“ฝ่ามือทองคำ!”
เฉินจื้อเหวี่ยงฝ่ามือข้างหนึ่งไปทางมู่เฟิง โดยที่ฝ่ามือของเขาก็ถูกโอบล้อมไว้ด้วยพลังปราณสีเหลืองทองอันแข็งแกร่ง และมันก็ควบแน่นขึ้นเป็ตราฝ่ามือสีทองก่อนจะพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วทันที
มู่เฟิงบิดฝ่าเท้าเคลื่อนตัวหลบหลีกไปอีกทาง การเคลื่อนไหวของเขาว่องไวราวกับสายลมทำให้สามารถหลบฝ่ามือของเฉินจื้อได้อย่างง่ายดาย ส่งผลให้พลังฝ่ามือนั้นกระแทกลงบนพื้นจนเกิดเสียงดังปัง และรอยฝ่ามือก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับรอยแตกร้าวของพื้นดินทันที
นอกจากนี้คลื่นพลังบางส่วนจากฝ่ามืออันรุนแรงเมื่อครู่ยังกวาดไปทางมู่เฟิง ทำให้เขาต้องถอยออกไปอีกครั้ง และในเวลาเดียวกันนั้น เด็กหนุ่มก็ตวัดดรรชนีนิ้วทั้งสองออกมา ปลดปล่อยลำแสงสีทองให้พุ่งทะลวงไปทางร่างของเฉินจื้ออย่างรวดเร็ว
แม้ว่าร่างกายของเฉินจื้อจะมีชั้นพลังกังชี่*คอยป้องกัน ทว่าลำแสงสีทองจากดรรชนีนิ้วของมู่เฟิงก็ยังสามารถทะลวงผ่านชั้นพลังป้องกันนั้นมาได้ เมื่อเห็นดังนั้นสีหน้าของเฉินจื้อก็พลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาตบฝ่ามือทั้งสองข้างไปยังลำแสงดรรชนีเพื่อทำลายมันในทันที
(*เกราะป้องกันร่างกายสำหรับผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนิงกังขึ้นไป)
และทันใดนั้นเอง ร่างของมู่เฟิงก็กระโจนเข้าหาเขาเช่นกัน อีกฝ่ายะโทะยานร่างขึ้นสูงหลายเมตร ก่อนจะตวัดขาของเขามาทางเฉินจื้ออย่างดุดัน
เฉินจื้อยิ้มหยัน เขาไขว้แขนขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีนี้ เมื่อขาของมู่เฟิงกระแทกเข้ากับแขนของชายหนุ่มก็ปรากฏเสียงปะทะกันดังปัง ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้น แรงกระแทกก็ทำให้มู่เฟิงถูกดีดออกมาจนต้องตีลังกาถอยหลังกลับไป
“หมัดะเิพลัง!”
เฉินจื้อแผดเสียงคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด และฉวยโอกาสนี้ปล่อยหมัดใส่มู่เฟิงในทันที พลังหมัดพุ่งทะลวงแหวกอากาศไปข้างหน้า เมื่อเห็นดังนั้นสีหน้าของมู่เฟิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย มือของเขาพลันมีแสงส่องสว่างส่องออกมา ก่อนที่ดาบสีขาวราวหิมะจะปรากฏขึ้น
เปรี้ยง!
เมื่อพลังหมัดปะทะเข้ากับคมดาบก็เกิดการะเิขึ้นกลางอากาศ มู่เฟิงยังคงถอยออกไปอย่างต่อเนื่อง เืในกายของเขาเกิดความปั่นป่วนก่อนจะไหลออกมาจากมุมปาก
“เ้าหนู จงยอมแพ้ไปเสีย”
เฉินจื้อแผดเสียงคำรามออกมา ก่อนจะทะยานร่างไปข้างหน้า หมัดคู่ของเขากวาดซัดออกไปราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ เมื่อคลื่นพลังปะทุขึ้นกลางอากาศความรุนแรงของมันก็ยิ่งสาดซัดออกมา
เมื่อเห็นดังนั้นมู่เฟิงจึงรีบยกดาบขึ้นพร้อมกับงอตัวลงเล็กน้อย และรวบรวมพลังปราณมาไว้ในจุดเดียว จากนั้นปากของเขาก็เปล่งเสียงร้องคำรามราวกับพยัคฆ์ออกมา เด็กหนุ่มง้างดาบที่ถูกควบแน่นเป็เงาร่างของพยัคฆ์ขึ้นก่อนจะกระโจนร่างเข้าใส่เฉินจื้ออย่างรวดเร็ว
“ดาบพยัคฆ์หาญ!”
