มีหยกดิบมากมายให้เลือก เซี่ยโม่รีบเข้าไปสำรวจหินทีละก้อนด้วย้าทำเวลา
เด็กสาวเลือกหินราวกับกำลังเลือกแตงโมในตลาดสดอย่างไรอย่างนั้น แค่มองรูปร่างภายนอก ใช้มือจับไปจับมาเหมือนดูว่าแตงโมลูกนี้สุกหรือไม่
จากตอนแรกที่ดูหินแต่ละก้อนราวสามนาที หลังๆ กลายเป็ดูแค่ก้อนละไม่กี่วินาที
ชายเ้าของบ้านแอบปรามาสในใจ เด็กสาวคนนี้ดูไม่น่าเชื่อถือเสียเลย
ทว่าเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป แขก้าจะเลือกอย่างไรก็ปล่อยตามสบาย
ด้านเซี่ยโม่ยิ่งเลือกเธอก็ยิ่งรู้สึกตกตะลึง หากหยกดิบที่อยู่ใต้เตียงของคุณปู่ร้านของเก่าเป็สินค้าระดับธรรมดา หยกดิบพวกนี้ก็คือสินค้าชั้นเยี่ยม
ทุกก้อนให้ความรู้สึกเย็นยามััทั้งหมด เพียงแต่ระดับความเย็นไม่เท่ากันเท่านั้น สามารถพูดได้เลยว่าหยกดิบเหล่านี้คุณภาพดีเยี่ยมหมดทุกก้อน
เห็นได้ชัดว่าหยกดิบที่ให้คุณปู่ร้านของเก่าเป็ของคุณภาพรองลงมา
ในตัวทุกคนมักมีความเห็นแก่ตัว เื่นี้เธอเข้าใจ ซึ่งเธอไม่คิดจะพูดเปิดโปง
หากเป็ชาติที่แล้ว เธอคงจะซื้อหยกดิบพวกนี้เอาไว้ทั้งหมดเพราะมีเงินมากมาย ทว่าตอนนี้มีเงินไม่เพียงพอให้ทำแบบนั้น
ทันใดนั้นเองเธอพลันนึกอะไรขึ้นมาได้
เธอยิ้มให้กับชายหนุ่มเ้าของบ้านก่อนจะโยนหินถามทาง “พี่ชาย ฉันไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้น ใช้สิ่งของแลกแทนได้ไหมคะ”
ชายเ้าของบ้านขมวดคิ้ว สาวน้อยคนนี้ไม่น่าเชื่อถือจริงๆ ด้วย!
เขากับพี่ชายบอกไปอย่างชัดเจนแล้วว่า ้าขายหยกดิบพวกนี้เพื่อนำเงินไปรักษามารดา
หากแลกเปลี่ยนเป็สิ่งของ เขาก็ต้องเอาของสิ่งนั้นไปขายอีกที จะขายได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ นับว่าเสี่ยงอย่างยิ่ง
หากไม่ใช่เพราะอาการป่วยของมารดาทรุดลงเรื่อยๆ เขาคงไม่ขายหยกดิบพวกนี้
ชายหนุ่มไม่กล้าบอกคนไม่รู้จัก จึงได้แต่ไหว้วานคนที่ไว้ใจได้ช่วยติดต่อซื้อขาย น่าเสียดายที่ในบรรดาคนใกล้ตัวไม่มีใครฐานะร่ำรวย ทุกคนมีใจอยากช่วยแต่ก็ไม่อาจช่วยเหลือด้านเงินทองได้
เขาซึ่งเป็ลูกชายจะให้มองดูมารดาตายไปโดยไม่ทำอะไรเลยก็กระไรอยู่
แม้ยุคนี้การค้าขายจะเป็เื่ผิดกฎหมาย แต่เขาก็พร้อมที่จะเสี่ยง
พอได้ยินเด็กสาวถามเช่นนี้ ใบหน้าเขาเปลี่ยนเป็ไม่พอใจ
เซี่ยโม่มีหรือจะไม่เห็น ถึงอย่างนั้นเธอกลับยิ้มแล้วถามต่อ “พี่ชาย แม่คุณป่วยเป็อะไรคะ”
“ความดันสูง…” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงเศร้าหมอง
เธอดีดลูกคิดวางแผนอยู่ในใจ
ในโกดังสินค้าของเธอมียาความดันมากมาย มีทั้งยาแผนโบราณและยาของฝั่งตะวันตก ทั้งเธอยังสามารถบอกข้อระวังเื่อาหารการกินให้อีกฝ่ายโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายได้
