ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเื่ที่เจียงหงหย่วนเป็โจรเป็เหมือนหินก้อนใหญ่โยนลงน้ำ
ทำให้โคลนด้านใต้กระเซ็นออกมาหมด
สวีฝูก้าวออกมารับบทคนดี แต่เขายิ่งพูดเช่นนี้ ทุกคนก็ยิ่งรู้สึกว่าเจียงหงหย่วนเป็โจร
“หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร เหตุใดพี่น้องหงหย่วนจะไม่มีเงินซื้อป้ายหยก อีกอย่าง ด้วยลวดลายบนป้ายหยกนี้ แค่เป็ช่างก็แกะสลักออกมาได้ทั้งนั้น เหตุใดจึงบอกว่าป้ายหยกของพี่น้องหงหย่วนขโมยมา? เ้าอ้วนผู้นี้ เ้ากล้าบอกหรือไม่ว่าป้ายหยกของเ้ามีแค่ชิ้นเดียวในโลก? กล้าสาบานหรือไม่?”
หลัวจินซานแทบจะโมโหตายกับคำพูดป้าสองจ้าว เขาจะสาบานไปเพราะเหตุใด ที่สตรีชาวบ้านนางนี้พูดก็มีเหตุผลเล็กน้อย แต่ต่อให้ตีจนตาย เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่านายพรานคนหนึ่งจะมีเงินซื้อป้ายหยกราคาหมื่นตำลึง
มิหนำซ้ำ ต่อให้มีหยกหน้าตาเหมือนกัน แต่หากวัสดุไม่เหมือน ถึงจะหน้าตาเหมือนกันเพียงใดย่อมมีจุดที่แตกต่าง
หยกที่เจียงหงหย่วนพกเป็ของเขาจริงๆ คิดว่าเขาจะจำของที่พกติดตัวมาหลายสิบปีไม่ได้เชียวหรือ?
“ท่านแม่…ท่านอย่าเข้าไปยุ่ง” หลัวจินซานยังไม่ตอบกระไร จ้าวหงฮวาก็เข้ามาดึงแขนเสื้อป้าสองจ้าว
“ทำกระไรน่ะหงฮวา ท่านแม่พูดถูกแล้ว” จ้าวสุ่ยเซิงพูดอย่างไม่พอใจ
จ้าวหงฮวากัดริมฝีปากพูดว่า “ฝ่ายโน้นจับได้คาหนังคาเขา…พวกท่านทำเช่นนี้ หากโดนคิดว่าเป็พวกเดียวกันจะทำอย่างไร”
“หลบไป เ้าจะไปรู้เื่กระไร เจียงต้าเกอไม่ใช่โจร!” ผู้อื่นอาจไม่รู้ แต่เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร?
เจียงต้าเกอเป็ผู้คุมบ่อนซิงหลงในอำเภอ ได้เงินเดือนเดือนละยี่สิบตำลึง ต้องไปปล้นผู้อื่นด้วยหรือ?
“หงฮวา เ้าไม่เข้าใจ ถอยไปอยู่ด้านข้าง” ป้าสองจ้าวมายืนกับจ้าวสุ่ยเซิงเช่นกัน
จ้าวหงฮวาโมโหมาก หันไปหาท่านพ่อ “ท่านพ่อ ท่านรีบมาห้ามท่านแม่กับเอ้อร์เกอทีเถิด”
จ้าวเฉียนไหลเอามือไขว้หลัง พูดอย่างจนปัญญาว่า “ห้าม ห้ามอย่างไร? พวกเขาสองคนฟังข้าที่ใดกันเล่า?”
จ้าวหงฮวาสิ้นหวังแล้ว เหตุใดคนในครอบครัวนางจึงเป็เช่นนี้ไปเสียหมด
หากเข้าพัวพันและโดนจับไปด้วยขึ้นมา นางจะทำอย่างไร?