“โฮก…!”
เงาร่างพยัคฆ์สีทองพุ่งตัวออกไปขย้ำหมัดนั้นของเฉินจื้อจนไม่เหลือชิ้นดี ทว่ามือของเฉินจื้อยังคงถูกห่อหุ้มไว้ด้วยพลังกังชี่สีทอง เขาตบฝ่ามือนั้นไปยังคมดาบของมู่เฟิงอย่างแรง และสามารถทำลายการโจมตีของดาบพยัคฆ์หาญลงได้
จากนั้นแสงสว่างก็พลันส่องประกายขึ้นในมือของเขา ก่อนจะกลายเป็ดาบเล่มหนึ่ง และเขาก็พุ่งเข้าไปโจมตีมู่เฟิงทันที ลำแสงสีทองของดาบพุ่งทะลวงผ่านอากาศไปยังเป้าหมายอย่างดุดัน
ดาบเล่มนี้ทั้งแข็งแกร่งและทรงพลัง หากถูกมันโจมตีเข้าโดยตรง คาดว่าคงได้รับาเ็สาหัสอย่างแน่นอน
มู่เฟิงพลิ้วกายหลบหลีกอย่างว่องไว คมดาบจึงฟันลงไปยังศิลาหินด้านหลัง ทำให้ปรากฏเป็รอยคมดาบขนาดใหญ่
จากนั้น ดาบของคนทั้งสองต่างก็พุ่งเข้าหาฝ่ายตรงข้ามต่อในทันที เมื่อเกิดการปะทะกันเสียงของคมดาบก็ดังสะท้อนก้องไปทั่ว
ผู้คนโดยรอบต่างก็ตกตะลึง พวกเขาจ้องมองไปยังร่างสองร่างที่กำลังปะทะกันอย่างดุเดือด ไม่มีใครกล้าละสายตาไปจากฉากตรงหน้าแม้แต่เสี้ยววินาที เพราะพวกเขากลัวว่าจะพลาดสิ่งใดไป
“เป็ไปได้อย่างไร นึกไม่ถึงเลยว่าเด็กหนุ่มที่มีวรยุทธ์ระดับจื่อฝู่ขั้นแปดจะสามารถยืนหยัดต่อสู้กับเฉินจื้อได้ถึงขนาดนั้น”
“ใช่ การตอบสนองของเขานั้นรวดเร็วมาก จิติญญาการต่อสู้ก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน เด็กหนุ่มผู้นี้เป็แค่บัณฑิตใหม่จริงหรือ? ไม่ใช่ว่าเป็พวกนักรบที่เคยหลั่งเืในาหรอกหรือ?”
เหล่ารุ่นพี่บัณฑิตสามคนที่มาพร้อมกับเฉินจื้อต่างก็ใเช่นกัน
วรยุทธ์ของพวกเขาล้วนอยู่ในระดับจื่อฝู่ขั้นเจ็ดถึงขั้นแปด แต่หากพวกเขาะเิพลังของตัวเองออกมาตอนนี้ก็ยังไม่อาจเป็คู่ต่อสู้ของมู่เฟิงได้
“บัณฑิตใหม่ผู้นี้มาจากที่ใดกัน ช่างเก่งกาจนัก!”
เหล่าบัณฑิตใหม่นั้นตื่นตะลึงยิ่งกว่า พลังต่อสู้ที่มู่เฟิงกำลังแสดงออกมาในเวลานี้ มันเหนือกว่าบัณฑิตใหม่ทั้งหมดในรุ่นของพวกเขาเสียอีก
“เขาคือมู่เฟิง มาจากตระกูลมู่แห่งอาณาจักรหนานหลิงของพวกเรา นอกจากนี้เขายังมีพร์ระดับกระดูกิญญา”
ศิษย์ตระกูลมู่ผู้หนึ่งกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“คนผู้นี้ไม่ธรรมดาเลย นึกไม่ถึงว่าจะร้ายกาจถึงเพียงนี้”
ถานซิ่วจ้องมองไปยังร่างของคนทั้งสองที่กำลังต่อสู้พัวพันกันอย่างดุเดือด ดวงตาคู่สวยของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ บัณฑิตใหม่มีพลังมากขนาดนี้ั้แ่เมื่อไรกัน?