“พี่ชาย ถึงฉันจะเป็แค่นักเรียน แต่ฉันเป็ลูกศิษย์ของแพทย์แผนโบราณท่านหนึ่ง ที่ตัวฉันเลยมียาความดันหลายชนิด” เธอเอ่ยออกไปอย่างมั่นใจ
แววตาชายหนุ่มพลันเป็ประกาย “ดีเหลือเกิน ตอนนี้แม่ของฉันนอนพักอยู่ในห้อง ท่านมักจะบ่นว่าเวียนหัวบ่อยๆ ที่ฉันอยากขายหินพวกนี้ก็เพราะจะเอาไปซื้อยาความดันให้ท่าน”
เธอได้ยินเพียงเท่านี้ก็รู้ทันทีว่า อีกฝ่ายเป็ลูกชายที่กตัญญูคนหนึ่ง
“พี่ชาย ก่อนหน้านี้แม่ของคุณกินยาลดความดันอะไรอยู่เหรอคะ ในกระเป๋าฉันมีอยู่หลายชนิดเลย” เธอซักถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ชายเ้าของบ้านพูดตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหนักใจ “ที่บ้านฐานะยากจนก็เลยกินยาแผนโบราณมาตลอด พออาการดีขึ้นก็ไม่ได้กินต่อ ตอนนี้แม้แต่เงินที่จะซื้อยาแผนโบราณก็ยังไม่มี ฉันมันไร้ความสามารถจริงๆ…”
“พี่ชาย สมัยนี้ไม่ว่าใครล้วนลำบากทั้งนั้น คุณอย่าโทษตัวเองเลยค่ะ”
เธอหยิบยาความดันออกมาจากในกระเป๋านักเรียนจำนวนสี่ห้าเม็ด “พี่ชาย นี่เป็ยาลูกกลอน มีสรรพคุณช่วยลดความดัน ไม่มีผลข้างเคียง คุณเอาไปให้คุณแม่กินนะคะ”
ชายเ้าของบ้านรับเม็ดยาผิวเนียนละเอียดซึ่งดูแล้วน่าจะเป็ยาที่มีราคาแพงไป ก่อนจะเอ่ยอย่างซาบซึ้ง “น้องสาว ฉันจะเอาไปให้แม่ฉันลองกินเดี๋ยวนี้แหละ ถ้าได้ผลฉันจะขอแลกสักหลายๆ เม็ด”
“ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวฉันไปดูอาการท่านด้วย”
ชายเ้าของบ้านเอ่ยออกมา เขาทำหน้าเหมือนคนเพิ่งนึกอะไรออก “ดูฉันสิ เธอเป็คุณหมอตัวน้อย ก็ต้องให้เธอไปดูอาการก่อนแล้วค่อยให้ท่านกินยาถึงจะดีที่สุด”
เธอพยักหน้า “ฉันก็คิดแบบนี้เหมือนกันค่ะ”
ความจริงแล้วเซี่ยโม่ไม่อยากอยู่ในห้องใต้ดินคนเดียว แม้จะััได้ว่าอีกฝ่ายมีนิสัยดีและเป็ลูกที่กตัญญูก็ตาม ถึงอย่างนั้นก็ต้องระวังตัวเอาไว้ก่อน เธอจึงยกเื่จะไปดูอาการคนป่วยขึ้นมาเป็ข้ออ้าง
ด้วยเหตุนี้ทั้งสองคนจึงเดินขึ้นมาจากห้องใต้ดิน คุณปู่ร้านของเก่าที่รออยู่หน้าห้องรีบเอ่ยถามเมื่อเห็นทั้งสองคนเดินขึ้นมา
“เป็ยังไงบ้าง ไม่ถูกใจสักก้อนเลยเหรอ”
“คุณปู่ ฉันถูกใจหลายก้อนเลยละค่ะ แต่ฉันเรียนเื่การแพทย์มาด้วย ในกระเป๋ามียาติดมาหลายขนานก็เลยจะไปดูอาการคนป่วยก่อนค่ะ” เซี่ยโม่ยิ้มพลางอธิบายให้ชายชราฟัง
พอคุณปู่รู้ว่าเด็กสาวที่ตัวเองพามาด้วยมีความรู้เื่การรักษา ทั้งยังมียาความดันติดตัวมาด้วย ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นพลันฉายแววประหลาดใจ
ตนสร้างความดีความชอบครั้งใหญ่เลยนะนี่!