“ป้าสองจ้าวพูดถูกแล้ว ป้ายหยกนี้ใช่ว่าจะหาซื้อไม่ได้ ของตัวเองหายแต่มาบอกว่าของผู้อื่นเป็ของตัวเองได้อย่างไร” หวางกุ้ยเซียงตัวเล็ก ต้องขึ้นไปะโบนเก้าอี้
หลิวซื่อถามสวีฝู “หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านจะปล่อยให้คนนอกใส่ร้ายคนหมู่บ้านเราเช่นนี้หรือ?”
สวีฝูยิ้ม “พูดกระไรของเ้า กระไรคือปล่อยให้ พวกเราเป็ราษฎรของราชสำนัก ย่อมต้องเคารพกฎของราชสำนักอยู่แล้ว หากเจียงหงหย่วนไม่ได้ขโมย ข้าไม่มีทางยอมให้คนนอกใส่ร้ายป้ายสีเขามั่วๆ เป็แน่แต่หากเขาเป็โจรจริงๆ เช่นนั้นข้าก็จะไม่ปกป้องเช่นกัน เ้าลองถามคนในหมู่บ้านดูเถิดว่าอยากอยู่ร่วมกับคนที่เป็โจรหรือไม่?”
“ถูกต้อง ข้าไม่อยากอยู่ร่วมหมู่บ้านกับโจร!”
“ใช่ ข้าไม่อยากอายุสั้น!”
“หัวหน้าหมู่บ้าน คนประเภทนี้ควรถูกไล่ออกไป”
สวีฝูยกมือขึ้นหยุด รอจนรอบด้านไม่มีเสียงกระไรจึงพูดว่า “เอาเช่นนี้ เถียงกันที่นี่ไปย่อมไม่เกิดประโยชน์ เจียงหงหย่วน เ้าตามพวกเขาไปที่ว่าการอำเภอเถิด ตรวจสอบให้แน่ชัดไปเลย”
“ได้ ใช้วิธีนี้ก็ได้เช่นกัน ถึงอย่างไรที่อำเภอก็มีภาพของโจร ใช้เทียบกันได้พอดี” สวีเต๋อเซิ่งพูด
หลัวจินซานประสานมือให้สวีเต๋อเซิ่งกับสวีฝูด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณทั้งสองท่านที่ช่วยมอบความยุติธรรม ไปที่ว่าการอำเภอก็ดีเหมือนกัน ใช่โจรหรือไม่ ไปที่ว่าการอำเภอก็รู้เอง”
เมื่อพูดจบ สวีเต๋อเซิ่งก็เดินไปทางเจียงหงหย่วน
หลินหวั่นชิวเอาตัวมาบัง “ไปที่ว่าการอำเภอ…เหตุใดพวกข้าต้องไปที่ว่าการอำเภอด้วย? วันนี้เป็วันขึ้นบ้านใหม่ของพวกข้า สวีฝู ลูกชายท่านตั้งใจมาก่อความวุ่นวายใช่หรือไม่? หรือที่สวีเทาพูดเมื่อตอนนั้นเป็เื่จริง พวกท่านคิดจะยึดบ้านพวกข้า? ประตูหยาเหมินเปิดกว้าง มีเหตุผลแต่หากไม่มีเงินห้ามเข้ามา ไปหยาเหมิน…เกรงว่าเพิ่งก้าวเท้าเข้าไปก็จะถูกทรมานจนต้องรับสารภาพ จากนั้น…บ้านพวกเราคงกลายเป็แซ่สวี!”
“หลินหวั่นชิว พูดบ้ากระไรของเ้า ข้าไปพูดเช่นนั้นเมื่อใด?” สวีเทาหน้าดำ ก้าวออกมาด่า
“ถึงเ้าจะมีปากแต่ก็พูดมั่วๆ ไม่ได้นะ” สวีลั่งพูดเสริม
หลินหวั่นชิวหัวเราะใส่ “ไม่รู้ว่าผู้ใดกันที่โดนอัดจนลุกจากเตียงไม่ได้ ไม่ยอมรับก็ไม่เป็ไร มนุษย์กำลังทำ เบื้องบนกำลังมอง! พระพุทธองค์ตรัสว่า กรรมนั้นย่อมสนองแน่ เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลา พวกเ้ารอก่อนเถิด!”