ฉัวะ!
หน้าอกของมู่เฟิงถูกลำแสงของคมดาบเฉือนผ่าน ทำให้เกิดาแที่มีเืไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง
ทันใดนั้นเฉินจื้อก็ตบฝ่ามือข้างหนึ่งลงบนหน้าอกของมู่เฟิงจนเกิดเป็เสียงดังปัง ร่างของมู่เฟิงลอยกระเด็นไปไกลหลายเมตรก่อนจะล้มกระแทกลงพื้นและกระอักเืออกมา
“พี่เฟิง!”
ท่าทีของมู่ขวงและศิษย์ตระกูลมู่คนอื่นๆ พลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ข้าจะตัดแขนของเ้าทิ้งเสีย!”
เฉินจื้อแผดเสียงร้องคำรามออกมาก่อนจะง้างดาบขึ้นหมายจะฟันลงไปยังแขนของมู่เฟิง เขา้าจะตัดแขนของมู่เฟิงเพื่อล้างแค้นให้กับน้องชายของเขา
เด็กหนุ่มกลิ้งหลบอย่างรวดเร็ว ทำให้เฉินจื้อฟันดาบลงไปโดนพื้นอย่างแรง
ก่อนที่มือของมู่เฟิงจะปรากฏแผ่นยันต์ขึ้นมาสองใบ เขาโยนมันไปทางเฉินจื้ออย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นดังนั้นสีหน้าของเฉินจื้อก็พลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารีบถอยออกมาในทันที
เปรี้ยง! เปรี้ยง…!
เปลวเพลิงสองกลุ่มพลันะเิออกมาทันใด มวลคลื่นพลังของเปลวเพลิงนั้นถาโถมเข้าใส่เฉินจื้ออย่างรวดเร็ว ทั้งยังแผดเผาห้วงอากาศโดยรอบในรัศมีกว่าสิบเมตร
เฉินจื้อะโถอยหลังออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกันเพื่อหลีกหนีการะเิของเปลวเพลิงกลุ่มนั้น จากนั้นเขาก็เร่งรวบรวมพลังปราณภายในร่างมาไว้ที่ฝ่ามือ ก่อนจะควบแน่นเป็ตราฝ่ามือขึ้นมาสายหนึ่ง
ปัง!
เมื่อเฉินจื้อก้าวเข้ามาเขาก็ตบฝ่ามือไปทางมู่เฟิงในทันที ฝ่ามือนั้นกลายเป็ตราฝ่ามือที่มีขนาดราวหนึ่งเมตร ก่อนจะพุ่งทะลวงออกมา ซึ่งอานุภาพพลังของมันนั้นทรงพลังเป็อย่างยิ่ง
“ไปตายเสียเถอะ!”
ขณะนี้ท่าทางของเฉินจื้อนั้นดูดุร้ายเป็อย่างมาก และการโจมตีนี้เขาก็เป็การะเิพลังปราณทั้งหมดที่มี แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่จะสังหารอย่างชัดเจน
“เฉินจื้อ หยุดมือ จะฆ่าเขาไม่ได้!”
สีหน้าเหล่าสหายของเฉินจื้อพลันเปลี่ยนไปในทันที ฝ่ามือนี้เป็ทักษะวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเฉินจื้อแล้ว
เมื่อคลื่นพลังฝ่ามือของอีกฝ่ายถาโถมเข้ามา เส้นผมสีขาวราวกับหิมะและเสื้อคลุมของเด็กหนุ่มก็พลันโบกสะบัดตามแรงลม คลื่นพลังสะกดข่มที่แผ่ออกมาจากตราฝ่ามือนั้นก็ทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นตะลึงเป็อย่างยิ่ง
ดวงตาของเด็กหนุ่มพลันทอประกายเ็า ร่างกายเขาแผ่คลื่นพลังปราณสีแดงเข้มออกมาในทันที เวลานี้พลังปราณเพลิงที่กำลังเดือดพล่านภายในร่างกายของเขากำลังหลั่งไหลออกมาผ่านเส้นลมปราณ และตรงไปที่กำปั้น
“ะเิหมัดเก้าเพลิงสุริยา หมัดเพลิง!”