พอเห็นเ้าของบ้านพาเด็กสาวเดินไปยังห้องหนึ่ง เขาเลยเดินตามไปด้วยอย่างอารมณ์ดี
ภายในห้อง เซี่ยโม่เห็นหญิงชราที่มีใบหน้าแดงก่ำนอนบนเตียงอุ่น ที่หน้าผากมีผ้าผืนหนึ่งโปะอยู่
ผ้าที่โปะอยู่บนหน้าผากแห้งแล้ว แต่มันกลับไม่เกิดผลอย่างที่ควรจะเป็ เห็นได้ชัดว่าหญิงชราค่อนข้างจะได้กินดีอยู่ดี รูปร่างถึงได้อวบอ้วน
จากเื่นี้ทำให้เห็นว่าบุตรชายกตัญญูต่อหญิงชรามากแค่ไหน
พอเห็นคนเดินเข้ามาในห้อง หญิงชราก็ลืมตาและพยายามจะหยัดกายขึ้นนั่ง
“นี่คือ?”
“คุณป้าไม่ต้องลุกหรอกค่ะ หนูพอมีความรู้เื่การรักษา เลยจะมาช่วยดูอาการให้ค่ะ”
“แม่ครับ น้องสาวคนนี้เป็แขกที่พี่ผมพามา เธอจะมาซื้อหินพวกนั้น” ชายเ้าของบ้านอธิบาย
หญิงชราได้ฟังก็ยิ้มตื้นตัน “ขอบใจเธอมากนะที่มาช่วยซื้อหิน แล้วก็ขอบใจที่จะมาช่วยดูอาการให้ฉัน”
“ไม่เป็ไรค่ะคุณป้า ในกระเป๋าหนูมียาความดันอยู่ หนูเลยจะมาช่วยตรวจดูให้ว่าจะต้องกินยังไงให้เหมาะสม”
เธอวางมือเพื่อจับชีพจร พบว่าชีพจรของหญิงชรามีความสับสนเป็อย่างมาก ความดันเืค่อนข้างสูงพอสมควร การเต้นของหัวใจก็ผิดปกติ วิเคราะห์อาการดูแล้วมีแนวโน้มที่จะไปกระตุ้นให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมาทีหลังได้
ถึงแม้ในโกดังสินค้าจะมีเครื่องวัดความดัน แต่เธอไม่สะดวกหยิบออกมาใช้
“พี่ชาย ยาความดันที่ฉันให้คุณ คุณต้องเอาให้คุณป้ากินสองเม็ด แล้วหลังจากนี้ค่อยให้ท่านกินวันละเม็ด ถ้ายาหมดแล้วฝากบอกไว้กับคุณปู่ที่ร้านของเก่าก็ได้ค่ะ ฉันแวะไปที่นั่นบ่อยๆ”
“ได้”
หลังจากหญิงชรากินยาเข้าไปแล้ว ไม่กี่สิบนาทีต่อมา สีหน้าที่เคยแดงก่ำก็ค่อยๆ กลับมาเป็ปกติ
“ฉันไม่รู้สึกปวดแล้ว อยากจะลงจากเตียงไปเดินเหลือเกิน” หญิงชราลุกขึ้นมานั่ง
“แม่ครับ ไว้รอมีเงินผมจะไปซื้อเนื้อติดมันมาทำอาหารให้แม่กินนะครับ”
เซี่ยโม่อยากจะบ้าตาย ถึงว่าทำไมหญิงชราถึงมีรูปร่างอวบอ้วน ที่แท้เพราะลูกชายยอดกตัญญูผู้นี้นี่เอง
“โรคของคุณป้าห้ามกินอาหารมัน ต้องลดอาหารรสเค็ม โดยเฉพาะเนื้อติดมัน ถ้าเลิกได้จะดีที่สุด แล้วก็ต้องกินผักผลไม้เยอะๆ ค่ะ” เธอรีบปรามและเสนอแนวทางปฏิบัติอันสมควรให้ทันที
ชายเ้าของบ้านได้ฟังก็มีสีหน้ารู้สึกผิด “ฉันเห็นแม่ต้องนอนป่วยอยู่แต่บนเตียง ก็เลยเที่ยวไปหายืมเงินเอาไปซื้อเนื้อติดมันมาทำอาหารให้ท่าน”