“เ้า…” สวีฝูสองพี่น้องถูกหลินหวั่นชิวทำให้โมโหจนเืขึ้นหน้า
แต่นี่ไม่ใช่เวลามาตอบโต้ พวกเขาไม่กล้าทำสวีเต๋อเซิ่งเสียเื่อีก
เมื่อครู่สวีเต๋อเซิ่งส่งสายตาพิฆาตมาเตือนพวกเขาแล้ว…
“หลินหวั่นชิว พวกเราต่างก็เป็คนหมู่บ้านเดียวกัน จะพูดกระไรก็ควรเผื่อไว้หน่อย อย่าใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นเพื่อเอาตัวรอด คดีของเถ้าแก่หลัวเป็คดีใหญ่ มีลงทะเบียนที่จวนประจำจังหวัดเพราะตายไปยี่สิบกว่าคน ตอนนี้เถ้าแก่หลัวชี้ตัวผู้ต้องสงสัย ในฐานะที่ข้าเป็มือปราบของหยาเหมิน ย่อมต้องพาเจียงหงหย่วนกลับไปสอบสวน”
พูดจบก็หันไปถามหลัวจินซานอีกครั้ง “เถ้าแก่หลัว ข้าจะถามท่านอีกครั้ง ป้ายหยกชิ้นนี้เป็ของท่านใช่หรือไม่?”
หลัวจินซานยืนยัน “ใช่ หยกชิ้นนี้เป็ของข้า ขอให้มือปราบสวีช่วยมอบยุติธรรม!”
หลินหวั่นชิว “อย่ามาพูดมั่วๆ ข้าซื้อหยกชิ้นนี้มา”
หลัวจินซานยิ้มเยาะ “ซื้อมา? ซื้อมาเท่าไร? มีเงินซื้อหรือ?”
หลินหวั่นชิวดึงหยกออกจากเอวเจียงหงหย่วน “ข้าซื้อหยกชิ้นนี้มาในราคาหนึ่งตำลึง!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…หนึ่งตำลึง…เ้าโกหก! แค่หนึ่งตำลึงจะซื้อหยกเนื้อดีขนาดนี้ได้หรือ?” หลัวจินซานหัวเราะคำโต “จะโกหกทั้งทีก็ช่วยหาข้ออ้างดีๆ หน่อยเถิด พูดออกมาได้ว่าหนึ่งตำลึง หากบอกว่าสองสามร้อยตำลึงยังพอเชื่อได้หน่อย”
หลัวจินซานหัวเราะ ชาวบ้านหลายคนหัวเราะตาม
ตอนนี้ลานบ้านเจียงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
สวีฝูอดทนต่อความกระหยิ่มยิ้มย่อง “หลินหวั่นชิว เจียงหงหย่วน ข้าขอแนะนำให้พวกเ้าพูดความจริงเสียดีกว่า พูดความจริงตอนนี้ ถึงเวลาเต๋อเซิ่งจะได้ช่วยขอความเมตตาได้ เถ้าแก่หลัวเองก็จะได้กรุณา โทษของพวกเ้าจะได้เบาลง หากรอไปพูดความจริงที่หยาเหมินอาจสายเกินไป”
“เหล่าต้าบ้านเจียง ป้ายหยกนี่มันเื่กระไรกันแน่ รีบอธิบายให้ชัดเจนเถิด หรือจะไปอธิบายที่หยาเหมินก็ได้ เื่ราวกระจ่างชัดแล้ว…ย่อมดิ้นไม่หลุด” มีชาวบ้านช่วยพูด
“เจียงหงหย่วน…ความสัมพันธ์ในฐานะคนร่วมหมู่บ้านของพวกเราจบลงแล้ว พูดดีๆ ด้วยก็แล้ว พูดไม่ดีด้วยก็แล้วเช่นกัน หากเ้ายอมตามข้าไปหยาเหมินตอนนี้ยังจะพอมีเกียรติอยู่บ้าง แต่หากไม่ยอมไป…เช่นนั้นอย่าโทษว่าข้าไม่ปราณี ต้องบอกก่อนว่าราชสำนักมีคำสั่ง หากมีการขัดขืนระหว่างจับกุม…สามารถสังหารในที่เกิดเหตุ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้