มู่เฟิงเปล่งเสียงคำรามอย่างดุดัน พร้อมกับะเิพลังหมัดออกมา เปลวเพลิงสีแดงเข้มขนาดหนึ่งเมตรพุ่งทะยานออกมาจากเส้นลมปราณราวกับแสงดาวตก ก่อนจะกลายเป็พลังหมัดลูกหนึ่ง
นี่คือกระบวนท่าที่สองของะเิหมัดเก้าเพลิงสุริยา หมัดเพลิง!
เพื่อหมัดนี้มู่เฟิงต้องสูญเสียพลังปราณภายในมวลคลื่นพลังไปถึงเจ็ดลูก
เปรี้ยง...!
ภายใต้การจับจ้องจากทุกคน ตราฝ่ามือสีทองและหมัดเพลิงสีแดงก็พุ่งเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง คลื่นพลังที่สะท้อนออกมานั้นกินรัศมีไปไกลกว่าสิบเมตร ทุกคนที่อยู่โดยรอบต่างก็ััได้ถึงคลื่นพลังความร้อนที่สะท้อนออกมาจนพวกเขารู้สึกแสบร้อนใบหน้า
หมัดเปลวเพลิงนี้ได้ทำลายตราฝ่ามือสีทองลงในทันที จากนั้นมันก็พุ่งโจมตีไปที่ทรวงอกของเฉินจื้ออย่างแรง กระทั่งพลังกังชี่ที่เป็ชั้นพลังป้องกันของเขายังถูกมันทำลาย
ปัง...!
เฉินจื้อกรีดร้องพร้อมกับพ่นเืออกมาจากปากในทันที ร่างของเขาปลิวกระเด็นไปไกลกว่าสิบเมตรและกระแทกลงบนพื้น พื้นผิวบริเวณทรวงอกไหม้เกรียมจนกลายเป็สีดำ
มู่เฟิงหยัดยืนอยู่ที่เดิมพร้อมกับดาบในมือ เขาหอบหายใจอย่างหนัก พลังปราณภายในร่างของเขากำลังจะหมดลงในไม่ช้า
“แพ้ แพ้แล้ว! เฉินจื้อที่มีวรยุทธ์ระดับหนิงกังพ่ายแพ้ให้กับบัณฑิตใหม่ที่มีวรยุทธ์ระดับจื่อฝู่!”
“นี่ เป็ไปได้อย่างไร บัณฑิตใหม่ที่มีวรยุทธ์เพียงแค่ระดับจื่อฝู่สามารถเอาชนะบัณฑิตเก่าที่มีวรยุทธ์ระดับหนิงกังได้อย่างนั้นหรือ ชายผู้นั้นเป็สัตว์ประหลาดหรืออย่างไรกัน”
บังเกิดเสียงฮือฮาขึ้นในกลุ่มผู้ชมแทบจะในทันที พวกเขาทั้งหมดต่างก็จ้องมองไปทางมู่เฟิงอย่างเหลือเชื่อ กระทั่งสหายของเฉินจื้อ และเหล่าบัณฑิตหน้าใหม่จากเทียนเฟิงที่ถูกมู่ขวงสั่งสอนไปก่อนหน้านี้ก็ยังแทบไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ถานซิ่วมองมู่เฟิงด้วยความใ ดวงตาคู่สวยของนางเปล่งประกายขึ้นมาทันที
“ดูจากอนุภาพพลังหมัดเมื่อครู่มันจะต้องเป็ทักษะวิชาที่ล้ำลึกอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็ต้องเป็ทักษะวิชาระดับนิลกาฬขั้นกลางขึ้นไป”
ถานซิ่วพึมพำออกมาด้วยความตื่นตะลึง
“ฮ่าๆ พี่เฟิง ท่านช่างทำได้ดียิ่งนัก!”
บรรดาศิษย์ตระกูลมู่ต่างโห่ร้องด้วยความยินดี ดวงตาที่จับจ้องไปทางเด็กหนุ่มนั้นเป็ประกายแวววาว
ในขณะที่มู่เฟิงเดินเข้าไปหาเฉินจื้อพร้อมกับดาบในมืออย่างใจเย็น
เฉินจื้อยกมือขึ้นกุมหน้าอกของตัวเอง สายตาของเขาที่จ้องมองมู่เฟิงเต็มไปด้วยความสยดสยอง หมัดเมื่อครู่ได้กระแทกลงบนหน้าอกของเขาจนทำให้กระดูกหน้าอกแตกหัก ทำให้เขาได้รับาเ็ภายในอย่างสาหัส
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้