“พี่ชาย คุณทำแบบนี้เท่ากับกำลังทำร้ายคุณป้าอยู่นะคะ ต่อไปห้ามเด็ดขาด”
เดิมทีชายเ้าของบ้านมองว่าเด็กสาวไม่น่าเชื่อถือ ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าแม้เธอจะอายุยังน้อย หากเป็คนมากความสามารถคนหนึ่ง
เห็นแก่ที่เด็กสาวช่วยดูอาการให้มารดา จึงเป็ฝ่ายเอ่ยเสนอ “ฉันต้องขอขอบคุณเธอมากนะ งั้นเดี๋ยวฉันพาเธอลงไปเลือกหินต่อ”
“ค่ะ”
ทั้งสองคนกลับลงไปที่ห้องใต้ดิน เซี่ยโม่เลือกหินได้สักพักก็รู้สึกปวดหัว คงเป็เพราะใช้สมาธิมากเกินไป
เธอเลือกไปหนึ่งส่วนจากสามส่วนแล้ว ได้หยกดิบทั้งหมดเจ็ดก้อนด้วยกัน
“เอาแค่นี้แหละค่ะ รบกวนคุณช่วยขนขึ้นไปข้างบนให้ด้วยนะคะ”
“น้องสาว ยังมีอีกหลายก้อนเลยนะที่เธอยังไม่ได้ไปดู”
“พี่ชาย แค่นี้ก็เยอะแล้วค่ะ คุณตาบอกไม่ให้ฉันซื้อเยอะ”
“น้องสาว เลือกเพิ่มอีกสามก้อนเถอะ ถือเป็ค่ายา”
“ก็ได้ค่ะ ยาพวกนั้นฉันให้แล้วให้เลย แต่เงินค่าหินพวกนี้ฉันจ่ายแน่นอนค่ะ”
เซี่ยโม่เลือกหยกดิบที่มีคุณภาพดีออกมาอีกสามก้อน ในอนาคตหยกดิบพวกนี้จะมีราคาแพงมาก
พอเลือกได้แล้วจึงหันไปบอกกับชายหนุ่มเ้าของบ้าน “รบกวนคุณช่วยขนขึ้นไปข้างบนทีนะคะ”
“ได้แน่นอนอยู่แล้ว”
เธอหยิบยาออกมายี่สิบกว่าเม็ดพร้อมธนบัตรสิบหยวนจำนวนสิบใบ ก่อนจะยื่นให้ชายเ้าของบ้าน
“น้องสาว ขอบใจเธอมาก ต่อไปถ้าอยากซื้อหินพวกนี้อีกก็มาหาฉันได้เลย สามก้อนสุดท้ายฉันบอกแล้วไงว่าจะไม่เอาเงิน ฉันใช้มันเพื่อแลกกับยา” ชายเ้าของบ้านรับเงินไปแค่เจ็ดใบเท่านั้น
เธอเอ่ยอย่างแข็งขัน “พี่ชาย ยานั่นฉันกับอาจารย์เป็คนคิดค้น สมุนไพรที่ใช้ทำยาก็เป็สมุนไพรที่เก็บได้จากบนเขา ฉันรับเงินไม่ได้หรอกค่ะ ไม่อย่างนั้นอาจารย์จะว่าฉันได้”
ระหว่างที่พูดเธอยัดธนบัตรสิบหยวนทั้งสามใบนั้นใส่มืออีกฝ่าย
ชายเ้าของบ้านเอ่ยอย่างซาบซึ้งใจ “น้องสาว ขอบใจเธอมากนะ”
เซี่ยโม่คิดในใจ อีกฝ่ายจะรู้สึกอย่างไรหากทราบว่าเธอเลือกแต่หยกดิบที่คุณภาพดีที่สุดไป
แน่นอนว่าเธอเก็บหยกดิบที่คุณภาพค่อนข้างดีเอาไว้ให้เ้าของบ้านแล้ว
วงการนี้ก็แบบนี้ มีความสามารถได้กินเนื้อ ไม่มีความสามารถก็กินน้ำแกงไป
ถ้าไม่มีความสามารถก็ทำได้เพียงแค่ทนทุกข์กับความยากจนเท่านั้น
เธอไม่เพียงรักษาและให้ยาโดยไม่คิดเงิน แต่ยังเก็บหยกที่คุณภาพค่อนข้างดีเอาไว้ให้อีก เธอสำรวจหยกดิบในห้องนั้นไปเพียงแค่ส่วนเดียว ความจริงเท่านี้ก็ถือว่ามีน้ำใจมากแล้ว
