กรเทียนซื่อ! พวกเขาพบเราแล้ว!"
ท่าัหลับใหล ของหลินเว่ยกระตุ้นโดยสัญชาตญาณ เขานั่งลงในท่าสมาธิทันที ควบคุมลมหายใจและสงบจิตใจ ความเ็ปในศีรษะค่อยๆ จางหาย พลังสีม่วงในร่างกายเริ่มไหลเวียนเป็ระเบียบมากขึ้น
"พวกเขารู้ได้ยังไง?" หลิวซินถามอย่างใ "วัดม่านเมฆไม่ควรถูกตรวจจับได้!"
"ไม่ใช่วัดที่ถูกตรวจจับ แต่เป็พลังของหลินเว่ย" จ้าวหยางตอบ สีหน้าเคร่งเครียด "เขากำลังเชื่อมต่อกับมิติอื่นโดยไม่รู้ตัว ส่งสัญญาณออกไป"
"ทางประตูหลัก!" เสียงะโดังมาจากลานวัด "พวกเขากำลังบุกเข้ามา!"
พันธมิตรใหม่กำลังจะเผชิญการทดสอบครั้งแรก การโจมตีของศัตรูที่ไม่คาดคิด องค์กรเทียนซื่อได้ตามรอยพวกเขามาถึงวัดม่านเมฆ และการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้